ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปในตอนนั้นเสียงของลู่เพียวก็ดังเข้าหู’เนี่ยลี่’
“เนี่ยลี่ ทำไมเจ้าเด็กเซี่ยวหยู่นั่นช่างเป็นตัวสร้างปัญหาเสียจริง ศัตรูก็มีอยู่มากมาย แบบนี้จะเป็นปัญหาไม่จบไม่สิ้นนะ ทำไมเราไม่ไปเข้ากลุ่มกับเจ้าเด็กคนนั้นแทนหล่ะ?”
“นี่เจ้าคิดอย่างรอบคอบดีแล้วเหรอ? ครอบครัวของพวกเราอยู่ในกำมือของเจ้านครใต้ภิภพอยู่นะ”
‘เนี่ยลี่’กรอกตามองไปทาง’ลู่เพียว’
“ไม่ไม่ ไม่เป็นไรแล้ว เมื่อกี้ข้าแค่พูดเล่น”
‘ลู่เพียว’พูดพร้อมกับคอตก ‘เซี่ยวหยู่’มักจะมีเรื่องให้น่ารำคาญอยู่เสมอ ทำให้เขารู้สึกกังวล โดยเฉพาะการเลือกหญิงสาวสวยๆ คงถูก’เซี่ยวหยู่’ยึดไปจนหมดเป็นแน่ เรื่องนี้มีเบื้องหลังดังที่ว่ามา เขามอง’เซี่ยวหยู่’ว่าเป็นคู่แข่งความรักของเขา
‘เนี่ยลี่’มองไปทาง’เอี๋ยนห่าว’พร้อมกับยักไหล่
“ไม่ว่าเจ้าจะหว่านล้อมพวกข้าสักเท่าไร เจ้าก็ไม่สามารถที่จะแตะต้องพวกข้าในขณะที่อยู่ในสถบันวิญญาณฟ้าได้ เก็บคำพูดหลอกเด็กของเจ้าไว้เถอะ”
“ไม่สามารถแตะต้องเจ้าได้งั้นเหรอ?”
‘เอี๋ยนห่าว’หัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมกับพูดว่า
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะประเมินข้านั้นต่ำเกินไปนะ!”
‘หวงอิ้ง’ โกรธมากนางจ้องไปยัง ‘เอี๋ยนห่าว’ พร้อมกับดุด่าว่า
“เอี๋ยนห่าว ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรกับเพื่อนของท่านพี่เซี่ยวหยู่ ข้าจะไม่มีวันอภัยให้เจ้าเลย!”
‘เอี๋ยนห่าว’มอง’หวงอิ้ง’อย่างเย็นชา
‘หนอยนังผู้หญิงบ้า ถ้าหากพ่อของเจ้าไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสหล่ะก็ ใครมันจะไปสนคนเช่นเจ้ากัน? คนอย่างเจ้า ข้าจะหากี่คนก็ได้เท่าที่ข้าต้องการ’
แต่ถึงอย่างไร ‘เอี๋ยนห่าว’ ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมา ได้เพียงแต่คิดในใจเท่านั้น
“นี่เจ้าเด็กน้อยเซี่ยวหยู่ มันขี้ขลาดแอบซ่อนตัวอยู่อย่างนั้นรึ ถึงได้ส่งเจ้าสองคนมาเฝ้าที่นี่เช่นนี้”
‘เอี๋ยนห่าว’หัวเราะอย่างเย็นชา
“ใครบอกว่าข้าซ่อนตัวอยู่งั้นเหรอ?”
หลังจาก’เอี๋ยนห่าว’พูดจบ เสียงของ’เซี่ยวหยู่’ก็ดังมาจากข้างนอก ร่างของเขาปรากฏตัวขึ้นและเขาดูสง่างามเป็นอย่างมากมากในชุดสีขาวของเขา แก้มของเขาละเอียดละออ และกลิ่นอายที่กล้าหาญออกมาจากหว่างคิ้วของเขา ดวงตาของเขาคมเข้ม ทันทีที่เขาปรากฏตัวออกมา ‘เอี๋ยนห่าว’ก็ดูด้อยลงทันที
แม้ว่า ‘เอี๋ยนห่าว’ อาจถือได้ว่าหล่อเหลา แต่เมื่อเทียบกับ’เซี่ยวหยู่’แล้ว เขาก็ดูเป็นรองอยู่มากเลยทีเดียว จริง ๆ แล้วเรียกได้ว่าเทียบกันไม่ได้เลยดีกว่า ทำให้เขาโกรธจนอยากจะให้เซี่ยวหยู่ตายไปเสียเลยทีเดียว
เมื่อเห็น’เซี่ยวหยู่’ในสายตา ใบหน้าของ’หวงอิ้ง’เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยเมื่อจ้องมองเขา ราวกับจ้องมองดาวบนท้องฟ้า นางพูดอย่างเหนียมอายว่า
“ท่านพี่เซี่ยวหยู่ ท่านกลับมาแล้ว!”
“ใช่แล้ว”
‘เซี่ยวหยู่’ ตอบ’หวงอิ้ง’เบาๆ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจ ‘หวงอิ้ง’เท่าไหร่นัก เขาเดินไปหา’เนี่ยลี่’และ’ลู่เพียว’
“ผ่านมาก็หลายปีแล้ว เจ้าก็ยังไม่ได้คืบหน้าอันใดเลย ยังคงติดอยู่ในระดับชะตาดิน น่าขันยิ่งนัก”
‘เอี๋ยนห่าว’ เย้ยหยัน
‘เซี่ยวหยู่’กวาดสายตาไปทาง ‘เอี๋ยนห่าว’ และ ‘หวงอิ้ง’
“ที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของข้า พวกเจ้าช่วยออกไปด้วย”
‘เอี๋ยนห่าว’มองไปยัง’หวงอิ้ง’ที่ยืนอยู่ถัดจากเขา แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า
“น้องอิ้งเจ้าเข้าใจหรือยัง? แม้แต่เซี่ยวหยู่ก็ไม่ได้ยินดีที่จะต้อนรับเจ้าเลย”
ดวงตาของ’หวงอิ้ง’ยังคงจับจ้องที่ใบหน้าของ’เซี่ยวหยู่’ นางนิ่งไม่ไหวติงดูเหมือนว่านางจะหลงเสน่ห์เขาเป็นอันมาก นางรักที่’เซี่ยวหยู่’เป็นอยู่ตอนนี้ แม้จะเป็นความจริงที่เขาเย็นชาเล็กน้อย แต่มันก็ช่างเป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร
‘เอี๋ยนห่าว’ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก เขาไม่อาจจะหาทางออกได้ เพราะยังไงเขาก็เทียบกับ’เซี่ยวหยู่’ไม่ได้ เพราะเป็นความจริงที่’เซี่ยวหยู่’นั้นดูดีกว่า หรือผู้หญิงทุกคนจะชอบหนุ่มหน้าสวยงั้นเหรอทันใดนั้นก็มีหญิงสาวสองคนเดินเข้ามา หนึ่งในนั้นสวมชุดสีขาวและมีรูปที่งดงาม ส่วนอีกคนนั้นตัวสูงแถมรูปร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งน่าชม
“ท่านพี่เซี่ยวหยู่ ท่านกลับมาแล้ว….”
เมื่อหญิงสาวในชุดสีขาวมองไปที่เซี่ยวหยู่ ใบหน้าของนางก็ค่อย ๆ กลายเป็นสีชมพู ส่วนผู้หญิงตัวสูงนั้นส่งสายตายั่วยวน’เซี่ยวหยู่’
หญิงสาวในชุดสีขาวเม้มปากขณะที่กำลังยิ้ม
“ท่านพี่เซี่ยวหยู่ ข้าได้รับสมุนไพรบางชนิดมา มีผลดีเยี่ยมช่วยในการบ่มเพาะพลังได้เป็นอย่างดี”
เมื่อสองสาวนี้ปรากฏตัว ใบหน้าของ’หวงอิ้ง’ก็ดูมืดมน ผู้หญิงพวกนี้ทำไมถึงได้อยู่ทุกที่เลยนะ?!
ส่วน’เอี๋ยนห่าว’นั้น เขาแทบจะระเบิดออกมาด้วยความโกรธที่ถูกเก็บกักไว้ เจ้าหนุ่มหน้าสวย’เซี่ยวหยู่’จะเป็นที่นิยมมากเกินไปแล้ว หญิงสาวสอง คนที่เพิ่งจะเข้ามา แล้วก็’หวงอิ้ง’ ต่างก็เป็นคนที่มีคนหนุนหลังทั้งนั้น
ดังนั้นเขาทำได้เพียงแค่กล้ำกลืนความโกรธไว้เท่านั้น ‘เซี่ยวหยู่’ก็เริ่มที่จะปวดหัวแล้วเช่นกัน
เมื่อได้เห็นเรื่องนี้ ‘เนี่ยลี่’ก็ตบไหล่’ลู่เพียว’พร้อมกับหัวเราะ
“ลู่เพียว กลับไปที่ห้องของเราดีกว่า ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่ธุระของเรา”
‘ลู่เพียว’ชำเลืองมองดู อย่างเต็มไปด้วยความหมาย จากภาพที่เห็นเขามองไปยัง’เซี่ยวหยู่’อีกครั้ง เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ‘เซี่ยวหยู่’นี่เป็นคนที่ดูดีจริง ๆ แต่เขาไม่คิดเลยว่า เขาจะเป็นที่ชื่นชอบของสาว ๆ มากมายขนาดนี้ ‘เอี๋ยนห่าว’ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็แทบจะระเบิดด้วยความโกรธอยู่แล้ว
เพราะไม่มีอะไรให้เขาระบายได้เลย ดังนั้นจะเป็นการดีกว่า ถ้าหากพวกเขาไม่เข้าไปก้าวก่ายกับเหตุการณ์อันน่าสนุกพวกนี้
เมื่อเห็น’เนี่ยลี่’กับ’ลู่เพียว’ กำลังจะเดินจากไป ‘เซี่ยวหยู่’รีบตะโกนออกมาทันที
“รอเดี๋ยว!”
“มีอะไรงั้นเหรอ?”
‘เนี่ยลี่’ถามแล้วเขาก็มองไปยัง’เซี่ยวหยู่’
‘เซี่ยวหยู่’รู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก ที่’เนี่ยลี่’กับ’ลู่เพียว’ ไม่จริงใจต่อเขาแถมยังจะหนีออกไปจากสถานการณ์ตอนนี้อีกด้วย
“ข้านั้นได้ลงทะเบียนให้พวกเจ้าเรียบร้อยแล้ว เจ้าสามารถไปเคารพอาจารย์ของเจ้าได้ในวันพรุ่งนี้ แล้วนี่คือป้ายชื่อของพวกเจ้า ”
‘เซี่ยวหยู่’ส่งป้ายชื่อสีเงินสองอันให้กับ’เนี่ยลี่’
“เยี่ยมไปเลย”
‘เนี่ยลี่’หยิบป้ายชื่อจาก’เซี่ยวหยู่’ จากนั้นก็โบกมือแล้วกล่าวว่า
“ขอบใจนะ!”
จากนั้นทั้งสองคนก็หันหลังกลับ แล้วก็เดินกลับไปที่ห้องของพวกเขา
‘เซี่ยวหยู่’นั้นถูกทิ้งไว้อยู่คนเดียว และเผชิญหน้ากับหญิงสาวทั้งสาม และอีกหนึ่งชายหนุ่มที่โกรธจนแทบลุกเป็นไฟ เขารู้สึกเหมือนอยู่ในหลุมอย่างหมดอาลัยตายอยาก เขาเพิ่งจะกลับมาถึงบ้านแล้วความยุ่งยากก็รออยู่ที่นี่แล้ว
เมื่อ’เนี่ยลี่’นี่กลับมายังห้องของเขาแล้ว และกำลังเตรียมตัวที่จะทำการบ่มเพาะพลังของเขาต่อ ‘จินตาน’ก็ตื่นขึ้นมาจากการหลับไหล
เมื่อมันเห็นศิลาจิตวิญญาณวางอยู่บนโต๊ะ มันกระพือปีกของมันดุ๊กดิ๊กในขณะที่มันพยายามที่จะกระโดดขึ้นไป จริง ๆ ก็ไม่น่ายากเกินความพยายามแต่ดูเหมือนว่าเพราะมันอ้วนเกินไปเมื่อมองดูการแสดงออกถึงความต้องการของ’จินตาน’ ‘เนี่ยลี่’จึงถามและชี้ไปยังศิลาจิตวิญญาณที่เหลืออยู่บนโต๊ะ
“เจ้าอยากกินสิ่งนี้งั้นเหรอ?”
‘จินตาน’พยักหน้าของมันด้วยความตื่นเต้น
พลังงานสวรรค์ในศิลาจิตวิญญาณนั้นถูกเนี่ยลี่ดูดซับไปหมดแล้ว มันจึงไม่สามารถนำไปใช้งานใด ๆ ได้อีก มันก็ไม่ต่างจากก้อนหินธรรมดา ‘เนี่ยลี่’โยนศิลาจิตวิญญาณที่เหลือไปให้’จินตาน’
‘จินตาน’รับศิลาจิตวิญญาณด้วยปากของมัน จากนั้นก็ทำการขบเคี้ยวด้วยเสียงที่ดังจนน่ากลัว
แม้ว่าพลังงานสวรรค์ที่อยู่ในศิลาจิตวิญญาณ นั้นถูกดูดซับจนเหือดแห้งแล้ว แต่ศิลาจิตวิญญาณที่เหลือนี้ก็ยังคงหยาบและแข็งมาก
ราวกับเป็นสิ่งของที่ยากที่จะตัดได้ แต่สำหรับ’จินตาน’นั้น มันกินไปราวกับกำลังกินถั่วคั่ว ขบเคี้ยวเสียงดังจากนั้นก็กลืนลงไปหลังจากที่กินจนหมดแล้ว ‘จินตาน’ก็มองไปที่’เนี่ยลี่’อีกครั้ง
“ข้าไม่มีอีกแล้ว ที่ข้ามีเพียงแค่นั้น”
‘เนี่ยลี่’พูดพร้อมกับโบกมือ เจ้าเด็กน้อย’จินตาน’ กินได้แม้แต่ก้อนหินจริงๆ
ในอาณาจักรซากมังกร เขาต้องการศิลาจิตวิญญาณเพราะเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ดังนั้น เขาจะต้องหาวิธีการที่พวกเขาจะได้มันมามากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นมันก็คงไม่เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ในตอนนี้เนี่ยลี่ยังคงไม่มีความคิดดี ๆ เลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะมีสมบัติบางอย่าง แต่ไม่มีวิธีที่พวกเขาจะใช้งานของเหล่านั้นได้เลย
แสงสว่างของกลางวันค่อย ๆ มืดลง แสงจันทร์สาดส่องมายังห้องของเนี่ยลี่ ประกายแสงสีเงินสะท้อนภาพทุกสิ่งที่เห็นตรงหน้า
*ก๊อก!* *ก๊อก!* *ก๊อก!*
มีเสียงเคาะประตูอย่างรุนแรง
‘เนี่ยลี่’ชำเรืองมองตรงประตู
“เข้ามา!”
‘เซี่ยวหยู่’เดินเข้ามาพร้อมกับเสื้อคลุมสีขาวเรียวยาว ภายใต้แสงสะท้อนของจันทรา มองดูราวกับเห็นว่าเทวากำลังล่องลอย ทำให้’เนี่ยลี่’อดมองเขาไม่ได้ ไม่แปลกใจเลยที่สาว ๆ จะคลั่งไคล้เขามากถึงเพียงนี้ ‘เซี่ยวหยู่’ดูแล้วช่างงดงามยิ่งนัก งดงามเสียจนหญิงสาวจะต้องอิจฉา
“เจ้ามีธุระอะไรกับข้างั้นเหรอ?”
‘เนี่ยลี่’ถาม เขามองไปยัง’เซี่ยวหยู่’
‘เซี่ยวหยู่’นั่งลงใกล้ ๆ พร้อมกับพูดขอโทษ
“ขออภัยด้วย ที่ข้ามารบกวนเจ้า”
“จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้รบกวนอะไรมากเท่าไหร่”
‘เนี่ยลี่’พูด ในตอนนั้น ‘เซี่ยวหยู่’ก็ไม่อาจจะทนกลั้นคำถามที่คาใจเขาอยู่ได้ และได้ถามออกไป
“ตั้งแต่การทดสอบรากวิญญาณแล้ว ข้ามีบางคำถามที่อยากจะถามเจ้า เจ้ารู้วิธีที่จะทำให้ข้าทะลวงผ่านการบ่มเพาะพลังใช่ไหม?”
“แน่นอน”
‘เนี่ยลี่’พยักหน้า ดวงตาของ’เซี่ยวหยู่’เป็นประกายขึ้น
เขามองไปยัง’เนี่ยลี่’ด้วยความหวังที่เต็มเปี่ยม
“เจ้ารู้วิธีจริงๆ ใช่ไหม?”
‘เนี่ยลี่’มองไปยัง’เซี่ยวหยู่’ แล้วพูดว่า
“เทคนิคการบ่มเพาะพลังที่เจ้าใช้ก็คือ มังกรคำรามคณานับ ถูกต้องไหม”
“ถูกต้องแล้ว ทำไมเจ้าถึงรู้?”
‘เซี่ยวหยู่’พูดในขณะที่ตัวสั่นสะท้าน เทคนิคการบ่มเพาะพลัง มังกรคำรามคณานับ เป็นเทคนิคที่ได้รับการถ่ายทดจากบิดาบุญธรรมของเขา และมันเป็นเทคนิคการบ่มเพาะที่ลึกลับและน่าพิศวงเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า’เนี่ย’จะรู้เกี่ยวกับมัน
“เทคนิคการบ่มเพาะพลัง มังกรคำรามคณานับ ที่เจ้าใช้นั้นมันไม่สมบูรณ์ นั่นคือเหตุผลที่เจ้าเจออุปสรรค์เมื่อพยายามทะลวงผ่านจากชะตาดินสู่ชะตาฟ้า”
‘เนี่ยลี่’อธิบาย
“ถ้าอย่างนั้น ไผ่มณีม่วงที่เจ้าพูดถึงเมื่อก่อนหน้านี้…”
‘เนี่ยลี่’หัวเราะ
“ข้าก็แค่อยากจะปั่นหัวฮัวหลิงก็เท่านั้น”
‘เซี่ยวหยู่’ก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้เช่นกัน ‘เนี่ยลี่’นั้นร้ายกาจยิ่งนัก การโกหก’ฮัวหลิง’เช่นนี้ ย่อมทำให้’ฮ้วหลิง’รู้สึกไม่สบายใจอย่างมากเมื่อเขากลับไปเป็นแน่
เมื่อเห็น’เซี่ยวหยู่’ยิ้ม เขามักจะแสดงท่าทีเคร่งขรึม ริมฝีปากเรียบสวยของเขา ให้ความพึงพอใจที่ไม่อาจที่จะอธิบายได้เลย ‘เนี่ยลี่’ตกตะลึงเมื่อจ้องมองไปที่เขา ถ้าหากจากเด็กหนุ่ม’เซี่ยวหยู่’ เป็นผู้หญิงหล่ะก็ เขาคงจะต้องตาต้องใจผู้ชายมากมายแน่ๆ
ด้วยที่รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ใบหูของ’เซี่ยวหยู่’เริ่มแดงเล็กน้อย ในขณะที่เขาค่อย ๆ พูดออกมาว่า
“มีหนทางใดที่ข้าจะสามารถทะลวงผ่านได้หรือไม่”
“การที่เจ้าจะทะลวงผ่านทันทีนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่มีวิธีที่จะช่วยให้เจ้าสามารถทำตามที่คาดหวังได้ แค่เพียงให้ข้าฝังเข็มให้กับเจ้าเพื่อเชื่อมจุดเจียนจิ่ง 肩井 และจุดฟ่งเหม็น 風門 ด้วยวิธีการนี้เจ้าก็สามารถที่จะทะลวงผ่านได้ตามที่ตั้งใจแล้ว”
‘เนี่ยลี่’อธิบาย ประโยชน์ส่วนหนึ่งของการฝังเข็มจะช่วยทำให้ พลังวิญญาณ หรือพลังงานสวรรค์ ช่วยทำการรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้ ‘เซี่ยวหยู่’แสดงท่าทีกังวลเล็กน้อย
“นี่มันจะได้ผลจริงๆเหรอ?”
“แน่นอน ทักษะการฝังเข็มของข้าไม่เคยผิดพลาด แค่เพียงไม่กี่เข็ม ข้ารับรองได้เลยว่าเจ้าจะต้องทะลวงผ่านถึงระดับชะตาสวรรค์ได้แน่นอน”
‘เนี่ยลี่’พูดอย่างมั่นใจ แม้ว่าเขาจะบอกว่าแน่นอน แต่จริง ๆ แล้ว’เซี่ยวหยู่’นั้นใกล้ที่จะทะลวงผ่านได้อยู่แล้ว นั่นเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ‘เนี่ยลี่’เพียงแค่ต้องการให้’เซี่ยวหยู่’เชื่อมือเขาเท่านั้นเอง
‘เซี่ยวหยู่’นั้นได้พยายามมาเป็นเวลานานมากแล้ว เขาคิดอยู่ในใจ สุดท้ายเขาก็พยักหน้า
“ก็ได้ ถ้าเช่นนั้นเรามาเริ่มฝังเข็มกันได้เลย!”
ตราบจนถึงเวลานี้ เป็นความที่ว่าเขาได้ทดลองมาทุกวิธีแล้ว เขาก็ไม่อาจที่จะบรรลุถึงระดับชะตาสวรรค์ได้ ไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็ทะลวงผ่านไม่ได้สักที
‘เซี่ยวหยู่’ค่อย ๆ ถอดเสื้อของเขาออก เหลือห้อยไว้ตรงข้อศอก ไหล่ของเขาเผยออกมาครึ่งหนึ่ง มองดูราวกับหญิงสาวที่กำลังเขินอาย เขามองดูแล้วน่าอึดอัดใจไม่น้อย
“เจ้าถอดเสื้อของเจ้าออกไปเลยก็ได้ เราทั้งคู่ต่างก็เป็นชาย มีอะไรต้องอายอีกเหรอ? ”
‘เนี่ยลี่’ทนไม่ได้ที่จะพูดออกไป หลังจากที่เห็นท่าทีเหมือนสาวน้อยของ’เซี่ยวหยู่’
“ไม่จำเป็น”
‘เซี่ยวหยู่’พูดขณะที่หน้าของเขาเริ่มจะแดงขึ้นเรื่อยๆ
‘เนี่ยลี่’ยักไหล่ เมื่อ’เซี่ยวหยู่’พอใจจะทำเช่นนี้ เขาก็ปล่อยไปตามนั้น ‘เนี่ยลี่’ก้มหัวลงไปเพื่อตรวจดูไหล่ของ’เซี่ยวหยู่’ ไหล่ทั้งสองข้างของเขาเรียบลื่น นุ่มละมุนมาก กระดูกไหปลาร้าของเขาก็ราวกับเป็นรูปสลักจากหยกเลยทีเดียว มันงดงามจนกระทั่งที่ว่าต่อให้เป็นผู้หญิงก็ยังหาได้ยากนัก
‘เนี่ยลี่’รู้สึกแปลก ๆ ในขณะที่เขาตรวจสอบ’เซี่ยวหยู่’ ผิวของ’เซี่ยวหยู่’นั้น ผิวของเขาได้รับการบำรุงมาเป็นอย่างดี และเรียบเนียนยิ่งกว่าหญิงสาวเสียอีก เนี่ยลี่แทบที่จะอดสัมผัสเขาไม่ได้ แต่เมื่อเขาเตือนตัวเองว่า ‘เซี่ยวหยู่’นั้นเป็นผู้ชาย เขาก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไปทันที
เขานำเข็มออกมาและทำการฝังลงบนจุด เจียนจิ่ง ของ’เซี่ยวหยู่’ทันที
‘เซี่ยวหยู่’ส่งเสียงออกมาเบา ๆ เขาไม่รู้ว่าทำไม เมื่อ’เนี่ยลี่’ฝังเข็มทะลุผิวหนังของเขา เหมือนมีอะไรวิ่งผ่านไปทั่วร่างกายของเขา เหมือนกับว่ารู้สึกชา ๆ ไปทุกจุดที่มีอะไรไหลผ่านเส้นทั่วร่างกายของเขา แต่ในหัวใจของเขากลับสั่นสะท้านเมื่อเริ่มรับรู้ถึงกลิ่นอายในขอบเขตวิญญาณของเขา มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมาก ความรู้สึกมันแตกต่างจากตอนที่เขาทำการบ่มเพาะพลัง มันได้ผล!
หัวใจของ’เซี่ยวหยู่’เร่าร้อนด้วยความตื่นเต้นอย่างเต็มที่หลังจากที่’เนี่ยลี่’ฝังเข็มแรก เขาเริ่มที่จะฝังอีกจุดหนึ่ง ที่จุดฟ่งเหม็นของ’เซี่ยวหยู่’ผิวที่ขาวดั่งหยกของเขา ตรงที่ใกล้ ๆ จุดฟ่งเหม็น เปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อน ๆ
“เจ้ารู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง”
‘เนี่ยลี่’ถามพร้อมกับมองไปยัง’เซี่ยวหยู่’
“ข้ารู้สึกได้ว่ามัน…”
‘เซี่ยวหยู่’ตอบอย่างตื่นเต้น พลังงานสวรรค์ในขอบเขตวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มันพรั่งพรูออกมาจนแทบล้นออกมาจากร่างกายของเขา….
จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: