I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 304 หนิงเอ๋อมาเยือน

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

‘เนี่ยลี่’ได้บรรลุ ขอบเขตชะตาสวรรค์แล้ว!

แต่ถึงอย่างไร เขาก็ยังคงซ่อนเร้นกลิ่นอายพลังของเขา เพื่อที่จะไม่ให้ผู้ใดรู้ว่าเขานั้นได้ ก้าวเข้าสู่ระดับชะตาสวรรค์แล้ว ในช่วงนี้ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะสงบเงียบ และ’เนี่ยลี่’เองก็ไม่ได้ต้องการที่จะทำลายความสงบที่เป็นอยู่ใน

ตอนนี้ นอกเหนือจากการเข้าร่วมในการเรียนการสอน เขาจะใช้เวลาในการบ่มเพาะพลัง และ ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเขาหลังจากที่ได้รวมกับจิตอสูรตนใหม่

ขอบเขต ชะตาสวรรค์ ระดับ 1 นั้นยังคงน้อยเกินไป เขาจะต้องบรรลุอย่างน้อย ระดับ 2 ชะตา ถึงจะสามารถที่จะออกไปสำรวจโลกภายนอกได้

เมื่อเขาได้บรรลุระดับชะตาสวรรค์ ทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และด้วยศิลาจิตอสูรจำนวนมหาศาล ดังนั้น การบ่มเพาะพลังของ’เนี่ยลี่’ พุ่งทะยานขึ้นอย่างบ้าคลั่งในแต่ละวัน

วันนี้ ดวงอาทิตย์เรืองรอง สายลมโชยมา และดอกไม้บานสะพรั่งดูแล้วสดชื่นยิ่งนัก

‘เนี่ยลี่’ยังคงฝึกอยู่ในลานกว้างบริเวณที่พักของเซี่ยวหยู่  จากนั้น’กู้เบ่ย’ก็ได้วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

 “เนี่ยลี่ ข้ามีข่าวใหญ่! ศิษย์บางคนจาก สำนักเทียนหยิน 天音神宗 : สำนักบัญญัติสวรรค์ และ สำนักหั่ว 火神宗 : สำนักอัคคี ได้มาเยี่ยมชมสำนักของเรา  ว่ากันว่าศิษย์ของสำนักเทียนหยิน ทุกคนล้วนเป็นหญิง มีหลายคนที่งดงามราวกับนางฟ้า พวกเราก็ไปดูกันไหม?”

ขณะที่’กู้เบ่ย’พูด หน้าตาของเขาแสดงความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

‘เนี่ยลี่’รู้สึกตกใจอยู่ครู่หนึ่ง ศิษย์จากสำนัก สำนักบัญญัติสวรรค์ และ สำนักอัคคี มาเยี่ยมชมสำนักวิญญาณฟ้างั้นเหรอ

เมื่อพูดถึงสำนักบัญญัติสวรรค์ ‘เนี่ยลี่’ก็นึกถึง ‘จื้ออวิ้น’และ’หนิงเอ๋อ’ และสงสัยว่าพวกเขาได้เดินทางมาหรือไม่ เขาไม่ได้เจอพวกนางมาก็หลายเดือนแล้ว ใจของ’เนี่ยลี่’นั้นปารถนาที่จะพบเจอกับทั้งสองคนยิ่งนัก ‘เนี่ยลี่’พยักหน้าพร้อมกับตอบว่า

“แน่นอน พวกเราไปดูกันเถอะ”

“ศิษย์ของ สำนักบัญญัติสวรรค์ และ สำนักอัคคี มักจะมาเยี่ยมชมสำนักวิญญาณฟ้าปีละหนึ่งครั้งเสมอ มันจะช่วยให้เหล่าอัจฉริยะได้แลกเปลี่ยนความรู้จากกันและกัน เฉกเช่นการทำธุรกิจ สำนักบัญญัติสวรรค์จะแตกต่างจำสำนักนิกายฟ้าตรงที่ศิษย์ของพวกเขาล้วนแต่เป็นหญิงสาว และพวกเขาติดต่อกับโลกภายนอกเพียงแค่น้อยนิด นอกจากนี้เพื่อให้ได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ สำนักของพวกเขาจึงเป็นปึกแผ่นมาก ทำให้แข็งแกร่งยิ่งนัก ส่วนสำนักอัคคี ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นทะยานขึ้นสูงขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมา และกลายเป็นหัวหน้าของหกสำนักใหญ่ได้”

‘กู้เบ่ย’อธิบายขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่

‘เนี่ยลี่’และ’กู้เบ่ย’ เรียก’ลู่เพียว’ให้ไปด้วยกัน และทั้งสามคนก็ไปยังห้องโถงใหญ่ของสถาบันวิญญาณฟ้า

‘เซี่ยวหยู่’นั้นไม่รู้ว่าไปที่ไหน เขาอาจจะยุ่งกับธุระส่วนตัว ดังนั้นพวก’เนี่ยลี่’กับ’ลู่เพียว’จึงไม่อยากจะยุ่งด้วยให้เสียเวลา

ที่ห้องโถงใหญ่ของสถาบันวิญญาณฟ้า คึกคักเป็นอย่างมาก มีผู้คนชะโงกหัวมอง ‘เนี่ยลี่’และพวกของเขาไม่สามารถที่จะแทรกผ่านไปได้ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน

หลังจากที่พวกเขาได้ยินมาว่าคนที่มาจากสำนักบัญญัติสวรรค์ และ สำนักอัคคีมาถึงที่นี่แล้ว ศิษย์จากเขตต่าง ๆ ของสถาบันวิญญาณฟ้าก็มารวมตัวกันที่นี่ ทุกคนต่างอยากรู้อยากเห็นว่ามีผู้ใดที่มากันบ้าง

‘กู้เบ่ย’มีวิธีที่จะฝ่าฝูงชนเข้าไปเพื่อให้มองเห็นได้ชัดๆ เขานำ’เนี่ยลี่’และ’ลู่เพียว’ไปยังห้องโถงด้านข้าง เมื่อทหารยามเห็นว่าเป็น’กู้เบ่ย’ ก็ปล่อยให้พวกเขาผ่านเข้าไปได้

‘กู้เบ่ย’ยิ้มและอธิบายให้ทั้งสองนฟังว่า

“คนที่รวมตัวกันอยู่ด้านนอกจะเป็นพวกลูกศิษย์ทั่ว ๆไป แต่เหล่าอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับ รวมถึงพวกลูกหลานจากตระกูลหลังของนิกายขนนกศักดิ์สืทธิ์จะมารวมตัวกันในห้องนี้”

ก็คงจะเป็นเช่นนั้น ในห้องนี้มีคนอยู่เพียงแค่ไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น

‘กู้เบ่ย’กระซิบด้วยเสียงเบา ๆว่า

“ในทุกครั้งที่นิกายต่างๆมาปรึกษาหารือกัน เหล่าลูกหลานของคนในนิกายเหล่านั้นรวมถึงเหล่าอัจฉริยะจะออกมาประมูลสมบัติล้ำค่ากัน จิตอสูรที่มีระดับการเติบโตระดับมหัศจรรย์ทั้ง 20 ตัว ที่เจ้าให้ข้าเอามาขาย ทุกคนต้องสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลเป็นแน่”

หลังจากจบคำพูดของ’กู้เบ่ย’ ‘เนี่ยลี่’ถึงกับอดยิ้มไม่ได้ มันแน่นอนอยู่แล้ว จิตอสูรสายเลือดมังกรทีมีระดับการเติบโตระดับมหัศจรรย์ เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่จะขายได้ยาก อย่างแรกคือหาผู้ซื้อได้ยาก และอย่างที่สอง พวกมันดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างมากเกินไป อย่างไรก็ตาม หากพวกเขานำออกมาประมูลมันต้องดึงดูดความสนใจไม่น้อยแน่นอน

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ‘เนี่ยลี่’ก็ยังไม่ได้มีความสนใจที่จะประมูลของในตอนนี้ เขากวาดสายตามองไปรอบๆ เมื่อมองหาคนสองคน เขาสงสัยว่า ‘จื้ออวิ้น’กับ’หนิงเอ๋อ’ ได้เดินทางมาหรือไม่

ในห้องโถงด้านข้างเหล่าอัจฉริยะและลูกหลานของตระกูลหลักในนิกายต่าง ๆ กำลังทำการทักทายซึ่งกันและกัน

ในตอนนี้ หกสำนักใหญ่เป็นพันธมิตรฝ่ายธรรมะ  พวกเขากำลังต่อกรกับ นิกายอสูรทั้งสามนิกาย เพื่อครอบครองสิทธิ์เหนือทะเลสาบแห่งเทพ เพื่อให้ความเป็นพันธมิตรนั้นยั่งยืน ความสัมพันธิ์ของเหล่าคนรุ่นใหม่จึงจำเป็นอย่างยิ่ง มันจะเป็นการป้องกันมิให้เขาต่อสู้กันเองในโลกภายนอก

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมนิกายต่าง ๆ จึงต้องจัดให้มีการชุมนุมเช่นนี้ในทุกปี

ในมุมของห้องโถงด้านข้าง มีเงาของคนที่นั่งสงบอยู่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง ความงดงามของนางนั้นดูเรียบง่ายแต่สง่างาม ราวกับดอกบัวที่เพิ่งจะผลิบานออกมาเหนือบ่อน้ำ นางนั้นดึงดูดสายตาของเหล่าศิษย์ที่อยู่โดยรอบเป็นอย่างยิ่ง ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาถึงกับทอดถอนหายใจเมื่อได้เห็นความงดงามดังกล่าว

‘เซี่ยวซุ่ย’ที่นั่งถัดจากนาง เอ่ยขึ้นมาว่า

“หนิงเอ๋อ เจ้าคิดว่าเนี่ยลี่กับลู่เพียวจะอยู่ที่นี่ไหม?

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ส่ายหน้าขณะที่นางหันไปมองดูรอบ ๆ เพื่อมองหาร่างของ’เนี่ยลี่’

“ข้าก็ไม่รู้ทั้งสองคนนั่นอยู่ที่ไหน”

หลังจากที่ ‘เอียจื้ออวิ้น’ ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ และ ‘เซี่ยวซุ่ย’ ได้เดินทางจากโลกใบเล็กมาถึง สำนักบัญญัติสวรรค์ ‘เอียจื้ออวิ้น’และ’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ได้แสดงความสามารถที่น่าตกใจ ทำให้พวกเขาทั้งสองคนถูกขนานนามว่า ‘ฝาแฝดราศีเมถุน’  ของห้องเรียนใหม่เลยทีเดียว

‘เอียจื้ออวิ้น’ได้ถูกเลือกและอนุญาติให้ไป ในพื้นที่แห่งความลับ เพื่อทำการฝึกบ่มเพาะพลัง ในขณะที่ ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ติดตามอาจารย์ และสามารถบ่มเพาะพลังได้ถึงขอบเขต ชะตาสวรรค์ ขั้นที่ห้า  เมื่อ’หนิงเอ๋อ’ทราบข่าวมาว่า

สำนักบัญญัติสวรรค์จะส่งคนไปเยี่ยมเยียนนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ นางและ’เซี่ยวซุ่ย’ จึงรีบลงทะเบียนชื่อของพวกนางทันที แต่น่าเสียดายที่’เอียจื้ออวิ้น’ ยังคงฝึกฝนอยู่ในพื้นที่แห่งความลับ และไม่สามารถที่จะติดต่อนางได้เลย ถ้าไม่เช่นนั้น นางจะต้องเดินทางมาด้วยเป็นแน่

แน่นอนว่า การที่นางเดินทางมายังนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ก็เพื่อที่จะมาพบกับ’เนี่ยลี่’!

สำนักบัญญัติสวรรค์ได้ส่งนักเรียนมาที่นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์กว่าสองร้อยคน แน่นอนว่าทุกคนต่างก็เป็นหญิงสาวและมีหลายคนที่โดดเด่นจนเป็นที่ดึงดูดความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนสำนักอัคคี พวกเขาจับจ้องนักเรียนจากสำนักบัญญัติสวรรค์จนไม่วางตา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเซี่ยวหนิงเอ๋อก็เป็นหนึ่งในศิษย์ที่งดงามที่สุดของ สำนักบัญญัติสวรรค์

มีสาวงามนางหนึ่งที่มีความสวยงามและน่าหลงใหล นั่งลงข้างๆ’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ นางหัวเราะพร้อมกับพูดว่า

“นี่ศิษย์น้องหนิงเอ๋อกำลังมองหาผู้ใดอยู่งั้นเหรอ? ”

เมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้น ‘เซี่ยวซุ่ย’ ก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรว่า

“เฉียนหลิง 沈灵 ข้าว่านี่ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า ถ้าหากว่าพวกเราจะมองหาใครอยู่!”

‘เฉียนหลิง’ เผยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์

“มันจะไม่ใช่ธุระกงการของข้าได้อย่างไร? ศิษย์น้องหนิงเอ๋อ ถือว่าเป็นหนึ่งในน้องใหม่ที่เป็นอัจฉริยะ นางสามารถบรรลุถึงขอบเขตชะตาสวรรค์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย แน่นอนว่านางเป็นความภาคภูมิใจ  และเป็นอนาคตของสำนักบัญญัติสวรรค์ ถ้าหากว่าศิษย์น้องหนิงเอ๋อ สนใจชายคนไหน แน่นอนว่าข้าจะต้องลองดู และจับตามองว่าชายคนไหนกันที่ทำให้เทพธิดาเช่นนางต้องลดตัวลงมาหาเขา  ข้าสงสัยว่าเขาเป็นคนที่ข้ารู้จักหรือไม่? ”

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ขมวดคิ้วของนางเล็กน้อย เองก็ไม่ค่อยชอบ ‘เฉียนหลิง’สักเท่าไหร่  แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในระดับของความอาวุโสนั้น เฉียนหลิงก็นับว่าเป็นศิษย์พี่ของนาง ดังนั้นแม้ว่านางจะไม่พอใจนัก แต่นางก็ไม่ได้แสดงมันออกมา

“ศิษย์พี่เฉียน อย่าได้มาเสียเวลากับเรื่องนี้เลย ศิษย์พี่เฉียนไม่รู้จักคนที่ข้ามองหาหรอก!”

‘เฉียนหลิง’ เม้มริมฝีปากของนางเล็กน้อยพร้อมกับยิ้ม

“อ้าว น่าเสียดายยิ่งนัก ข้าคิดว่าเขาคือนายน้อยเยี่ยเสียอีก! ”

‘เซี่ยวหนิงเอ่อ’รู้ดีว่า นายน้อยเยี่ย ที่’เฉียนหลิง’พูดถึงคือใคร เขามีนามว่า ‘เยี่ยเชียน’ 叶轩 เขาเป็นทายาทอันดับหนึ่งของตระกูลหลักที่อยู่ใน สำนักอัคคีเลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นั้นเขายังสามารถบรรลุขอบเขตชะตาสวรรค์ ขั้นที่เก้า ได้ตั้งแต่อายุเพียงแค่ยี่สิบปี และในตอนนี้เขากำที่จะพยายามบรรลุ ให้ถึงขอบเขต ดาราสวรรค์ เฉียนหลิง อาจจะได้รับสินบนมาจากเยี่ยเชียน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นางมาอยู่ข้างๆแล้วพูดเรื่องของเขา

ถ้าหากว่า’เฉียนหลิง’ คิดว่าคนอย่าง’เยี่ยเชียน’นั้นจะทำให้’หนิงเอ๋อ’สนใจได้นั้นนางก็คิดผิดถนัด ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’นั้นไม่มีทางที่จะสนใจผู้ใดอีกแล้ว เพราะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่นางเก็บไว้ในใจ และคนผู้นั้นก็คือ’เนี่ยลี่’!

ห่างออกไป มีกลุ่มคนยืนพูดคุยกันอยู่ หนึ่งในนั้นแอบส่งสายตามายัง’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ และ ‘เซี่ยวซุ่ย’ ในขณะที่ทั้งสองสาวมองไปรอบๆ

หนุ่มสาวเหล่านั้นล้วนถูกห้อมล้อมด้วยเหล่าอัจฉริยะ และทายาทของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ และ สำนักอัคคี ‘หลี่ชิงอวิ๋น’ 李行云 ,’มู่หลงหยี่’ 慕容羽 และ ‘หลงยู่อิน’ ก็อยู่ท่ามกลางคนพวกนั้น

‘มู่หลงหยี่’ยิ้มและขยับไปชิดกับ ‘เยี่ยเชียน’

“ดูเหมือนว่าท่านพี่เยี่ยเชียน จะสนใจผู้หญิงที่มาจากสำนักบัญญัติสวรรค์! ด้วยสถานะเช่นท่าน คงไม่ใช่เรื่องยากที่ท่านจะหยิบนางมาครองคู่หรอกนะ?”

‘เยี่ยเชียน’ส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า

“ท่านพี่มู่หลง ที่ท่านกล่าวมานั้นผิดแล้ว ในโลกนี้ไม่ว่าใครก็มีสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ บางคนก็ชอบเงินทอง บางคนก็มักมากในกาม แม้ว่าจะใช้วิธีเช่นใด ข้าก็ไม่อาจที่จะอยู่ในสายตาของนางได้ ”

‘มู่หลงหยี่’ มองไปทางหญิงสาวด้วยความประหลาดใจ

“โอ้ หรือว่าหญิงสาวที่ท่านสนใจนั้น นางจะมีหัวใจเป็นก้อนหินกันแน่? เหตุใดนางถึงไม่หวั่นไหวเมื่อได้พบเจออัจฉริยะเช่นท่าน? ข้าชักจะสงสัยแล้วว่านางเป็นผู้ใดกัน?”

ถ้าอำนาจและความมั่งคั่งไม่อาจที่จะสั่นคลอนนางได้ ความเป็นไปได้ก็มีเพียงอย่างเดียว ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ตัวตนของหญิงสาวคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

‘เยี่ยเชียน’ตอบกลับไปพร้อมกับชื่นชมนาง

“ข้าเคยถามคนรอบกายนางแล้ว นางคืออัจฉริยะที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในสำนักบัญญัติสวรรค์ นางมาจากโลกใบเล็ก นางสามารถที่จะบรรลุขอบเขตชะตาสวรรค์ ขั้นที่ห้า ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย และเป็นที่เลื่องลือว่านางเป็นหนึ่งใน ‘ฝาแฝดราศีเมถุน’  การบ่มเพาะพลังของนางนั้นรวดเร็วจนน่าตกใจ  นอกจากนี้นางก็ถือว่าเป็นเกียรติภูมิของสำนักบัญญัติสวรรค์  มันเป็นเรื่องยากเกินที่จะจินตนาการ นางยังเด็กและไม่มีผู้ใดที่หนุนหลังเลย! ”

โลกใบเล็กงั้นเหรอ?

‘มู่หลงหยี่’เริ่มรู้สึกเกิดความไม่สบายใจขึ้นมา

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยิ้มรับเล็กน้อย

“หญิงที่งดงามและสง่างามย่อมเป็นที่ต้องการของเหล่าสุภาพบุรุษ เหมือนคำสุภาษิตที่ว่า หญิงสาวที่เอาแต่ใจมักหวั่นไหวเพราะผู้ชายขี้ตื้อ!”

‘เยี่ยเชียน’ส่ายหน้าของเขาพร้อมกับตอบมาว่า

“ไม่ได้ผลหรอก นางแทบจะไม่เคยยิ้มหรือพูดคุยกับผู้ใด มันเป็นเรื่องที่ยากนักที่จะได้พูดคุยกับนาง ด้วยสารพัดวิธี ข้าพยายามลองมาแล้วนับไม่ถ้วน!”

‘เยี่ยเชียน’ มองไปทางหญิงสาวจากระยะไกลๆ บางทีนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทางทำให้เขารู้สึกหวั่นไหว และเอากุมหัวใจของเขาไว้ได้

เป็นเพราะ ‘เยี่ยเชียน’ ทุกคนในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ และ สำนักอัคคี จึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ว่าทำไม ‘เยี่ยเชียน’ถึงได้กล่าวถึงนางถึงเพียงนี้ พอพวกเขาได้เห็น’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ พวกเขาก็ทำตาละห้อยหลงไหลในความงดงามของนาง

แต่ถึงอย่างไร นางก็ถูกจับจองเป็นเป้าหมายของ’เยี่ยเชี่ยน’ไปแล้ว ดังนั้นแน่นอนพวกเขาคงจะไม่กล้าเข้าใกล้นางเป็นแน่

ศิษย์ของสำนักบัญญัติสวรรค์ล้วนแต่เป็นหญิง ไม่มีผู้ชายแม้แต่คนเดียว ส่วนใหญ่พวกเขามักจะเก็บตัวอยู่ภายในสำนักเท่านั้น ลูกศิษย์ส่วนใหญ่จะทำการบ่มเพาะพลังภายในสำนัก

หากฝืนออกมาเสี่ยงด้านนอกก็ถือว่าอันตรายยิ่งนัก แม้ว่า’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’จะมีอุปนิสัยเป็นคนที่เย็นชา นางก็ยังมุ่งมั่นที่จะออกมาข้างนอกสำนักบัญญัติสวรรค์ แม้ว่าจะต้องตายก็ต้องออกไป เป็นสำนวนหมายความว่า ออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นของนาง

แต่ว่า แม้แต่ ‘เยี่ยเชียน’ก็ยังไม่เข้าตานางงั้นเหรอ?

แน่นอนว่า ทุกคนต่างคิดอยู่ในใจ ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยออกมา

ในขณะที่พวกเด็กหนุ่มกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ทันใดนั้น’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ก็ลุกยืนขึ้น ก็ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง  ใบหน้าที่เป็นประกายของนางทำให้ทุกคนต่างก็แปลกใจ และต่างก็หันมองไปที่นาง

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เย็นชาและหยิ่งทะนงอย่าง’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ จะเผยรอยยิ้มที่งดงามถึงเพียงนี้  มันเป็นร้อยยิ้มที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่านางได้พบกับคนรักของนางแล้ว

แปลโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments