I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 444.9 เทียนอู่ ลู่เพียว

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 22717 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“นี่คงจะเป็นอสูรระดับวิถีแห่งมังกรสินะ ดูเหมือนว่าจะอยู่ในระดับที่ห้า”

‘ลู่เพียว’สัมผัสถึงลมปราณก่อนที่จะพูดออกไป

รูปร่างของอสูรเริ่มเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เป็นมังกรที่มีเกล็ดสีดำแดง มีลำตัวยาวและใหญ่หลายสิบเมตร ชื่อของมันก็คือ มังกรนรกโลกันต์ 地狱龙:ตี้อวี้หลง เมื่อเห็นแล้ว’ลู่เพียว’ก็อดที่จะตัวสั่นไม่ได้

“ง้าวนักรบสวรรค์จงออกมา”

‘ลู่เพียว’สะบัดมือขวาของเขาและนำง้าวนักรบสวรรค์ที่ได้รับมาจากประมาจารย์เทียนอู่ออกมาจากแหวนห้วงมิติของเขา ง้าวนักรบสวรรค์เป็นอาวุธวิเศษระดับแปดที่สามารถต่อกรกับยอดฝีมือระดับเทพสงครามได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้ใช้งาน

เมื่อเห็นว่า’ลู่เพียว’ถืออาวุธในมือ มังกรนรกโลกันต์สะบัดหางของมันฟาดไปที่’ลู่เพียว’ทันที ‘ลู่เพียว’ใช้ง้าวนักรบสวรรค์มาต้านไว้ แม้จะถูกผลักไปบ้าง แต่สุดท้าย’ลู่เพียว’ก็สามารถยันเอาไว้ได้

‘ง้าวเป็นอาวุธที่ผสาน หอกและดาบเอาไว้ด้วยกัน สามารถจู่โจมระยะไกลได้ สามารถใช้ได้ทั้งฟันและแทง’

‘ลู่เพียว’คิดถึงคำสอนของปรมาจารย์เทียนอู่ จากนั้นก็จับง้าวนักรบสวรรค์ด้วยสองมือและฟันไปที่หางของมังกรนรกโลกันต์ ทำให้หางของมังกรนรกโลกันต์ขาดออกในทันที

“ฮ่าฮ่าฮ่า หวังว่าหางของเจ้าคงจะไม่งอกได้เช่นจิ้งจกหรอกนะ”

‘ลู่พียว’หัวเราะด้วยความดีใจ ที่สามารถตัดหางของมังกรนรกโลกันต์ได้ ‘ลู่เพียว’ควงง้าวตวัดไปด้านหลังและถืออย่างสง่างาม

เมื่อมังกรนรกโลกันต์ถูกตัดหางจึงโกรธเกรี้ยวยิ่งขึ้น จึงพ่นไฟออกมา แต่ลู่เพียวก็รีบพุ่งหลบไปในทันที

“เจ้ามังกรบ้า รู้ไหมว่ามันร้อน”

‘ลู่เพียว’หลบไปพร้อมกับบ่นออกมาเสียงดัง

“เมื่อครู่ข้าได้ลองฟันไปแล้ว คราวนี้ข้าจะลองแทงดูบ้าง”

‘ลู่เพียว’บินขึ้นไปด้านบน และทิ้งตัวลงมาพร้อมกับทวน แทงไปที่หัวของมังกรนรกโลกันต์ แต่ง้าวนักรบสวรรค์นั้นปักอยู่บนหัวของมังกรนรกโลกันต์ แต่ก็ไม่ถึงกับแทงทะลุหัวของมันได้ เนื่องจากออกแรงน้อยเกินไป

มังกรนรกโลกันต์สะบัดหัวด้วยความเจ็บปวดจน ‘ลู่เพียว’กระเด็นออกมา โดยที่ง้าวนักรบสวรรค์ยังคงปักอยู่บนหัวของมัน

“เอาง้าวของข้าคืนมาก่อน เจ้ามังกรบ้า”

‘ลู่เพียว’ที่ถูกสะบัดกระเด็นไป ตะโกนโวยวายขึ้นมา

“มังกรวายุสวรรค์ จงออกมา”

风天龙:ฟงเทียนหลง ลู่เพียวเรียกมังกรวายุสวรรค์ เป็นจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้าออกมา และผสานเข้ากับร่างของเขาในทันที

จากนั้น’ลู่เพียว’ก็ใช้กรงเล็บมังกรวายุสวรรค์พุ่งไปตัดคอมังกรนรกโลกันต์ ขาดในคราวเดียว จากนั้นก็คลายการผสานร่างและดึงง้าวนักรบสวรรค์ ออกมาจากหัวของมังกรนรกโลกันต์และพูดขึ้นมาว่า

“ถ้าหากข้าทำมันหายไปท่านอาจารย์คงด่าว่าข้าโง่เง่าเป็นแน่”

หลังจากที่จัดการกับมังกรนรกโลกันต์ตนแรกได้ ‘ลู่เพียว’ก็นำผ้ามาเช็ดถูง้าวนักรบสวรรค์ และคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“ข้าเป็นศิษย์ของปรมาจารย์เทียนอู่ ถ้าเช่นนั้น ข้าก็สามารถใช้ฉายา เทียนอู่ ลู่เพียว ได้สินะ ถ้าเช่นนั้น จากนี้ไปนามของข้าคือ นักรบสวรรค์ลู่เพียว ฮ่าฮ่าฮ่า”

‘ลู่เพียว’พูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง

คงจะจำกันได้เทียนอู่แปลว่า นักรบสวรรค์

จากนั้นเพียงครู่เดียว ก็มีมังกรนรกโลกันต์โผล่มาอีกห้าตนปรากฏออกมา ‘ลู่เพียว’ยืนขึ้นอย่างองอาจและพูดออกไปว่า

“เจ้าพวกมังกรชั่ว นักรบสวรรค์ลู่เพียวจะจัดการกับพวกเจ้าเอง”

ภายในต้นไม้แห่งพระเจ้า

“ข้าคิดว่าเจ้าเป็นชายผู้นั้น แต่ดูเหมือนว่าข้าจะเข้าใจผิดไป กลิ่นอายของเจ้ากับคนผู้นั้นชั่งคล้ายกันยิ่งนัก”

‘เทพธิดาเสิ่นช่วง’พูดพร้อมกับถอนหายใจ

“ท่านคิดว่าข้านั้นเป็นผู้ใดกัน”

‘เนี่ยลี่’อดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“ข้าไม่อาจบอกเจ้าได้ แต่เจ้าคงเป็นชายที่คนผู้นั้นเคยบอกแก่ข้าเอาไว้”

‘เทพธิดาเสิ่นช่วง’ตอบกลับไป

“ข้าจะบอกกล่าวในสิ่งที่ข้าสามารถบอกได้แก่เจ้าแต่ก่อนอื่นเจ้าจงตอบคำถามของข้ามาก่อนว่า ผู้ใดคือศัตรูของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล”

‘เทพธิดาเสิ่นช่วง’เอ่ยถามออกมา

“เจ้าคนผู้นั้นคือจักรพรรดิปราชญ์!”

‘เนี่ยลี่’ตอบกลับไปพร้อมกับกำหมัดจนแน่น

“จากคำตอบของเจ้า ข้าเชื่อแล้วว่าเจ้าคือคนที่ข้าเฝ้ารอ ข้าคือเทพธิดาเสิ่นช่วง เมื่อราวล้านปีก่อนข้าเคยเข้าต่อสู้กับจักรพรรดิปราชญ์ ก่อนที่จะต้องพบกับความพ่ายแพ้ ก่อนที่คนผู้นั้นจะถูกสังหาร เขาให้ข้าหนีออกมาและมอบหมายให้ข้าทำในสามสิ่ง”

‘เทพธิดาเสิ่นช่วง’พูดและนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

“สามสิ่งที่ว่าคือสิ่งใดกัน?”

‘เนี่ยลี่’ถามกลับไป

“สิ่งแรกก็คือการสร้างโลกใบเล็กและห้วงสวรรค์น้อยแห่งนี้!”

‘เทพธิดาเสิ่นช่วง’ตอบกลับไป

หลังจากได้ยินคำตอบของเทพธิดาเสิ่นช่วง’เนี่ยลี่’ก็ถึงกับอ้าปากค้าง เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า โลกใบเล็กและห้วงสวรรค์น้อยจะถูกเทพธิดาเสิ่นช่วงสร้างขึ้นมา

“เขาได้ขอให้ข้าสร้างโลกทั้งสองขึ้นมา และให้ตัดขาดจากอาณาจักรซากมังกร โดยสร้างกฏและข้อบังคับในการข้ามผ่านไปยังโลกทั้งสองแห่ง”

เทพธิดาเสิ่นช่วงอธิบาย

“เมื่อท่านเป็นผู้ที่สร้างโลกทั้งสอง เหตุใดจึงต้องสร้างภัยพิบัติเช่นพวกอสูรแก่โลกทั้งสองแห่งด้วย”

‘เนี่ยลี่’อดที่จะถามออกไปไม่ได้ เมื่อเป็นโลกที่นางได้สร้างขึ้นมา เหตุใดจึงไม่สร้างให้เป็นโลกที่สงบสุข

“นั่นคือสิ่งที่คนผู้นั้นได้บอกแก่ข้าเอาไว้ หากไร้ซึ่งอสูร ก็จะไม่มีการฝึกฝน และจะไม่มีผู้ใดที่สามารถรับมือกับจักรพรรดิปราชญ์ได้ในภายภาคหน้า”

เทพธิดาเสิ่นช่วงตอบกลับไป

“สิ่งที่สองคือภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำที่อยู่ในตัวของเจ้า เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในยามคับขัน มันมีความสามารถปกปิดกลิ่นอายลมปราณเช่นเดียวกับโลกทั้งสองที่ข้าได้สร้าง สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกทั้งสองและจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ จักรพรรดิจะไม่อาจสัมผัสได้ เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ ที่ตัดขาดจากอาณาจักรซากมังกรโดยสิ้นเชิง”

‘เทพธิดาเสิ่นช่วง’อธิบายต่อ

‘เนี่ยลี่’พยายามที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่ เทพธิดาเสิ่นช่วงพูดออกมา มิน่าเล่าบิดาของ’เซี่ยวหยู่’จึงบอกให้เขานำ’เซี่ยวอยู่’ไปเก็บตัวอยู่ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ

“สิ่งสุดท้ายที่เขาได้ขอให้ข้าทำ คือบอกกล่าวเรื่องราวเหล่านี้แก่เจ้า น่าเสียดายยิ่งนักที่ต้นไม้แห่งพระเจ้าต้นนี้ไม่อาจที่จะออกผลได้ เนื่องจากห้วงสวรรค์น้อยมีพลังสวรรค์น้อยลง จากการที่เจตจำนงของข้าอ่อนแอลงไป แต่หากเจ้านำไปไว้ข้างในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ บางทีมันอาจจะออกผลได้ และสามารถเสริมพลังให้แก่เจ้าได้”

เดิมทีผลไม้แห่งสวรรค์ที่เขาได้รับมาจากจัรพรรดิเมฆาสวรรค์นั้น เมื่อแจกจ่ายให้แก่ศิษย์ในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ก็แทบจะหมดแล้ว หากนำต้นไม้แห่งพระเจ้าไปปลูกและสามารถออกผลได้ ก็นับว่าคุ้มค่ายิ่งนัก

“หลังจากที่เจตจำนงของข้าสลายไป ห้วงสวรรค์น้อยก็จะล่มสลายไปด้วย เพราะห้วงสรรค์น้อยแห่งนี้คงอยู่ได้จากเจตจำนงของข้า ต่างจากโลกใบเล็กที่ถูกสร้างขึ้นมาจากกายาเทพของข้า”

เทพธิดาเสิ่นช่วงยังคงอธิบายต่อ

“แต่ข้าเดินทางมายังห้วงสวรรค์น้อย เพื่อที่จะรักษามันเอาไว้ มีหนทางใดที่ข้าสามารถทำได้บ้าง?”

‘เนี่ยลี่’ถามออกไป

“ดวงจิตของข้า ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในที่แห่งนี้ หากเจ้าผสานเข้ากับดวงจิตของข้า เจ้าก็จะได้พลังในการสร้างห้วงมิติ และสามารถสร้างห้วงสวรรค์น้อยขึ้นมาใหม่ได้”

เทพธิดาเสิ่นช่วงตอบกลับไป

“ข้าสามารถผสานกับดวงจิตแห่งเทพได้เช่นนั้นหรือ?”

‘เนี่ยลี่’ถามด้วยความประหลาดใจ

เดิมทีเขาคิดว่าสามารถผสานได้กับจิตอสูรเท่านั้น

“ดวงจิตแห่งเทพ กับดวงจิตอสูรมิได้แตกต่างกัน ต่างก็เป็นเพียงวิญญาณเท่านั้น แต่ดวงจิตแห่งเทพนั้นมีพลังมากกว่าดวงจิตอสูรยิ่งนัก แต่มิใช่พลังที่ใช้สำหรับต่อสู้ หากเจ้าต้องการผสานกับดวงจิตของข้า ก็จงทำก่อนที่เจตจำนงของข้าจสลายไป”

เทพธิดาเสิ่นช่วงขอให้’เนี่ยลี่’รีบตัดสินใจ หากผสานดวงจิตของนางในขณะที่เจตจำนงของนางยังคงอยู่ นางก็สามารถพูดคุยกับ’เนื่ยลี่’ต่อไปได้ โดยการที่เจตจำนงของนางจะผสานเข้ากับดวงจิตของนาง

หลังจากนั้นดวงจิตแห่งเทพของเทพธิดาเสิ่นช่วงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของ’เนี่ยลี่’เขารีบหยิบมาและนั่งสมาธิเพื่อที่จะผสานเข้ากับดวงจิตแห่งเทพในทันที

ร่างกายของ’เนี่ยลี่’รู้สึกร้อนรุ่มราวกับกำลังผสานเข้ากับพลังงานอันยิ่งใหญ่ ต่างจากตอนที่ผสานเข้ากับดวงจิตอสูรก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง พลังของดวงจิตแห่งเทพเอ่อล้นออกมาอย่างมหาศาล ดูเหมือนว่าการผสานกับดวงจิตแห่งเทพจะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อย ดินแดนแห่งนรก

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นักรบสวรรค์ลู่เพียว จะสังหารอสูรในดินแดนแห่งนี้ให้หมดสิ้น”

‘ลู่เพียว’ยังคงสังหารอสูรที่อยู่ในดินแดนแห่งนรกอย่างบ้าคลั่ง เขาได้สังหารมังกรนรกโลกันต์ไปนับสิบตัว และดูเหมือนว่า ดินแดนแห่งนรกนี้จะไม่มีสัตว์อสูรที่มีความแข็งแกร่งระดับเทพสงคราม ‘ลู่เพียว’จึงสามารถต่อสู้ได้

หลังจากที่ต่อสู้อยู่หลายชั่วยาม ‘ลู่เพียว’จึงรู้สึกเหนื่อย เขาบินขึ้นไปยังห้วงสวรรค์น้อย และเดินไปหา’ฮัวเหว่ย’ และพูดออกไปว่า

“เนี่ยลี่นั้นกลับออกมาแล้วหรือไม่?”

‘ฮัวเหว่ย’ส่ายหน้าตอบกลับไป

“ถ้าเช่นนั้น ข้าคงไม่มีเวลาพักผ่อนแล้ว ข้านั้นได้สังหารอสูรในดินแดนนรกไปแล้วหลายหมื่นตน และสังหารมังกรนรกโลกันต์ไปนับสิบตัว อีกสักครู่ข้าจะลงไปจัดการพวกมันที่เหลือ”

‘ลู่เพียว’พูดพร้อมกับยืดอกด้วยความภูมิใจ

“ท่านสามารถสังหารมังกรนรกโลกันต์ได้เช่นนั้นหรือ?”

‘ฮัวเหว่ย’พูดด้วยความตกใจ ในห้วงสวรรค์น้อยยังไม่เคยมีผู้ใดที่สังหารมังกรนรกโลกันต์ได้มาก่อน

“แน่นอน! พวกมันก็ร้ายกาจอยู่บ้างแต่ก็ไม่เก่งกาจเกินไปกว่า นักรบสวรรค์ลู่เพียวเช่นข้า”

‘ลู่เพียว’รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ประกาศชื่อนี้ออกไป

“นักรบสวรรค์ลู่เพียว?”

ดูเหมือนว่า’ฮัวเหว่ย’จะต้องจดจำชื่อนี้เอาไว้เสียแล้ว

“หากเนี่ยลี่กลับมาให้ ตะโกนเรียกข้า ข้าจะรีบกลับขึ้นมาในทันที”

‘ลู่เพียว’เตรียมตัวที่จะทะยานออกไปอีกครั้ง

“ช้าก่อน ท่านนักรบสวรรค์ลู่เพียว!”

มีเสียงของชาวเมืองในห้วงสวรรค์น้อยที่อยู่ด้านหลังดังขึ้นมา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้ยินในสิ่งที่’ลู่เพียว’คุยกับ’ฮัวเหว่ย’

“พวกข้ามองดูท่านต่อสู้กับมังกรนรกโลกันต์อย่างห้าวหาญ พวกข้าจึงต้องการที่จะขอบคุณท่าน หากดินแดนสวรรค์ร่วงหล่นลงไปจนหมด และท่านสามารถสังหารพวกอสูรในดินแดนนรกจนหมดสิ้น พวกเราก็สามารถดำรงอยู่ในดินแดนนรกได้ และพวกข้าจะสร้างมันให้กลายเป็นดินแดนสวรรค์อีกครั้ง”

ชาวเมืองของห้วงสวรรค์น้อยมาประสานมือคุกเข่าเพื่อขอบคุณ’ลู่เพียว’

เมื่อได้เห็นคนจำนวนมากคุกเข่าให้ ‘ลู่เพียว’ก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก เขาประสานมือคารวะตอบกลับไปและพูดว่า

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง!”

“นักรบสวรรค์ลู่เพียว! นักรบสวรรค์ลู่เพียว!”

เสียงของชาวเมืองในห้วงสวรรค์น้อยต่างกู่ร้องชื่อของ’ลู่เพียว’

หลังจากนั้นลู่เพียวก็ทะยานลงไปในดินแดนนรกอีกครั้งและเริ่มล่าสังหารพวกอสูรด้วยความรู้สึกยินดียิ่งนัก…………..

จบตอน

แต่งโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

<<                  >>

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments