ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปอ่านก่อนเข้าเนื้อหา
เสวียนอู่ (玄武)เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่งที่เกิดจากเต่าผสมกับงู ความหมายแต่เดิมของเสวียนอู่ก็คือ เสวียนหมิง (玄冥) สมัยโบราณ อู่(武) และ หมิง(冥) จะมีเสียงพ้องกัน โดย “อู่” มีความหมายว่า “ดำ” ส่วน “หมิง” มีความหมายว่า มืด โพล้เพล้
แรกเริ่ม “เสวียนหมิง” เป็นคำที่ใช้บรรยายในการเสี่ยงทายบนกระดองเต่า กระดองหลังเต่ามีสีดำ การทำนายบนกระดองเต่า ก็คือการเชิญเต่าไปยังยมโลกเพื่อสอบถามบรรพบุรุษ แล้วนำคำตอบกลับมายังโลกมนุษย์ในรูปแบบของการทำนายถ่ายทอดให้ทราบ
ดังนั้น เสวียนอู่แรกเริ่มก็คือเต่า แต่ต่อมาภายหลัง ความหมายโดยนัยของเสวียนหมิงกลับมีหลากหลายและมีการใช้ในวงกว้างขึ้น
เต่าอาศัยอยู่ตามริมน้ำ แม่น้ำ ทะเลสาบ ทะเล รวมถึงเต่าทะเลด้วยดังนั้นเสวียนหมิงจึงกลายเป็นเทพแห่งน้ำ และเนื่องด้วยเต่ามีอายุยืน ดังนั้น เสวียนหมิงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาวนาน แรกเริ่มนั้น นรกภูมิอยู่ทางทิศเหนือ การเสี่ยงทายบนกระดองเต่าในสมัยอินและซางจึงต้องกระทำโดยหันหน้าไปทางทิศเหนือ
ดังนั้นเสวียน หมิง จึงกลายเป็นเทพแห่งทิศเหนือไปโดยปริยาย ซึ่งก็เหมือนกับสัตว์เทพอีกสามตน คือมาจากกลุ่มดาว 7 กลุ่มจากทั้งหมด 28 กลุ่มเพิ่มเติม ถ้าเคย ดูการ์ตูน เรื่อง เบลย์เบลด เสวียนหมิง ก็คือ เต่าคะนองนั่นเอง ในภาษาญี่ปุ่นคือหนึ่งในสี่สัตว์เทพ เก็นบุ
ก๊อง! แก๊ง!
‘เนี่ยลี่’ได้ย้ายทั้ง แกนกลางของตำหนักซีอิงเสิ่น และสมบัติที่อยู่ในรัศมีหลายพันหมี่ เข้าไปเก็บไว้ในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ ด้วยการรวบรวมสิ่งของขนาดใหญ่จำนวนมากเอาไปไว้ข้างในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ ทำให้’เนี่ยลี่’ต้องใช้พลังไปไม่น้อย จนถึงกับหายใจหอบเลยทีเดียว
ในการเก็บของชิ้นใหญ่ ‘เนี่ยลี่’จำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานสวรรค์จำนวนมากในการเคลื่อนย้ายวัตถุ
ในการบินมองหาสมบัติต่าง ๆที่อยู่โดยรอบ เมื่อไม่มีสิ่งใดที่อยู่ใกล้มือเนี่ยลี่แล้ว เขาจึงได้บินกลับไป
“ข้าได้เก็บศิลาแก่นแท้วิญญาณทองคำได้กว่าสามร้อยก้อน ของวิเศษระดับหกกว่าห้าร้อยชิ้น และของวิเศษระดับเจ็ดราวสามสิบชิ้น”
‘เซี่ยวหยู่’หันไปบอกแก่’เนี่ยลี่’ที่บินกลับมา
‘เนี่ยลี่’มองไปยังพื้นที่ว่างเปล่า เขารู้สึกแปลก ๆ เนื่องจากมันเงียบสงบจนเกินไป เหตุใด ความนึกคิดของตำหนักซีอิงเสิ่น จึงไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว?หรือว่าสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในตำหนักซีอิงเสิ่นนี้จะมิใช่แค่เพียง ไข่มุกวิญญาณลวงตาบางที ความนึกคิดของตำหนักซีอิงเสิ่น อาจจะมีสมบัติอื่นที่ซุกซ่อนเอาไว้อีกก็เป็นได้!
แต่ทว่าด้วยพื้นที่ว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ ‘เนี่ยลี่’ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นหาจากตรงจุดไหน
“ตามข้ามา!”
‘เนี่ยลี่’มองไปที่’เซี่ยวหยู่’แล้วพูดขึ้นมา ทั้งสองร่างบินออกไปราวกับลำแสง
ในตอนนี้ ที่ด้านนอกตำหนักซีอิงเสิ่น มีเจตจำนงอันน่ากลัวปกคลุมไปทั่วทั้งตำหนัก ในตอนนี้คนที่อยู่ในตำหนักซีอิงเสิ่น ต่างก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่น่ากลัวเหล่ายอดฝีมืออดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่พื้นที่ ที่ว่างเปล่าด้วยความรู้สึกที่น่าหวาดกลัว ราวกับว่าจะฉีกร่างกายของพวกเขาออกเป็นเสี่ยง ๆได้
หึ!
หึ! หึ!
มีเสียงแอบหัวเราะดังออกมาเล็กน้อย
เหล่ายอดฝีมือที่มิได้แข็งแกร่งนัก ด้วยความกดดันนี้ทำให้พวกเขาถึงกับกระอักเลือดออกมา และบางคนก็ถึงกับขาดใจตายในทันที
ทุกคนต่างรู้สึกหวาดกลัว
นี่เป็นพลังของ ยอดฝีมือระดับเทพสงคราม!
เมื่อฟังเสียงจากพื้นที่ ที่ว่างเปล่า ได้ยินเสียงลมหายใจอันเย็นยะเยือก ดังขึ้นมา
“ทุกคนที่อยู่ในตำหนักซีอิงเสิ่นแห่งนี้จงฟัง ข้าคือปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง แห่งนิกายเทพอสูร เมื่อใดก็ตามที่พวกเจ้าเข้ามาในตำหนักซีอิงเสิ่นแห่งนี้ พวกเจ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับออกไปได้ตำหนักซีอิงเสิ่นแห่งนี้ได้ถูกนิกายเทพอสูรควบคุมเอาไว้แล้ว พวกเจ้าจงทิ้งสมบัติที่มีเอาไว้ที่นี่ จึงจะกลับออกไปได้ ถ้าไม่เช่นนั้น พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตายอยู่ที่นี่!”
เสียงของ’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ ราวกับเสียงสายฟ้าฟาดผ่าลงมาในตำหนักแห่งนี้
เหล่ายอดฝีมือที่อยู่ในตำหนักซีอิงเสิ่น หันมองหน้ากัน แม้แต่อสูรจากนิกายเทพอสูร ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าใจ
‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’เป็นยอดฝีมือระดับเทพสงครามที่ไร้เหตุผลผู้หนึ่งในนิกายเทพอสูร เมื่อ’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ยื่นมือเข้ามา พวกเขาก็ไม่อาจแม้แต่จะคิดที่ออกจากตำหนักซีอิงเสิ่นนี้ออกไปได้ เว้นแต่พวกเขาจะยอมละทิ้งสมบัติไว้ ‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ มองดูพวกเขาด้วงความรังเกียจ แม้แต่ศิลาแก่นวิญญาณทองคำสักก้อน อย่าได้คิดว่าเขานั้นจะแบ่งปันให้สักก้อน
เมื่อ’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ปรากฏตัว เหล่ายอดฝีมือที่รวมตัวกันอยู่ที่นี่ ต่างก็ละทิ้งความคิดที่จะค้นหาสมบัติ แต่กลับไปคิดวิธีที่จะเอาตัวรอดกลับออกไปแทน
มียอดฝีมือหลายคน พยายามที่จะหลบหนีออกไปจากตำหนักซีอิงเสิ่น แต่พวกเขาก็วิ่งไปได้แค่เพียงไม่กี่ร้อยหมี่ ร่างกายของพวกเขาก็ระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ เหล่ายอดฝีมือที่กำลังจะหลบหนีเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ต่างก็เปลี่ยนใจกลับมาอยู่ตรงที่เดิม พร้อมกับรู้สึกเซียวซ่านไปทั่วทั้งหนังหัว
ในตอนนี้ทั่วทั้งตำหนักซีอิงเสิ่น ถูกควบคุมไว้โดย’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’แล้ว!
‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ ชำเลืองไปที่เหล่ายอดฝีมือ พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชาและพูดว่า
“ช่างไม่เสียดายชีวิตกันเลยนะ!”
ลมปราณของ’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ แผ่ขยายไปจนทั่วตำหนักซีอิงเสิ่น แต่กลับมีพื้นที่บางส่วนที่ลมปราณของเขาไม่อาจแผ่ไปถึง เขาพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา และปล่อยฝ่ามือที่แข็งแกร่งกระแทกไปยังพื้นที่ดังกล่าวหนึ่งที
ตูมม!
พลังจากฝ่ามือนั้นกระจายออกไปจนหมด
‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ถึงกับขมวดคิ้ว พลังจากฝ่ามือของเขาถูกขัดขวางจากข่ายอาคมทางด้านนอก ไม่อาจที่จะทะลวงผ่านเข้าไปได้
สมบัติที่ซุกซ่อนอยู่ในตำหนักซีอิงเสิ่นแห่งนี้ จะต้องซ่อนอยู่หลังข่ายอาคมนี้เป็นแน่ แต่ข่ายอาคมที่ขวางกั้นอยู่นี้แข็งแกร่งยิ่งนัก การที่จะทำลายมันลงและผ่านเข้าไปตามเส้นทางนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
จู่ ๆ ‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ก็เบิกตากว้างขึ้น มีประกายแสงสีดำออกมาจากดวงตาของเขา และกวาดสายตาไปทั่วข่ายอาคมนั้น
“หึ! ด้วยข่ายอาคมเพียงแค่นี้ คิดว่าจะหยุดข้าได้เช่นนี้รึ?”
‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ ยื่นฝ่ามืออันแข็งแกร่ง ไปจับตรงข่ายอาคม เขาเริ่มที่จะทำการศึกษาโครงสร้างของข่ายอาคมนี้ ทีละส่วน
ด้านใน ข่ายอาคม
‘เนี่ยลี่’และ’เซี่ยวหยู่’ยังคงค้นหาสมบัติกัน แต่ที่นี่ก็เป็นเพียงพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ และไม่อาจพบเจอกับสิ่งใด ความวุ่นวายที่ด้านนอกนั้น ไม่มีแม้แต่เสียงที่มาถึงที่นี่ได้
ถ้าหากเขารับรู้การมาถึงของ’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ ‘เนี่ยลี่’คงไม่รู้สึกสบายใจเช่นนี้เป็นแน่ เขาคงจะต้องหาวิธีหลบหนีออกไปจากที่นี่ทันทีเป็นแน่
ทันใดนั้น ก็มีแสงสีแดงเส้นหนึ่งอยู่ห่างจาก’เนี่ยลี่’และ’เซี่ยวหยู่’ ห่างออกไปไม่กี่พันหมี่
เมื่อเห็นเช่นนี้ เนี่ยลี่เผยรอยยิ้มที่มุมปาก อย่างท้าทาย
“คิดจะหลบหนี เช่นนั้นหรือ? ไม่มีทาง!”
พุ่งออกไปหาทันที
เมื่อเห็นเช่นนี้ ‘เซี่ยวหยู่’จึงรีบตามไป เพื่อช่วยเหลือ’เนี่ยลี่’ในการไล่ตามแสงสีแดงนี้
‘เนี่ยลี่’ไล่ตามแสงสีแดงไป แสงสีแดงพุ่งหนีไปราวกับเป็นดาวตก มีหางเป็นเปลวไฟทอดยาวไป
‘เนี่ยลี่’กระพือปีกสีขาวและดำที่หลังของเขาอย่างรวดเร็ว เขาพุ่งไปราวกับสายฟ้าฟาด และสะบัดมือขวาขึ้นมาทีหนึ่ง จิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ ถูกคลี่ออกมาอย่างรวดเร็ว และสร้างพื้นที่ครอบคลุมแสงสีแดงเอาไว้
แสงสีแดงนั้นดิ้นรนที่จะหนีออกไป
‘เนี่ยลี่’ขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดขึ้นมาว่า
“อย่าได้คิดที่จะหนี มันไม่ง่ายหรอกนะ!”
‘เนี่ยลี่’ทำการผลักดันด้วยพลังสวรรค์อย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่ของจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำมีขนาดที่เล็กลง มันเริ่มบีดรัดแสงสีแดง ยิ่งแสงสีแดงพยายามที่จะดิ้นรน มันก็จะบีบรัดยิ่งขึ้น
จนแสงสีแดงนั้นหยุดที่จะเคลื่อนไหว จากนั้นมันก็กลายเป็นลำแสง หายเข้าไปในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
‘เนี่ยลี่’สามารถที่จะจับแสงสีแดงนั้น เอาเข้าไปไว้ในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำได้แล้ว!
“นี่มันง่ายเกินไปหรือไม่?”
‘เนี่ยลี่’ขมวดคิ้ว เขาไม่รู้เลยว่า แสงสีแดงนั้นจะอ่อนแรงลงสักนิด และดูเหมือนว่ามันตั้งใจที่จะเข้ามายังจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ ด้วยตัวของมันเองเสียด้วยซ้ำ
“เจ้าคิดว่ามีสิ่งใดที่ผิดปกติเช่นนั้นหรือ?”
‘เซี่ยวหยู่’อดไม่ได้ที่จะมองที่เนี่ยลี่แล้วเอ่ยถาม เหตุใดหลังจากที่จับแสงสีแดงได้ แต่’เนี่ยหลี’กลับมีท่าทีเป็นกังวล?
“ข้าถูกเจ้านั่นเล่นงานเอาเสียแล้ว!”
‘เนี่ยลี่’ยิ้มอย่างขมขื่น
‘เนี่ยลี่’พยายามที่จะตรวจสอบเกี่ยวกับจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ ในตอนนี้ภายในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำเปลี่ยนแปลงไปมากมาย นอกเหนือไปจากทะเลสาบแห่งเทพ มันยังมีเสาค่ายกลขนาดใหญ่อยู่อีกหลายต้น และตำหนักซีอิงเสิ่นแบบย่อส่วนที่มีขนาดรัสมีหลายพันหมี่
แต่แสงสีแดงนั่นหายไปที่ไหนกัน ‘เนี่ยลี่’พยายามที่จะตรวจสอบจนทั่ว แต่ก็ไม่พบร่อยลอยของแสงสีแดงที่ซ่อนอยู่เลยแม้แต่น้อย
มีปัญหาเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ!
‘เนี่ยลี่’ยิ้มอย่างขมขื่น แต่เขาจะมาเสียใจในตอนนี้ก็คงจะสายเกินไปแล้ว เขารีบส่งเสียงไปหา’เทพธิดายู่หยาน’ทันที
“พี่สาวยู่หยาน ท่านต้องระวังตัวให้ดี มีอะไรบางอย่างที่ไม่ทราบแน่ชัดเข้าไปอยู่ใน จิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ ข้ายังไม่อาจที่จะหามันได้เจอ! ”
‘เทพธิดายู่หยาน’ที่ทำการบ่มเพาะพลังอยู่นั้น หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’ นางก็พยักหน้าตอบกลับไปว่า
“ข้าเข้าใจแล้ว! ข้าจะระวังตัวเองให้ดี”
แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าสิ่งที่’เนี่ยลี่’แจ้งมานั้นคือสิ่งใด แต่นางก็ระมัดระวังตัวอย่างรวดเร็ว
เมื่อมีสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้เข้าไปอยู่ข้างใน จิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ ‘เนี่ยลี่’ก็ไม่มีความคิดที่จะค้นหาสมบัติอีกต่อไป เขาจะต้องหาที่ซ่อนของแสงสีแดงนั่นให้ได้และนำมันออกจากจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ ให้เร็วที่สุด…………….
จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: