ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ข้าต้องการพาพวกเจ้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง แต่พวกเจ้าจะต้องปกปิดเป็นความลับ อย่าได้เอ่ยปากแม้แต่คำเดียว อย่าให้ผู้ใดได้รับรู้โดยเด็ดขาด!”
‘เนี่ยลี่’จ้อง’กู้เบ่ย’และ’ลู่เพียว’ก่อนที่จะพูดขึ้นมา
“สถานที่แห่งหนึ่งเช่นนั้นหรือ? มันคือที่แห่งใดกัน?”
‘กู้เบ่ย’ถามด้วยความสงสัย
“เจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องกังวล พวกเราไม่มีทางที่จะเอ่ยปากให้ผู้ใดได้รับรู้แน่ เจ้าไม่เชื่อใจพวกเราหรืออย่างไร?”
‘ลู่เพียว’ พูดขึ้นมาพร้อมกับยิ้ม
‘เนี่ยลี่’ทำการสะบัดมือขวา เผยให้เห็นจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำแผ่ออกมา มีลำแสงห่อหุ้มที่’กู้เบ่ย’และ’ลู่เพียว’
จากนั้น ฟุ่บบ!
‘กู้เบ่ย’และ’ลู่เพียว’กลายเป็นแสงลอยเข้าไปข้างในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
‘กู้เบ่ย’และ’ลู่เพียว’ที่ล่องลอยอยู่ในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำนั้น พวกเขาได้แต่ตกตะลึง มันเป็นเรื่องที่เกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้
ทะเลสาบแห่งเทพที่ล่องลอยอยู่บนฟ้า มันหนาแน่นราวกับค่ายกลขนาดใหญ่ของพระเจ้า และดูเหมือนว่าจะมีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่อยู่อีกด้วย
พลังงานสวรรค์ที่นี่ก็หนาแน่นยิ่งนัก มากกว่าด้านนอกสิบหรือร้อยเท่าเลยทีเดียว!
พลังงานสวรรค์ที่ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด อยู่ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
“รากเทวะที่เนี่ยลี่จับออกมา ถูกย้ายมาที่นี่ เพื่อที่จะรวบรวมทะเลสาบแห่งเทพเอาไว้ในที่เดียวกัน!”
‘กู้เบ่ย’สามารถเข้าใจได้ในทันที
“ที่นี่คือพื้นที่ด้านในของภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำเช่นนั้นหรือ? ช่างกว้างใหญ่ยิ่งนัก ราวกับว่าเป็นโลกใบเล็กอีกใบหนึ่งเลยทีเดียว!”
‘ลู่เพียว’พูดขึ้นมาด้วยความตื่นตะลึง แม้ว่าเขาจะรู้ว่า ‘เนี่ยลี่’นั้นมีจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำอยู่ในมือ แต่เขาไม่รู้เลยว่าภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำจะเป็นสมบัติที่วิเศษถึงเพียงนี้
‘เนี่ยลี่’ที่ยังอยู่ในห้องพักของเขา เขานำภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำไปซ่อนเอาไว้ จากนั้นก็เข้าไปด้านในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
ภายในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
“เนี่ยลี่ เจ้าเข้ามาแล้วสินะ?”
เมื่อเห็น’เนี่ยลี่’ ‘กู้เบ่ย’ก็รีบทะยานมาหาทันที
“เนี่ยลี่ทะเลสาบแห่งเทพที่อยู่ภายในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำพวกนี้ ในหนึ่งวันสามารถเก็บเกี่ยวศิลาจิตวิญญาณได้มากแค่ไหน?”
‘ลู่เพียว’อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“ในหนึ่งวันก็น่าจะราว ๆ หนึ่งแสน หรือไม่ก็สักหนึ่งล้านก้อน ข้าเองก็ไม่ค่อยแน่ใจตัวเลขที่ชัดเจนสักเท่าไหร่”
‘เนี่ยลี่’ตอบหลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดขึ้นอีกว่า
“ภายในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำนี้มีพลังงานสวรรค์หนาแน่นยิ่งกว่าด้านนอก ดังนั้นอัตราการผลิตจึงสูงกว่าที่โลกภายนอกมากนัก!”
เมื่อได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’ ‘ลู่เพียว’และ’กู้เบ่ย’ก็ตกใจยิ่งนัก ในหนึ่งวันสามารถเก็บเกี่ยวได้ หนึ่งแสนถึงหนึ่งล้านก้อนเชียวหรือนี่?
นี่มันน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
แค่เพียงวันเดียว’เนี่ยลี่’ก็สามารถเก็บเกี่ยวศิลาจิตวิญญาณที่อยู่ภายในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ เท่ากับที่เหล่าผู้อาวุโสต้องใช้เวลาเก็บสะสมนับสิบปี เพียงแค่หนึ่งปี ความมั่งคั่งของ’เนี่ยลี่’คงจะไม่มีผู้ใดในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์จะเทียบเท่าได้เป็นแน่
“ถ้าหากว่า ในกรณีที่ พวกเราได้รากเทวะเพิ่มขึ้นมาอีก มันก็จะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่มากกว่าในตอนนี้สินะ?”
‘กู้เบ่ย’อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“เนี่ยลี่ เมื่อเจ้ามีศิลาจิตวิญญาณมากถึงเพียงนี้ เจ้าได้คิดที่จะ รับยอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์หรือไม่?”
‘กู้เบ่ย’อดที่จะถามต่อไปไม่ได้
เมื่อได้ยินคำแนะนำของ’กู้เบ่ย’ ‘เนี่ยลี่’ก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้เช่นกัน เขาอดคิดไม่ได้เลยว่านี่เป็นข้อเสนอที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก
“เผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์มันคืออะไรกัน?”
‘ลู่เพียว’อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย
‘กู้เบ่ย’จึงอธิบายต่อว่า
“เผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ เป็นเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ในพื้นที่ ที่เรียกว่า พื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด 无尽蛮荒:หวู่จิ่นหม่านฮวง เนื่องจากสายเลือดบรรพชนของพวกเขาแข็งแกร่งเกินไป จึงถูกจักรพรรดิปราชญ์ สาปให้พวกเขาอาศัยอยู่ได้เพียง พื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด ถ้าหากยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ต้องการออกจากพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด จะต้องลงนามในพันธสัญญาเป็นผู้รับใช้ของมนุษย์”
“เผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ นั้นต้องกลืนกินศิลาจิตวิญญาณจำนวนมากในแต่ละวัน แต่ขาดซึ่งทรัพยากรในพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด เพื่อให้เหล่ายอดฝีมือของเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์นั้นอยู่รอดต่อไปได้ พวกเขาจึงต้องหาทางออกมาจากพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด แต่ค่าจ้างของคนพวกนั้นก็นับว่าสูงยิ่งนัก อย่างน้อยก็ห้าถึงหกหมื่นศิลาจิตวิญญาณ แต่เผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็อยู่ในระดับวิถีแห่งมังกร!”
หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของ’กู้เบ่ย’ ‘ลู่เพียว’ก็ตาเบิกกว้าง หมายความว่า ตราบเท่าที่มีเงินพวกเขาก็สามารถที่จะว่าจ้างเหล่ายอดฝีมือที่อยู่ในระดับวิถีแห่งมังกรจำนวนมากได้เช่นนั้นหรือ?
“หลังจากที่พวกเราจัดการเรื่องที่ต้องทำในตอนนี้เสร็จ พวกเราค่อยเดินทางไปยังพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด!”
‘เนี่ยลี่’ตอบกลับไป ถ้าหากมียอดฝีมือที่อยู่ในระดับวิถีแห่งมังกรในกองกำลังของพวกเขา แน่นอนว่าจะต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองกำลังอสูรได้อีกมากเป็นแน่!
“แล้วในตอนนี้พวกเราต้องทำอะไร?”
‘กู้เบ่ย’และ’ลู่เพียว’อดไม่ได้ที่จะถามออกไปพวกเขาไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่า’เนี่ยลี่’นำพวกเขาเข้ามาในนี้เพื่ออะไร
“ข้าจะใช้ค่ายกลลับที่ชื่อว่า เก้ามังกรสวรรค์ 天龙九กับพวกเจ้า มันจะสามารถกระตุ้นจิตอสูรที่ผสานอยู่ในร่างกายของพวกเจ้า แต่พวกเจ้าต้องทำตามคำสั่งของข้าให้ดี!”
‘เนี่ยลี่’พูดออกไป
“เข้าใจแล้ว!”
‘กู้เบ่ย’และ’ลู่เพียว’ตอบรับในทันที
‘เนี่ยลี่’นำกระบี่เทพอัสนีดาวตกออกมา และกรีดลงบนแขนเบา ๆ จนเลือดรินไหลลงมาในชามใบหนึ่ง ‘เนี่ยลี่’ส่งชามเลือดไปให้กับ’กู้เบ่ย’และ’ลู่เพียว’พร้อมกับพูดว่า
“พวกเจ้าจงดื่มมันซะ! ข้านั้นเพิ่งจะได้พลังมาจากการสังเวยเลือดอสูร และในเลือดนี้ก็มีพลังของสายเลือดอสูรดั้งเดิมอยู่!”
‘กู้เบ่ย’และ’ลู่เพียว’ดื่มมันลงไปในทันที
เขารับรู้ได้ราวกับว่า คลื่นความร้อนไหลผ่านลำคอของพวกเขาลงไป พลังที่แฝงอยู่ในเลือดพวกนั้น ทำให้ร่างกายของพวกเขาแทบจะระเบิดออกมา
‘เนี่ยลี่’เริ่มทำการสร้างค่ายกลลับเก้ามังกรสวรรค์ ศิลาจิตวิญญาณนับร้อยหมื่นก้อนลอยขึ้นไปปกคลุมท้องฟ้า รวมตัวเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบลึกล้ำยิ่งนัก
ตูมม! ตูมม! ตูมม!
มีเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคลื่นพลังสวรรค์ก็ไหลรวมไปที่ตัวของ’เนี่ยลี่’ ‘กู้เบ่ย’ และ’ลู่เพียว’
พลังที่ราวกับว่าไม่มีที่สิ้นสุดเริ่มที่จะพลุ่งพล่าน
มีเงาร่างมังกรปรากฏขึ้นตัวหนึ่ง ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า และลงมาห่อหุ้มร่างกายของ’เนี่ยลี่’และพวกทั้งสามคนเอาไว้
เมื่อได้เห็นเช่นนี้ เจตจำนงของตำหนักซีอิงเสิ่นก็รู้สึกตกใจยิ่งนัก จากประสบการณ์นับหมื่นปีของเขา เขาไม่รู้เลยว่า’เนี่ยลี่’นั้นสร้างค่ายกลรูปแบบใดขึ้นมา เขารับรู้ได้เพียงว่า มันช่างทรงพลังยิ่งนัก
การใช้ค่ายกลประเภทนี้มีอันตรายยิ่งนัก ถ้าหากมีอะไรที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ร่างของพวกเขาทั้งสามจะระเบิดออกอย่างไม่มีชิ้นดี
แต่การที่’เนี่ยลี่’กล้าที่จะใช้วิธีนี้ เพราะ’เนี่ยลี่’มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมมันได้ เห็นได้ชัดว่า’เนี่ยลี่’นั้นมีระดับความรู้เกี่ยวกับค่ายกลนี้เป็นอย่างดี!
แค่เพียงหนึ่งปี คนธรรมดาผู้หนึ่ง สามารถบรรลุถึงระดับดาราสวรรค์ และอีกไม่นานก็จะบรรลุถึงระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ ถ้ามีผู้ใดได้รับรู้ถึงความก้าวหน้าอันรวดเร็วนี้ เกรงว่าพวกเขาคงจะต้องตกใจจนดวงตาทะลักออกมาเป็นแน่
ทั่วทั้งอาณาจักรซากมังกร เหล่าผู้มีพรสววรค์หลายหมื่นปีที่ผ่านมา ไม่มีผู้ใดที่จะเทียบได้กับ’เนี่ยลี่’ได้เลย
‘เนี่ยลี่’รับรู้ได้ว่า มังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์ แพนด้าเขี้ยวอสูร และจิตอสูรเงาพราย กำลังเริ่มที่จะดิ้นรนอีกครั้ง ความแข็งแกร่งของพวกมันเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ‘เนี่ยลี่’บ่มเพาะพลังได้แค่เพียงระดับดาราสวรรค์ แต่ความแข็งแกร่งของจิตอสูรทั้งสาม ทั้งหมดอยู่ในระดับแก่นแท้สวรรค์ขั้นที่หกแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์ ที่เป็นจิตอสูรสายเลือดมังกรและมีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้า แม้ว่าจะอยู่ในระดับแก่นแท้สวรรค์ขั้นที่หก แต่ถ้าหากต้องใช้ในการต่อสู้ ก็คงจะไม่ด้อยกว่าระดับแก่นแท้สวรรค์ขั้นที่เก้าเป็นแน่
ในขณะเดียวกัน ที่บ้านพักของ ‘หลี่ชิงอวิ๋น’
“รายงานนายน้อย! กู้เบ่ยและลู่เพียวนั้น ไม่ทราบเลยว่าพวกเขานั้นไปอยู่ที่ไหน พวกเราไม่ได้รับข่าวจากพวกเขาเลยขอรับ!”
คนรับใช้ผู้หนึ่งรีีบเข้ามารายงาน
‘หลี่ชิงอวิ๋น’ถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อย เขานั้นก็เพิ่งจะกลับจากโลกภายนอก เขาครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นมาว่า
“หลีหู่ เจ้าไปรออยู่ที่นั่น ถ้าหากกู้เบ่ยและลู่เพียวกลับมา ให้แจ้งพวกเขาทันที!”
“ขอรับ!”
‘หลีหู่’ตอบกลับไปพร้อมกับพยักหน้า เขาขมวดคิ้วเผยให้เห็นความกังวล ในเวลาสำคัญเช่นนี้ ‘กู้เบ่ย’และ’ลู่เพียว’กลับไม่อยู่ เขาจึงอดเป็นห่วงไม่ได้ ‘หลี่ชิงอวิ๋น’ก็เช่นกัน……….
จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: