I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 444.4 สงครามภายนอก

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 25841 | 2358 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ผู้ที่ลอบเข้ามาในที่คุมขังของตระกูลผนึกมังกรตอบกลับไปว่า

“ข้าคือศิษย์ของปรมาจารย์เทียนอวิ๋น นามว่าอู๋เหยี่ยน”

“ท่านมีธุระอันใดกับข้า?”

‘หลงเทียนหมิง’ถามไปด้วยความสงสัย

“ในอีกไม่นาน เจ้าก็จะพ้นโทษกักขังแล้ว แต่ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าเนี่ยลี่จะปล่อยเจ้าไป เจ้ายินดีที่จะร่วมมือกับข้าหรือไม่?”

‘อาจารย์อู๋เหยี่ยน’บอกความต้องการของเขาออกไป

“หึ! เนี่ยลี่ได้เป็นผู้นำนิกายไปแล้ว ข้ากับท่านจะทำสิ่งใดได้?”

‘หลงเทียนหมิง’พูดออกไปอย่างเย็นชา

“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ว่าเจ้านั้นติดต่อกับนิกายเทพอสูร!”

‘อาจารย์อู๋เหยี่ยน’พูดออกไป

“จะ…เจ้าพูดบ้าอันใดกัน?”

‘หลงเทียนหมิง’ตอบกลับไปด้วยความแปลกใจยิ่งนัก

“หลงเทียนหมิง ข้านั้นหาใช่คนโง่ ด้วยความสามารถของเจ้าเพียงลำพัง เจ้าจะก้าวล้ำเกินกว่าซื่อถู เป่ยเอี๋ยนได้อย่างไร?”

‘อาจารย์อู๋เหยี่ยน’พูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“ถ้าหากเจ้าพ้นโทษออกไปและติดต่อกับนิกายเทพอสูรได้ ข้าต้องการให้เจ้าแนะนำข้าให้แก่นิกายเทพอสูร ในเวลานี้ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นก็มิได้กลับมาฝึกฝนอยู่ที่ตำหนักเช่นเดิม ข้าเองก็กลายเป็นเพียงหมาหัวเน่าเท่านั้น ถ้าหากนิกายเทพอสูรยอมมอบอำนาจให้แก่ข้า ข้าก็ยินดีที่จะเผยความลับของนิกายของเราออกไป ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ข้าจะลอบเข้ามาอีกครั้งเพื่อขอรับคำตอบจากเจ้า ข้าขอตัว”

ทันทีที่พูดจบ’อาจารย์อู๋เหยี่ยน’ก็หลบออกไปในทันที

‘หลงเทียนหมิง’เองก็รู้ดีว่า ‘อาจารย์อู๋เหยี่ยน’กับ’เนี่ยลี่’นั้นไม่ลงรอยกันนัก นับตั้งแต่การประลองในเขตกลาง แต่เขาก็ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะความลับเรื่องการติดต่อกับนิกายเทพอสูร หากมีคนล่วงรู้ เขาก็ต้องรับโทษตายสถานเดียวเท่านั้น

พื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด

‘เนี่ยลี่’กับ’เสวียนอวี่’ได้เดินทางมาถึง’อวิ๋นเมี่ย’และเพื่อนของเขาอีกห้าคน พาชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่ยินดีจะติดตามเนี่ยลี่มารวมตัวกัน

“นายท่าน ระหว่างที่ท่านเสวียนอวี่เดินทางกลับไป ข้าได้ชักชวนคนมาเพิ่มได้ ในตอนนี้มีราวสองพันห้าร้อยคนที่ยินดีทำ พันธสัญญากับนายท่านขอรับ”

‘อวิ๋นเมี่ย’รายงานแก่’เนี่ยลี่’

“ทุกคนที่ยินดีที่จะติดตามข้า ข้าจะมอบศิลาจิตวิญญาณให้แก่ทุกคน คนละห้าหมื่นก้อน ถ้าหากพวกเจ้าตกลง ก็จงนำหนังสือพันธสัญญามาให้แก่ข้า”

‘เนี่ยลี่’นำศิลาจิตวิญญาณออกมาหนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้านก้อน’อวิ๋นเมี่ย’รวบรวมหนังสือพันธสัญญามาให้แก่’เนี่ยลี่’และทำหน้าที่แจกจ่ายศิลาจิตวิญญาณให้กับทุกคน

‘เนี่ยลี่’ถือหนังสือพันธสัญญาทั้งสองพันกว่าฉบับเอาไว้ พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า

“จากนี้ไปพวกเจ้าทุกคน ต้องติดตามข้าเป็นเวลาสองปี และหลังจากที่ผ่านไปสองปี หากพวกเจ้าคนใดไม่ต้องการที่จะติดตามข้าต่อไป ก็สามารถแยกตัวออกไปได้ทุกเมื่อ! ข้าจะไม่เหนี่ยวรั้งพวกเจ้าเอาไว้!”

จากนั้น’เนี่ยลี่’ก็กัดนิ้วหัวแม่มือขวาของเขา และหยดเลือดลงในหนังสือพันธสัญญา กว่าจะทำทั้งหมดจนเสร็จต้องใช้เวลาและเสียเลือดไปไม่น้อย

“โชคดีที่มีเพียงเท่านี้ หากต้องเสียเลือดมากกว่านี้ข้าคงล้มพับเป็นแน่”

‘เนี่ยลี่’พูดกับเหล่าชนเผ่าเมฆาสวรรค์พร้อมกับยิ้ม

“สำหรับชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะติดตามข้า ทุก ๆ เดือนข้าจะเดินทางมายังพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด เพื่อมารับพวกเจ้าคราวละห้าร้อยคน และนี่คือน้ำใจจากข้า”

‘เนี่ยลี่’นำอาหารจำนวนมากออกมาจากแหวนห้วงมิติของเขา

เป็นอาหารที่มากพอสำหรับคนสองพันกว่าคนในหนึ่งเดือน ซึ่งพวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้อง ออกไปขายตนเองเพื่อเป็นทาสผู้อื่นในเวลาหนึ่งเดือนนี้

“เสวียนอวี่ ข้าขอยืมกระท่อมของเจ้าได้หรือไม่?”

‘เนี่ยลี่’หันไปพูดกับ’เสวียนอวี่’

“ในตอนนี้ครอบครัวของข้าทุกคนก็ยินที่จะที่ติดตามท่าน กระท่อมของข้าก็ไม่มีผู้ใดพักอาศัยอยู่แล้ว นายท่านสามารถใช้ได้ตามที่ต้องการ”

‘เสวียนอวี่’ประสานมือตอบกลับไป

“เสวียนอวี่ อวิ๋นเมี่ย และอีกห้าคนเข้ามาข้างในกระท่อม ข้ามีงานให้พวกเจ้าทำ”

‘เนี่ยลี่’หันไปบอกพวก’อวิ๋นเมี่ย’

“ขอรับ”

‘เสวียนอวี่’ ‘อวิ๋นเมี่ย’ และอีกห้าคนตอบกลับและเดินตามเข้าไปในกระท่อม

“อวิ๋นเมี่ย กับพวกเจ้าอีกห้าคน พวกเจ้าจะต้องเข้าไปอยู่ในภาพจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำและคอยดูแลพวกเขา ข้าจะทะยอยนำคนเข้าไป เสวียนอวี่ให้นำคนเข้ามาคราวละยี่สิบคน”

‘เนี่ยลี่’สะบัดมือขวาของเขาและนำภาพจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำออกมา เขาไม่ต้องการที่จะใช้จิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำที่ด้านนอก เพราะจะมีคนภายนอกเห็นได้

‘เนี่ยลี่’ต้องใช้เวลากว่าสองชั่วยามจึงนำชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่ได้ทำพันธสัญญาทั้งหมดเข้าไปข้างในจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ

หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินทางออกจากพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด ปล่อยให้ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่เหลืออยู่ต้องแปลกใจที่เห็น คนเหล่านั้นหายเข้าไปในกระท่อมแต่ก็มิได้กลับออกมา

ภายในภาพจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ

‘อวิ๋นเมี่ย’และพวกของเขา ได้อธิบายเกี่ยวกับการอยู่ภายในภาพจิตกรรมนี้ และกำชับให้ทุกคนห้ามมิให้รบกวนกับคนอื่น ๆ ที่อยู่ในนี้

ที่ด้านนอก

หลังจากนั้นราวหนึ่งวัน ‘เนี่ยลี่’และ’เสวียนอวี่’ก็กลับมาถึงหน้านิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ และได้พบเห็นคนผู้หนึ่งยืนอยู่หน้าประตูนิกาย ดูเหมือนว่าเขาจะคุ้นหน้าคุ้นตากับคนผู้นี้ไม่น้อย แต่ดูเหมือนว่าเขานั้นจะได้รับบาดเจ็บอยู่

“ต้วนเจี้ยน นั่นเจ้าใช่หรือไม่?”

‘เนี่ยลี่’ตะโกนออกไป แม้ว่าจะเห็นหน้าไม่ชัด แต่’ต้วนเจี้ยน’กับเขานั้นได้เชื่อมโยงห้วงจิตวิญญาณกันอยู่
เมื่อเข้ามาใกล้ก็จะสัมผัสได้อย่างชัดเจน

เมื่อเห็นผู้ที่กำลังทะยานเข้ามา’ต้วนเจี้ยน’รีบประสานมือทำความเคารพทันที

“นายท่านเนี่ยลี่”

“เจ้าได้รับบาดเจ็บอยู่ใช่หรือไม่? ถ้าเช่นนั้นรีบเข้าไปข้างในนิกายก่อน จากนั้นค่อยมาคุยกัน”

‘เนี่ยลี่’แจ้งให้คนที่อยู่ด้านในเปิดประตูและพาต้วนเจี้ยนไปยังตำหนักผู้นำนิกาย

ไม่ทันที่จะพา’ต้วนเจี้ยน’ไปทำแผลและเปลี่ยนชุด ‘ต้วนเจี้ยน’ก็รีบบอกแก่’เนี่ยลี่’ว่า

“นายท่านเนี่ยลี่ นิกายเร้นเมฆาถูกนิกายห้าอสูรสายฟ้าเข้าโจมตี ซึ่งนำโดยยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรเสิ่นเหลย โม๋จุน ข้าได้รับมอบหมายให้มาขอความช่วยเหลือจากหกนิกายศักดิ์สิทธิ์”

“เสิ่นเหลย โม๋จุน?”

‘เนี่ยลี่’ขมวดคิ้ว เป็นคนจากเผ่าอสูรที่เขาพบเจอในตำหนักซีอิงเสิ่น แต่เหตุใด พวกนิกายอสูรจึงได้เข้าโจมตีนิกายเร้นเมฆาได้

“จอมมาร ได้อยู่ที่นิกายหรือไม่?”

‘เนี่ยลี่’อดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“หลายเดือนก่อนจอมมารได้แจ้งกับท่านผู้นำนิกายว่าจะเดินทางไปยังตำหนังซีอิงเสิ่น แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้กลับไปยังนิกาย”

‘ต้วนเจี้ยน’ตอบกลับไป

“ผู้นำนิกายเร้นเมฆานั้นเป็นยอดฝีมือระดับเทพสงครามขั้นที่หนึ่ง และเป็นผู้เดียวในนิกายที่ระดับพลังถึงขั้นเทพสงคราม ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะต้านรับการโจมตีจากยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรนับร้อยได้นานแค่ไหน”

‘ต้วนเจี้ยน’พูดต่อ

แม้ว่าเผ่าอสูรและมนุษย์จะมีความขัดแย้งกัน แต่ก็ไม่เคยที่จะถึงกับบุกทำลายนิกายอีกฝ่าย เพราะอาจจะเกิดสงครามใหญ่ของมนุษย์และเผ่าอสูรได้ ‘เนี่ยลี่’มีเวลาครุ่นคิดไม่มาก

แต่หากนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ออกหน้าไป ความลับที่ปกปิดเอาไว้ก็จะถูกเปิดเผย หากจะส่งคนไปช่วยเหลือ จะต้องเป็นยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรเท่านั้น และมีโอกาสที่จะต้องสูญเสีย

“ระยะทางในการเดินทางระหว่างนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ต้องใช้เวลาสองวัน พรุ่งนี้ข้าจะจัดเตรียมกองกำลังให้เดินทางไปพร้อมกับเจ้า ตอนนี้เจ้านั้นได้ผสานกับจิตอสูรหรือไม่?”

‘เนี่ยลี่’ตัดสินใจที่จะพูดออกไป

“ข้าได้รับจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับมหัศจรรย์จากท่านผู้นำนิกาย เป็น กุญชรเกล็ดมังกร ขอรับ”

‘ต้วนเจี้ยน’ตอบกลับไป ในนิกายเร้นเมฆาจิตอสูรตนนี้ก็นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าแล้ว

“ข้าจะมอบจิตอสูรตนใหม่ให้แก่เจ้า นี่คือ มังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬ เป็นจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้า ซึ่งเหมาะสำหรับสายเลือดมังกรดำที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า คืนนี้จงทำการผสานให้สำเร็จ และจดจำเทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพสุริยะทมิฬ ที่ข้าจะถ่ายทอดเอาไว้ด้วยมันจะทำให้เจ้ารุดหน้าได้ไวยิ่งขึ้นเมื่อผสานเข้ากับมังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬ”

‘เนี่ยลี่’นำจิตอสูรมังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬ เอาออกมาให้’ต้วนเจี้ยน’พร้อมกับถ่ายทอด เทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพสุริยะทมิฬให้แก่’ต้วนเจี้ยน’

“เจ้าจงผสานจิตอสูรและบ่มเพาะพลังอยู่ที่นี่ ข้าจะเตรียมการเรื่องกองกำลังให้แก่เจ้า”

“ขอบคุณนายท่านเนี่ยลี่”

‘ต้วนเจี้ยน’ประสานมือคารวะจากนั้นก็ทำการผสานกับจิตอสูรมังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬ อยู่ในตำหนักผู้นำนิกาย

‘เนี่ยลี่’บินไปยังพื้นที่ด้านหลังนิกาย ที่ได้มอบให้แก่ชนเผ่าเมฆาสวรรค์

“ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่อยู่ที่นี่จงฟัง ข้าได้พาครอบครัวของพวกเจ้ามาแล้ว แต่พวกเจ้าอาจจะได้อยู่กับครอบครัวเพียงแค่คืนเดียว พรุ่งนี้ข้าต้องการให้พวกเจ้าจำนวนสองร้อยคน ติดตามกู้เบ่ยไปช่วยเหลือนิกายเร้นเมฆา ที่ถูกนิกายห้าอสูรสายฟ้าเข้าโจมตี”

“ขอรับ!”

เหล่าชนเผ่าเมฆาสวรรค์ หันมองที่เนี่ยลี่และประสานมือตอบกลับไปในทันที นับแต่พวกเขาติดตาม’เนี่ยลี่’ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและแทบจะไม่ได้ทำสิ่งใดตอบแทน’เนี่ยลี่’เลย การที่ได้ตอบแทนบุญคุณในครั้งนี้ พวกเขาจึงเต็มใจยิ่งนัก แม้ว่าอาจจะต้องสละชีวิตก็ตาม

“ขอบใจพวกเจ้าทุกคนมาก”

‘เนี่ยลี่’สะบัดแขนขวาของเขาและนำชนเผ่าเมฆาสวรรค์ทั้งหมดออกมา

เมื่อครอบครัวได้มาพบหน้า พวกเขาต่างวิ่งไปโอบกอดกันอย่างมีความสุข แม้ว่าน้ำตาจะนองใบหน้า แต่ก็เป็นน้ำตาแห่งความสุขสมและยินดี

ตำหนักผู้นำนิกาย

‘เนี่ยลี่’ได้เรียก’กู้เบ่ย’ ‘ลู่เพียว’ ‘หลี่ชิงอวิ๋น’และ’หลงยู่อิน’เข้ามาประชุมด่วน

“ในตอนนี้นิกายเร้นเมฆาถูกนิกายห้าอสูรสายฟ้าเข้าโจมตี ข้าต้องการให้กู้เบ่ยนำกองกำลังจากชนเผ่าเมฆาสวรรค์จำนวนสองร้อยคนไปช่วย”

‘เนี่ยลี่’มองไปที่’กู้เบ่ย’และพูดขึ้นมา

“แต่ศึกนี้เป็นเรื่องภายนอกนิกาย เจ้าคิดดีแล้วเช่นนั้นหรือ?”

‘หลี่ชิงอวิ๋น’แย้งออกไป ก่อนหน้านี้ที่เขาเคยเสนอให้ไปโจมตีนิกายเทพอสูร แต่’เนี่ยลี่’ก็ได้ปฏิเสธ แต่เหตุใดในตอนนี้จึงคิดจะยื่นมือไปช่วยนิกายเร้นเมฆาที่ถูกถูกนิกายห้าอสูรสายฟ้าเข้าโจมตี

“ข้าเข้าใจที่พี่ชิงอวิ๋นกังวล ภารกิจในครั้งนี้ถือเป็นภารกิจลับ ‘ยู่อิน’เจ้าสามารถที่จะหาชุดดำปกปิดให้แก่ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ได้หรือไม่
ข้าต้องการในเช้าวันพรุ่งนี้”

‘เนี่ยลี่’หันไปถาม’หลงยู่อิน’

“ท่านอาจารย์ เรื่องนี้ข้าจะรีบเตรียมการให้ในทันที!”

‘หลงยู่อิน’ตอบกลับไป

“แล้วเจ้าจะให้กู้เบ่ยนำกองกำลังไปเพียงลำพังเช่นนั้นหรือ?”

‘ลู่เพียว’อดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“กู้เบ่ยนั้นเป็นผู้เดียวในกลุ่มพวกเราที่บรรลุระดับเทพสงคราม ในคราวนี้ขอให้เจ้าใช้ชื่อเทพกระบี่ในการดำเนินภารกิจ อย่าได้เปิดเผยตัวจริงเป็นอันขาด!”

‘เนี่ยลี่’พูดอย่างจริงจัง

“ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ใช้ชื่อนั้นที่โลกภายนอก”

‘กู้เบ่ย’หัวเราะด้วยความยินดี

“ข้าเองก็อยากจะได้ฉายาเช่นนี้บ้าง”

‘ลู่เพียว’บ่นขึ้นมาเบาๆ

“ข้าขอตั้งให้เจ้าเป็นเทพเฝ้าประตู ฝากประตูเมืองด้านที่ข้าดูแลของข้าด้วยนะ”

‘กู้เบ่ย’ตบไหล่ลู่เพียวพร้อมกับหัวเราะ

“ภารกิจในคราวนี้ พยายามให้สูญเสียน้อยที่สุด และจงจัดการให้เด็ดขาดที่สุดฝากด้วยนะ”

‘เนี่ยลี่’กำชับ’กู้เบ่ย’อีกครั้ง

“แน่นอน”

‘กู้เบ่ย’ให้คำมั่น

…………………….จบตอน

แต่งโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments