ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘เนี่ยลี่’กำดาบเทพอัสนีดาวตกแน่น เมื่อเขาเห็นความเจ็บปวดของ’เอียซ่ง’ ในใจของเขารู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้สามารถรับมือจอมมารได้อย่างสูสี แต่การที่จะกำจัดเขานั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายดาย หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกันมา ในใจของ’เนี่ยลี่’นั้นนับถือ’เอียเซิ่ง’เป็นดั่งบิดาคนที่สองเลยทีเดียว
‘เอียเซิ่ง’กัดฟันสู้กับความเจ็บปวด แม้ว่าแขนของเขาข้างหนึ่งจะถูกฉีกออกไป แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ถึงแม้จะหายใจแทบไม่ออกก็ตาม
เขานิ่งสงบอยู่กลางอากาศ ด้วยทิฐิมานะที่ไม่ยอมแพ้‘เอียเซิ่ง’พูดอย่างจริงจังว่า
“เนี่ยลี่ ไม่ต้องห่วงข้า จงรวมพลังของทุกคนสังหารมันซะ แม้ว่าข้าจะต้องลงนรก ข้าก็ไปอย่างมีความสุข”
สายตาของเขาจ้องมองไปยัง’เอียจื้ออวิ้น’ เขาใช้เวลาทั้งชีวิตของเขาในการปกป้องเมืองกลอรี่ ตราบจนลมหายใจสุดท้าย สิ่งเดียวที่เขาเสียใจคือการที่ต้องจาก’เอียจื้ออวิ้น’ไปเท่านั้น
เมื่อนางได้เห็น’เอียเซิ่ง’กำลังเจ็บปวดและทรมาน น้ำตาได้ไหลรินลงบนแก้มของ’เอียจื้ออวิ้น’ นางได้ถึงตอนที่ยังเป็นเด็ก เมื่อพ่อจับมือของนาง และพานางไปตามที่ต่างๆ พวกเขาเฝ้ามองดูเมฆสีแดงชาดที่ลอยอยู่ห่างไกล ตอนนั้น’เอียเซิ่ง’พูดกับนางว่า
“ลูกอวิ้น เจ้ารู้ไหม? เมืองกลอรี่เป็นสถานที่เดียวที่เราเรียกได้ว่าบ้าน บรรพบุรุษนับไม่ถ้วนที่สละชีวิตเพื่อปกป้องบ้านหลังนี้ เลือดทุกหยดที่รินไหลของพวกเขาคือส่วนหนึ่ง ของความทรงเกียรติของตระกูลวายุเหมันต์ เจ้าจะต้องภูมิใจในบรรพบุรุษทุกคน ถ้าหากวันหนึ่งเมืองกลอรี่ต้องพบกับอันตราย ข้าก็พร้อมที่จะสละชีวิตของข้าโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย”
ในตอนนั้น ‘เอียจื้ออวิ้น’ ไม่สามารถที่จะเข้าใจคำพูดของบิดา แต่ในขณะที่นางเติบโตขึ้นมาและเริ่มที่จะเข้าใจ นางพยายามอย่างที่สุด เพื่อที่จะได้แข็งแกร่งพอที่จะคอยช่วยเหลือบิดา จนในที่สุดนางก็ก้าวเข้าสู่ระดับตำนาน แต่ตอนนี้ นางทำได้เพียงมองดู’เอียเซิ่ง’ที่กำลังลำบาก
‘จอมมาร’หัวเราะแล้วพูดว่า
“เอียเซิ่ง เจ้าคิดเหรอว่าแค่มีจำนวนมากกว่าแล้วร่วมมือกัน จะสามารถกำจัดข้าได้งั้นเหรอ? ส่งศิลาวิญญาณอสูรมาให้ข้า ถ้าไม่เช่นนั้นไม่ใช่เพียงแค่เจ้า แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต้องตายทั้งหมด ”
หลังจากที่พูดจบจอมมารคว้าแขนที่เหลือของ’เอียเซิ่ง’แล้วกระชากมันออก เมื่อแขนของเขาถูกฉีกออก ใบหน้าของ’เอียเซิ่ง’ก็บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
ในทางตรงกันข้ามกับความทุกข์ทรมานของเขา ‘จอมมาร’กลับรู้สึกมีความสุข เขาจับลงบนคอของ’เอียเซิ่ง’ แล้วบีบอย่างรุนแรง เขาสามารถที่ฆ่า’เอียเซิ่ง’เมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ เพียงแค่เขาใช้แรงเพิ่มอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าชีวิตของ’เอียเซิ่ง’กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย ‘เอียมัว’จึงรีบตะโกนออกไป
“รอก่อน ถ้าหากเจ้าปล่อยเอียเซิ่ง ข้าจะมอบศิลาวิญญาณอสูรให้กับเจ้า ”
‘เอียมัว’หยิบศิลาวิญญาณอสูรออกมา
‘จอมมาร’พูดอย่างเย็นชาว่า
“โยนศิลาวิญญาณอสูรมาให้ข้า”
“เจ้าต้องปล่อยเขาก่อน”
‘เอียมัว’พูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง
‘จอมมาร’ยิ้มอย่างเลือดเย็นแล้วพูดว่า
“เอียมัว ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้นะ พวกเจ้าไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าเจ้าไม่ส่งศิลาวิญญาณอสูรมาตอนนี้ เข้าจะฆ่าเอียเซิ่งก่อนเป็นอันดับแรก แล้วไปเอามันมาจากมือของเจ้าเอง ดังนั้นสิ่งที่เจ้าควรจะทำให้ข้ามันคืออะไรคิดดูซิ”
‘จอมมาร’ยังคงออกแรงบีบคอ’เอียเซิ่ง’ ร่างกายของเขาอาบไปด้วยเลือด ถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือในทันที มันอาจจะสายเกินไป
ดวงตาของ’เอียมัว’ เบิกโพลง แท้ว่าเขามักจะเข้มงวดกับ’เอียเซิ่ง’ แต่ตัวเซิ่งก็ทำให้เขาภาคภูมิใจอยู่เสมอ ในขณะที่เขามองดูลูกชายของเขาเองต้องทนทุกข์ทรมาน เขาอยากจะให้เป็นตัวของเขาเองเสียมากกว่าที่ต้องรับความเจ็บปวดนั้นแทน
“นี่คือศิลาวิญญาณอสูรที่เจ้าต้องการ!”
‘เอียมัว’โยนศิลาออกไป
*หมับ!*
‘จอมมาร’จับศิลาวิญญาณอสูรในมือข้างหนึ่งพร้อมกับตรวจสอบมัน
“ตอนนี้เจ้าก็ปล่อยเอียเซิ่งได้แล้ว!”
‘เอียมัว’กำหมัดแน่นพร้อมกับทวงสัญญา
“แน่นอน ข้าจะคืนตัวเขาให้กับพวกเขา!”
รอยยิ้มที่โหดร้ายและน่ากลัวเคลือบอยู่บนใบหน้า’จอมมาร’ แขนข้างหนึ่งของเขาแทงหน้าอก’เอียเซิ่ง’เลือดพุ่งสาดกระเซ็นไปทั่วและพ่นเลือดทุกที่ ‘จอมมาร’เลียเลือดที่เลอะบนใบหน้าของเขา
“ฮ่าฮ่า รสชาดช่างหอมหวนอะไรเช่นนี้ เอียมัว การต่อสู้ของเรายาวนานนับสิบปี และในวันนี้ ลูกชายของเจ้ากำลังจะตายด้วยน้ำมือของข้า แต่ไม่ต้องห่วง ข้าจะปล่อยให้เขาตายเพียงลำพัง ข้าจะจัดการกับเจ้าเป็นรายต่อไป เจ้าทั้งคู่จะได้ไปสังสรรค์กันในนรกยังไงหล่ะ”
ขณะที่’จอมมาร’กำลังแทงหน้าอก’เอียเซิ่ง’อยู่นั้น ความมุ่งมั่นยังคงแสดงออกมาบนใบหน้าของ’เอียเซิ่ง’ ตัวเขาที่ถูกแทงอยู่นั้นมีพลังงานแผ่กระจายออกไปทั่วบริเวณ ไหลออกมาจากร่างกายของเขากระดูกของเขากลายเป็นน้ำแข็ง และค่อยๆกระจายความเย็นออกไปรอบๆ
ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าของ’เอียเซิ่ง’
“เนี่ยลี่ ดูแลลูกอวิ้นของข้าให้ดีนะ”
ในใจของเขา เขานึ้พึงพอใจมากแล้ว ที่สามารถฝากฝังลูกสาวของเขาให้กับคนอย่าง’เนี่ยลี่’ได้ดูแล เขาสามารถที่จะจากไปอย่างสงบ ร่างกายของ’เอียเซิ่ง’กลายเป็นน้ำแข็ง และมีความเย็นจัดค่อยๆแทรกซึมเข้าไปในตัวของจอมมาร
*ตูม!*
แขนทั้งสองข้างของจอมมารระเบิดออกมา เขากรีดร้องออกมาอย่างน่าสมเพช
“เจ้ามดปลวก แม้กระทั่งตายไปแล้ว เจ้าก็ยังบังอาจทำร้ายข้างั้นเรอะ! “
‘จอมมาร’คำรามกึกก้อง วิชาลับของ’เอียเซิ่ง’ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ท่านพ่อ!”
‘เอียจื้ออวิ้น’ ร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวด
“เอียเซิ่ง”
‘เอียมัว’ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ในตอนนั้นเขาสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่า’เอียเซิ่ง’กำลังจะตาย
คนอื่นๆที่ยืนอยู่ก็ตกละลึงไม่แพ้กัน พวกเขาไม่คิดว่า’จอมมาร’จะสังหาร’เอียเซิ่ง’หลังจากที่ได้รับศิลาวิญญาณอสูรไป
‘จอมมาร’นั้นได้ตัดสินใจไว้แต่แรกอยู่แล้ว ไม่ว่า’เอียมัว’จะส่งศิลาวิญญาณอสูร มาหรือไม่ เขาก็จะกำจัด’เอียเซิ่ง’อยู่ดี
‘เอียเซิ่ง’ได้ใช้เคล็ดสละชีพ ซึ่งเป็นเคล็ดวิชาลับของตระกูลวายุเหมันต์ เมื่อเขาใช้เคล็ควิชานี้แล้วจิตวิญญาณของเขาจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ขณะที่เขามองดูร่างกายของ’เอียเซิ่ง’กลายเป็นน้ำแข็ง ตาของ’เนี่ยลี่’แดงก่ำ ความโกรธอัดแน่นอยู่ในหน้าอกของเขา เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า’จอมมาร’จะฆ่า’เอียเซิ่ง’โดยไร้เหตุผลเช่นนี้
ความหนาวเหน็บค่อยๆปกคลุมใบหน้าของ’เนี่ยลี่’ ทำให้เขาดูน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก จิตสังหารแผ่กระจายอยู่รอบตัวของเขา ดาบเทพอัสนีดาวตกในมือของเขาเปร่งประกายอย่างเห็นได้ชัด และในท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยสายฟ้า แสงสะท้อนบนใบหน้าของ’เนี่ยลี่’ ระยิบระยับไปทั่วตัวของเขา
ความทรงจำนับไม่ถ้วนในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับ’เอียเซิ่ง’เข้ามาอยู่ในหัวของเขา ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกันและได้ต่อสู้กับ’เอียเซิ่ง’ ทัศนคติของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ และค่อยๆยอมรับความสัมพันธ์ของเขากับ’เอียจื้ออวิ้น’
ในใจของ’เนี่ยลี่’นั้น แม้ว่า’เอียเซิ่ง’จะเป็นคนที่หัวแข็ง แต่’เอียเซิ่ง’ก็เป็นพ่อที่ใจดี
ภาพเหล่านั้นของ’เอียเซิ่ง’ยังคงอยู่ในความทรงจำของเขา
ทันที่ที่’เอียเซิ่ง’ตาย ดวงตาของทุกคนแดงก่ำ และพร้อมที่จะสู้กับ’จอมมาร’ แต่พวกเขาก็รับรู้ถึงจิตสังหารที่น่ากลัว นั่นทำให้ร่างกายของพวกเขาถึงกับหยุดนิ่ง
พวกเขาหันไปมองทาง’เนี่ยลี่’ เสื้อผ้าของเขาปลิวโบกสะบัด ในขณะที่ร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังสัจธรรมทั้งสาม ดาบเทพอัสนีดาวตกในมือของเขาก็ปลดปล่อยพลังขนาดที่ไม่อาจจะจินตนาการได้ออกมา
*ตูม!* *ตูม!* *ตูม!*
จิตสังหารของ’เนี่ยลี่’เพิ่มมากขึ้น ในตอนนี้ เขาดูราวกับเทพอสูรที่ขึ้นมาจากนรก
เมื่อเขาได้กลับมาในเวลานี้ ในชีวิตนี้ ‘เนี่ยลี่’ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของทุกคน รวมไปถึง’เอียเซิ่ง’ แต่ตอนนี้เขารู้ว่าเขาไม่สามารถที่จะควบคุมชะตากรรมของทุกคนได้
ก่อนหน้านี้ ‘เนี่ยลี่’ก็มีความรู้สึกเห็นใจ’จอมมาร’อยู่บ้าง หลังจากที่พ่อบุญธรรมของเขาถูกฆ่า ดังนั้นเขาจึงทรยศหลังเมืองกลอรี่ แต่ถึงอย่างนั้น ‘เนี่ยลี่’ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะบ้าคลั่งถึงขนาดนี้ เมื่อเขาคิดถึงการตายของ’เอียเซิ่ง’ ในใจของ’เนี่ยลี่’ถูกแผดเผาไปด้วยความโกรธที่ไม่รู้จักจบสิ้น
“ตายซะ!”
พร้อมกับทะยานไปด้วยเจตจำนงแห่งการสังหาร ‘เนี่ยลี่’กลายเป็นปิศาจกระหายเลือดไปแล้ว และพุ่งเป้าไปที่จอมมาร แท่งสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหา’จอมมาร’ มองราวกับว่าท้องฟ้าถูกฉีกออกด้วยความโกรธของเขา
‘จอมมาร’ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการลงมือของ’เอียเซิ่ง’ ทำให้แขนทั้งสองข้างของเขาหายไป ก่อนที่เขาจะคืนสภาพ เขาก็รับรู้ถึงจิตสังหารที่พุ่งมาที่เขาราวกับคลื่นทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุด เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ‘เนี่ยลี่’จะสามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ออกมาได้
‘เนี่ยลี่’นั้นมีเคล็ดวิชาลับที่สามารถเพิ่มระดับความแข็งแกร่งให้สูงขึ้นหลายเท่าได้
นี่เป็นครั้งแรกที่’จอมมาร’รู้สึกถึงอันตราย พลังระดับนี้มีมากพอที่ทำลายเขาให้สิ้นซากได้ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีความกังวลใดๆต่อ’เนี่ยลี่’ ในมุมมองของเขา แม้ว่าเขาไม่อาจที่จะฆ่า’เนี่ยลี่’ได้ แค่เพียงฆ่าเหล่าสหายของ’เนี่ยลี่’ก็พอแล้ว ถ้าหาก’เนี่ยลี่’อยู่อย่างโดดเดี่ยว ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถคุกคามจอมมารได้อีกต่อไป
แต่ว่า เขาคิดผิด เขาไม่เคยคิดว่า ‘เนี่ยลี่’จะสามารถเรียกพลังอันแข็งแกร่งออกมาได้ถึงเพียงนี้
‘เนี่ยลี่’คำรามกึกก้องด้วยความโกรธ เขาจับดาบเทพอัสนีดาวตกในมือของเขา และฟันไปที่จอมมาร สายฟ้าขนาดใหญ่ทะลวงท้องฟ้าและผ่าลงมา พร้อมกับสร้างความกดดันให้จอมมารเป็นอย่างมาก
ในทันที’จอมมาร’ได้นำอาวุธคู่ใจของเขา ที่เป็นกระบองคู่ออกมา และใช้พลังสัจธรรมแห่งนรก เพื่อที่จะรับมือกับสายฟ้า
*ตูม!*
ท้องฟ้าแทบจะแยกออกจากกัน พลังงานถูกกระแทกกระจัดกระจายไปในทันที ‘ตู่ซื่อ’ ‘ลู่เพียว’ และคนอื่นๆ ถูกพัดกลิ้งออกไป
พลังระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะรับมือได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในระดับตำนานแล้วก็ตาม ราวกับว่าพวกเขาเป็นเพียงใบไม้ที่ถูกคลื่นสินามิโหมกระหน่ำ“นี่มันพลังอะไรกันนี่!”
‘ตู่ซื่อ’และคนอื่นๆต่างก็รู้สึกตกใจ
สายฟ้าขนาดยักษ์ ฟาดลงมาอย่างหนัก ราวกับว่ามันกำลังจะทำลายโลกเลยทีเดียว
‘จอมมาร’ไม่อาจที่จะทนต่อการโจมตีที่ทรงพลังนี้ได้ ด้วยกระบองคู่ของเขา และมันก็หลุดลอยออกไปจากมือของเขา ผลกระทบจากสายฟ้า กัดกินร่างกายของเขาและทำลายแขนเขาไปบางส่วนโดยทันที
“อ๊ากกก!”
‘จอมมาร’ กรีดร้องอย่างน่าสังเวช
สายฟ้าได้ทำลายแขนของ’จอมมาร’ จากนั้นมันก็พุ่งผ่านไปที่หน้าอกของเขา ทันใดนั้นก็เปร่งแสงระยิบระยับ ทำให้เขาลอยไปในทันที
‘จอมมาร’ถถ่มน้ำลายออกมาคำหนึ่ง มันเต็มไปด้วยเลือด สร้างความตกใจแก่เขาจนปรากฏออกมาทางสายตา พลังของสายฟ้านี้มันแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทนได้ นี่ถ้าไม่มีของวิเศษของเขา ของวิเศษนี้จะมีพูดถึงในอนาคต เขาคงถูกทำลายไปด้วยสายฟ้าพวกนั้นแล้ว
‘เนี่ยลี่’ราวกับสืบสายเลือดมากจากเทพอสูร ทำให้คนอื่นๆเหมือนกับเป็นคนธรรมดา ที่ไม่อาจจะทำอะไรได้
เมื่อเขาตระหนักว่า’จอมาร’ยังมีชีวิตอยู่ ‘เนี่ยลี่’กวัดแกว่างดาบเทพอัสนีดาวตกอีกครั้ง ปรากฏเป็นเส้นโค้งไปทางตัวของจอมมาร
*ตูม!*
‘จอมมาร’ถูกส่งให้ลอยขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง คราวนี้ขาทั้งสองของเขา และแม้แต่หัวของเขาก็ถูกทำลายด้วยแท่งสายฟ้าเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม เพราะของวิเศษทำให้ร่างกายของเขายังได้รับการคุ้มครอง ทำให้ทำให้เขากลายเป็นแสงพุ่งไปยังทิศทางอื่น“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
‘เนี่ยลี่’ยังคงอยู่ในสภาพที่บ้าคลั่ง เขาระดมยิงเสาสายฟ้าของเขา ไล่ตามแสงที่พุ่งไป ฟ้าผ่าจำนวนนับไม่ถ้วนโปรยลงมาราวกับเม็ดฝน
*ตูม!* *ตูม!* *ตูม!*
สายฟ้านับไม่ถ้วน ผ่าลงมาเป็นแนวบนพื้นดิน มันยังคงแหวกท้องฟ้าออกมาจากนั้นก็หายลับไปในขอบฟ้า
“จอมมาร แม้ว่าเจ้าจะหลบหนีไปจนสุดขอบโลก ข้าก็จะไล่ล่าและกำจัดเจ้าให้สิ้นซาก จนกว่าข้าจะมั่นใจว่าแกจะไม่มีทางได้มาเกิดใหม่อีกชั่วนิรันด์ ”
เสียงอันโกรธเกรี้ยวของ’เนี่ยลี่’ดังไปทั่วขอบฟ้า
ของวิเศษของ’จอมมาร’นั้น อย่างน้อยก็นับว่าเป็นอันดับ 3 ของสิ่งป้องกันของอณาจักรซากมังกร ในโลกเล็กๆแห่งนี้
นอกจากผู้เยี่ยมยุทธที่แข็งแกร่งดั่ง เจ้าแห่งนครใต้พิภพ ไม่มีใครที่สามารถฆ่า’จอมมาร’ได้ ในตอนนี้’เนี่ยลี่’ไม่อาจที่จะกำจัดจอมมารได้นอกเสียจากว่าเจ้าแห่งนครใต้พิภพ จะช่วย’เนี่ยลี่’ฆ่าจอมมาร เรื่องเช่นนั้นก็ไม่อาจที่จะเป็นไปได้
ในสายตาของผู้เยี่ยมยุทธอย่าง เจ้าแห่งนครใต้พิภพ ทั้ง’เนี่ยลี่’และ’จอมมาร’ อยู่ในฐานะที่เท่าเทียมกัน พวกเขาต่างก็มีความสามารถ นั่นคือทั้งหมดที่เขาสนใจ โดยเฉพาะการที่จะเข้าไปยังอาณาจักรซากมังกร และหากมีความแข็งแกร่งมากพอ ผู้เยี่ยมยุทธเหล่านั้น ก็จะไม่มีสนใจเรื่องอื่นใด
‘เนี่ยลี่’จ้องมองไปยังขอบฟ้า ด้วยความประหลาดใจ จิตสังหารในตัวเขาค่อยๆหายไป ‘เอียเซิ่ง’ตายแล้วงั้นเหรอ?
เมื่อช่วงเช้าก่อนหน้านี้เขายังคงพูดคุยกับ’เอียเซิ่ง’
แต่ตอนนี้ เวลาแค่เพียงอึดใจเดียว มันรวดเร็วจนเกินไป ‘เนี่ยลี่’ยังไม่อาจยอมรับความจริงที่ว่า เขาก็ไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกแล้ว…
จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: