ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ข้านั้นสนับสนุนเจ้า แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ จนกว่าเจ้าจะแสดงให้เห็นได้ว่า เจ้ามีความสามารถเพียงพอ ที่จะปกครองนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์”
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นพูดขึ้นมาหลังจากที่นิ่งเงียบไป
“ข้าจะพิสูจน์ให้ท่านอาจารย์ได้เห็นความสามารถของข้า แต่ข้าก็ยังคงมีเรื่องที่ต้องร้องขอการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากท่านอาจารย์!”
‘เนี่ยลี่’พูดออกไป
“เกี่ยวกับอุปนิสัยใจคอของเจ้า ข้าเห็นว่าเจ้านั้นเหนือกว่าหลงเทียนหมิง แต่ซื่อถู เป่ยเอี๋ยนก็เป็นคนดีไม่น้อย”
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นพูดต่ออีกว่า
“ซื่อถู เป่ยเอี๋ยนเป็นบุตรชายของท่านผู้นำนิกาย แต่น่าเสียดายจิตใจของเขาไม่เข้มแข็งพอที่จะชิงชัยตำแหน่งนี้ได้…..”
‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ ดูเหมือนว่าเนี่ยลี่จะเคยได้ยินชื่อของชายผู้นี้ ในชีวิตที่แล้วของเขาซื่อถู เป่ยเอี๋ยน เสียชีวิตอย่างลึกลับและกระทันหัน
ต่อมา’หลงเทียนหมิง’ได้ครองอำนาจ ซึ่งดูราวกับว่าเขาเป็นผู้ที่จัดการกับ’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ เนื่องจากในชีวิตที่แล้ว’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ ไม่อาจที่จะเอาชนะ’หลงเทียนหมิง’ได้ หากในชีวิตนี้ให้เขาได้ขึ้นครองตำแหน่งผู้นำนิกาย ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
“เรียนท่านอาจารย์ นี่คือยาทิพย์ที่ข้าได้กลั่นขึ้นมา! หลังจากที่ท่านได้ทานยาทิพย์นี้แล้ว ข้าเชื่อว่าท่านจะยอมรับความคิดของข้าได้…..และท่านจะเชื่อว่าข้าสามารถที่จะทำให้นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์รุ่งเรืองที่สุดในรอบพันปี!”
‘เนี่ยลี่’พูดด้วยความมั่นใจ จากนั้นเขาก็มอบยาทิพย์ให้แก่ ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นหยิบเอายาทิพย์ขึ้นมา และจับจ้องดูยาทิพย์อย่างละเอียด ดวงตาของเขาเกิดประกายแห่งความประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย
เขารู้สึกหวาดกลัวยาทิพย์นี้ยิ่งนัก
ในขณะที่ทานยาทิพย์ลงไป เขารับรู้ได้ถึงพลังที่เพิ่มสูงขึ้น ราวกับไม่รู้จักจบสิ้น ไหลผ่านลงคำพูด ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นรับรู้ได้จากร่างกายของเขา ราวกับว่าถูกเปลวไฟแผดเผา
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นนั้นเป็นยอดฝีมือในระดับเทพสงคราม โดยปกติแล้วการทานยาทิพย์ทั่ว ๆ ไป ก็ไม่อาจที่จะเพิ่มระดับพลังให้แก่เขาได้ เว้นแต่ว่าจะเป็นยาทิพย์สิบล้านปี แต่ยาทิพย์ชนิดนั้นการหามานั้นยากยิ่งนัก
หลายสิบปีที่ผ่านมา ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นแทบจะไม่ได้ทานยาทิพย์ใด ๆที่สามารถเพิ่มระดับพลังของเขาได้เลย
เนื่องจากระดับการบ่มเพาะพลังของเขานั้นสูงส่งยิ่งนัก
แต่ทว่า ภายใต้เอกภพแห่งยาทิพย์นี้ ระเบิดพลังออกมาราวกับบ้าคลั่ง และเพิ่มระดับการบ่มเพาะพลังของเขาให้สูงขึ้นไปได้อีก!
ในระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา ระดับการบ่มเพาะพลังของปรมาจารย์เทียนอวิ๋นหยุดค้างอยู่ที่ระดับเทพสงครามขั้นที่สาม ในวันนี้หลังจากที่ได้ทานยาทิพย์นี้ลงไป การบ่มเพาะพลังของเขาเพิ่มขึ้นราวกับบ้าคลั่ง ในตอนนี้ทะลวงผ่านไปถึงระดับเทพสงครามขั้นที่สี่ และยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น
ไม่ว่ายาทิพย์นี้จะกลั่นมาจากสิ่งใด แต่หากยาทิพย์นี้ช่างระเบิดพลังออกมาได้อย่างน่ากลัวยิ่งนัก
การตัดสินสถานะของผู้นำตระกูลนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับความแข็งแกร่งของศิษย์ในนิกาย แต่ขึ้นอยู่กับผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ท่ามกลางเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้านี้ ผู้ที่แข็งแกร่งที่อยู่อยู่ในระดับเทพสงครามขั้นที่ห้า ที่อ่อนแอที่สุดอยู่ในระดับเทพสงครามขั้นที่หนึ่ง ดังนั้นความแข็งแกร่งในระดับเทพสงครามขั้นที่ห้าจึงเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
ถ้าหากยอดฝีมือที่อยู่ในระดับเทพสงครามขั้นที่ห้ายังคงแข็งแรงอยู่ นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์จึงยังไม่อ่อนแอ! แต่ถ้าหากเหล่าห้าผู้ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งขึ้นไปกว่านี้ นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ก็จะไม่ล่มสลายลงเช่นเดียวกับชีวิตที่แล้วของเขา
การที่จะทะลวงผ่านระดับเทพสงครามขั้นที่ห้า ก็ต้องใช้เวลาหลายปี หรือหลายสิบปีที่ผ่านมา ก็ทำได้เพียงแค่เพิ่มระดับพลังได้แค่เพียงเล็กน้อย ถ้าหากพวกเขาต้องการที่จะเพิ่มระดับการบ่มเพาะพลังก็มอบยาทิพย์นี้ให้แก่พวกเขา แม้ว่าอาจจะไม่ได้เป็นวิธีที่ขาวบริสุทธิ์นัก แต่ก็เรียกว่าสามารถสร้างโอกาสได้
การบรรลุในแต่ละขั้นของระดับเทพสงคราม สามารถที่จะยืดอายุได้อีกสิบปี
เมื่อปรมาจารย์เทียนอวิ๋นมีชีวิตยาวนานยิ่งขึ้น เขาก็จะยิ่งมีอำนาจมากยิ่งขึ้น เขารับรู้ได้ว่าในหลายสิบปีที่ผ่านมา ชีวิตของเขาอาจจะมาถึงจุดสิ้นสุด แต่ในขณะนี้ ด้วยยาทิพย์บางอย่างของ’เนี่ยลี่’ ทำให้ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นก้าวไปถึงระดับเทพสงครามขั้นที่สี่!
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นาน ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นก็ได้ลืมตาขึ้นมา ดวงตาของเขาเปล่งประกายราวกับแสงจากระเบิด
“ข้าไม่คิดเลยว่า แค่เพียงยาทิพย์ขวดเล็ก ๆ จะระเบิดพลังออกมาได้น่ากลัวถึงเพียงนี้”
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและพูดขึ้นมา
“เนี่ยลี่ ตั้งแต่ที่เจ้าได้นำยาทิพย์นี้มาให้ข้าได้ทานลงไป ข้าก็รู้สึกเชื่อมั่นในตัวเจ้า ในฐานะที่ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า ข้าจะช่วยเหลือเจ้าในเรื่องนี้!”
“ท่านอาจารย์กล่าวเกินไปแล้ว เมื่อศิษย์มีสิ่งที่ดี ก็สมควรแล้วที่นำมาให้ท่านอาจารย์!”
‘เนี่ยลี่’ตอบกลับไปพร้อมกับยิ้ม การที่เขาวางตัวเป็นศิษย์ที่ดีของปรมาจารย์เทียนอวิ๋น เพราะเขานั้นมีความคิดบางอย่าง ที่ต้องการให้ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นช่วยเหลือ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นนิ่งเงียบไป เขาไม่คิดเลยว่า’เนี่ยลี่’จะมียาทิพย์ที่วิเศษเช่นนี้ สักห้าหรือหกขวด จะต้องทำให้นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ก้าวสู่ยุคใหม่เป็นแน่!
ประสิทธิภาพของยาทิพย์นี้ไม่เพียงที่จะช่วยเลื่อนระดับการบ่มเพาะพลังของเขา และยังคงเหลือพลังสำรองอยู่ในห้วงขอบเขตวิญญาณของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนในการดูดซับพลังที่หลงเหลือของยาทิพย์นี้ได้หมด
ด้วยผลของยาทิพย์ที่เหลือ ก็เพียงพอที่จะให้เขานั้นบรรลุระดับเทพสงครามขั้นที่ห้า หรือแม้แต่ระดับเทพสงครามขั้นที่หกได้
ด้วยยาทิพย์ที่วิเศษราวกับมีมนต์ขลังนี้ จะต้องกลั่นอย่างยากลำบากและหาได้ยากยิ่งเป็นแน่ ถ้าหากเขาต้องการที่จะได้สักห้าหรือหกขวด คงจะไม่ง่ายนัก
และด้วยในฐานะอาจารย์ การที่จะเอ่ยขอยาทิพย์จากเนี่ยลี่ มันก็จะเป็นการลดตัวจนเกินไป ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นไม่อาจที่จะทำเช่นนั้นได้
“ข้ามียาทิพย์อยู่ในตอนนี้บางส่วน ซึ่งมีมากว่าสามสิบขวด ข้าให้ท่านอาจารย์ช่วยนำไปมอบให้แก่เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าท่านอื่น ๆ เพื่อที่จะได้หันมาให้การสนับสนุนข้าให้มากที่สุด เพื่อที่ให้ข้าได้เป็นผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าข้าจะทำมันให้ดีที่สุด และจะทำอย่างเต็มที่ และจะทำให้นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์นั้นยิ่งใหญ่ ข้าเชื่อว่าท่านอาจารย์สามารถที่จะยืนยันได้ว่าข้ามีความสามารถมากพอ!”
‘เนี่ยลี่’พูดพร้อมกับส่งมอบยาทิพย์ให้แก่ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นมองดูยาทิพย์ในมือ’เนี่ยลี่’ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ ดวงตามองเห็นได้ชัดถึงความตื่นตะลึง
เรื่องเช่นนี้มันน่ามหัศจรรย์เกินไปแล้ว!
สำหรับยาทิพย์ดังกล่าวหากมีเพียงแค่ห้าถึงหกขวด ก็น่ากลัวเป็นอย่างมากแล้ว แต่จู่ ๆ ‘เนี่ยลี่’ก็นำมันออกมากว่าสามสิบขวด
ยาทิพย์สามสิบขวด นี่เขาคิดอะไรอยู่กันแน่!
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นหายใจถี่ขึ้น ปกติแล้วเขาเป็นคนที่สำรวมยิ่งนัก แต่เขารู้ถึงความหมายของยาทิพย์กว่าสามสิบขวดนี้ ไม่ใช่ว่าเขานั้นต้องการยาทิพย์พวกนี้ทั้งหมด แต่เขาเข้าใจดีว่ายาทิพย์ทั้งสามสิบขวดนี้ จะสร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่แก่นิกายขนนกศักดิ์ศักดิ์สิทธิ์!
“เนี่ยลี่เจ้ารู้ไหมว่ายาทิพย์ทั้งสามสิบขวดนี้มีค่าเพียงไหน? เจ้าต้องการที่จะมอบพวกมันให้แก่นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ เช่นนั้นหรือ?”
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะจ้องหน้าเนี่ยลี่และพูดออกไป
“ขอรับ!”
‘เนี่ยลี่’พูดด้วยท่าทีที่จริงจัง ยาทิพย์กว่าสามสิบขวดนี้ เขาตั้งใจที่จะกลั่นออกมาให้เหมาะสมกับระดับพลังของปรมาจารย์เทียนอวิ๋น
สำหรับประมาจารญ์เทียนอวิ๋น มันจะเป็นยาทิพย์ที่ล้ำค่ายิ่งนัก แต่ในสายตาของเนี่ยลี่นั้นมันไม่ได้มีค่ามากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเนี่ยลี่นั้นมีผลไม้แห่งพระเจ้าอยู่ในมืออีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงสามารถที่จะกลั่นยาทิพย์นี้ได้อีกเป็นจำนวนมากปรมาจารย์เทียนอวิ๋นพยักหน้าตอบกลับไป และพูดขึ้นว่า
“ในเมื่อเจ้ายินดีที่จะมอบยาทิพย์เหล่านี้ให้แก่นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ก็เท่ากับว่าเจ้าได้สร้างบุญคุณให้แก่นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์อย่างใหญ่หลวงแล้ว ข้าเชื่อว่าเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้า จะต้องซาบซึ้งบุญคุณในครั้งนี้ และสนับสนุนเจ้าให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง ผู้นำนิกายอย่างแน่นอน!”
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เหล่าผู้อาวุโสของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์จะต้องทำการ ปิดประตูฝึกตน แยกตนเองออกไปเพื่อมุ่งเน้นกับการบ่มเพาะพลังอย่างสงบ เพื่อเพิ่มระดับพลังของตนเอง และก็จะถึงเวลาในการถอนตัวจากตำแหน่งต่าง ๆ ในนิกาย
ตำแหน่งต่าง ๆ ในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ก็จะถูกคัดเลือกจากเหล่าผู้อาวุโสภายในนิกาย ส่วนตำแหน่งของผู้นำนิกายนั้น แน่นอนว่าจะถูกคัดเลือกโดยผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์!
‘เนี่ยลี่’นั้นได้ช่วยให้ เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ในการเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของการบ่มเพาะพลัง เพื่อที่จะให้เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์สนับสนุนให้เนี่ยลี่ขึ้นเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าจะไม่ใช่ความคิดที่ขาวบริสุทธิ์นัก แต่ก็นับว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า……………………
จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
บทต่อไป
& บทที่ 435 宗主之位 ตำแหน่งผู้นำนิกายที่มา: