ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหลังจากที่ใช้เวลาผสานเข้ากับดวงจิตแห่งเทพของเทพธิดาเสิ่นช่วง ไปกว่าหนึ่งชั่วยาม’เนี่ยลี่’ก็ลืมตาขึ้นมาหลังจากที่ผสานได้ สำหรับระดับพลังของเนี่ยลี่ก้เพิ่มสูงขึ้นถึงสองขั้นทันที ในตอนนี้ระดับพลังของเนี่ยลี่อยู่ที่ระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่ห้า
“ข้าไม่คิดเลยว่าการผสานดวงจิตแห่งเทพเข้าไปในห้วงขอบเขตวิญญาณ จะทำให้ข้าเพิ่มระดับพลังได้เช่นนี้”
‘เนี่ยลี่’รู้สึกยินดียิ่งนัก
“ถ้าเช่นนั้นข้าขอลองผสานร่างกับดวงจิตแห่งเทพดูสักครั้ง”
ในตอนที่ยังไม่ได้เรียกดวงจิตอสูร หรือดวงจิตแห่งเทพออกมา โดยปกติแล้ว ดวงจิตที่ถูกขังอยู่ในห้วงขอบเขตวิญญาณจะนอนหลับอยู่ ซึ่งดวงจิตแห่งเทพของเทพธิดาเสิ่นช่วงก็ไม่ต่างกัน ในยามที่มิได้เรียกออกมานางจะนั่งสมาธิอยู่ในห้วงขอบเขตวิญญาณของ’เนี่ยลี่’
เมื่อผสานเข้ากับดวงจิตแห่งเทพของเทพธิดาเสิ่นช่วง ร่างกายของ’เนี่ยลี่’ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก อาจเป็นเพราะเทพกับมนุษย์นั้นมีรูปลักษณ์ที่ไม่แตกต่างกันเท่าใด มีเพียงประกายกายและกลิ่นอายลมปราณที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
“ในยามที่เจ้าเรียกดวงจิตแห่งเทพของข้ามาผสานร่าง ข้าจะมาสามารถพูดคุยกับเจ้าได้”
เสียงของเทพธิดาเสิ่นช่วงดังอยู่ในหัวของเนี่ยลี่
“ข้ายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับพลังของท่านเลย”
‘เนี่ยลี่’อดไม่ได้ที่จะถามออกไป เขารับรู้ถึงพลังที่แผ่ออกมา แต่ดูเหมือนว่าทักษะพิเศษของนาง ‘เนี่ยลี่’ยังไม่เข้าใจมากนัก
“ข้าคือเทพธิดาแห่งการสร้าง พลังของข้าคือการสร้างห้วงมิติขึ้นมาได้ ดั่งเช่นโลกใบเล็กและห้วงสวรรค์น้อยแห่งนี้ ถ้าหากเจ้าต้องการที่จะรักษาห้วงสวรรค์น้อยแห่งนี้เอาไว้ จงรีบออกไปด้านนอก เพราะสิ่งที่ค้ำจุนห้วงสวรรค์น้อยเอาไว้คือดวงจิตและเจตจำนงของข้า เมื่อได้ผสานเข้ากับห้วงขอบเขตวิญยาณของเจ้าแล้ว ห้วงสวรรค์น้อยจึงขาดสิ่งที่ค้ำจุนอีกต่อไป”
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
‘เนี่ยลี่’หลับตาและเพ่งสมาธิ จากนั้นก็สามารถออกจากต้นไม้แห่งพระเจ้าได้
“ท่านประมุขเนี่ย ท่านกลับมาแล้ว! ดูเหมือนว่าดินแดนสวรรค์จะร่วงหล่นสู่ดินแดนนรกรวดเร็วกว่าก่อนหน้านี้ ไม่ทราบว่าเทพธิดาเสิ่นช่วงได้ชี้แนะหนทางแก่ท่านหรือไม่?”
‘ฮัวเหว่ย’ถามขึ้นมาด้วยความกังวลถ้าหากไม่มีหนทางแก้ไขดินแดนสวรรค์คงร่วงหล่นไปหมดในเวลาไม่กี่ชั่วยามเป็นแน่
“ลู่เพียวอยู่ที่ใดกัน?”
‘เนี่ยลี่’ถามขึ้นมา เขาเข้าใจสิ่งที่’ฮัวเหว่ย’เป็นกังวล แต่เขาก็เป็นห่วงสหายของเขาเช่นกัน เขาสัมผัสได้ว่า’ลู่เพียว’อยู่ไม่ไกลนัก แต่ก็มองไม่เห็นเขา
“ท่านนักรบสวรรค์ลู่เพียว กำลังกวาดล้างอสูรที่อยู่ในดินแดนนรก ขอรับ”
‘ฮัวเหว่ย’ตอบกลับไป
“นักรบสวรรค์ลู่เพียวนี่มันชื่อบ้าอะไรกัน?”
‘เนี่ยลี่’เริ่มรู้สึกปวดหัวเพราะ’ลู่เพียว’อีกครั้ง
“ท่านจงเรียกเขากลับมา ข้าจะรีบทำการฟื้นฟูห้วงสวรรค์น้อยแห่งนี้”
‘เนี่ยลี่’รีบสั่งการออกไปดูเหมือนว่าห้วงสวรรค์น้อยจะเหลือเวลาไม่มากนักแล้ว
หลังจากนั้น’ฮัวเหว่ย’ก็ให้’ฮัวหลิง’ลงไปตาม’ลู่เพียว’ขึ้นมาจากดินแดนนรก ดูเหมือนว่า’ลู่เพียว’จะกวาดล้างพวกอสูรไปได้ไม่น้อยแล้ว
“เนี่ยลี่ เจ้าต้องไม่เชื่อข้าเป็นแน่ ตอนนี้ในดินแดนนรก ที่เป็นพื้นที่โดยรอบดินแดนสวรรค์ราวสิบลี้ สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวพวกอสูร เพราะข้าได้ขับไล่และกำจัดไปจนแทบหมดสิ้นแล้ว”
‘ลู่เพียว’พูดขึ้นด้วยความภูมิใจ
“ไม่จำเป็นเลย
ดินแดนนรกถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้อยู่บนดินแดนสวรรค์แห่งนี้ได้ต่อสู้เพื่อฝึกฝน และสัตว์อสูรในดินแดนนรกไม่อาจที่จะบินขึ้นมายังดินแดนสวรรค์โดยตรงได้”‘เนี่ยลี่’พูดพร้อมกับส่ายหน้า
“แล้วนี่ข้าเหนื่อยไปเพื่ออันใดกัน?”
‘ลู่เพียว’พูดขึ้นมาด้วยความอ่อนแรง เขาใช้เวลาในการล่าสังหารพวกอสูรไปราวสองชั่วยามสี่ชั่วโมง
“เรื่องนั้นเอาไว้พูดคุยกันในภายหลัง จากนี้ไปข้าจะต้องเริ่มทำการฟื้นฟูห้วงสวรรค์น้อยแล้ว คนอื่น ๆ จงออกไปจากพื้นที่ของต้นไม้แห่งพระเจ้า”
‘เนี่ยลี่’พูดพร้อมกับนั่งลงกับพื้น ‘ฮัวเหว่ย’จึงนำคนอื่นๆ ออกไป มีเพียง’ลู่เพียว’ที่นั่งอยู่กับ’เนี่ยลี่’
“ข้าต้องทำการเช่นใดบ้าง”
‘เนี่ยลี่’เอ่ยถามเทพธิดาเสิ่นช่วง
“ก่อนอื่นเจ้าจงนำต้นไม้แห่งพระเจ้าไปเก็บไว้ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ จากนั้นต้องหาของวิเศษระดับแปดขึ้นไป เพื่อใช้ในการค้ำจุนห้วงสวรรค์น้อยแห่งนี้แทนดวงจิตของข้า ซึ่งจะค้ำจุนอยู่ได้อีกนับหมื่นปี จนกว่าเจ้าจะหาสิ่งค้ำจุนที่เหมาะสมมาใช้แทนในภายหลัง”
หลังจากที่ได้ยินคำแนะนำ’เนี่ยลี่’ก็สะบัดมือขวาออกไป และสร้างพื้นที่ขึ้นมาโดยรอบต้นไม้แห่งพระเจ้าและเก็บต้นไม้แห่งพระเจ้าเข้าไปในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ จากนั้น’เนี่ยลี่’ก็ลืมตาขึ้นมาเพื่อหาของวิเศษระดับแปด
“ลู่เพียวเจ้าได้รับอาวุธวิเศษมาจากปรมาจารย์เทียนอู่ใช่หรือไม่?”
‘เนี่ยลี่’ถามออกไป
“ถูกต้องแล้วข้าได้ง้าวสวรรค์ จากท่านอาจารย์ของข้ามันเป็นอาวุธวิเศษระดับแปดเชียวนะ!”
‘ลู่เพียว’นำออกมาให้เนี่ยลี่ดูด้วยความภูมิใจ
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะใช้ง้าวสวรรค์ในการค้ำจุนห้วงสวรรค์น้อยแห่งนี้”
‘เนี่ยลี่’หยิบเอาง้าวสวรรค์ของลู่เพียวไปในทันที
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปบอกแก่ท่านอาจารย์ของข้าเช่นใดกัน?”
‘ลู่เพียว’แย้งขึ้นมาด้วยความตกใจ
“นั่นเป็นเรื่องของเจ้า หลังจากนี้ข้าจะหาอาวุธวิเศษที่เหนือล้ำยิ่งกว่าง้าวสวรรค์ให้แก่เจ้าเอง”
‘เนี่ยลี่’ตอบกลับไปแบบไม่สนใจใยดีนัก
‘ลู่เพียว’ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ
หาก’เนี่ยลี่’ตัดสินใจแล้วเขาก็ไม่อาจที่จะแย้งได้ ‘ท่านอาจารย์โปรดยกโทษให้ศิษย์ผู้นี้ด้วย’
‘ลู่เพียว’คิดอยู่ในใจ
หลังจากที่ได้ง้าวสวรรค์มาเป็นสิ่งค้ำจุนห้วงสวรรค์น้อยแล้ว ‘เนี่ยลี่’ก็นำง้าวสวรรค์ไปปักลงตรงตำแหน่งที่ต้นไม้แห่งพระเจ้าเคยอยู่
หลังจากนั้น’เนี่ยลี่’ก็ถ่ายเทพลังสวรรค์ไปที่ง้าวสวรรค์ ดูเหมือนว่า แผ่นดินของห้วงสวรรค์น้อยจะเริ่มกลับคืนมาทีละนิดเจ็ดวันผ่านไป ‘เนี่ยลี่’สามารถฟื้นฟูห้วงสวรรค์น้อยให้กลับมาเป็นดังเดิม ‘เนี่ยลี่’และ’ลู่เพียว’จึงเดินออกไปด้านนอก และเดินไปหา’ฮัวเหว่ย’
“ท่านฮัวเหว่ย ข้านั้นได้นำต้นไม้แห่งพระเจ้าไป และได้ใช้ง้าวสวรรค์ของนักรบสวรรค์ลู่เพียว ใช้เป็นสิ่งค้ำจุนห้วงสวรรค์น้อยแทน”
‘เนี่ยลี่’พูดออกไป หากบอกไปเช่นนี้’ลู่เพียว’จะได้หยุดบ่นเสียที
“ขอขอบคุณประมุขเนี่ยที่ให้การช่วยเหลือห้วงสวรรค์น้อยในครั้งนี้ และขอบคุณนักรบสวรรค์ลู่เพียวที่สละศาสตราวุธคู่กาย เพื่อที่จะใช้ค้ำจุนห้วงสวรรค์น้อยแห่งนี้เอาไว้”
‘ฮัวเหว่ย’ประสานมือคารวะพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณแก่ทั้งสองคน
หลังจากได้ยินเช่นนี้’ลู่เพียว’จึงยืดอกด้วยความยินดี หลังจากนั้น’เนี่ยลี่’และ’ลู่เพียว’จึงขอตัวเดินทางกลับไปยังนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
‘ฮัวเหว่ย’สั่งให้’ฮัวหลิง’พาทั้งสองคนกลับ แต่’เนี่ยลี่’บอกว่าให้’ฮัวหลิง’พักผ่อนอยู่กับบิดาไปก่อน เขานั้นสามารถเปิดประตูเองได้
เนื่องจากได้แหวนจากเทพธิดาเสิ่นช่วง จริง ๆ แล้ว’เนี่ยลี่’สามารถเปิดประตูข้ามมิติ ได้โดยที่ไม่ต้องใช้แหวนใด ๆ เพราะในเวลานี้ห้วงสวรรค์น้อยก็เป็นดั่งโลกที่’เนี่ยลี่’สร้างขึ้นมานิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
‘เนี่ยลี่’และ’ลู่เพียว’ได้กลับมาและเรียก’กู้เบ่ย’ ‘หลี่ชิงอวิ๋น’ และ’หลงยู่อิน’มายังตำหนักผู้นำนิกาย
“เนี่ยลี่ ข้าได้ไปยังนิกายเร้นเมฆา และขอแร่ลึกลับมาก้อนหนึ่ง มีน้ำหนักราวร้อยชั่ง ห้าสิบกิโลกรัม”
‘กู้เบ่ย’นำแร่ลึกลับออกมาจากแหวนห้วงมิติ เป็นก้อนแร่ขนาดใหญ่มีสีขาวปนเทา คล้าย ๆ กับสีของเมฆหมอก
“หินแร่พวกนี้คือ ศิลาเร้นเมฆา มันสามารถปิดกั้นระดับลมปราณได้ดั่งที่เจ้าได้พูดไว้จริง ๆ”
‘เนี่ยลี่’เคยเห็นศิลาเร้นเมฆา ในตำรา ในชีวิตที่แล้วเขาไม่เคยเห็นของจริงเช่นนี้มาก่อน
“ข้าได้ทดสอบดูแล้ว เมื่อเข้าสัมผัสกับศิลาก้อนนี้ และปลดปล่อยพลังลมปราณออกมา ลมปราณที่ปล่อยออกมามีเพียงระดับชะตาสวรรค์เท่านั้น”
‘กู้เบ่ย’สัมผัสศิลาเร้นเมฆา และปลดปล่อยลมปราณระดับเทพสงครามของเขาออกมา แต่ดูเหมือนว่าพลังที่แผ่ออกมานั้นมีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าได้ทดสอบศิลาเร้นเมฆา ก้อนเล็ก ๆ หรือไม่?”
‘เนี่ยลี่’ถามออกไปพร้อมกับ ใช้มือกระเทาะเล็กน้อย ศิลาเร้นเมฆาชิ้นเล็ก ๆก็หล่นออกมาจากศิลาเร้นเมฆาก้อนใหญ่
“ข้าขอทดสอบเอง!”
‘ลู่เพียบ’หยิบเศษศิลาเร้นเมฆาและปลดปล่อยลมปราณของเขาออกมา จากลมปราณในระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่แปด เมื่อถือศิลาเร้นเมฆาอยู่ในมือพลังที่แผ่ออกมาอยู่ในระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ขั้นที่แปดเท่านั้น
“ชิ้นเล็ก ๆ เพียงเท่านี้ สามารถปิดกั้นพลังได้ถึงหนึ่งระดับ วิเศษยิ่งนัก”
‘หลี่ชิงอวิ๋น’พูดขึ้นด้วยความตกใจ
“พกแล้วพลังน้อยลง มันน่ายินดีตรงไหนกัน?”
‘ลู่เพียว’อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา
“เนี่ยลี่ต้องการที่จะใช้ในการปกปิดพลัง เจ้าไม่เข้าใจเช่นนั้นหรือ?”
‘กู้เบ่ย’ตอบกลับไปพร้อมกับส่ายหน้า
“ถ้าเช่นนั้น ข้ามอบให้เป็นหน้าที่ของพี่ชิงอวิ๋น ขอให้ท่านตัดแบ่งศิลาเร้นเมฆา ขนาดราว ๆ หนึ่งชุ่น หนึ่งนิ้ว จากนั้นให้แกะสลักรูปขนนกที่เป็นสัญญลักษณ์ของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ลงไป เราจะใช้เป็นตราเครื่ื่องรางของนิกาย และแจกจ่ายให้แก่ศิษย์ทั้งหมดของนิกาย และให้ทำขนาดสองชุ่นถึงสามชุ่น สำหรับผู้ที่บรรลุระดับเทพสงครามด้วย”
‘เนี่ยลี่’หันไปบอกกับหลี่ชิงอวิ๋น
“ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง!”
‘หลี่ชิงอวิ๋น’พูดขึ้นมาอย่างจริงจัง
“อีกไม่นาน เราอาจจะต้องเปิดประตูนิกาย ก่อนหน้านั้นข้าต้องการที่จะจัดการปัญหาทั้งหมดก่อน พรุ่งนี้ข้าจะออกเดินทางไปยังพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุดอีกครั้ง ก่อนหน้านั้นพวกเจ้าจงนำจดหมายที่ข้าเขียนขึ้นไปมอบให้กับผู้นำตระกูลทั้งสามด้วย”
‘เนี่ยหลี่’หยิบจดหมายสามฉบับขึ้นมาและมอบให้กับ’กู้เบ่ย’ ‘หลี่ชิงอวิ๋น’ และ’หลงยู่อิน’
“นี่มันคือจดหมายอะไรกัน ท่านอาจารย์?”
‘หลงยู่อิน’อดที่จะถามออกไปไม่ได้
“จดหมายขอให้ผู้นำตระกูลทั้งสามส่งมอบตำแหน่งให้แก่ผู้สืบทอดที่เหมาะสม”
‘เนี่ยลี่’ยิ้มและตอบกลับไป
“หมายความว่าเจ้าจะให้พวกข้าทั้งสามขึ้นเป็นผู้นำตระกูลเช่นนั้นหรือ?”
‘หลี่ชิงอวิ๋น’ถามออกไป
“หลังจากนี้ มีเรื่องที่ต้องดำเนินการอีกมากมาย และในบางเรื่องจำเป็นที่จะต้องใช้อำนาจของผู้นำตระกูล ถ้าหากพวกท่านยังไม่ได้ตำแหน่ง ข้าก็รู้สึกเป็นกังวล”
“อีกราวห้าวันข้าจะกลับมา ข้าหวังว่าทุกอย่างจะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี”
‘เนี่ยลี่’ลุกขึ้นและมองออกไปบนท้องฟ้า……..
จบตอน
แต่งโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
<< >>
ที่มา: