ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปผ่านไปสามวัน ก็เป็นอีกครั้งกับบทเรียนของ’อาจารย์ชิหลิง’
‘กู้เบ่ย’ ‘เนี้ยหลี่’และ’ลู่เปียว’นั่งอยู่ด้วยกัน
‘กู้เบ่ย’แอบส่งแหวนที่ใส่จิตอสูรให้’เนี้ยหลี่’แล้วกระซิบว่า
“เนี้ยหลี่ลูกน้องของข้าสามารถรวบรวมจิตอสูรมาได้หกหมื่นดวง”
“เยี่ยมไปเลย ขอบใจมาก นี่ศิลาจิตวิญญาณหกร้อยก้อน’”
‘เนี้ยหลี่’แอบส่งกระเป๋าให้’กู้เบ่ย’
‘กู้เบ่ย’ขมวดคิ้วนิดๆ แล้วกล่าวอย่างไม่พอใจว่า
”เจ้าคิดจะทำสิ่งใดกัน”
เขาไม่ได้ช่วยเหลือ’เนี้ยหลี่’เพราะต้องการสิ่งตอบแทน มิหนำซ้ำ จิตอสูรยังเป็นขั้นธรรมดาซึ่งมันไม่คุ้มค่าเลย นี่เป็นเพียงแค่ของขวัญเล็กน้อยที่มอบให้กับสหาย การที่จะให้รับเงินจาก’เนี้ยหลี่’ ‘เนี้ยหลี่’ไม่คิดว่าเขานั้นเป็นสหายหรืออย่างไร
‘เนี้ยหลี่’ตบใหล่กู้เบ่ยแล้วยิ้มพร้อมกับพูดว่า
“ข้าอยากให้เจ้าช่วยหาจิตอสูรสายเลือดมังกร ที่มีระดับการเติบโตในระดับทั่วไปให้หน่อย”
คำพูดของ’เนี้ยหลี่’ ทำให้’กู้เบ่ย’เลิกขมวดคิ้ว และผ่อนคลายลง จากนั้นเขาก็ตอบรับอย่างจริงจัง
“ง่ายมาก ไม่มีปัญหา”
‘เนี้ยหลี่’หมดหินวิญญาณไปเมื่อคืนสองร้อยก้อน ความเร็วในการสิ้นเปลืองนี้ชั่งน่ากลัวนัก เพื่อการฝึกฝนได้อย่างราบรื่นเขาจะต้องคิดหาวิธีอื่น ๆ ที่จะมีศิลาจิตวิญญาณมากขึ้น!
แค่ขายจิตอสูรธรรมดาที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้ายังคงไม่เพียงพอ ดังนั้น’เนี้ยหลี่’จึงมุ่งหมายไปที่จิตอสูรสายเลือดมังกร อย่างไรก็ตามเขาต้องรอ’กู้เบ่ย’ส่งจิตอสูรชุดแรกก่อน เขาถึงจะมีวัตถุดิบในการหลอมรวมจิตอสูรได้
ในคาบเรียน’อาจารย์ชิหลิง’ได้บรรยายเกี่ยวกับการฝึกฝนความสามารถในการต่อสู้ เขาอธิบายในแง่ง่ายๆนักเรียนเกือบทั้งหมดตั้งใจฟังเขาเป็นอย่างดี
แต่’เนี้ยหลี่’ตรงกันข้าม เขากำลังครุ่นคิดเรื่องอื่นอยู่
ทุกคนในชั้นเรียนได้ยินเรื่องของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ผ่านการซุบซิบนินทา ‘เนี้ยหลี่’กลายเป็นนักเรียนที่พิเศษที่สุดในชั้นเรียนอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม’เนี้ยหลี่’เคยทำให้’หลงยู่อิน’ต้องพ่ายแพ้ ดังนั้นไม่มีใครกล้าไปกวนใจเขา นอกจากนี้’เนี้ยหลี่’ยังกลายเป็นที่สนใจของสาวๆ อีกด้วย
‘หลงยูอิน’นั่งอยู่เงียบๆในมุม มองดู’เนี้ยหลี่’ นางรู้ดีว่า ไม่อาจที่จะจับคู่ซ้อมกับ’เนี่ยลี่’ได้อีก ตั้งแต่ที่นางพ่ายแพ้ครั้งที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นางไม่กล้าพูดได้ว่าเกลียดชังเขา มันแทนที่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นความแข็งแกร่งของเขานางอยากรู้การฝึกฝนของ’เนี้ยหลี่’ ทุกสิ่งทุกอย่างของผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยความลับ
ถ้านางยังคงตามตื้อ’เนี้ยหลี่’มันยิ่งจะทำให้เขาเกลียดชังนางมากยิ่งขึ้น วิธีเดียวที่นางจะมีคุณสมบัติที่จะคุยกับเขา นางจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้
ตั้งแต่เด็กมา ‘เนี้ยหลี่’เป็นเพียงคนเดียวที่อายุไล่เลี่ยนางแล้วสยบนางได้ เขาเป็นคนเดียวในรุ่นเดียวกันที่นางยอมรับในเรื่องของความแข็งแกร่ง การกระทำของ’เนี้ยหลี่’ทำให้นางเกิดการเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้น
ในขณะที่’อาจารย์ชิหลิง’กำลังอธิบายถึงการสอนอยู่นั้น ในชั้นเรียนยังคงเงียบอย่างแปลกประหลาด
‘เนี้ยหลี่’กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เขานั้นไม่ได้พบเห็นอาจาร์ยของเขาอีกเลย หลังจากที่ได้พบกันที่ด่านจิตวิญญาณแห่งแสงโดยบังเอิญ มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะสงสัยว่าอาจารย์ของเขานั้นอาศัยอยู่ในหุบเขา ‘เนี้ยหลี่’ลองนึกย้อนถึงความทรงจำจากชีวิตก่อนหน้านี้และเต็มไปด้วยความปรารถนาต่ออาจารย์ของเขา
เขามีความสุขในช่วงสั้น ๆ เขาคิดว่าควรไปเยี่ยมนางที่หุบเขา เพราะเขาก็คิดจะทำอย่างอยู่แล้ว
‘อาจารย์ชิหลิง’ ยิ้ม
“จิตอสูรเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งในการบ่มเพาะความสามารถในการต่อสู้ เวลานี้จิตอสูรที่พวกเจ้าผสานด้วยนั้นมันอาจจะไม่แข็งแกร่งเพียงพอ เพียงแต่หลังจากที่พวกเจ้าไปถึงระดับชะตาสวรรค์ พวกเจ้าจะสามารถผสานเข้ากับจิตอสูรที่ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกที่มีสายเลือดมังกร”
“ในฐานะที่เป็นอัจฉริยะที่มีรากวิญญานฟ้า ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะหลอมรวมกับจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีอย่างน้อยมีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์ ที่จะช่วยพวกเจ้าได้อย่างมหาศาลกับความก้าวหน้าในอนาคต!”
จากคำพูดของ’อาจารย์ชิหลิง’ ลูกศิษย์จำนวนมากในบริเวณนั้นถึงกับถอนหายใจเล็กน้อย
จิตอสูรสายเลือดมังกรเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่ามีราคาแพงมาก ตนที่มีระดับการเติบโตระดับธรรมดาก็มีราคา 1-2 ศิลาจิตวิญญาณ
แต่ถ้ามันมีที่มีระดับการเติบโตในระดับดีนั้นจะมีราคาถึง 70-80 ศิลาจิตวิญญาณ ถ้าเป็นระดับอัตราเติบโตที่ดีเยี่ยมเหล่านั้นคงอาจมีราคาถึงหนึ่งพันศิลาจิตวิญญาณ โดยทั่วไปแล้ว จิตอสูรที่มีระดับการเติบโตระดับมหัศจรรย์นั้นอาจพอจะหามาได้บ้างถ้าเป็นลูกศิษที่มีภูมิหลังทางตระกูลดี แต่ตระกูลธรรมดาไม่อาจที่จะครอบครองไว้ได้เลยมีเพียงแต่ผู้มีความสามารถแล้วมีคนหนุนหลังอยู่เท่านั้น
แล้วนักเรียนอย่างพวกเขาจะเอา จิตอสูรที่มีสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์ มาจากไหนกัน?
ในทางเดียวกัน มันคงจะฉลาดกว่ามาก ถ้าจะหาจิตอสูรธรรมดาที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้ามาใช้
เพราะราคาของจิตอสูรธรรมดาที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้า ราคาพอ ๆ กับจิตอสูรสายเลือดมังกรระดับดี หรืออาจจะสูงกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตามตัวราคาของมันไม่ได้แย่และเมื่อเทียบราคาต่อคุณภาพก็ยังคงมีราคาแพงพอดู เพราะอย่างนั้น จิตอสูรธรรมดาที่มีระดับเติบโตระดับพระเจ้าจึงขายได้ดีที่สุดในหมู่ลูกศิษย์ธรรมดา
จิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตระดับพระเจ้าเป็นของล้ำค่าที่มิอาจประเมิณราคาได้ แม้แต่สามตระกูลหลักมีเพียงยอดฝีมือไม่กี่ร้อยคนที่ผสานเข้ากับจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้า นั่นและคือพลังแห่งอำนาจ เป็นหัวใจสำคัญของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
เมื่อไม่กี่ปีมานี้มีการตายจำนวนมากระหว่างยอดฝีมือระดับสุดยอดกับ จิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้า
นั้นเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ว่าทำไมนิกายขนนกแห่งทวยเทพถดถอยลงอย่างไรก็ตามเนื่องจาก นิกายขนนกศักดิศิทธิ์ ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองเลยยังมีรากฐานที่มั่นคง ตราบใดที่นิกายสามารถสร้างยอดฝีมือที่มีความสามารถพร้อมด้วยจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้า มันคงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นที่จะทำให้นิกายกลับไปสู่วันที่รุ่งเรืองอีกครั้ง.
นั้นคือเหตุผลว่าทำไมหม้ออสูรจิตอสูรฝันร้ายของ’เนี้ยหลี่’เป็นสมบัติล้ำค่าแน่นอน จึงเป็นเหตุผลอีกว่าทำไมเขาต้องระวังตัวทุกครั้งที่ทำการหลอมรวมจิตอสูร
‘อาจารย์ชิหลิง’ มองไปรอบ ๆ ที่นักเรียนกำลังบ่น และยิ้ม
“เป็นธรรมดาที่พวกเจ้าจะมองข้าม สายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์ ถ้าไม่โชคดีอย่างมากจริงๆ ดังนั้นถ้าหากพวกเจ้าไม่สามารถหา จิตอสูรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์ ที่เป็นสายเลือดมังกร ได้ เพียงแค่ที่มีระดับการเติบโตในระดับดีเยี่ยมก็เพียงพอแล้ว พวกเจ้าควรรอจนกว่าจะสามารถไปถึงระดับชะตาสวรรค์ เมื่อเวลานั้นมาถึงพวกเจ้าจะได้รับอนุญาติให้ออกไปข้างนอกเพื่อล่า จิตอสูรที่มีสายเลือดมังกรสำหรับตัวพวกเจ้าเอง พวกเจ้าจะสามารถใช้เวลาได้อย่างอิสระเพื่อค้นหาพวกมันอย่างรอบคอบ!”
สำหรับคนที่ไม่มีพื้นหลังตระกูลสนับสนุน การที่จะมี จิตอสูรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์หรือที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้า นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้
‘จินหยาน’ ชำเลืองมองไปที่’เนี้ยหลี่’ รอยยิ้มดูถูกปรากฏออกมาจากมุมปากของเขา ด้วยตอนนี้’เนี้ยหลี่’มีความแข็งแกร่งและความสามารถมากเกินกว่าเขา แล้วยังไงละ ? ตระกูลของจินหยานมีการเตรียม จิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์พร้อมแล้วสำหรับเขา เพียงแค่รอให้ไปถึงระดับชะตาสวรรค์ จากนั้นเขาจึงจะผสานเข้ากับมัน
สำหรับ’เนี้ยหลี่’ ถ้าเขาโชคดีจะสามารถหามันได้ ถึงแม้จะเป็นเพียงสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับระดับดีเยี่ยม หรือ ไม่เขาก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในการหามันมาได้
นั้นคือช่องว่างระหว่างสถานะทางสังคมของพวกเขา แม้ว่า ‘เนี้ยหลี่’จะเข้าร่วมกับตระกูลใดตระกูลหนึ่ง แต่ตระกูลเหล่านั้นคงจะไม่เต็มใจที่จะมอบจิตอสูรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์แก่’เนี้ยหลี่’ ถ้าหากเนี้ยหลี่เข้าร่วมกับตระกูลของพวกเขา เพียงแต่จะจบลงด้วยการเป็นสุนัขรับใช้ ที่นั่นมักจะมีความแตกต่างเสมอระหว่างคนเช่นเขาและสมาชิกที่มีสายเลือดของตระกูล
นี้คือเหตุการณ์ปกติในทุกนิกาย ไม่เพียงแต่ที่ นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ อัจฉริยะจากอาณาจักรเล็ก ๆ มักจะถูกฝึกให้เชื่องโดยตระกูลใหญ่ ๆ และกลายไปเป็นลูกน้องไปตลอดชีวิต ที่ตระกูลของพวกเขาแล้วแต่ความกรุณา ถึงแม้เวลาที่มีอัจฉริยะบางคนที่น่าอัศจรรย์สามารถกำหนดชะตากรรมของตัวเองยังไงก็ตามในประวัติศาสตร์มีเพียงแค่ไม่กี่คน ทั้งหมดนั้นกลายเป็นเพียงแค่ตำนานเมื่อนานมาแล้ว
สมาชิกที่มีสายเลือดในตระกูลจะมีสิทธิ์ในสมบัติและถูกปกป้องโดยตระกูล ถึงแม้ถ้าหากพวกเขาทำผิด ตราบใดที่โทษไม่ถึงแก่ความตายพวกเขาสามารถออกมาเดินได้อย่างง่ายดาย นี่ยังห่างไกลจากความแตกต่างของอัฉริยะจากอาณาจักรเล็ก ๆ
ชะตาของเขาก็ถูกตัดสินแล้วโดยสวรรค์ ถ้าอัจฉริยะจากอาณาจักรเล็ก ๆ มีการบาดเจ็บถึงตาย ก็ไม่มีใครสนใจนี่เป็นอาณาจักรซากมังกร ที่ตระกูลใหญ่ ๆ ในนิกายต่าง ๆ อยู่บนจุดสูงสุด
ในตอนแรก อัจฉริยะจากอาณาจักรเล็ก ๆ ทั้งหมดเชื่อว่าโลกเป็นสถาณที่ ที่ยุติธรรม แต่ไม่ช้าหรือเร็วความคิดพวกเขาจะเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่พวกเขาจะเข้าร่วมกับตระกูลใหญ่และเอาความภักดีแลกกับผลประโยชน์
ตั้งแต่’เนี้ยหลี่’ได้แสดงความสามารถที่น่าตกใจ เขาได้รับความสนใจจากคนที่มีระดับสูงกว่าเป็นจำนวนมาก พวกคนระดับสูงเหล่านั้นคงจะปกป้องชีวิตของเนี้ยหลี่อย่างสุดความสามารถ อย่างไรก็ตาม เรื่องที่พวกเขาเป็นกังวล คือนักเรียนที่มีความสามารถจนน่าตกใจ จริง ๆ น่าจะประสบเหตุการณ์จากการถูกกดขี่อย่างที่พวกเขาคุ้นเคย
ดังนั้นพวกเขาจึงจะไม่ยอมให้คนที่แข็งแกร่งได้ตัวเขาไป และนั้นจะทำให้ง่ายต่อการควบคุมเขาในอนาคต
ที่มุมปากของ’จินหยาน’ มีรอยยิ้มที่เย็นชา พวกที่มาจากอาณาจักรเล็ก ๆ นั้นมีความต้องการขึ้นไปสู่ จุดสูงสุด แต่พวกเขาก็ไม่ได้ตระหนักว่ามีบางอย่างเป็นช่องว่างที่ไม่อาจข้ามไปได้และเนี้ยหลี่ก็เป็นเช่นเดียวกับพวกเขา!
เขาอยากเห็นว่าเนี้ยหลี่จะไปได้ไกลแค่ไหนถ้าไม่ได้เข้าร่วมกับตระกูลใดเลย!
ในระหว่างคาบเรียนของอาจารย์ชิหลิงได้อธิบายหลายอย่างที่เกี่ยวกับจิตอสูรเช่นเดียวกับที่เขายอมรับความเข้าใจในเรื่องการผสานจิตอสูรของพวกเขา นักเรียนได้รับความรู้มากมายจากบทเรียน ไม่นานคาบเรียนก็จบลง
“กลับไปทบทวนสิ่งที่เรียนด้วย ถ้าหากพวกเจ้ามีคำถามบางอย่างที่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับมัน สามารถมาถามได้ในคาบเรียนต่อไป”
‘ผู้อาจารย์ชิหลิง’ยิ้มเล็กน้อย
“การเรียนการสอนจบลงเท่านี้!”
‘เนี้ยหลี่’เดินออกมากับ’หลู่เปียว’ และ’กู้เบ่ย’เดินตามออกมาด้วย
‘กู้เบ่ย’มองไปที่เนี้ยหลี่และกล่าวว่า
“เนี้ยหลี่ ข้าได้ยินว่าเจ้าขายจิตอสูรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้าจำนวนมาก?”
“ใช่แล้ว”
‘เนี้ยหลี่’รู้ว่า’กู้เบ่ย’ อยากจะรู้เกี่ยวกับมันแน่นอน
นอกจากนี้ ‘กู้เบ่ย’ มีข้อตกลงเล็กน้อยกับ’เนี้ยหลี่’ เกี่ยวกับคำขอ เรื่องจิตอสูร ‘กู้เบ้ย’อาจมองดูเหมือนคนบ้าผู้หญิงโง่ ๆคนหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วเขาถือได้ว่าเป็นคนที่เก่งกาจคนหนึ่งเลยทีเดียว‘กู้เบ่ย’หัวเราะ
“ถ้าเจ้ามีจิตอสูรธรรมดาที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้าจำนวนมาก อย่าปล่อยให้กระแสน้ำที่ดีไปสู่พื้นที่ของคนอื่น เหมือนกับการทำนาอะครับในบรรดาญาติบางส่วนของข้า มีผู้ชายบางคนที่เป็นมากกว่าลูกน้อง พวกเขานั้นมองหาสิ่งที่ดีจากการเอาชนะใจของคนอื่น มากกว่าที่จะมองหาคนใหม่มาแทน อีกด้านหนึ่งมีความเป็นไปได้อื่นๆถ้าหากมี จิตอสูรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้าหลายร้อยตน คงจะก่อผลดีไม่น้อย แน่นอนถ้าหากมี สายเลือดมังกร ที่มี ที่มีระดับการเติบโตในระดับดีเยี่ยมหรือสูงกว่า เรื่องราคาแน่นอนว่าไม่ด้อยกว่าหลี่ชิงอวิ๋นเป็นแน่ ตระกูลกู้ มีขนาดใหญ่และอำนาจของพวกเขาครอบคลุมไปทุกส่วนของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาต้องการจิตอสูรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้าจำนวนมาก”
‘เนี้ยหลี่’กล่าว
“ขออภัยให้ข้าด้วยที่ ไม่ได้คิดอะไรให้รอบคอบ”
เขาไม่เคยคิดเลยว่า’กู้เบ่ย’ จะอยากได้ จิตอสูรที่มีระดับการเติบโตระดับพระเจ้าเหมือนกัน เขามองที่’กู้เบ่ย’ และพูดต่อ
“เจ้าจะไม่ถามวิธีที่ข้าได้จิตอสูรที่มีระดับการเติบโตระดับพระเจ้าพวกนั้นมาสักหน่อยหรอ?”
‘กู้เบ่ย’ได้ยินดังนั้นถึงกับหรี่ตาลง แล้วพูดกลับไปว่า
“นั่นคือความลับของเจ้า ข้าคงไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้?”
มีเพียง’หลู่เปียว’ที่ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าพวกเขากำลังพูดเกี่ยวกับอะไร
“ถ้าหากเจ้าสามารถซื้อจิตอสูรที่มีระดับการเติบโตระดับพระเจ้าได้เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนพวกเราก็สามารถคุยกันได้?”
‘หลู่เปียว’ เป็นคนเปิดเผยและเป็นคนตรงไปตรงมา เขาเป็นคนที่ไม่สามารถปิดบังความคิดกับผู้อื่นได้ ‘เนี้ยหลี่’ไม่ได้ให้’หลู่เปียว’รู้เกี่ยวกับหม้อจิตอสูรฝันร้ายเพราะ’หลู่เปียว’อาจเผลอพูดมันออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ในทางกลับกัน ‘กู้เบ่ย’ อาจจะคาดเดามันได้ ถึงอย่างไร เขาเป็นคนที่ไว้ใจได้ระดับหนึ่ง และ ‘เนี้ยหลี่’จึงอยากที่จะเอ่ยขอบคุณ
“ขอบใจเจ้ามาก เมื่อข้าได้รับ จิตอสูรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้ามากกว่านี้ ข้าแน่ใจว่าจะไปหาเจ้าถึงที่หน้าบ้าน!”
การค้าขายกับ’กู้เบ่ย’ มีความปลอดภัยมากกว่าค้าขายกับคนอื่น แต่’เนี้ยหลี่’วางแผนที่จะขายให้ได้ในจำนวนมาก แน่นอนว่า’กู้เบ่ย’คงม่สามารถซื้อไว้ได้ทั้งหมด ดังนั้นเขายังคงรักษาความสัมพันธ์กับ’หลี่ชิงอวิ๋น’ด้วย
แปลโดย น้องทุเรียน
ตรวจคำผิด และ เรียบเรียง โดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจที่มา: