I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 308 คนไม่เอาไหนที่ร่ำรวย

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

‘เยี่ยเชียน’มองดู’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’พร้อมกับยิ้มและพูดว่า

“ถ้าหากศิษย์น้องหนิงเอ๋อ ต้องการจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์ ข้าสามารถที่จะเสนอซื้อสักตัวหนึ่งเพื่อเป็นของขวัญให้แก่เจ้าก็ได้นะ”

“ข้าไม่ต้องการมัน”

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ส่ายหน้า ดวงตาของนางนั้นไม่แม้แต่จะชำเลืองมอง’เยี่ยเชียน’ในตอนนั้นเลย

‘เนี่ยลี่’กระซิบที่ข้างหูของ’เซี่ยวหนิงเอ่อ’เบาๆว่า

“หลังจากนี้ ข้าจะมอบจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้าให้กับเจ้าหนึ่งตัว”

ใบหน้าของ’เซี่ยวหนิงเอ่อ’เป็นสีแดงระเรื่อในขณะที่นางพยักหน้า ความรู้สึกหวานชื่นเต็มอยู่ในใจของนาง นางนั้นมิได้สนใจเรื่องจิตอสูรเลยแม้แต่น้อย แต่นางรู้สึกดีเพราะว่า’เนี่ยลี่’นั้นห่วงใยนางมากกว่า

ถ้าไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่พูดอะไรบางอย่างแบบนี้ หลังจากที่’เยี่ยเชียน’เสนอจิตอสูรให้นางเป็นแน่ ซึ่ง’เนี่ยลี่’นั้นอาจจะมีวิธีหา
จิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้ามาได้ ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ ในใจของนางนั้น ‘เนี่ยลี่’คือผู้ที่สามารถทำได้ในทุกสิ่ง

‘เยี่ยเชียน’กำหมัดขวาแน่น ขณะที่เห็น’เซี่ยวหนิงเอ่อ’มีท่าทางเอียงอาย หลังจากที่’เนี่ยลี่’คุยกับนาง แต่เขาก็มิได้ยินการสนทนานั้น ความรู้สึกอิจฉา และหึงหวง เพิ่มมากขึ้นในใจของเขา เพราะนางแสดงท่าทีเช่นนี้เมื่อนางอยู่ต่อหน้า’เนี่ยลี่’เท่านั้น

ท้ายที่สุด จิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์ ก็ถูกขายออกไปในราคา สองหมื่นเจ็ดพันศิลาจิตวิญญาณ ให้กับศิษย์จากสำนักอัคคี

หลังจากนั้น จิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์ อีกหนึ่งในห้าตน หรือมากกว่านั้น แต่ละตัวถูกขายออกไปในราคาไม่ต่ำกว่าสองหมื่นห้าพันศิลาจิตวิญญาณ

เหล่าฝูงชนเริ่มที่จะเกิดความสับสนขึ้นมา เท่าที่ผ่านมา จิตอสูรที่แข็งแกร่งเช่นนี้ จะปรากฏมาแค่หนึ่งหรือสองตนเท่านั้น เหตุใดในเวลานี้ถึงได้มีมากมายนักหล่ะ

จิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์ ถูกซื้อไปโดยศิษย์สำนักอัคคีทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขานั้นมั่งคั่งยิ่งนัก หรืออย่างน้อยก็ร่ำรวยกว่าศิษย์ของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ อันที่จริงก็เหมาะสมแล้วที่สำนักอัคคีได้เป็นผู้นำของหกสำนักใหญ่

‘กู้เบ่ย’ลองคำนวนดูคร่าว ๆ ถ้าหากพวกเขาขายจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์ ทั้งหมดยี่สิบตน นี่มันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะได้รับศิลาจิตวิญญาณกว่าห้าแสนก้อนเชียวงั้นเหรอ?

นั่นมันเป็นความมั่งคั่งที่น่าตกใจยิ่งนัก เพียงแต่ว่าเขานั้นมิได้รู้ต้นทุนในการได้มันมา เพราะที่ผ่านมาเขาก็ได้มอบศิลาจิตวิญญาณคืนกลับไปให้กับ’เนี่ยลี่’ในทุกครั้ง

‘เนี่ยลี่’นั้นรู้ดีว่า จิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์ นั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยาก แต่เดิมทีเค้าคิดว่าหากขายได้ตนละหนึ่งหมื่นห้าพันศิลาจิตวิญญาณก็นับว่าเป็นการขายที่เยี่ยมยอดแล้ว เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าราคาของมันจะสูงถึงเพียงนี้ แต่ถึงอย่างไรด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รู้ความจริงที่ว่า สำนักอัคคีนั้นร่ำรวยเพียงใด

ยิ่งไปกว่านั้นจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหามันมาได้ ตราบเท่าที่ร่างทรงอสูรยังไม่มีมันสักตนหนึ่ง แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือไปเป็นแน่

“ต่อไป เราจะทำการประมูล แก่นแท้จิตอสูรขวดนี้ สิ่งของที่อยู่ในขาดนี้ได้รับการประเมิณและการพิจารณาแล้วว่า อยู่ในระดับ ดาราสวรรค์ การเสนอราคาเริ่มต้นอยู่ที่ หนึ่งหมื่นศิลาจิตวิญญาณ “

‘ฉินเยี่ย’ยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับพูดต่ออีกว่า

“มีผู้ใดที่สนใจมันหรือไม่?”

แก่นแท้จิตอสูรมันสามารถที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่จิตอสูรได้ และในตอนนี้เนี่ยลี่เองก็ได้มีจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้าแล้ว แน่นอนว่าเขามิได้เป็นคนที่ตระหนี่ขี้เหนียว ที่สำคัญกว่านั้น  แก่นแท้จิตอสูรระดับดาราสวรรค์ นั้นจะส่งผลดีที่มีอานุภาพยิ่งนักแก่จิตอสูรระดับชะตาสวรรค์

‘เนี่ยลี่’นั้นมิได้คาดหวังเลยว่าจะมีสิ่งล้ำค่าเช่นนี้จะถูกนำมาเริ่มต้นการประมูล การประมูลนี้อาจจะเป็นการพยายามให้ การประมูลเร่าร้อนยิ่งขึ้น ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงด้านข้างแห่งนี้ ต่างก็เป็นหนึ่งในชนชั้นสูงของสามสำนักใหญ่ ดังนั้นสินค้าธรรมดา ไม่อาจที่จะดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้

‘เนี่ยลี่’ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่จะส่งเสียงบอกกับ’กู้เบ่ย’

“ประมูลเอาแก่นแท้จิตอสูรมาให้ข้าที”

‘มู่หลงหยี่’เองก็ดูเหมือนว่าจะสนใจแก่นแท้จิตอสูรเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงได้ทำการเสนอราคาไป

“หนึ่งหมื่นหนึ่งพันศิลาจิตวิญญาณ!”

“หนึ่งหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยศิลาจิตวิญญาณ!”

‘กู้เบ่ย’ ทำการเสนอราคาตามทันที

หลังคำพูดของ’กู้เบ่ย’

‘มู่หลงหยี่’ขมวดคิ้วและชำเลืองมอง’กู้เบ่ย’ แล้วเสนอราคาต่อไปอีก

“หนึ่งหมื่นสองพันศิลาจิตวิญญาณ!”

“หนึ่งหมื่นสองพันหนึ่งร้อยศิลาจิตวิญญาณ!”

‘กู้เบ่ย’ ยังทำการเสนอราคาเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างใจเย็น

เหล่าฝูงชนอดไม่ได้ที่จะมองไปยังที่โต๊ะของพวกเขา พวกเขาทั้งคู่นั้นนั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกัน แต่มิได้ดูเหมือนว่าจะมีความเป็นมิตรกันเลยแท้แต่น้อย ดูเหมือนว่าจะมีอะไรที่น่าสนุกเกิดขึ้นแล้ว พวกเขาหยุดพูดคุยกันและเฝ้ามองดูว่าพวกเขาทั้งคู่จะเสนอราคาขึ้นไปสูงถึงเพียงไหน

“หนึ่งหมื่นสามพันศิลาจิตวิญญาณ!”

‘มู่หลงหยี่’ รู้สึกแค้นเคืองเล็กน้อย ดูเหมือนว่า’กู้เบ่ย’นั้นต้องการที่จะแข่งขันกับเขา!

‘มู่หลงหยี่’ จ้องไปยัง’เนี่ยลี่’ จากนั้นก็จ้องไปยังกู้เบ่ย เขารู้สึกโกรธแค้นอยู่ในใจ ‘กู้เบ่ย’นั้นอาจจะพยายามช่วย’เนี่ยลี่’ ทำให้เขานั้นราวกับเป็นคนโง่

แต่ถึงอย่างไร ศิลาจิตวิญญาณเกินกว่าหนึ่งหมื่นก้อน นับว่าเป็นเงินก้อนใหญ่สำหรับ’มู่หลงหยี่’  แม้ว่าเขาจะอดออมมาเป็นเวลาหลายปี เขาก็มีเพียงแค่ราว ๆหนึ่งหมื่นห้าพันศิลาจิตวิญญาณ!

“หนึ่งหมื่นสามพันหนึ่งร้อยศิลาจิตวิญญาณ!”

‘กู้เบ่ย’ยังคงเสนอราคาต่อโดยที่ไม่ได้สนใจ’มู่หลงหยี่’ เลยแม้แต่น้อย

“หนึ่งหมื่นห้าพันศิลาจิตวิญญาณ!”

‘มู่หลงหยี่’ แทบจะกระแทกหมัดของเขาลงบนโต๊ะ

‘เยี่ยเชียน’อดไม่ได้ที่จะมองดู’มู่หลงหยี่’ กับ ‘กู้เบ่ย’ ด้วยความประหลาดใจ แม้ว่า’เยี่ยเชียน’จะมีศิลาจิตวิญญาณเกือบสามหมื่นก้อน แต่ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการซื้อแก่นแท้จิตอสูรขวดนี้ ดุูหมือนว่า’กู้เบ่ย’ผู้นี้ จะร่ำรวยยิ่งนัก

“หนึ่งหมื่นห้าพันหนึ่งร้อยศิลาจิตวิญญาณ!”

‘กู้เบ่ย’ยังคงเสนอราคาต่อ โดยที่ไม่ทันแม้แต่จะกระพริบตา

เส้นเลือดที่คอ’มู่หลงหยี่’ ถึงกับปูดขึ้นมา แม้ว่าเขาจะตระหนักดีว่าสิ่งที่’กู้เบ่ย’ทำนั้นเป็นการฉี่รดเขา สำนวนจีนหมายถึงการกลั่นแกล้งยั่วยุ มิใช่ว่าเขาจะไม่มีเงินที่จะเสนอราคาให้สูงขึ้นไปกว่านี้ เรื่องนี้ทำให้ ‘มู่หลงหยี่’ นั้นโกรธแค้นกู้เบ่ยอย่างแท้จริง ที่แสดงท่าทีที่ดูถูกเขาเช่นนี้

“ถ้าหากน้องกู้ ต้องการมันมากถึงเพียงนี้ ดังนั้นข้าจะยอมปล่อยให้เจ้าได้มันไป”

‘มู่หลงหยี่’ สูดลมหายใจพร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชา

หลังจากที่ราคาหยุดเพิ่มขึ้นแล้ว มีเสียงที่ดังมาจากจุดหนึ่งของห้องโถง

“หนึ่งหมื่นหกพันศิลาจิตวิญญาณ!”

‘กู้เบ่ย’เหลืองมองไปยัง ‘มู่หลงหยี่’

“ยอมปล่อยให้ข้าได้มันไปเช่นนั้นเหรอ? ช่างอวดดียิ่งนัก ดูเหมือนว่าเจ้าจะใช้ทุกอย่างที่มี ที่จะเสนอราคาของมันแล้ว ถ้าหากว่าเจ้าไม่มีเงิน ก็ไม่ควรที่จะเข้าร่วมประมูลหรอกนะ ช่างน่าขบขันยิ่งนัก!”

‘กู้เบ่ย’นั้นรู้ดีว่า ‘มู่หลงหยี่’ แย่งชิงเอาศิลาจิตวิญญาณที่เป็นของรางวัล ของ’เนี่ยลี่’ในโบราณสถานแห่งความสะพรึง ดังนั้นแน่นอนว่าเขาจะไม่มีทางที่จะไว้หน้า’มู่หลงหยี่’ เลยแม้แต่น้อย

‘มู่หลงหยี่’ กำหมัดของเขาจนแน่น เขานั้นมักจะหยิ่งทนงอยู่เสมอ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจที่จะยอมรับการเยาะเย้ยจากผู้อื่นได้ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็ไม่กล้าที่จะเผยความโกรธเกรี้ยวออกมา เพราะไม่ได้มีเพียงแค่’กู้เบ่ย’ทั้งนั้น ยังมีคนอื่นของตระกูลกู้อยู่อีกด้วย

“ถ้าเช่นนั้นน้องกู้ยังสามารถที่จะเสนอราคาสูงกว่านี้อีกเช่นนั้นเหรอ?”

แม้ว่า’มู่หลงหยี่’ จะเกลียดชัง’กู้เบ่ย’มากถึงเพียงไหน เขาก็ทำได้เพียงแค่กัดฟันและกลืนความโกรธของเขาลงคอไปเท่านั้น

“แน่นอน ข้าก็ตั้งใจจะทำเช่นนั้น หนึ่งหมื่นเจ็ดพันศิลาจิตวิญญาณ!”

‘กู้เบ่ย’ชำเลืองมองไปยัง’มู่หลงหยี่’ ในขณะที่เสนอราคาต่อไปอีก

ราคานั้นนับว่าค่อนข้างสูงมากแล้ว จึงทำให้เสียงของคนอื่นนั้นมีความลังเลอยู่เล็กน้อย และตัดสินใจที่จะหยุดการเสนอราคาต่อ สุดท้ายแล้ว แก่นแท้จิตอสูร ก็ถูกขายให้กับ’กู้เบ่ย’ได้สำเร็จ

หลังจากนั้นก็มีแก่นแท้จิตอสูร ออกมาอีกห้าขวด แต่ทั้งหมดนั้นอยู่ในระดับชะตาสวรรค์ มิได้มีระดับดาราสวรรค์ออกมาอีกเลย ราคาในบางรอบมีแค่สองถึงสามพันศิลาจิตวิญญาณเท่านั้น มู่หลงหยี่ รู้สึกหดหู่ยิ่งนัก

แม้ว่าแก่นแท้จิตอสูร ที่อยู่ในระดับชะตาสวรรค์นั้นก็สามารถที่จะใช้ได้ แต่ก็ไม่อาจที่จะเทียบกันได้ ถ้าหากมิใช่ระดับดาราสวรรค์แล้ว ก็ไม่มีอะไรที่น่าสนใจที่จะซื้อ

แต่ถึงอย่างไร ‘กู้เบ่ย’ก็ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น แก่นแท้จิตอสูร ทั้งห้าขวด ก็มาอยู่ในกระเป๋าของเขาแล้ว  จนถึงตอนนี้แล้ว ‘กู้เบ่ย’ได้ใช้จ่ายศิลาจิตวิญญาณไปแล้วเกือบสามหมื่นก้อน!

“น้องกู้ แก่นแท้จิตอสูร นั้นก็นับว่าดียิ่งนัก แต่ถ้าหากเจ้าใช้เงินของเจ้าไปจนหมดตั้งแต่ตอนนี้ เจ้าอาจจะพลาดโอกาสสำหรับสิ่งที่ดีกว่าหลังจากนี้ก็เป็นได้”

‘เยี่ยเชียน’ยิ้มเล็กน้อย ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจุดประสงค์ในการพูดของเขาคือสิ่งใด

“ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องนั้น!”

‘กู้เบ่ย’ชำเลืองมอง’เยี่ยเชียน’ อย่างไม่ชอบใจ ใครขอให้เจ้านั้นแสดงความสนใจต่อ’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’กันหล่ะ?

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’นั้นเป็นผู้หญิงของ’เนี่ยลี่’และ’เยี่ยเชียน’คิดจะแย่งชิงผู้หญิงของน้องชายของเขา ดังนั้นแน่นอนว่า’กู้เบ่ย’จะไม่ไว้หน้าเขาเช่นกัน! ‘กู้เบ่ย’นั้นมิได้กังวลในเรื่องใดเลย ‘เยี่ยเชียน’เองกุเหมือนว่าจะไม่ได้วางแผนสิ่งใดไว้ ตามที่ผู้อื่นพูดถึง’กู้เบ่ย ‘

เขาถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่เอาไหน ซึ่งเขาก็ยินดีที่จะปล่อยให้ผู้คนเรียกขานเขาด้วยฉายาเช่นนั้น ‘กูเบ่ย’พูดจาเยาะเย้ยออกมา

“ข้านั้นเกลียดคนที่ชอบแสดงตัวออกมาให้เห็นว่าร่ำรวย แต่แท้จริงแล้วกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น”

‘เยี่ยเชียน’ ถึงกับกระแอมด้วยความโกรธที่ประทุอยู่ในใจของเขา ‘กู้เบ่ย’คนนี้คิดว่าเขานั้นเป็นใครกัน? เขาก็เป็นแค่ลูกหลานของคนในตระกูลกู้ แต่กลับกล้าที่จะอวดดีถึงเพียงนี้ ถ้าหากว่าในตอนนี้มิได้อยู่ในเขตแดนของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิหล่ะก็ ‘เยี่ยเชียน’ผู้นี้จักต้องทำให้เขาได้ฉลาดขึ้นกว่านี้เป็นแน่

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ ‘เยี่ยเชียน’ ยังคงแสดงท่าทีที่สุภาพเช่นเดิม เขาพูดกลับไปว่า

“ข้าเพียงแค่ตือนเจ้าด้วยความหวังดี ถ้าหากน้องกู้มิเห็นค่าของมัน ก็โปรดลืมมันไปเสียเถิด!”

หลังจากที่เริ่มมีการขัดแย้งรุนแรงดังกล่าว บรรยากาศโดยรอบก็น่าอึดอันยิ่งนัก คนอื่น ๆ ที่อยู่ที่โต๊ะถัดไปก็ต่างมองมายังพวกเขา และเข้าใจสถานการณ์ทันทีหลังจากที่ได้เห็น’กู้เบ่ย ‘

‘กู้เบ่ย’นั้นมีชื่อเสียงว่าไม่เอาไหนยิ่งนักจริง ๆ แล้วก็นับว่าเป็นเรื่องผิดปกติที่จะเห็นเขา ไม่ได้โต้แย้งหรือมีเรื่องกับใครสักคน ไม่ต้องพูดถึงว่ามีสาวงามอีกสองนางนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย ไม่น่าแปลกใจที่จะมีกลิ่นดินปืนประทุออกมาไม่น้อย

สำนวนจีนหมายถึง พร้อมที่จะมีเรื่องได้ทุกเมื่อ

‘หลงยู่อิน’นั้นนั่งเงียบ ๆอยู่ข้าง’เนี่ยลี่’ ดูเหมือนว่านางจะมิได้สนใจสิ่งของที่นำออกมาประมูลเลยแม้แต่น้อย และเหมือนกับว่านางจะมิได้มีความจำเป็นสำหรับที่นี่เลย เกือบทุกคนต่างก็มุ่งความสนใจไปที่’เซี่ยวหนิงเอ่อ’

‘หลงยู่อิน’ หวนนึกถึงคำพูดท่านยายของนาง

“อิ้นเอ๋อ ด้วยอารมณ์ที่ร้อนเป็นไฟของเจ้า จะไม่มีผู้ใดที่จะชอบเจ้า โดยที่มิได้คำนึงถึงความงดงามที่เจ้านั้นมีอยู่ เจ้าจักต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง”

ในอดีตที่ผ่านมา นางก็ไม่เคยที่จะสนใจมัน และมันเป็นคำแนะนำที่ดูถูกตัวนางยิ่งนัก ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นาง? ‘หลงยู่อิน’ผู้นี้ต้องการให้ผู้ชายมารัก?

แต่ในตอนนี้นางก็เริ่มที่จะตรึกตรองดูอีกครั้ง และเปรียบเทียบตัวนางกับ’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวนางนั้นด้อยกว่า

นับว่าเป็นเรื่องปกติแล้วที่’เนี่ยลี่’จะชอบ’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’แต่ความเป็นจริงข้อนี้ก็สร้างความขุ่นเคืองใจของ’หลงยู่อิน’แล้ว

การประมูลยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และสินค้ารายการต่อไป ขวด น้ำค้างเสียงสวรรค์ น้ำค้างเสียงสวรรค์ นี้คือสิ่งที่กลั่นโดย สำนักเสียงสวรรค์ โดยนักปรุงยาใช้สมุนไพรหลายชนิด ผลของสมุนไพรนี้เหนือยิ่งกว่าศิลาจิตวิญญาณ และยิ่งไปกว่านั้น น้ำค้างเสียงสวรรค์ สามารถที่จะดูดซึมได้ง่าย จึงทำให้เห็นผลของมันได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

‘ฉินเยี่ย’ยิ้มเล็กน้อย

“ขอให้ทุกท่าน อย่าได้กังวลว่ามันมีเพียงแค่ขวดนี้ขวดเดียว การเดินทางมานิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้ เรานำมาจำนวนหนึ่งร้อยขวด และจะแบ่งขายเป็นชุด ชุดละสิบขวด ห้าหากว่าท่านสนใจ แต่ไม่อาจที่จะซื้อได้ในจำนวนสิบขวด ท่านก็สามารถที่จะร่วมกันเสนอราคาด้วยกันกับสหายได้”

เพียงครู่เดียวบรรยากาศก็เริ่มที่จะตรึงเครียดขึ้น ผู้คนเริ่มที่จะรวมตัวกันเป็นกลุ่ม เพื่อเตรียมที่จะซื้อ น้ำค้างเสียงสวรรค์  ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ยากไม่น้อยในการซื้อเพียงลำพังถึงสิบขวดได้ในปัจจุบัน

ราคาเริ่มต้นสำหรับ น้ำค้างเสียงสวรรค์ สิบขวดแรกนั้นอยู่ที่หนึ่งหมื่นศิลาจิตวิญญาณ แต่ถึงอย่างไรการเสนอราคานั้นก็มิได้เพิ่มขึ้นสูงนัก และหยุดอยู่ที่ประมาณ หนึ่งหมื่นหนึ่งพัน ถึง หนึ่งหมื่นสองพันศิลาจิตวิญญาณ ที่สำคัญ ทุกคนยังคิดว่ายังมีเหลืออีกถึงแปดสิบขวด

นอกจากนี้ศิษย์ทั้งหมดของสำนักเสียงสวรรค์ก็มิได้เข้าร่วมในการประมูลนี้ เหลือเพียงศิษย์ของสำนักอัคคี และ ศิษย์ของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น  ดังนั้นจึงมิได้มีการแข่งขันที่รุนแรงนัก

แต่ถึงอย่างไร ทุกคนก็ต่างตื่นตกใจ ได้น้ำค้างเสียงสวรรค์ ไปถึงสามสิบขวดแต่เพียงผู้เดียว ‘กู้เบ่ย’อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีที่ได้ซื้อมันมาทั้งหมด เขาไม่เคยรู้สึกดีถึงเพียงนี้มาก่อนเลยในการใช้จ่ายเงิน แม้ว่าเงินทั้งหมดจะเป็นของ’เนี่ยลี่’ก็ตาม

น้ำค้างเสียงสวรรค์ สามสิบขวด นั่นมันมากกว่าสามหมื่นศิลาจิตวิญญาณเลยทีเดียว

‘กู้เบ่ย’นั้นดูที่จะไม่ได้สนใจเท่าไหร่นักกับการที่ต้องโยนเงินออกไปก้อนใหญ่ ซึ่งเป็นศิลาจิตวิญญาณ ในทางกลับกัน ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจที่จะซื้อเพิ่มมากขึ้นกว่านี้อีก

โดยไม่ต้องคำนึงเลยว่า ‘มู่หลงหยี่’  หรือ ‘เยี่ยเชียน’นั้น พวกเขานั้นสงสัยเป็นอย่างมากว่า’กู้เบ่ย’มีเงินมากแค่ไหนกัน

 

แปลโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments