ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ถ้าต้องตาย พวกเราก็ตายด้วยกัน!”
‘เซี่ยวหยู่’ตอบกลับอย่างหนักแน่น
‘เนี่ยลี่’จับจ้องไปที่’เซี่ยวหยู่’แม้ว่านางจะแต่งตัวเป็นชาย แต่รูปลักษณ์ของนางยังคงน่ามองยิ่งนัก
ใบหน้าของ’เซี่ยวหยู่’เริ่มเป็นสีแดง นางกระทืบเท้าและพูดขึ้นมาว่า
“เหตุใดเจ้าต้องจ้องมองข้าเช่นนั้นด้วย?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่มีสิ่งใดหรอก?”
‘เนี่ยลี่’หัวเราะพร้อมกับตอบกลับไป
ภายใต้การจับจ้องของคนที่อยู่ในห้องนี้’เนี่ยลี่’เดินตรงไปยังรูปปั้นรูปหนึ่ง
‘อู๋หยาจื่อ’มองไปที่’เนี่ยลี่’สลับกับการหันไปมอง’เซี่ยวหยู่’ มันดูเหมือนว่าจะมีอะไรที่น่าสงสัยอยู่เล็กน้อย เขารู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่าง’เนี่ยลี่’กับ’เซี่ยวหยู่’ จะดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใดนัก ทั้งสองคนคิดจะทำสิ่งใดกันแน่?
เพียงแค่’เนี่ยลี่’เริ่มที่จะก้าวไปยังรูปปั้น รูปนั้นก็สีเสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้นมา
“ค่ายกลรูปปั้นทั้งสามสิบหกรูปของข้า ถ้าใครคิดจะแตะต้อง จะต้องถูกสังหารโดยไม่มีการอภัยให้โดยเด็ดขาด!”
หลังจากที่ความนึกคิดของตำหนักซีอิงเสิ่นตะโกนออกมา ก็มีคลื่นลมปราณที่มองไม่เห็นโถมกระหน่ำมายัง’เนี่ยลี่’
โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ ขยับคิ้วเล็กน้อยราวกับท้าทาย คลื่นลมปราณที่มองไม่เห็นนั้น ถูกกั้นขวางไว้ด้วย โล่ห์เพลิงสีชาด ปรากฏขึ้นมาจากพื้นที่ด้านหน้าของ’เนี่ยลี่’ห่างออกไปราวสิบหมี่
ตูมม!
คลื่นลมปราณที่มองไม่เห็นนั้นปะทะเข้ากับโล่ห์เพลิงสีชาด มีเสียงระเบิดดังกึกก้อง เพลิงกระจายออกไปทั่วทั้งสี่ทิศทาง
การโจมตีในครั้งนี้ ไม่อาจสร้างผลกระทบใด ๆ ให้กับ’เนี่ยลี่’เลยแม้แต่น้อย
‘เนี่ยลี่’เริ่มต้นที่จะทำลายผนึกค่ายกล ‘เนี่ยลี่’เข้าใจดีว่าก่อนที่เขาจะทำลายผนึกค่ายกลได้สำเร็จ โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’จะต้องคอยปกป้องเขาอย่างแน่นอน
แม้ว่าความนึกคิดของตำหนักซีอิงเสิ่นจะสามารถควบคุมทุกสิ่งในตำหนักซีอิงเสิ่นนี้ได้ แต่ก็ไม่อาจที่จะสัมผัสเหล่ายอดฝีมือที่เข้ามาอยู่ด้านในได้โดยตรง ไม่เช่นนั้นมันคงจะไม่ใช้ผลึกแก้วแห่งคงคา ล่อลวงให้เหล่ายอดฝีมือสังหารกันเองเป็นแน่
‘เนี่ยลี่’เริ่มทำการเขียนรูปแบบอักษรจารึก
อักษรจารึกเหล่านี้ กระตุ้นการทำงานของรูปปั้นและฝังเข้าไปด้านใน ค่ายกลที่ผนึกไว้บนรูปปั้นทำงานอย่างรวดเร็ว
โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ จ้องมองดูเงียบ ๆ จากทางด้านข้าง ดวงตาของเขานั้นมีร่องรอยแห่งความประหลาดใจ วิธีการที่’เนี่ยลี่’ใช้ทำลายผนึกค่ายกลนั้น มีหลายส่วนที่เขานั้นไม่อาจที่จะเข้าใจได้
เห็นได้ชัดว่า ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรูปแบบค่ายกลของ’เนี่ยลี่’นั้น สูงส่งกว่าเขายิ่งนัก
ในใจของ โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ รู้สึกสั่นไหวเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่า’เนี่ยลี่’ที่เป็นแค่ยอดฝีมือระดับชะตาสวรรค์เท่านั้น จะมีความสามารถถึงเพียงนี้!
การที่’เนี่ยลี่’อยู่กับ’อู๋หยาจื่อ’ เขาอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล หรือว่าผู้รับใช้ของ’อู๋หยาจื่อ’กันแน่?ถ้าหากเขาสามารถนำ’เนี่ยลี่’มาเป็นลูกสมุน ก็คงจะดีไม่น้อย!
‘เนี่ยลี่’นั้นไม่ได้รับรู้เลยว่า โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ ได้สนใจในตัวของเขาแล้ว
‘เนี่ยลี่’ยังคงตั้งสมาธิกับการทำลายผนึกค่ายกล โดยเขายังคงเขียนรูปแบบอักษรจารึกลงไปทีละตัว
ความนึกคิดของตำหนักซีอิงเสิ่นดูเหมือนว่าจะรู้สึกกังวลไม่น้อย และเป็นอีกครั้งที่มันคิดจะเล่นงาน’เนี่ยลี่’ แต่’เนี่ยลี่’ก็ได้รับการปกป้องจาก โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ เช่นเดิม
ตูมม!
ท้ายที่สุดรูปแบบอักษรจารึกก็ฝังลงไปที่รูปปั้นทั้งหมด ค่ายกลรูปปั้นอักษรจารึกหลายสิบรูปนั้น ก็เริ่มที่จะเคลื่อนย้ายตำแหน่ง
ตรงส่วนกลางปรากฏให้เห็นเส้นทางเดินที่มืดมิด เป็นเส้นทางที่ทอดยาวลงไป ไม่มีใครรู้ว่าจะลงไปถึงที่ใดเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ดวงตาของทุกคนก็ถึงกับเบิกโพลงเป็นประกาย
พวกเขาได้สำรวจไปทั่วตำหนักซีอิงเสิ่นกว่าแปดส่วน แม้ว่าจะพบสมบัติบางส่วน แต่ก็มิได้พบสิ่งใดที่เป็นสมบัติล้ำค่า และในเส้นทางลับนี้ เป็นไปได้ว่าจะซุกซ่อนสมบัติที่แท้จริงอยู่
‘เหยียนหยาง’และ ‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’ พวกเขาก็เตรียมตัวที่จะลงไป
พวกเขาทั้งสามจ้องมองกัน’เสิ่นเหลย โม๋จุน’ เผยรอยยิ้ม และมีประกายแห่งความเจ้าเล่ห์ในดวงตาของเขา เขาเอ่ยขึ้นมาว่า
“ที่เส้นทางลงไปยังใต้ดินนี้ ข้าไม่รู้ว่าจะมีกับดักอยู่หรือไม่ โอรสศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง คงจะเป็นไปไม่ได้ถ้าหากพวกเจ้าคิดจะครอบครองสมบัติทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว เหตุใดพวกเราจึงไม่ร่วมมือกัน แล้วแบ่งสมบัติกัน เป็นสามส่วนอย่างเท่าเทียมกัน? พวกเจ้าคิดเห็นเป็นเช่นใด”
‘เหยียนหยาง’นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง มนุษย์ และ อสูร ไม่อาจที่จะอยู่ร่วมกันได้ หากเขานั้นยอมร่วมมือกับ ‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’ และ โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ จะต้องสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงแก่เขาเป็นแน่
แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ เขาจำเป็นที่จะต้องเป็นคนที่รู้จักเลือก ในช่วงเวลานี้หากคิดถึงความปลอดภัยแล้ว การให้ความร่วมมือกันชั่วคราว เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าที่จะชักกระบี่เข้าหากัน
“ก็ได้!”
‘เหยียนหยาง’ตัดสินใจตอบกลับไป
โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’โบกมือพร้อมตอบกลับไปว่า
“ข้าเองก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน”
“มิใช่สามส่วนอย่างเท่าเทียมกัน แต่ต้องเป็นสี่ส่วนอย่างเท่าเทียมกัน!”
‘เนี่ยลี่’พูดขึ้นมาจากทางด้านหลัง
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’ ยอดฝีมือที่ติดตามของทั้งสามคนนั้นต่างก็ตกตะลึง และจับจ้องไปที่’เนี่ยลี่’ พวกเขาคิดว่า คนผู้นี้ช่าง ใจกล้ายิ่งนัก ทั้งที่อยู่ในระดับชะตาสวรรค์ แต่กลับกล้าต่อรองกับยอดฝีมือที่อยู่ในระดับวิถีแห่งมังกร และ ใกล้เคียงเช่นนี้ พวกเขาคิดว่า สมองของเจ้าเด็กคนนี้ มีอะไรอยู่กันแน่ จึงได้กล้าที่จะขอแบ่งสมบัติกับคนเหล่านี้
‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’ มองดู’เนี่ยลี่’ด้วยความสนใจ สายตาของเขานั้นจับจ้องอย่างเย็นยะเยือก เขาไม่เคยพบผู้ที่อยู่ในระดับชะตาสวรรค์
ที่กล้าพูดเช่นนี้ต่อหน้าเขามาก่อน!โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’โบกมือเขาอีกครั้งและพูดว่า
“ถ้าหากว่าพวกเราได้สมบัติมา ก็ควรที่จะแบ่งให้เขาอย่างเท่าเทียม! ถ้าหากมิใช่ด้วยความสามารถของเขา พวกเราก็ไม่อาจที่จะทำลายผนึกค่ายกลนี้ได้”
โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ คิดกับตัวเองว่า แม้ว่า’เนี่ยลี่’จะอยู่แค่เพียงระดับชะตาสวรรค์ แต่ถ้ามิได้มีความสามารถเก่งกาจถึงเพียงนี้
เขาไม่มีทางที่จะยอมรับการต่อรองเช่นนี้เป็นแน่ด้วยความสามารถที่’เนี่ยลี่’มีการที่เขาแบ่งปันสมบัติให้ อาจจะทำให้ดูมีน้ำใจในสายตาของ’เนี่ยลี่’ก็เป็นได้ บางทีอาจจะทำให้’เนี่ยลี่’ยอมที่จะมาเป็นลูกน้องเขาก็เป็นได้
‘เนี่ยลี่’นั้นรอบรู้เกี่ยวกับค่ายกลยิ่งนัก ทั่วทั้งอาณาจักรซากมังกรยังมีสถานที่เร้นลับอีกมากมาย เขานั้นสามารถที่จะไปค้นหาสมบัติได้อีกหากได้’เนี่ยลี่’เป็นลูกน้อง ความสามารถนี้ล้ำค่าเสียยิ่งกว่าสมบัติเสียอีก
“ข้าเองก็เห็นด้วย!”
‘เหยียนหยาง’พูดขึ้นมา ในความคิดของเขาแล้วไม่ว่าจะเป็นสามส่วนหรือสี่ส่วนก็หาได้ต่างกันเท่าใดนัก
แต่ถึงอย่างไร ‘เนี่ยลี่’ก็ไม่เชื่อว่าพวกเขาคิดที่จะแบ่งสมบัติกันจริง ๆ หลังจากที่ได้พบสมบัติแล้ว พวกเขาจะต้องต่อสู้แย่งชิงกันเป็นแน่
การที่’เนี่ยลี่’ทำการต่อรองดังกล่าว เพียงแค่เพื่อที่จะทดสอบนิสัยใจคอของคนทั้งสาม นอกจากนี้’เนี่ยลี่’ต้องการที่จะให้ทั้งสามคนรับรู้ถึงตัวตนของเขา เพื่อที่จะแสดงให้คนทั้งสามเห็นความสำคัญของความสามารถของตัวเขา
สำหรับโอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ และ ‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’นั้นแค่เพียงทดสอบเล็กน้อยก็รับรู้ได้เลยว่า พวกเขาเห็นความสำคัญของ’เนี่ยลี่’ เพราะหากไม่มีเขาแล้วก็เป็นเรื่องยากที่จะได้รับสมบัติ
สำหรับ’เหยียนหยาง’แล้ว ‘เนี่ยลี่’คงต้องหาแผนอื่นเตรียมไว้
“แล้วเส้นทางลับนั่น ใครจะเป็นคนที่ลงไปก่อน?”
‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’ มองไปที่อีกสองคนและเอ่ยถาม
“พวกเราสามคน จะส่งคนลงไปกลุ่มละสิบคน!”
โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ พูดขึ้นมาอย่างดุดัน
“ก็ดี!”
‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’ และ’เหยียนหยาง’ พยักหน้าตอบรับ
ทั้งสามสิบคนรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว และเดินลงไปในเส้นทางลับ
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงกรีดร้อง และเสียงระเบิดดังออกมาจากข้างในเส้นทางลับ มีชายคนคนปีนกลับมาโดยที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บ
“ท่านโอรสศักดิ์สิทธิ์ ภายในเส้นทางลับมีกับดักมากมาย พวกเราล้มตายกันหลังจากที่เดินทางเข้าไปได้แค่ราวห้าร้อยหมี่!”
หนึ่งในลูกน้องของ ‘หลีหั่ว’ประสานมือรายงาน
“ส่งคนไปอีกสามสิบคน แล้วให้ทำการสำรวจต่อไป!”
โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ออกคำสั่งไป
ดูเหมือนว่าเขาจะมองเห็นชีวิตผู้อื่นนั้นไร้ค่ายิ่งนัก เขาคิดจะใช้ชีวิตของคนเหล่านี้เพื่อที่จะทำลายกับดักเช่นนั้นหรือ?
แม้ว่า’เนี่ยลี่’นั้นมั่นใจว่าเขานั้นสามารถที่จะทำลายกับดักพวกนั้นได้ แต่เขาก็ตั้งใจที่จะไม่พูดออกไป เขาคิดจะใช้กับดักนี้ ในการลดทอนกองกำลังของ โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ และ ‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’
เมื่อพวกเขาได้ส่งคนตามลงไปอีกหลายกลุ่ม ในที่สุด ก็มีคนผู้หนึ่งวิ่งกลับมารายงานว่า ได้พบห้องขนาดใหญ่อยู่ที่เส้นทางลับใต้ดิน และมีสมบัติอยู่แทบนับไม่ถ้วน
“ไปกันเถอะ!”
โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ ตะโกนออกคำสั่ง และกลุ่มคนก็เริ่มที่จะวิ่งลงไป ‘เนี่ยลี่’รีบทะยาน เข้าไปในเส้นทางลับ
‘เซี่ยวหยู่’ทะยานตามไปโดยไร้ซึ่งความลังเลและ’อู๋หยาจื่อ’ก็ทะยานตามมาเช่นกัน……….
จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: