I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 242 – ครบกำหนดวันประลอง

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

วันนี้เป็นวันประลองครั้งใหญ่ ในอาณาจักรมังกรฟ้า ของสำนัก # 2

สำนักมังกรฟ้าศิษย์ทั้งสำนักไม่ว่าจะเป็น ศิษย์ฝ่ายนอก ศิษย์ฝ่ายใน แม้กระทั้งศิษย์หลัก ทั้งหมดหยุดการฝึกฝน และเดินทางกลับมายังสำนักมังกรฟ้าเพราะวันนี้ครบกำหนดหนึ่งปีพอดี ที่ชายหนุ่มนิรนามที่พึ่งเข้าสู่พื้นที่หลัก กับกล้าท้าทาย ‘กง ลู่หยุน’ ศิษย์อันดับ 1 ของสำนักมังกรฟ้า

และนอกจากนี้ยังเป็น การประลองที่ชี้เป็นชี้ตายปกติ เด็กหนุ่มนิรนามจึงไม่ควรถูกมองว่าเป็นคู่ต่อสู้ของ ‘กง ลู่หยุน’ เลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าอาวุโสหรือลูกศิษย์ของสำนักต่างคิดเช่นนั้นแต่เมื่อเด็กหนุ่มได้กลายเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ผู้เชื่อมต่อฯ อาวุโสของสำนักมังกรฟ้า

เขาจึงช่วยไม่ได้ที่ต้องกลายเป็นที่จับตามองยิ่งผ่านไปเพียงครึ่งปี เด็กหนุ่มคนนั้นก็สามารถใช้พลังวิญญาณแค่ระดับ 1 กำเนิด สังหาร ผู้เชี่ยวชาญ ระดับ 5 กำเนิดได้อย่างง่ายดาย ชื่อของเขานั้นจึงเป็นที่รู้จักกันในนาม ‘ชูเฟิง’

ถ้าจะพูดให้ถูก ‘ชูเฟิง’ก่อนหน้านั้นต่างเป็นที่หัวเราะขบขันในสายตาของคนจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ปัจจุบันนี้ ‘ชูเฟิง’ ได้กลายเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครในอาณาจักรมังกรฟ้าไม่รู้จักเขา เกือบทั้งสำนักมังกรฟ้า ต่างไม่มีใครกล้าที่จะไม่เคารพเขาในช่วงเวลาอีกครึ่งปีผ่านปี

ไม่มีใครรู้ว่า ‘ชูเฟิง’ พัฒนาไปถึงขั้นไหน แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถยืนยันได้ นั้นคือเด็กหนุ่มคนนี้ช่างบ้าบิ่นยิ่งนัก โดยผู้คนในตอนนี้ ต่างพากันคิดว่า ผลของการต่อสู้นั้นปัจจุบันมันช่างไม่แน่ไม่นอนหาก ‘ชูเฟิง’ รับการโจมตีของ’กง ลู่หยุน’ ได้ภายใน 3 ครั้ง ‘ชูเฟิง’ก็จะกลายเป็นผู้ชนะ

แม้ว่า ‘กง ลู่หยุน’ จะแข็งแกร่งอย่างมากจนได้เป็นศิษย์อันดับ 1 ของสำนักมังกรฟ้า อีกทั้งเขายังค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงภายในหมู่สาวกของสำนักต่างๆ แต่ ‘ชูเฟิง’ ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน อำนาจการต่อสู้ของเขานั้นเกินกว่าจินตนาการของคนจะหยั่งถึง

ดังนั้น หลายคนจึงคิดว่า เขาอาจจะสามารถป้องกันการโจมตีของ ‘กง ลู่หยุน’ได้เรื่องการต่อสู้ของพวกเขาเป็นที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนในสำนักมังกรฟ้า และยังมีอีกหลายคนเห็นว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ภายในสำนัก ขนาดที่ว่าจะไปจัดบนยอดเขาของสำนักมังกรฟ้าการสร้างเวทีประลองเรื่มขึ้น

เมื่อครึ่งปีก่อน มันพอที่จะรองรับคนได้นับล้าน และมันถูกแบ่งออกเป็นชั้นๆ เพื่อการนั่งชมสำหรับ อาวุโส สำหรับ ศิษย์หลัก ศิษย์ฝ่ายใน และแม้กระทั้งที่นั่งสำหรับศิษย์ฝ่ายนอก ในเวลาสั้นๆ ทุกคนในสำนักมังกรฟ้า ต่างก็มีที่นั่งสำหรับการรับชมการต่อสู้ที่แสนจะสบายๆ

” ข้าไม่เคยมีความคิดว่า การต่อสู้ครั้งนี้จะมันสำคัญเลยสักครั้ง “

” โอ้ว  . . . . มองดูใบหน้าที่ตื่นเต้นของศิษย์สำนักมังกรฟ้าของเราสิ บางทีนี้อาจจะเป็นการต่อสู้ที่สนุกก็ได้ !!! “

” ข้าก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ย่อมไม่เป็นเรื่องดี หาก กง ลู่หยุน หรือ ชูเฟิง จะต้องมาตาย “

” ข้าว่าช่วงเวลาที่สำคัญ เช่นนี้ เจ้าสำนักคงอาจจะปรากฏตัว หลังจากที่เก็บตัวอยู่นานหลายปี หากเขาเป็นปรากฏตัวขึ้น ก็อาจจะสามารถควบคุมสถานะที่วุนวายหากการประลองเริ่มขึ้น “

หกปราการของสำนักมังกรฟ้า พากันไปนั่งดูในจุดของผู้อาวุโส ขณะที่มองเหล่าสาวกที่เดินทางขึ้นมายังยอดเขา ที่มีจำนวนเทียบได้กับมหาสมุทร บริเวณพื้นที่นี้จัดเพื่อรองรับคนจำนวนมาก

ดังนั้นพวกเขาจึงหายห่วงเจ้าสำนักมังกรฟ้า ทำตัวแสนจะลึกลับ นอกเหนือจากพวกเขาและ’จู่เก่อ หลิวหยุน’ แทบจะไม่มีใครรู้ว่าใครคือผู้นำสำนักมังกรฟ้าคนปัจจุบัน เพราะอำนาจการตัดสินใจเรื่องภายในวันนี้อยู่ในกำมือของเขา หากเขาปรากฏตัว ความสนุกคงเพิ่มขึ้นอีกมาก

” ท่านอาวุโส แย่แล้ว!!! “

ในเวลานั้นประตูสำหรับที่นั่งของเหล่าอาวุโส ก็ถูกเปิด โดยศิษย์หลักคนหนึ่งที่กำลังเข้าวิ่งเข้ามาอย่างหน้าตาตื่น

” ไม่ต้องรีบร้อน มันเกิดอะไรขึ้นค่อยๆพูดมา “

หกปราการปัจจุบันได้ทำหน้าที่แทนเจ้าสำนักมังกรฟ้า ดังนั้นพวกเขาค่อนข้างที่จะสงบ และด้วยประสบการณ์ผ่านๆมาดังนั้นเขาจึงพูดโยคง่ายๆ เพื่อคลายความรีบร้อนของศิษย์

” อาวุโส ตอนนี้ ผู้นำและอาวุโสจากสำนักต่างๆมากมาย ปัจจุบันกำลังมุ่งหนามายังสำนักมังกรฟ้า “

ศิษย์หลักกล่าวขณะที่เต็มไปด้วยความร้อนรน

” จำนวนกี่คน “

หลังจากได้ยินคำเหล่านั้น หกปราการขมวดคิ้วแน่น และรู้สึกว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ

” จำนวนมากจนนับไม่ได้ สำนัก # 2 บริเวณใกล้เคียงก็ต่างพากันมา ดูจากประมาณแล้วคงไม่น้อยกว่า 20 สำนัก “

ศิษย์หลักตอบ

” ต้องมีเรื่องบางอย่างแน่ๆ รีบพาข้าไปเร็ว !!! “

ในเวลานั้น หกปราการไม่อาจอยู่ในความสงบได้ เขารีบโบกแขนของพวกเขา พร้อมกับรีบมุ่งหน้าไปยังทางเข้าของสำนัก เพื่อตรวจสอบว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อหกปราการมาถึงทางเข้าของสำนักมังกรฟ้า พวกเขาก็ตกใจอย่างมาก เนื่องจากพบว่า มีกลุ่มคนจำนวนมากมุ่งหน้ามายังสำนักมังกรฟ้า

จนมืดฟ้ามัวดินกลุ่มของคนพวกนั้น มีกระทั้งเจ้าสำนักของสำนักใกล้เคียงมากกว่า 20 สำนัก รวมไปถึงผู้จัดการอาวุโส และ สาวกที่แข็งแกร่งมากมาย และมีหลายสิบคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรแก่นแท้ที่อยู่ภายในกลุ่มพวกเขาการรวมตัวของพวกเขา ทำให้แม้แต่หกปราการต้องหวาดหวั่น

ด้วยความแข็งแกร่งของหกปราการแต่ละคนอยู่ในแค่อาณาจักรแก่นแท้ระดับ 3 หากกลุ่มคนพวกนี้ คิดจะมาถล่มสำนักมังกรฟ้า เห็นทีว่าพวกเขาจะต้องพ่ายแพ้แต่เขาก็นับว่าโชคดี เพราะหลังจากที่ผู้นำสำนักอื่นๆเห็นหกปราการ พวกเขาก็ส่งยิ้มให้ทั่วใบหน้า เหล่าหกปราการก็ได้ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งออก

เนื่องจากพวกเขารู้ว่าคนพวกนี้ไม่ได้มีเป้าหมายมาโจมตีสำนักมังกรฟ้า แต่เหมือนจะมาร่วมรับชมการประลองครั้งใหญ่ของสำนักภายหลังเมื่อ หกปราการพบว่า พวกเขามาที่นี่เพราะเรื่องการประลองระหว่าง กง ลู่หยุน และ ชูเฟิง ซึ่งเมื่อหลายวันก่อนพวกเขาได้ยินข่าวและได้รับคำเชิญ

ที่ถูกส่งมาจาก แขกอาวุโสของสำนักมังกรฟ้า ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ เมื่อได้ยินเช่นนั้น หกปราการก็ได้จัดเตรียมที่นั่งตรงส่วนอาวุโสให้ แน่นอนว่าโดยธรรมชาติก็ต้องเตรียมที่นั่งให้กับคนอื่นๆที่ตามมา เพื่อต้อนรับพวกเขา

” จูเก่อ หลิวหยุน คิดอะไรอยู่นะ ทำไมถึงไม่แจ้งเรื่องนี้กับเรา โดยที่ส่งคำเชิญด้วยนามของสำนักมังกรฟ้า “

หลังจากจัดการที่นั่งให้เหล่าผู้คน หกปราการก็รู้สึกโมโหเล็กน้อย

” บางทีเขาอาจเกรงว่า กง ลู่หยุน จะกลับคำพูดที่สัญญาเอาไว้ดังนั้นในการประลองครั้งนี้เขาจึงจำเป็นต้องเชิญบุคคลอื่นๆจากสำนักเหล่านี้เพื่อเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ ไม่ว่า จู่เก่อ หลิวหยุน ก็แข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถรับมือกับ เจ้าเมือง เต่าทมิฬ หรือแม้กระ ผู้จัดการของคฤหาสน์องค์ชายกิเลน หลิน หลาน ได้ “

อาวุโสอีกคนยิ้มและกล่าว

” ข้าเคยได้ยินมาว่า จูเก่อ หลิวหยุน เมื่อก่อนนี้เป็นคนที่เห็นแก่ตัวอย่างมาก แต่ที่เขาทำแบบนี้ก็แสดงให้เห็นแล้ว ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและชูเฟิงค่อนข้างดี “

” แต่เมื่อเจอกับ หลิน หลาน ที่คอยหนุนหลัง กง ลูหยุน มันก็ไร้ประโยชน์แม้ว่า จูเก่อ หลิวหยุน จะเชิญสำนักต่างๆ แล้วในอาณาจักรมังกรฟ้าจะมีใครบ้ากล้าคุกคาม หลิน หลาน “

” ในความเป็นจริง นี้ก็นับว่าเป็นความช่วยเหลือจาก จูเก่อ หลิวหยุน ที่ตัวเขาจะพอทำได้ ก็เพราะชูเฟิง ดันไปเป็นศิษย์ของเขา “

หลังจากที่พากันวิเคราะห์ต่างๆนาๆ หกปราการได้แต่ถอนหายใจ ในความพยายามที่ยากลำบากของ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’

 

แหม๋ . . . . . ดูถูกกันเข้าไปเถอะ

คนหนุนหลังของ ชูเฟิง ก็ไม่ธรรมดา

หาก ไอ้บ้าแผลเป็นรูปเปลวไฟ มาล่ะก็ พวกมืงน่าดู . . . . . .

แต่ไม่จำเป็นหรอก แค่ชูเฟิง ตบ ไอ้กง เบาๆ มันก็ไปเฝ้ายมบาลแล้ว . . . . . .

จะจริงหรอ . . . . .

จริงไม่จริงก็ต้องรอติดตาม . . . . . .

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments