ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเขตตะวันออก
คนที่ได้ตัดเลือกให้ไปเขตตะวันออกได้ถูกกำหนดไว้แล้วในตอนนี้
‘เนี่ยลี่’ ‘กู้เบ่ย’ ‘ลู่เพียว’ ‘หลงยู่อิน’ และเด็กหนุ่มอีกคนที่ชื่อว่า ‘เซี่ยอวี่’ 血羽 รวมทั้งหมดห้าคน
เดิมทีนั้น’จินหยาน’ มั่นใจว่าเขาจะต้องได้ไปที่เขตตะวันออก แต่กลับมีเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า ‘เซี่ยอวี่’ ที่มาจากไหนก็อาจไม่รู้ได้ โดยที่ไม่ทันได้คาดคิดการบ่มเพาะพลังของเขาก็เหนือล้ำไปไกลกว่าเขามากมายนัก
และได้เข้าไปเขตตะวันออกแทนที่จะเป็นเขา ‘จินหยาน’จึงรู้สึกโกรธไม่น้อย แต่เรื่องทั้งหมดมันก็เกิดขึ้นแล้ว ‘จินหยาน’จึงไม่อาจที่จะทำอะไรได้อีก
“เนี่ยลี่ ข้าได้ยินมาว่า มีคนที่ชื่อว่าเซี่ยอวี่ ได้ไปที่เขตตะวันออกพร้อมกับพวกเรา แต่เซี่ยอวี่ผู้นี้ เหตุใดพวกเราจึงไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน?”
‘ลู่เพียว’ถามด้วยความสงสัย เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีคนผู้นี้อยู่ในชั้นเรียนเดียวกัน
แม้ว่า’เนี่ยลี่’จะเคยได้รู้มาบ้างว่า’เซี่ยอวี่’ เป็นคนที่เงียบๆและไม่ค่อยพูดคุยกับผู้ใด ไม่ได้มีความแข็งแกร่งอะไรมากนัก แต่เขากลับก้าวล้ำ’จินหยาน’และได้ไปยังเขตตะวันออกกับพวกเขาได้
“คนผู้นี้ต้องมิใช่คนธรรมดาเป็นแน่”
‘เนี่ยลี่’พูดหลังจากที่นิ่งเงียบไปชั่วครู่
“ไปขอให้หลี่ชิงอวิ๋นไปตรวจสอบที่มาของเขา แต่อย่าได้ทำตัวเป็นศัตรูกับเขา”
“ตกลง”
‘ลู่เพียว’พยักหน้า
นอกเหนือจากพวกเขาห้าคน ก็ยังมีคนที่ถูกส่งมายังเขตตะวันออกในปีก่อนหน้านี้ และก่อนหน้านั้นอีกปีด้วยเช่นกัน ดั่งเช่น ‘เซี่ยวหยู่’ที่อยู่ในกลุ่มของเขาก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
ลานประลองเขตตะวันออก
ที่นี่มีพื้นที่กว้างขวางมากและถูกกั้นไว้ด้วยกำแพงป้องกันอีกหลายชั้น
ในลานประลองนี้มีนักเรียนกว่าห้าถึงหกร้อยคน
พวกเขาล้วนเป็นนักเรียนของเขตตะวันออกกลุ่มอาจารย์นั่งอยู่ที่แถวหน้าของลานประลอง เพื่อเฝ้าดูนักเรียนที่เข้ามาใหม่ทั้งหกสิบคน พวกเขาหารือกันเบาๆ ‘หวงอวี้’ และ ‘หนานเหมียนเทียนไห่’ อยู่ท่ามกลางอาจารย์เหล่านั้น
“ในปีนี้ เรามีนักเรียนใหม่ที่เข้ามายังเขตตะวันออกทั้งหมดหกสิบคน ซึ่งในกลุ่มคนนี้ก็มีบางคนที่มีฝีมือดีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน”
“ข้าได้ยินมาว่าในกลุ่มคนที่มีพรสวรรค์ที่เข้ามาในปีนี้ มีห้าคนที่มีความสามารถยิ่งนัก มีทั้งกู้เบ่ย หลงยู่อิน นอกจากนี้ยังมี เนี่ยลี่ อยู่อีกด้วย”
‘หวงอวี้’ที่นั่งอยู่ตรงกลาง เขากวาดสายตามองไปที่เหล่านักเรียนใหม่ แล้วพูดว่า
“มีนักเรียนใหม่หลายคนที่มีรากวิญญาณฟ้าระดับห้า หรือสูงกว่านั้น นอกจากนี้ยังมีคนจาก ตระกูลกู้ กู้เบ่ย และตระกูลผนึกมังกร หลงยู่อิน ที่ได้ผสานร่างเข้ากับจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้าอีกด้วย ช่างน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก ”
ถ้าหากพวกเขามีจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้า ก็มีโอกาสที่จะได้เข้าสู่เขตกลาง
‘หนานเหมียนเทียนไห่’ เคาะโต๊ะ และริมฝีปากของเขาก็ยกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดว่า
“ตามกฏของเขตตะวันออก นักเรียนใหม่นั้นจักต้องท้าประลองรุ่นพี่ในเขตตะวันออก เพื่อย้ำเตือนว่ายังมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าอยู่เบื้องหน้า เริ่มการท้าประลองได้”
เมื่อ’เนี่ยลี่’และกลุ่มของเขามาถึงลานประลอง พวกเขาได้รับแจ้งว่า เหล่านักเรียนใหม่จักต้องท้าประลองกับรุ่นพี่ในเขตตะวันออก
ตามกฏของเขตตะวันออกนี้นี่เป็นหนึ่งในวิธีการลดความหยิ่งทะนง เป็นการพยายามที่จะทำลายความมั่นใจในตัวเองของนักเรียนใหม่ เพื่อที่จะได้ตั้งใจเรียนรู้ และฝึกฝนบ่มเพาะพลังภายในเขตตะวันออกนี้นั่นเอง
‘เนี่ยลี่’กวาดสายตามองไปยังเหล่านักเรียนของเขตตะวันออก ก็มีหลายคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี อย่าง’หลี่ชิงอวิ๋น’ รวมถึง ‘มู่หลงหยี่’และคนอื่น ๆ ด้วย
ดวงตาของ’มู่หลงหยี่’จับจ้องไปยังเนี่ยลี่และกลุ่มของพวกเขาอย่างเย็นชา เขาพ่นลมหายใจออกมา ‘ศัตรูมักอยู่บนหนทางที่คับแคบเสียจริง’ เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะได้พบเจอกับ’เนี่ยลี่’รวดเร็วถึงเพียงนี้
‘กู้เบ่ย’ได้อธิบายเกี่ยวกับเขตตะวันออกนี้ว่า
“ที่เขตตะวันออกนี้มีนักเรียนกว่าหกร้อยคน ซึ่งนักเรียนเหล่านี้จะมีการจัดอันดับกัน พวกเราเป็นกลุ่มหนึ่งของผู้ที่มีพรสวรรค์ และกลุ่มของผู้ที่มีพรสวรรค์ในปีก่อนหน้าของพวกเราคือ มู่หลงหยี่ จากการจัดอันดับเขาอยู่ ลำดับที่หนึ่งร้อยสามสิบสอง และในกลุ่มของผู้ที่มีสวรรค์ในปีก่อนหน้านั้นอีกก็คือ หลี่ชิงอวิ๋น เขาอยู่ในอันดับที่เจ็ดสิบแปด และผู้มีพรสวรรค์ในปีก่อนหน้านั้นอีกก็คือ กู้เหิง และเขาก็ได้เข้าไปยังเขตกลางแล้ว มีเพียงเหล่าผู้มีพรสวรรค์ไม่กี่สิบคนเท่านั้นที่ได้ไปยังเขตกลาง คนส่วนใหญ่ก็จะตกค้างอยู่ที่เขตตะวันออกนี้ จนกว่าพวกเขาจะบรรลุระดับดาราสวรรค์ และจะได้เป็นศิษย์ส่วนในของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นพวกเขาก็จะถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจที่โลกภายนอก ซึ่งแน่นอนว่าก็จะมีงานที่ต้องทำแตกต่างกันไป”
‘หลงยู่อิน’ที่อยู่ข้าง ๆ นางแต่งกายด้วยชุดที่กระชับพร้อมที่จะต่อสู้ได้ทุกเมื่อ นางอธิบายต่ออีกว่า
“คนที่สามารถเข้าไปยังเขตกลางได้ คือผู้ที่มีพรสวรรค์ยิ่งนัก ถ้าหากว่าต้องการที่จะขึ้นเป็นผู้นำตระกูล หรือต้องการที่จะขึ้นเป็นผู้นำนิกาย ถ้าเจ้าต้องการอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จักต้องเข้าไปยังเขตกลางให้ได้ นักเรียนที่เข้าไปยังเขตกลาง จะได้รับการสั่งสอนโดยยอดฝีมือระดับเทพสงครามทั้งห้าของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ”
‘เนี่ยลี่’พยักหน้า เรื่องราวเหล่านี้เขาเคยได้ยินมาแล้วในชีวิตก่อนหน้า
การจัดอันดับนี้ท้าทายยิ่งนัก ผู้ที่อยู่สิบอันดับแรก มีโอกาสที่จะถูกเลือกให้เข้าไปยังเขตกลางมากที่สุด
แต่ในสิบอันดับแรกนั้น ต่างก็เป็นยอดฝีมือที่มีพรสวรรค์ในปีก่อนหน้านั้น แม้ว่า’หลี่ชิงอวิ๋น’จะอยู่ในอันดับที่เจ็ดสิบแปดเท่านั้น เป็นเพราะเดิมที’หลี่ชิงอวิ๋น’นั้นผสานเข้ากับจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์เท่านั้น
แต่ในปัจจุบันเขาได้ผสานเข้ากับจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้าแล้ว ในการจัดอันดับครั้งต่อไปเขาจะต้องก้าวขึ้นไปอันดับที่สูงกว่านี้เป็นแน่ แต่’หลี่ชิงอวิ๋น’เองก็ยังไม่ต้องการที่จะเปิดเผยจิตอสูรของเขาในตอนนี้
เหล่านักเรียนในเขตตะวันออกต่างก็จ้องมองไปยังนักเรียนใหม่ โดยอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา ในอดีตที่ผ่านมา ตอนที่พวกเขาได้เข้ามายังเขตตะวันออก และพวกเขาก็ได้รับบทเรียนอันน่าเจ็บปวด ในตอนนี้พวกเขาจะเป็นฝ่ายที่ได้ให้บทเรียนกับนักเรียนใหม่บ้าง
“สำหรับศิษย์พี่ทุกคนที่อยู่ในเขตตะวันออกนี้ นักเรียนใหม่สามารถที่จะท้าประลองได้กับทุกคน และทุกคนสามารถทำการท้าประลองได้ทั้งหมดห้าครั้ง การประลองนี้ไม่มีข้อจำกัดใดๆทั้งสิ้น เว้นเพียงแค่ห้ามมิให้สังหารกันเท่านั้น ”
เสียงของ’หนานเหมียนเทียนไห่’ดังกึกก้องไปทั่วลานประลอง
ทุกคนสามารถที่จะท้าประลองได้ห้าครั้ง เหล่านักเรียนใหม่ต่างหันมาสบตากัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจักต้องเลือกท้าประลองกับคนที่อ่อนแอกว่า แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าศิษย์พี่แต่ละคนอยู่ในอันดับเท่าใด
แต่พวกเขาก็สามารถที่จะสัมผัสได้จากกลิ่นอายที่แผ่ออกมา ซึ่งสามารถที่จะชี้วัดความแข็งแกร่งของแต่ละคนได้
หลังจากนั้น บางคนก็เริ่มที่จะเลือกคู่ท้าประลอง
‘เนี่ยลี่’ ‘กู้เบ่ย’ และ’ลู่เพียว’ต่างกันหันมาสบตากัน
“เนี่ยลี่ เจ้าจะให้ข้าจัดการกับมู่หลงหยี่ไหม?”
‘กู้เบ่ย’นั้นกระตือรือร้นอยู่ไม่น้อย
“ข้าจะจัดการเอง ข้าจักต้องชำระเรื่องที่เกิดขึ้นในโบราณสถานแห่งความสะพรึง ”
‘เนี่ยลี่’จ้องไปยัง’มู่หลงหยี่’ที่อยู่ไกลออกไป พร้อมกับหรี่ตาลงเล็กน้อย
‘มู่หลงยี่’เมื่อเห็นว่า’เนี่ยลี่’จ้องมายังที่เขา ‘มู่หลงหย่’ก็อดที่จะหัวเราะจนน้ำตาไหลมิได้ เขาไม่คิดเลยว่า ‘เนี่ยลี่’จักกล้าท้าประลองกับเขา ระดับพลังของเขาในตอนนี้อยู่ระดับชะตาสวรรค์ ขั้นหกชะตาแล้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่า’เนี่ยลี่’นั้นอยู่ในระดับใด แต่เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ก็ต้องนับว่าห่างไกลยิ่งนัก
“ข้าต้องการที่จะท้าประลองกับเขา”
‘เนี่ยลี่’ชี้ไปยัง’มู่หลงหยี่’ เขาพูดอย่างเงียบสงบ
ในหมู่นักเรียนใหม่ต่างก็หันมามอง’เนี่ยลี่’ด้วยความตกใจ ‘เนี่ยลี่’นั้นกล้าที่จะท้าประลองกับ’มู่หลงหยี่’
‘มู่หลงยี่’นั้นเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ของปีที่แล้ว และสามารถเข้าสู่สองร้อยอันดับแรกได้ คนเช่นนั้นพวกเขาคงไม่กล้าที่จะท้า
ประลองด้วยเป็นแน่ เพราะพวกเขาจักต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
ในฐานะที่เป็นนักเรียนใหม่ เขาก็ควรที่จะท้าประลองกับคนที่อยู่ในอันดับท้ายๆของการจัดอันดับ ที่ไม่ได้มีความแข็งแกร่งมาก แต่เนี่ยลี่กลับเริ่มที่จะท้าประลองกับ’มู่หลงหยี่’นี่จักไม่เป็นการประเมินตัวเองสูงส่งไปหน่อยเช่นนั้นเหรอ?
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’
‘มู่หลงหยี่’ก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย ที่’เนี่ยลี่’คิดจะท้าประลองกับตนเอง เจ้าเด็กคนนี้ช่างกำแหงยิ่งนัก ที่มาให้เขาจัดการโดยที่ไม่ต้องทำอะไร เขาหัวเราะอีกครั้ง และตอบกลับไปว่า
“ถ้าศิษย์น้องเนี่ยลี่มีความต้องการเช่นนั้น ข้าก็จะขอชี้แนะศิษย์น้องเนี่ยลี่สักหน่อยก็แล้วกัน!”
ดวงตาของเขาเป็นประกายอย่างเลือดเย็น จากการที่เขาปล่อยให้’เนี่ยลี่’รอดไปในครานั้น เขาก็ยังรู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อย เขานั้นต้องการที่จะทำการสั่งสอน’เนี่ยลี่’ อยู่เสมอ แต่ไม่มีโอกาสสักที
แต่’เนี่ยลี่’กลับมาเคาะประตูเรียกเขาเอง เขาก็คงจะต้องสั่งสอนด้วยความสุภาพอย่างเต็มที่เลยทีเดียว……
จบตอน
หมายเหตุ
พอเริ่มแปลจากจีนเป็นไทยแล้ว ได้คำแปลก ๆ มาหลายคำเหมือนกัน
แต่ก็ต้องเทียบอิ๊งอยู่บ้าง สงสัยเลเวลภาษาจีนของผู้แปลจะยังไม่สูงพอ ตอนนี้แปลจากจีน
8 ส่วน โดยประมาณแปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: