I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 444.5 เทพกระบี่

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 24431 | 2332 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เช้าวันต่อมา

‘เนี่ยลี่’รวบรวมชนเผ่าเมฆาสวรรค์ที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่ห้าถึงขั้นที่เก้าจำนวนสองร้อยคน และให้สวมชุดคลุมปกปิดร่างกายที่’หลงยู่อิน’ได้จัดเตรียมมาให้

“ต้วนเจี้ยน เจ้าพร้อมแล้วหรือไม่?”

‘เนี่ยลี่’มองไปที่’ต้วนเจี้ยน’ที่ยังทำการนั่งบ่มเพาะพลังอยู่

“ข้าพร้อมแล้ว ด้วยจิตอสูรมังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬ และเทคนิคการบ่มเพาะพลังที่นายท่านมอบให้ข้า ทำให้ข้าบรรลุถึงขั้นวิถีแห่งมังกรขั้นที่หกแล้ว”

‘ต้วนเจี้ยน’ลืมตาขึ้นและตอบกลับไป

“คนผู้นี้คือสหายของข้า เขามีนามว่ากู้เบ่ย แต่เจ้าจงเรียกเขาในชื่อ เทพกระบี่ เพราะนี่ถือว่าเป็นภารกิจลับของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์”

‘เนี่ยลี่’พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“คารวะท่านเทพกระบี่”

‘ต้วนเจี้ยน’ลุกยืนขึ้น ประสานมือทำความเคารพ’กู้เบ่ย’ สหายของนายท่าน’เนี่ยลี่’ ก็นับว่าเป็นนายของเขาเช่นกัน และด้วยระดับพลังขั้นเทพสงคราม นับว่าสมควรแล้วที่เขาต้องให้ความเคารพ

“อย่าได้พูดเช่นนี้กับข้า แม้ว่าเจ้าจะเป็นผู้รับใช้ของเนี่ยลี่ แต่เขาก็บอกกับข้าว่าเจ้าเองก็เป็นดั่งสหายผู้หนึ่งของเขา ดังนั้นให้ถือว่าเจ้าและข้าเป็นสหายกัน”

แม้ว่า’กู้เบ่ย’จะชอบยกยอตนเองว่าเป็นปรมาจารย์แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ถือตัวอะไร

“พวกเจ้าจงรีบเดินทาง ไม่รู้ว่าผู้นำนิกายเร้นเมฆาจะต้านทานได้นานเพียงไหน? หลังจากทำการช่วยเหลือนิกายเร้นเมฆาแล้ว กู้เบ่ยขอให้เจ้าคอยเฝ้าระวังนิกายเร้นเมฆาราวเจ็ดวัน เมื่อเห็นว่าปลอดภัยดีแล้วจากนั้นค่อยเดินทางกลับ”

‘เนี่ยลี่’เกรงว่าหาก’กู้เบ่ย’รีบกลับมา นิกายเร้นเมฆาอาจจะถูกโจมตีซ้ำได้

“ข้าเข้าใจแล้ว ต้วนเจี้ยนเราออกเดินทางกันได้แล้ว!”

‘กู้เบ่ย’หันไปมองต้วนเจี้ยนจากนั้นก็ทะยานออกไป

“นายท่านเนี่ยลี่ ข้าขอบคุณท่านมาก หลังจากจบธุระเรื่องนี้ ข้าจะมาขอบคุณท่านอีกครั้ง”

‘ต้วนเจี้ยน’ประสานมือขอบคุณจากนั้นก็กางปีกบินออกไป

สองวันต่อมา นิกายเร้นเมฆา

“เฉียงอวิ๋น เจ้าจะปกป้องตำหนักผู้นำนิกายได้นานแค่ไหนกัน ข้ารู้ว่าที่ด้านล่างตำหนักของเจ้าเป็นห้องโถงวิญญาณของนิกายเร้นเมฆา”

‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’ ตะโกนอยู่บนฟ้า 墙云:เฉียงอวิ๋น:กำแพงเมฆา

“เหตุใดเจ้าจึงไม่มาต่อสู้กับข้าอย่างตรงไปตรงมา”

‘เฉียงอวิ๋น’ ผู้นำนิกายเร้นเมฆาตะโกนกลับไป หากเขาไม่ต้องปกป้องห้องโถงวิญญาณ เขาก็คงสามารถจัดการกับอสูรพวกนี้ได้แล้ว แต่ถ้าหากห้องโถงวิญญาณถูกทำลายไป นิกายเร้นเมฆาก็จะล่มสลายไปในทันที

“กับพวกมนุษย์เช่นพวกเจ้า ข้าไม่จำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้น”

‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’พูดอย่างเย็นชา

“หึ เผ่าอสูรช่างขี้ขลาดยิ่งนัก”

‘เฉียงอวิ๋น’ ถ่มน้ำลายออกไปด้วยความดูถูก

“เจ้ามนุษย์โสโครก แม้ว่าเจ้าจะอยู่ในระดับเทพสงคราม ข้าจะดูว่าในตอนนี้เจ้าจะยังรับมือกับกระบวนท่านี้ของข้าได้หรือไม่?”

‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’ รวบรวมสายฟ้ามาไว้ในมือ มองเห็นเป็นก้อนสายฟ้าขนาดใหญ่ตรงมือของ’เสิ่นเหลย โม๋จุน’ ด้วยพลังอันรุนแรงนี้
ยอดฝีมือระดับเทพสงครามที่เหนื่อยอ่อนอยู่ คงจะต้านรับไม่ไหวเป็นแน่

“ฝ่ามือห้ามังกรอัสนี!”

มีมังกรสายฟ้าห้าตนพุ่งออกมาจากฝ่ามือของ’เสิ่นเหลย โม๋จุน’

ฉึกก!

“อ๊ากกกก”

กระบี่เล่มหนึ่งพุ่งมาปักที่มือของ’เสิ่นเหลย โม๋จุน’ ทำให้พลังของฝ่ามือห้ามังกรอัสนีกระจัดกระจายออกไป หลังจากนั้นกระบี่เล่มนั้นก็จางหายไป

“ใครกัน?”

‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’ หันไปมองยังทิศทางที่กระบี่พุ่งมา มองเห็นคนที่อยู่ในชุดผ้าคลุมปิดบังตนเองอยู่ห่างออกไป หลายสิบลี้

‘ต้วนเจี้ยน’และ’กู้เบ่ย’ มาถึงที่นิกายเร้นเมฆาได้ทันเวลาพอดี หลังจากที่’กู้เบ่ย’ สลายเจตจำนงแห่งกระบี่บรรพชน พวกเขาก็บินไปยืนอยู่ตรงหน้า’เสิ่นเหลย โม๋จุน’

“ข้าคือเทพกระบี่ เจ้าคนจากเผ่าอสูรกล้าดีเช่นใดจึงคิดมาถล่มนิกายเร้นเมฆาเช่นนี้”

‘กู้เบ่ย’พูดพร้อมกับปลดปล่อยลมปราณระดับเทพสงครามออกไป

“ลมปราณนี้อยู่ในระดับเทพสงครามขั้นที่หนึ่ง!”

‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’พูดขึ้นมาด้วยความตกใจและที่ด้านหลังของพวกเขายังมีกลุ่มคนที่อยู่ในชุดปกปิดใบหน้าอีกกว่าร้อยคน

“เทพกระบี่ข้าขอให้ท่านไปช่วยคุ้มครอง ท่านผู้นำนิกายเฉียงอวิ๋น ข้าขอเป็นผู้ที่จัดการเสิ่นเหลย โม๋จุนเอง”

‘ต้วนเจี้ยน’พูดขึ้นมาด้วยความโกรธแค้น

“ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าก็จะไม่ขัดขวาง”

‘กู้เบ่ย’บินไปหาผู้นำนิกาย’เฉียงอวิ๋น’

“ทะ…เทพกระบี่เช่นนั้นหรือ ท่านเป็นคนจากนิกายใดกัน?”

ผู้นำนิกายเฉียงอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะถามออกไป แม้ว่าผู้ที่ปกปิดใบหน้าย่อมไม่คิดที่เปิดเผยตนเองเป็นแน่

“เรื่องนั้นท่านไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ ข้าว่าท่านรอดูการต่อสู้ของต้วนเจี้ยนจะดีกว่า”

‘กู้เบ่ย’หันไปมองทาง’ต้วนเจี้ยน’กับ’เสิ่นเหลย โม๋จุน’

“ต้วนเจี้ยนนั้นเพิ่งจะบรรลุระดับวิถีมังกรขั้นที่หนึ่ง ไม่มีทางที่จะสู้กับยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่เจ็ดอย่าง เสิ่นเหลย โม๋จุนได้”

ผู้นำนิกาย’เฉียงอวิ๋น’พูดพร้อมกับส่ายหน้า

“ท่านจงดูระดับพลังต้วนเจี้ยนให้ดี”

‘กู้เบ่ย’ยังคงมองไปที่’ต้วนเจี้ยน’และ ‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’

“เจ้าเด็กน้อยที่ เฉียงอวิ๋นช่วยให้หลบหนีไปสินะ ไม่คิดเลยว่าจะกลับมารนหาที่ตายเช่นนี้?”

‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’พูดด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา เขานั้นมีความกังวลกับคนที่เรียกตกเองว่าเทพกระบี่มากกว่า หากเขายื่นมือเข้ามาช่วย
จะต้องเกิดปัญหาขึ้นเป็นแน่

“เทพกระบี่จะไม่มาแทรกแซงการต่อสู้ของข้ากับเจ้า”

‘ต้วนเจี้ยน’พูดออกไป พร้อมกับปลดปล่อยลมปราณออกมา

“ลมปราณระดับวิถีมังกรขั้นที่หก?”

‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’ อดที่จะรู้สึกแปลกใจไม่ได้ แต่ก็ยังนับว่าด้อยกว่าเขาอยู่ขั้นหนึ่ง

“ผสานจิตอสูร!”

‘ต้วนเจี้ยน’เรียกจิตอสูรมังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬ ออกมาและผสานอย่างรวดเร็ว เดิมทีมังกรตัวนี้เป็นแค่จิตอสูรเพลิงทมิฬ แต่คุณสมบัติสายฟ้าได้มาจากการกลายพันธุ์

ร่างกายของ’ต้วนเจี้ยน’ขยายใหญ่ขึ้นหลายสิบเมตร มีเปลวเพลิงสีดำลุกไหม้ปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของเขา หลังจากที่ผสานร่างแล้วระดับพลังของเขาเพิ่มสูงขึ้นอีกหนึ่งระดับ จนเทียบเท่ากับ’เสิ่นเหลย โม๋จุน’

“ต้วนเจี้ยนไปได้จิตอสูรตนนั้นมาจากที่ใดกัน? จิตอสูรที่ข้ามอบให้แก่เขาคือกุญชรเกล็ดมังกรมิใช่หรือ”

“สหายของข้าได้เป็นผู้มอบให้แก่เขาเอง”

‘กู้เบ่ย’ตอบกลับไปเพียงสั้น ๆ

“หึ แม้ว่าระดับพลังจะเท่ากัน แต่เจ้าจะรับมือสิ่งนี้ได้หรือไม่?”

‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’รวบรวมสายฟ้าไว้ที่ฝ่ามืออีกครั้ง เขาชำเลืองมองดูที่เทพกระบี่ แต่ดูเหมือนว่าเทพกระบี่จะยืนกอดอกดูอยู่เฉย ๆ
เพียงเท่านั้น

“จงตายไปซะ! ฝ่ามือห้ามังกรอัสนี!”

มังกรสายฟ้าห้าตนพุ่งออกจากฝ่ามือของ ‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’พุ่งเข้าปะทะร่างของมังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬอย่างรุนแรง

ตูมม! ตูมม! ตูมม! ตูมม! ตูมม!

“เจ้าเด็กโอหัง ข้าคิดว่าเจ้าจะเก่งกาจสักเพียงไหนกัน ฮ่าฮ่าฮ่า”

‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’หัวเราะลั่น หลังจากที่’ต้วนเจี้ยน’ไม่ได้ขยับตัวหลบเลยแม้แต่น้อย

หลังจากที่ควันจากการปะทะ จางลงไป มังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬ ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย อสูรมังกรสายฟ้าเพลิงทมิฬสามารถต้านทานได้ทั้งธาตุไฟและสายฟ้า ถ้าหากไม่ถูกโจมตีด้วยไฟหรือสายฟ้าจากยอดฝีมือที่มีระดับเหนือกว่าราวห้าขั้น ต้วนเจี้ยนสามารถต้านรับได้ทั้งหมด

“นี่คือกระบวนท่าที่รุนแรงที่สุดของเจ้าแล้วใช่หรือไม่?”

‘ต้วนเจี้ยน’เอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา

“เพลิงทมิฬ!”

‘ต้วนเจี้ยน’พ่นเพลิงทมิฬไปล้อม ‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’เอาไว้เพื่อมิให้’เสิ่นเหลย โม๋จุน’ หลบหนีไปได้

“ข้าขอแก้แค้นให้กับศิษย์ของนิกายเร้นเมฆาที่ถูกเจ้าสังหารไป!”

‘ต้วนเจี้ยน’พูดพร้อมกับใช้กงเล็บพุ่งไปหา’เสิ่นเหลย โม๋จุน’อย่างรวดเร็ว กรงเล็บพุ่งปักไปที่หน้าอกของ’เสิ่นเหลย โม๋จุน’ หลังจากนั้นเพลิงสีดำก็ลุกไหม้อย่างร้อนแรง จากนั้น’ต้วนเจี้ยน’ก็ดึงกรงเล็บออก

“ตอนนี้เจ้าได้เริ่มต้นสงครามระหว่างมนุษย์และเผ่าอสูรแล้ว”

‘เสิ่นเหลย โม๋จุน’ เอามือกุมบาดแผลและพูดขึ้นมา

“ผู้ที่เริ่มสงครามคือเจ้า มิใช่พวกข้า!”

‘ต้วนเจี้ยน’คลายการผสานร่างและตอบกลับไป

“เรื่องนั้น เผ่าอสูรของพวกข้าหาได้รู้ไม่ ฮ่าฮ่าฮ่า”

ร่างกายของ’เสิ่นเหลย โม๋จุน’ถูกเผาไหม้จนร่วงลงไปตายในที่สุด

‘ต้วนเจี้ยน’บินลงไปหาผู้นำนิกาย’เฉียงอวิ๋น’และพูดขึ้นว่า

“ท่านอาจารย์ ข้าได้แก้แค้นให้พี่น้องของเราแล้วขอรับ”

แท้จริงแล้ว’ต้วนเจี้ยน’ได้เป็นศิษย์ของผู้นำนิกาย’เฉียงอวิ๋น’

‘กู้เบ่ย’พยักหน้าเรียกชนเผ่าเมฆาสวรรค์ให้ลงมาอยู่ด้านล่าง จากนั้นเขาก็ตะโกนออกไปทาง พวกของนิกายห้าอสูรสายฟ้าที่ยังลอยอยู่ด้านบนว่า

“ข้าคือเทพกระบี่ พวกเจ้ายังคิดที่จะต่อสู้อีกหรือไม่?”

“พวกเจ้าสังหารเสิ่นเหลย โม๋จุนเพียงแค่คนเดียว นิกายห้าอสูรสายฟ้ายังมีศิษย์เอกอีกสี่คนที่อยู่ตรงนี้”

เสียงดังมาจากทางพวกของนิกายห้าอสูรสายฟ้า ศิษย์เอกของนิกายอสูรสายฟ้าอีกสี่คนมีระดับพลังอยู่ที่วิถีแห่งมังกรขั้นที่ เจ็ด แปด และระดับที่เก้าอีกสองคน

‘หมายความว่า นิกายห้าอสูรสายฟ้า ส่งคนระดับศิษย์เอกทั้งห้าเพื่อมาทำลายนิกายเร้นเมฆาเช่นนั้นหรือ? ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะต้องมีเงื่อนงำอยู่เป็นแน่’

‘กู้เบ่ย’คิดในใจ

“ถ้าเช่นนั้นนิกายห้าอสูรสายฟ้าคงไร้ผู้สืบทอดนับแต่ในวันนี้แล้ว”

‘กู้เบ่ย’ระเบิดลมปราณออกมาพร้อมกับ สร้างปราณกระบี่ที่ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางของเขาของเขา ด้วยมือทั้งสองข้าง

“กระบี่ร้อยดารา” 一百星天剑 ลมปราณก่อรูปกระบี่จากด้านหลังของกู้เบ่ยจำนวนหนึ่งร้อยเล่มพุ่งเข้าหาคนของนิกายห้าอสูรสายฟ้าที่บินอยู่บนฟ้า ยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรของนิกายห้าอสูรสายฟ้าถูกกระบี่แทงและล้มตายในทันที มีบางส่วนที่หลบพ้นจุดตายได้
‘กู้เบ่ย’ส่งสัญญาณให้ชนเผ่าเมฆาสวรรค์ทั้งหมดเข้าจัดการคนที่เหลือทั้งหมด

“เพียงเท่านี้ นิกายห้าอสูรสายฟ้าก็จบสิ้นแล้ว”

‘กู้เบ่ย’หันไปพูดกับผู้นำนิกาย’เฉียงอวิ๋น’และ’ต้วนเจี้ยน’

“เปล่าเลย แม้ว่าผู้นำทั้งห้าจะถูกสังหารไป อาจารย์ของพวกเขาก็ยังคงอยู่ ปรมาจารย์ต้าเหลย เป็นยอดฝีมือระดับเทพสงครามขั้นที่สอง และเขาก็เป็นผู้นำนิกายห้าอสูรสายฟ้า”

大雷:ต้าเหลย:สายฟ้าผู้ยิ่งใหญ่

“ท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะอยู่ดูแลนิกายเร้นเมฆาจนกว่าจะมั่นใจว่า ปลอดภัยดีแล้ว”

‘กู้เบ่ย’พูดออกไปพร้อมกับมองไปบนท้องฟ้า

นิกายห้าอสูรสายฟ้า

“เจ้าว่าเช่นใดนะ ศิษย์เอกของข้าถูก ผู้เรียกตนเองว่าเทพกระบี่สังหารทั้งหมดเช่นนั้นหรือ?”

‘ปรมาจารย์ต้าเหลย’ตะโกนออกไปหลังจากศิษย์ผู้หนึ่งเข้ามารายงาน ศิษย์ผู้นี้อยู่ระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ขั้นที่เก้า เมื่อตายไปจึงกลับมาคืนชีพที่ห้องโถงวิญญาณของนิกายห้าอสูรสายฟ้า

“เป็นเรื่องจริงขอรับ คนผู้นั้นปกปิดใบหน้าเอาไว้จึงไม่เห็นใบหน้าของเขา”

“เจ้าคนผู้นั้นอยู่ที่นิกายเร้นเมฆาใช่หรือไม่ จงรวบรวมกำลังคนทั้งหมด พวกเราจะออกไปขยี้พวกมันให้สิ้นซาก!”

‘ปรมาจารย์ต้าเหลย’พูดด้วยความโกรธเกรี้ยว

……………..จบตอน

แต่งโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments