ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหลังจากที่ ‘จื่อ หลิง’ ก้าวลงมาจากเกี้ยวนั้น นางค่อยๆ เดินไปยังเวทีอย่างสวยงาม
นางกวาดสายตามมองไปที่เหล่าผู้คนอย่างเชื่อช้า จากนั้นนางจึงเปิดริมฝีปากที่งดงาม กล่าวออกมาด้วยเสียงที่ไพเราะ อ่อนหวาน และทนงเสนห์ว่า
“คนที่ข้ารัก………….คือ ชูเฟิง”
“อะไรนะ !!”
“ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม……เป็น ชูเฟิง จริงๆ รึ !!”
หลังจากที่ ‘จื่อ หลิง’ กล่าวออกมานั้น มันราวกับสายฟ้าฟาดเข้ากลางใจของทุกๆ คน เพราะในขณะนั้น ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตกใจ บางคนถึงกับตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต่าง ตกตะลึงกับคำกล่าวของ ‘จื่อ หลิง’
เพราะทุกคนต่างคาดหมายเอาไว้ว่า บุคคลที่นางจะเลือกนั้นน่าจะเป็น ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ หรือ ‘ซ่งหยู’ ที่มีใบหน้าหล่อเหลา ไม่มีผู้ใดคิดว่าจะเป็น ‘ชูเฟิง’ แม้แต่น้อย
‘ชูเฟิง’ คือ บุคคลอันตรายที่เหล่ามหาอำนาจทั้งหกของเก้าอาณาจักรต่างต้องการตัว มีแต่คนที่ไม่ชอบเขา และต้องการจะฆ่าเขาอยู่ทั่วทั้งทวีป
แต่ ‘จื่อ หลิง’ กลับประกาศออกมาว่า บุคคลที่นางรักคือ ‘ชูเฟิง’ นี่นางโง่ หรือนางยังไม่รับรู้เรื่องราวของ ‘ชูเฟิง’ กันแน่
ในขณะนั้น หลังจากที่ชื่อของ ‘ชูเฟิง’ ออกมาจากปากของ ‘จื่อ หลิง’ นั้น ทุกๆ คนในพื้นที่ต่างตกอยู่ในความโกลาหล
“บ้าเอ๊ย !! เป็น ชูเฟิง อีกแล้ว…..ทำไมต้องเป็นเขาด้วย”
“เขาสมควรตาย !! เขาสมควรตายอย่างยิ่ง !! สิ่งที่แย่ที่สุดของเขาคือการทำให้แม่นาง จื่อ หลิง ตกหลุมรัก”
เมื่อเทียบกันคนอื่นๆ แล้วนั้น คนที่ไม่ชอบใจมากที่สุดคือ ‘ถัง ยี่สุ่ย’ , ‘ซ่ง ฉิงเฟิง’ , ‘ไป่ หยุนเฟย’ และ ‘หลิว เสี่ยวเหยา’
เพราะพวกเขาต่างตกหลุมรัก ‘จื่อ หลิง’ มาเป็นเวลานาน โดยที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า บุคคลที่ได้ครอบครองหัวใจของนาง จะเป็นบุคคลที่พวกเขาเกลียดมากที่สุด นั่นคือ ‘ชูเฟิง’
หากคนที่ ‘จื่อ หลิง’ รัก คือ ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ หรือ ‘ซู ซ่งหยู’ ถึงแม้จะไม่ใช่พวกเขา แต่พวกเขาก็พอจะยอมรับได้ แต่เมื่อเป็น ‘ชูเฟิง’ พวกเขาจึงไม่อาจยอมรับได้
“ทำไมถึงเป็น ชูเฟิง เขามีความสามารถ หรือมีสิ่งใดที่คู่ควรกับ จื่อ หลิง เช่นนั้นรึ”
ในขณะนั้น ‘มู่ หรงหยู’ ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ โดยปกตินั้น เขาจะไม่ถูกกับ ‘ถัง ยี่สุ่ย’ และคนอื่นๆ แต่ด้วยบุคคลที่พวกเขารัก คือคนๆ เดียวกันนั้น จึงทำให้ ‘มู่ หรงหยู’ เลือกที่จะเข้าข้าง ‘ถัง ยี่สุ่ย’ และคนอื่นๆ
ในความเป็นจริงนั้น แม้ว่าหลายๆ คนจะไม่ได้แสดงออกมาอย่างเด่นชัดเช่นพวกเขา แต่ทุกๆ คนก็มีความโกรธเคืองอยู่ภายในจิตใจกันทุกคน
ไม่เว้นแม้แต่ ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ ที่เสร็จสิ้นจากงานแต่งไปแล้วนั้น เขายังคงกำหมัดแน่นด้วยความกราดเกรี้ยว หัวใจของเขาอัดแน่นไปด้วยความโกรธ จิตสังหารที่รุนแรงปะทุมาทั่วร่างกายของเขา
เขาไม่แตกต่างไปจากคนอื่นๆ ที่ต้องสูญเสียคนที่ตัวเองตกหลุมรัก ให้กับบุคคลที่เขาเกลียด
ในความเป็นจริงนั้น ไม่ใช่เพียงแค่คนหนุ่มสาวเท่านั้นที่ไม่พอใจ
เหล่าผู้นำทั้งหก เมื่อพวกเขาได้ยินชื่อ ‘ชูเฟิง’ ออกจากปากของ ‘จื่อ หลิง’ นั้น นั่นเท่ากับเป็นการประกาศสงครามกับพวกเขา และจุดที่เลวร้ายที่สุดคือ การผลักนครอันทรงเกียรติเข้าสู่สงคราม
บุคคลที่เป็นฉนวนแห่งความวุ่นวายในตอนนี้ ยังคงยืนนิ่ง นั่นคือ ‘จื่อ หลิง’ นางยังคงเงียบสงบอย่างผิดปกติ และนางได้กล่าวออกมาอีกว่า
“การรักใครสักคน ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง”
“การรักใครสักคน ไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ยากเกินกำลังของตัวเอง”
“การรักใครสักคน ไม่ใช่ด้วยเพราะความถูกผิด”
“ความรักที่แท้จริง หอมหวานยิ่งกว่าความเศร้าโศก และมีความสุขมากกว่าความเจ็บปวด”
“เพราะความรักที่แท้จริงนั้น แม้ว่าตัวของข้าจะต้องจมไปกับห้วงแห่งวามทุกข์ แต่ภายในหัวใจของข้า ยังคงเต็มไปด้วยความสุข”
“เช่นนั้น…….”
“การรักใครสักคน ควรละเลยความปลอดภัยของตนเองเพื่อเขา”
“สำหรับคนที่รัก ข้าให้เขาได้ทุกอย่าง ที่จ้าสามารถทำได้”
“สำหรับคนที่รัก หัวใจของข้า จะมีไว้เพื่อเขาตลอดไป โดยไม่เปลี่ยนแปลง”
“ไม่ว่าวันข้างหน้าจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาอะไร จะไม่หวาดกลัว และขลาดเขลา”
“ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก ข้าจะยืนอยู่เคียงข้างเขา ต่อสู้กับคนทั้งโลกไปพร้อมกับเขา”
“คนที่ข้ารักคือ ชูเฟิง ไม่ว่าทุกๆ คนจะเกลียดชังเขา หรือโกรธแค้นเขา ข้า จื่อ หลิง ก็จะเลือกเขาโดยไม่หวั่นไหว ในสายตาของข้า มีเพียง ชูเฟิง เท่านั้น”
“วันนี้ ข้าจื่อ หลิง จะขอออกจากนครอันทรงเกียรติ ต่อแต่นี้ไป ข้าไม่ใช่ศิษย์ของนครอีกต่อไป และไม่ใช่บุตรบุญธรรมของ ท่านฉิน เล่ย ทุกการกระทำของข้านับจากนี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับนครอันทรงเกียรติแต่อย่างใด”
เสียงของ ‘จื่อ หลิง’ ไม่ได้ดังมาก แต่มันเป็นเสียงที่นุ่มนวลชวนฟัง แต่มันกลับสะท้อนก้องอยู่ในหูของทุกๆ คนอย่างชัดเจน
“สวรรค์……นี่ จื่อ หลิง ยอมทำทุกอย่างเพื่อ ชูเฟิง เลยหรือ นางทำแม้กระทั่งตัดความสัมพันธ์กับนครอันทรงเกียรติ และยิมยอมที่จะสู้เคียงบ่าเคียงไหลร่วมกับ ชูเฟิง แม้ว่าจะต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกก็ตาม”
“นับเป็นความอัปยศอย่างยิ่ง เป็นถึงสาวงามแต่กลับโง่เขลา เพราะ ชูเฟิง เป็นบุคคลที่น่ารักเกียจ และไร้ยางอาย”
บางคนร้องไห้ออกมาด้วยความไม่ยุติธรรม ที่เห็น ‘จื่อ หลิง’ แสดงออกมาเช่นนี้ เพราะว่า ‘ชูเฟิง’ ไม่คู่ควรกับ ‘จื่อ หลิง’ เลยแม้แต่น้อย และมันไม่สมควรกับ ‘จื่อ หลิง’ เลยแม้แต่นิดเดียว
“ผู้หญิงที่ตาบอดเช่นนี้ นับว่าหาได้ยากอย่างยิ่งในโลกใบนี้ แต่ก็ต้องบอกว่า ชูเฟิง ช่างโชคดีจริงๆ ที่สามารถกุมหัวใจของนางเอาไว้ได้ ……….เขาใช้ชีวิตของเขาได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ”
“จริงๆ แล้วนั้น หากคิดอย่างถี่ถ้วน ไม่ว่าตอนนี้จะเป็นเช่นไร แต่ ชูเฟิง ก็ได้แสดงออกถึงความเป็นอัจฉริยะ และความกล้าหาญเหนือกว่าผู้อื่นออกมา เพราะในพระราชวังใต้ดินนั่น มีเพียงเขาเท่านั้น ที่กล้าช่วยเหลือแม่นาง จื่อ หลิง”
“จากเหตุการณ์ในวันนั้น ข้าคิดว่า จื่อ หลิง เลือกไม่ผิด และ ชูเฟิง นั้น ก็คู่ควรกับนางมากที่สุด”
บางคนรู้สึกว่า ‘จื่อ หลิง’ งมงายกับความรักต่อ ‘ชูเฟิง’ และ ‘ชูเฟิง’ เองก็งมงายต่อความรักที่มีให้กับ ‘จื่อ หลิง’ ดันนั้น พวกเขาจึงเหมาะสมกันเป็นอย่างยิ่ง
“ให้ตายเถอะ……แบบนี้เองซินะ ที่เขาเรียกว่า ผู้หญิงชอบคนเลว”
“ไม่เป็นไร ถึงสาวงามอย่าง จื่อ หลิง จะไม่ได้เลือดเรา แต่นางก็ไม่เลือก เจี่ย ฉิงหมิง , มู่ หรงหยู และคนอื่นๆ แต่นางกลับเลือก สารเลวอย่าง ชูเฟิง ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่”
หลายๆ คนยังคงคิดว่านางเป็นคนบ้า ที่ไม่ยอมเลือกบุคคลอย่าง ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ และคนอื่นๆ แต่กลับเลือกคนอย่าง ‘ชูเฟิง’ พวกเขาต่างพากันตะโกนสาปแช่งออกมา
นี่คือสิ่งที่เรียกว่า ‘ ข้อความเดียวกัน แต่ร้อยข้อสรุป’ ทุกๆ คนล้วนมีมุมมอง และความคิดเป็นของตัวเอง ดังนั้น จึงไม่อาจเปลี่ยนความคิดของ ‘จื่อ หลิงได้’ เพราะนางได้เลือก ‘ชูเฟิง’ ไปแล้ว
แปลโดยคุณ#
: นางเอก นางเอก!!! จื่อหลิง
: แม้นางจะเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่สำหรับคนที่นางรักนางยอมให้ได้ทุกอย่าง . . . .
: มึงจะบอกว่าเว้นแต่สินะ . . . .
: กูไม่ได้พูดสักหน่อย แต่จะว่าก็ว่านางก็มีโมเม้นน่ารักไม่น้อยเลยทีเดียว แถมยังใจถึงอีกด้วยนะ เห็นว่าตอนที่ชูเฟิง ไล่ถล่มหกมหาอำนาจ นางก็ตามไปช่วยชูเฟิงด้วยล่ะ ต้องบอกว่า ฝีมือของนางแม้แต่ ชูเฟิง ก็อาจจะด้อยกว่า
: แน่นอน!!! แต่บางคิดก็อดคิดถึง ซูรู่กับซูเหม่ยไม่ได้เนอะ ตอนนี้นอนเปนเจ้าหญิงนิดทา
: นิดทา ป้ามึงสอนเขียนแบบนั้นหรอ . . . . แต่ตื่นมารับรอง ฟุ้งฟิ้งกว่าเดิมแน่นอน
: ได้มุกอัคคีและมุกน้ำแข็งมาด้วย คงจะเกร่งสุดๆ อย่างน้อยก็ไม่เป็นภาระให้กับลูกหลาน คนแต่งเขาคงคิดแบบนี้ เลยสร้างสถานการณ์ขึ้นมา
: ทำเป็นรู้ดี พ่อมืงเปน เจเค โรลลิ่ง ไง!!!
: . . . . . . . . เอาที่มืงสบายใจละกัน เจเค โรลลิ่ง กูจะบอกให้เขาเปนคนคิดค้น ไอโฟน
: . . . . . . . . เอาที่มืงสบายใจละกัน!!!
ที่มา: