ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘กู้เบ่ย’นั้นรู้ดีว่า ในตระกูลกู้ สำหรับเขาแล้ว’กู้เหิง’มิใช่ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของเขา แต่เป็น’กู้อวี่’ผู้นี้!
‘กู้อวี่’แค่เพียงใช้’กู้เหิง’นั้นเป็นตัวหมากตัวหนึ่ง และในตอนนี้ตัวหมากชิ้นนั้นก็ได้ถูกทำลายลงไปแล้ว
‘กู้เหิง’นั้นมีหน้าที่แค่เบี่ยงเบนความสนใจเท่านั้น
‘กู้เบ่ย’มองดู’กู้เหิง’ด้วยสายตาอันเย็นชา จากนั้นก็หันหน้าไปทาง’กู้เทียนหลง’ และผู้อาวุโสท่านอื่น ๆ เขาประสานมือคารวะและโค้งคำนับเล็กน้อย
หลังจากนั้นข่าวสารภายในตระกูลกู้ ก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
ณ ห้องลับของ’หลงเทียนหมิง’
หลังจากที่ได้รับแจ้งข่าว’หลงเทียนหมิง’รู้สึกโกรธเกรี้ยวยิ่งนัก
“เจ้าขยะกู้เหิง เจ้าขยะ ขยะ!”
‘หลงเทียนหมิง’ตะโกนด่าด้วยความโมโห
เขานั้นได้เตรียมการที่จะมอบศิลาจิตวิญญาณบางส่วนเพื่อสนับสนุน’กู้เหิง’ เพื่อให้’กู้เหิง’สามารถกำจัดกองกำลังอสูรของ’กู้เบ่ย’ แต่ในตอนนี้ ‘กู้เหิง’กลับถูกขังอยู่ในห้องขังเดี่ยว ไม่อาจที่จะติดต่อหรือจัดการกับผู้ใดได้
กองกำลังของ’กู้เหิง’นั้น เขาเกรงว่าอีกไม่นานก็คงจะเข้าร่วมกับกองกำลังอสูร
ถ้าหากมองในฐานะตระกูลกู้ กองกำลังของ’กู้เหิง’นั้น ก็ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลกู้ พวกเขาจะต้องไม่ยอมให้กองกำลังนี้ตกไปอยู่ในมือของคนตระกูลอื่นเป็นแน่!
ตระกูลกู้ในตอนนี้’หลงเทียนหมิง’ไร้อำนาจในการควบคุมโดยสิ้นเชิงแล้ว และในตระกูลผนึกมังกรนี้ อิทธิพลของ’หลงยู่อิน’ก็เพิ่มขึ้นขึ้นอย่างรวดเร็ว และกองกำลังเส้นทางสวรรค์ของตระกูลเถ้าอัคคี ที่มีความใกล้ชิดกับกองกำลังอสูร ก็เติบโตขึ้นราวกับบ้าคลั่งเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ‘หลงเทียนหมิง’ก็รู้สึกได้ว่านี่จะต้องเป็นภัยคุกคามของเขาเป็นแน่!
การเติบโตของกองกำลังทั้งสามล้วนมีจุดเชื่อมโยงเดียวที่บุคคลคนเดียวกัน คือ’เนี่ยลี่’ ตราบเท่าที่’เนี่ยลี่’ยังคงมีชีวิตอยู่ ‘หลงเทียนหมิง’คงไม่อาจนอนหลับอย่างเป็นสุขได้
‘เนี่ยลี่’นั้นหลบซ่อนอยู่เบื้องหลังอยู่เสมอ ด้วยความจริงในข้อนี้ทำให้’หลงเทียนหมิง’ ยิ่งรู้สึกว่าถูกคุกคามมากยิ่งขึ้นตอนนี้ตัวหมากสำคัญของเขา ‘กู้เหิง’ ก็ได้ถูกทำลายไปแล้ว เขาจำเป็นที่จะต้องต่อสู้เพียงลำพัง!
‘หลงเทียนหมิง’หลี่ตาลงเล็กน้อย เผยให้เห็นประกายความดุร้าย ‘เนี่ยลี่’นั้นสร้างความประหลาดใจแก่เขาไม่น้อยในความสามารถของ’เนี่ยลี่’ เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่า’เนี่ยลี่’นั้นวางแผนที่จะทำสิ่งใดอยู่ ส่วนเรื่องภายในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์นั้น ‘เนี่ยลี่’ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้ทั้งหมด!
หลังจากที่’เนี่ยลี่’ได้ซ่อนตัวอยู่ในพื้นดินได้ไม่นาน ที่ด้านนอก ตำหนักซีอิงเสิ่นที่ยิ่งใหญ่นั้น มันกลายเป็นฟองลอยหายขึ้นไปราวกับความฝัน และหายไปโดยไร้ร่องลอย เหล่าผู้ที่ชุมนุมอยู่โดยรอบตำหนักซีอิงเสิ่นต่างก็แยกย้ายกันไป
เป็นไปตามที่’เนี่ยลี่’คิดเอาไว้ เขาได้ออกมาจากจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ และออกมาจากพื้นดิน จากนั้นก็เก็บจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำไว้ในห้วงขอบเขตวิญญาณของเขาตามเดิม
‘เซี่ยวหยู่’ยังคงบ่มเพาะพลังอยู่ข้างในนั้น ‘เนี่ยลี่’ขอให้’เซี่ยวหยู่’ซ่อนตัวอยู่ในจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำไปก่อน
เขาบิดขี้เกียจเล็กน้อย ในตอนนี้เขานั้นอยู่ในระดับสูงสุดของระดับดาราสวรรค์ เหลืออีกเพียงก้าวเดียวจะบรรลุสู่ระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกดียิ่งนัก
‘เนี่ยลี่’ได้ทะยานออกไปยังนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
“เนี่ยลี่ ในที่สุดเจ้าก็กลับมา!”
เมื่อได้เห็น’เนี่ยลี่’
‘ลู่เพียว’รู้สึกตื่นเต้น วิ่งไปทุบหน้าอกของ’เนี่ยลี่’
*เอิ่มม! คนแต่งคิดอะไรอยู่นะ
แม้ว่าชะตาวิญญาณของ’เนี่ยลี่’จะยังคงอยู่ในถ้องโถงวิญญาณ แต่’ลู่เพียว’ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้
‘เนี่ยลี่’ยิ้มเล็กน้อยและตอบกลับไปว่า
“ที่ด้านนอกมีเรื่องที่ทำให้ล่าช้าไปเล็กน้อย!”
เขาไม่ได้เล่าเรื่องอะไรต่อ เพราะประสบการณ์ที่เขาเพิ่งจะผ่านมานั้น ถ้าจะเล่าก็คงต้องใช้เวลานานนัก
‘กู้เบ่ย’หัวเราะอย่างอารมณ์ดี เขายิ้มและพูดว่า
“ในตอนที่เจ้าไม่อยู่ กู้เหิงได้ถูกตัดสินโทษให้คุมขังสามสิบปี คนที่มีฝีมือจากกองกำลังของเขานั้น ข้าได้ดึงให้มาเข้าร่วมกับกองกำลังของเราแล้ว”
‘เนี่ยลี่’ยักคิ้วด้วยความเจ้าเล่ห์ แม้ว่าเขาจะคิดเรื่องเหล่านี้เอาไว้แล้ว แต่เขาไม่คิดเลยว่า’กู้เบ่ย’จะจัดการกับ’กู้เหิง’ได้รวดเร็วถึงเพียงนี้
“ถ้าจะให้พูด ก้นของกู้เหิงนั้นก็ไม่ได้สะอาดอยู่แล้ว แล้วในสถานการณ์นี้ ที่เขานั้นพยายามที่จะลอบกัดข้า โดยการที่เขาร่วมมือกับผู้อาวุโสบางคน ข้าจึงใช้วิธีดึงผู้อาวุโสที่เป็นดั่งกำแพงให้เขามาจัดการเขาเอง”
ก้นไม่สะอาด เทียบกับสำนวนไทยคือ มือสกปรก+ซุกขยะไว้ใต้พรม คือการนั่งทับเรื่องชั่ว ๆ ของตัวเองเอาไว้ เมื่อลุกออกมาคนก็ต้องมองเห็น
“อืม ข้าก็คาดเอาไว้แล้ว ว่าไม่ช้าก็เร็วกู้เหิงก็ต้องเจอกับเรื่องเช่นนี้”
‘เนี่ยลี่’พยักหน้าพร้อมกับพูดออกไป
‘กู้เบ่ย’คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาพูดขึ้นมาว่า
“ข้าได้ยินมาว่าหลงเทียนหมิงนั้นได้ออกไปหาประสบการณ์ที่โลกภายนอก และได้สมบัติกลับมามากมาย แม้แต่แก่นแท้ศิลาจิตวิญญาณทองคำ และของมีค่ากว่า ห้าถึงหกล้าน ศิลาจิตวิญญาณเลยทีเดียว และในตอนนี้กองกำลังของเขาก็ได้ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเป็นไปได้ว่า เพราะเขารู้สึกว่าพวกเรานั้นเป็นภัยคุกคาม!”
เมื่อได้ยินคำพูดของ’กู้เบ่ย’ ‘เนี่ยลี่’ถึงกับขมวดคิ้ว
เรื่องนี้น่าสงสัยยิ่งนัก!
โลกภายนอกที่’หลงเทียนหมิง’ออกไปหาประสบการณ์นี้ ก็ควรจะเป็นที่ตำหนักซีอิงเสิ่น! ‘หลงเทียนหมิง’นั้นถูกเขาหลอกล่อให้เข้าไปในห้องโถงด้านใน ดังนั้นเขาไม่ควรที่จะเก็บเกี่ยวเอาสิ่งใดมาได้!
และถึงแม้ว่าจะเก็บเกี่ยวสิ่งใดมาได้ ‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’และโอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ ที่ได้ปิดล้อมตำหนักซีอิงเสิ่นเอาไว้ เมื่อ’หลงเทียนหมิง’กลับออกมา เขาก็กลับมาได้เพียงแค่มือเปล่า และไม่มีทางที่จะนำสมบัติที่มีค่า ห้าถึงหกล้านศิลาจิตวิญญาณกลับมาได้เลย!
ในระหว่างที่อยู่ที่นั่น จะต้องมีเรื่องอะไรที่น่าสงสัยเกิดขึ้นเป็นแน่!
ในชีวิตที่แล้วของเขา เขาเองก็รู้สึกว่า’หลงเทียนหมิง’ผู้นี้มีบางสิ่งที่ผิดปกติ ตอนที่นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ล่มสลาย สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มีเพียงแค่’หลงเทียนหมิง’เท่านั้น จึงมองเห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้มีบางอย่างที่ดูลึกลับและด้วยพลังของ’หลงเทียนหมิง’เพียงผู้เดียวนั้น ไม่อาจที่จะให้เป็นเช่นนั้นได้!
หรือว่า’หลงเทียนหมิง’นั้นจะสมคบคิดกับพวกที่อยู่ในนิกายเทพอสูรหรืออย่างไร?
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็จะสามารถอธิบายได้ว่า’หลงเทียนหมิง’รอดกลับมาจากตำหนักซีอิงเสิ่นอย่างปลอดภัย และได้รับสมบัติกลับมาเป็นจำนวนมากได้!
“ถ้าหากหลงเทียนหมิงมีศิลาจิตวิญญาณเป็นจำนวนมากถึงเพียงนั้น เงินทุนของพวกเราก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับเขาได้ ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเขานั้นประกาศรับเหล่ายอดฝีมือที่แข็งแกร่งอยู่! ”
“พวกเรามีสามกองกำลังที่เป็นพันธมิตรกัน ข้าไม่เชื่อว่าจะรับมือกับหลงเทียนหมิงไม่ได้!”
‘ลู่เพียว’บุ้ยปาก พร้อมกับพูดออกไป ‘หลงเทียนหมิง’นั้นก็มีแค่ความแข็งแกร่งทางด้านการเงินเท่านั้น
“ที่เจ้าพูดมานั้นผิดแล้ว หลงเทียนหมิงได้ก่อตั้งกองกำลังมานานหลายปีแล้ว ด้วยกองกำลังของเขานั้น แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่า กองกำลังอสูร กองกำลังเสียงเร้นลับ และกองกำลังเส้นทางสวรรค์รวมกันเสียอีก”
‘กู้เบ่ย’ส่ายหัวพร้อมกับตอบกลับไป
“เรื่องเงินนั้น พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะมอบให้แก่พวกเจ้า สิบล้านศิลาจิตวิญญาณ พวกเจ้าจะได้นำไปใช้เพื่อแข่งกับหลงเทียนหมิงในการรวบรวมเหล่ายอดฝีมือ ถ้าหากยังไม่พอ ข้าก็มีให้พวกเจ้าได้มากกว่านี้”
‘เนี่ยลี่’พูดขึ้นมาอย่างสงบนิ่ง
“สะ…สะสิบล้านศิลาจิตวิญญาณเช่นนั้นเหรอ?”
‘ลู่เพียว’มองเนี่ยลี่ด้วยความตกใจ เขานั้นรู้ดีว่า ศิลาจิตวิญญาณจำนวนสิบล้านก้อนนั้นมีค่าเพียงไหน มันเรียกได้ว่ามากมายยิ่งนัก ‘เนี่ยลี่’นั้น เพิ่งจะได้รับศิลาจิตวิญญาณมาเป็นจำนวนมาก ก่อนกลับมาที่นี่เช่นนั้นหรือ?
‘กู้เบ่ย’เองก็ตกตะลึงไม่น้อยไปกว่ากัน แม้เขาจะรู้ว่าเนี่ยลี่นั้นมีศิลาจิตวิญญาณอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่าจะมีมากถึง สิบล้านศิลาจิตวิญญาณ และดูเหมือนว่าเนี่ยลี่จะมีมากยิ่งกว่านี้อีก!
ด้วยศิลาจิตวิญญาณ สิบล้านก้อน จะมีอะไรที่พวกเขาต้องกลัว’หลงเทียนหมิง’อีก? ถ้าหากหลงเทียนหมิงจะใช้เงินในการรวบรวมคนเข้ากองกำลัง พวกเขาก็สามารถที่จะจ่ายได้ในที่สูงกว่าอย่างแน่นอน!
“เรื่องของกองกำลังอสูร ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าจัดการ ”
‘เนี่ยลี่’พูดพร้อมกับมองไปที่’กู้เบ่ย’และ’ลู่เพียว’
เนื่องจาก’เนี่ยลี่’เองต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะพลัง นอกจากนี้เขาจะต้องไปสืบค้นเรื่องราวของ’หลงเทียนหมิง’ ถ้าหากเขานั้นต้องการที่จะกำจัด’หลงเทียนหมิง’ การเผชิญหน้าโดยตรงคงไม่อาจที่จะทำได้ แต่ถ้าหากเขาสามารถจับจุดอ่อนบางอย่างของ’หลงเทียนหมิง’ได้ เรื่องนี้คงจะง่ายยิ่งขึ้น
“เจ้าไว้ใจพวกข้าได้ ไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องนี้ เมื่อมีศิลาจิตวิญญาณอยู่เป็นจำนวนมากถึงเพียงนี้ ถ้าพวกเราจัดการให้ดีไม่ได้ พวกเราก็คงต้องเอาหัวโขกกำแพงตายเสียแล้ว”
‘กู้เบ่ย’ตอบกลับด้วยความมั่นใจ
หลังจากที่ได้ประสบการณ์มาเป็นเวลานาน มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาได้เข้าใจ นอกจากนี้ความเป็นผู้นำของเขาเองก็ได้เติบโตขึ้นมากด้วย
เมื่อได้ยินคำพูดของ’กู้เบ่ย’
‘เนี่ยลี่’ก็ยิ้มแล้วพยักหน้า เขาได้เห็นภาพอันเลือนราง เป็นอดีตชาติของ’กู้เบ่ย’หนึ่งคนหนึ่งกระบี่ ที่สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตได้
และในชีวิตนี้ของเขา ‘กู้เบ่ย’ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเขา ‘กู้เบ่ย’จะต้องสามารถบรรลุถึงความสำเร็จไปยิ่งกว่าชีวิตที่ผ่านมาเป็นแน่
…………………จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: