I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 262 – ทรมานหลิน หลาน

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

“เจ้า…เจ้า…เจ้าเป็นใคร? ทำใมถึงได้กล้าโจมตีคนของ คฤหาสน์องค์ชายกิเลนเช่นนี้?!”

พอเห็นเช่นนั้นมันถึงกับทำให้เหล่าองครักษ์คนอื่นๆต้องหวั่นผวา เพราะองครักษ์ที่พึ่งถูกฆ่าไปนั้นเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญในแดนแก่นแท้วิญญาณ และการที่เขาถูกตัดศีรษะได้โดยง่ายนั้นมันหมายความว่าชายที่นั่งอยู่กลางถนนนั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

ในทันทีชายที่นั่งอยู่กลางถนนนั้นก็ได้ลุกขึ้นยืนและเอาหมวกทรงกรวยบนศีรษะของเขาออกและเปิดเผยให้เห็นใบหน้าที่แสนจะหล่อเหลาและรอยยิ้มที่สวยงามราวกับอิสตรีประมาณยิ้มหวานและกล่าวกับเหล่าองครักษ์อย่างแน่วแน่ว่า

“ข้ามาที่นี่เพื่อฆ่าคนของคฤหาสน์องค์ชายกิเลน”

“เจ้า…เจ้า…เจ้าคือชูเฟิง ?!”

หลังจากจากที่ได้เห็นใบหน้านั้น เหล่าองครักษ์ก็ถึงกับหน้าซีดขาวอย่างกะทันหัน เพราะใบหน้าที่พวกเขาได้เห็นนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก’ชูเฟิง’ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงจำได้อย่างชัดเจนว่า ‘ชูเฟิง’นั้นมีพลังวิญญาณอยู่เพียงแค่ระดับ 7 แดนกำเนิดวิญญาณ

แต่ชายหนุ่มที่อ้างตัวเองว่าเป็น’ชูเฟิง’และอยู่เบื่องหน้าของพวกเขานั้น กลับมีกลิ่นอายของระดับ 1 แดนแก่นแท้วิญญาณปล่อยออกมา การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มันต้องเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะเป็น’ชูเฟิง’ พวกเขาบางส่วนจึงยังไม่ปักใจที่จะเชื่อว่าคนที่อยู่เบื่องหน้าของเขานั้นเป็น’ชูเฟิง’

“ชูเฟิง?!”

หลังจากที่ ‘หลิน หลาน’ได้ยินคำว่า’ชูเฟิง’เขาก็ได้รีบกระโดดและบินออกมาอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันร่างกายของ ‘หลิน หลาน’นั้นชุ่มไปด้วยเหงื่อและใบหน้าของเขานั้นออกเป็นสีเขียวเล็กน้อยดวงตาของเขานั้นกลวงลึกและนอกเหนือไปจากนั้นผมของเขายังอยู่ในลักษณะที่ยุ่งเหยิงราวกับว่าเขาได้ไปเจอกับสิ่งที่น่าหวาดกลัวบางอย่างมายังใงยังงั้น

และสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือกลิ่นอายพลังวิญญาณของเขานั้นได้อ่อนแอลงไปอย่างมาก พลังวิญญาณของเขานั้นได้ลดลงไปจนเหลือเพียงแค่ระดับที่ 6 ของแดนแก่นแท้วิญญาณเท่านั้น ซึ่งการที่เขาต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ นั่นก็เพราะผลข้างเคียงของเม็ดยาต้องห้ามที่เขาได้ใช้มันไปก่อนหน้านี้

แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาออกมาและได้เห็น’ชูเฟิง’เขาไม่เพียงแค่ตกใจเท่านั้น แต่ยังมีความกระหายเลือดเพิ่มขึ้นในทันทีและนอกจากนี้เขายังชี้ไปที่’ชูเฟิง’และตะโกนกล่าว

“ชูเฟิง ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมารนหาที่ตายที่นี่ ฆ่ามันซะ!!”

“ฆ่า!!”

หลังจากที่ได้ยินคำสั่ง เหล่าองครักษ์ไม่มีใครกล้าที่จะละเลยคำสั่งแม้แต่คนเดียวพวกเขาได้ส่งกลิ่นของแดนแก่นแท้วิญญาณออกไป ความดันที่แข็งแกร่งได้มุ่งหน้าเข้าใส่’ชูเฟิง’อย่างรวดเร็ว พร้อมกับทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งถึงยี่สิบกระบวนท่าเหวี่ยงออกมา ไม่เพียงแค่นั้นพวกเขายังได้ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของ’ชูเฟิง’อีกด้วย

มันจึงแสดงให้เห็นว่าการโจมตีของพวกเขานั้นต้องการที่จะฆ่า’ชูเฟิง’ภายในทันที

*** ชูว ชูว ชูว ***

ในทันทีก็ได้มีประกายแสงปรากฏที่ใต้ฝ่าเท้าของเขาและร่างกายของเขาได้กลายเป็นเส้นแสงและหลบหลีกทักษะการต่อสู้ทั้งหมด ภายในช่วงเวลาเพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้นเขาก็ได้มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของเหล่าองครักษ์

*** หวืบ หวืบ หวืบ ***

และเพียงในเวลานั้นมือของ’ชูเฟิง’ได้กำแน่นและปรากฏสองดาบขนาดใหญ่ในมือของเขา และมันได้กลายเป็นแสงพล่ามัวสีทองกวัดแกว่งอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุดในอากาศ และหลังจากที่แสงพล่ามัวได้หยุดลงหัวของเหล่าองครักษ์ทั้งยี่สิบคนก็ได้ล่วงลงมาในทันที พวกเขาทั้งหมดได้ถูกฆ่าโดย’ชูเฟิง’

“กลิ่นอายแบบนี้ทักษะการต่อสู้ที่มีความรวดเร็วเช่นนี้หรือว่า…เจ้า…เจ้าคือนายชุดคลุมสีเทา!!”

ในทันที ‘หลิน หลาน’ไม่สามารถอยู่ในความสงบได้อีกต่อไปเพราะได้ค้นพบสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ กลิ่นอายของ’ชูเฟิง’และทักษะการต่อสู้ของ’ชูเฟิง’ ที่ได้แสดงให้เห็นอยู่เบื่องหน้าของเขาในตอนนี้นั้นมันชั่งเหมือนกับของนายชุดคลุมสีเทาที่ได้ไล่ตาม ‘กง ลู่หยุน’ในหุบเขาร้อยเลี้ยวเหลือเกิน

ในทันทีเขาก็ได้รับรู้ความจริงที่แสนจะน่ากลัว และการที่นายชุดคลุมสีเทาที่ได้ไล่ตาม ‘กง ลู่หยุน’และฆ่าคนอื่นๆในหุบเขาร้อยเลี้ยวนั้น เขาไม่ได้มีการความสัมพันธ์ใดๆกับ’ชูเฟิง’เพราะ’ชูเฟิง’ก็คือนายชุดคลุมสีเทา

นั้นก็หมายความว่าเมื่อครึ่งปีที่ผ่านมา’ชูเฟิง’ก็มีความแข็งแกร่งพออยู่แล้วที่จะฆ่า ‘กง ลู่หยุน’

“เหอะดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้ตัวแล้วซินะ มันดูเหมือนว่าเจ้าก็ไม่ได้โง่มากนัก”

“แต่ข้าว่าเจ้าคงยังจำคำพูดของข้าที่พูดกับเจ้าเอาไว้ที่หุบเขาร้อยเลี้ยวได้ซินะ? ว่าถ้าครั้งต่อไปที่เราได้เจอกันข้าจะให้เจ้าได้ชดใช้ด้วยชีวิตของเจ้า!”

‘ชูเฟิง’ได้แสดงรอยยิ้มบนใบหน้า แต่สายตาของเขานั้นกับส่งบรรยากาศเย็นออกมาราวกับว่ามันคือความหนาวเย็นที่ออกมาจากน้ำแข็ง

“เหอะ หากเจ้าต้องการที่จะเอาชีวิตข้าละก็เจ้าจะต้องมีความแข็งแกร่งมากกว่านี้ เจ้าคงจะยังจำได้อยู่นะว่าในวันนั้นคนที่ทำให้เจ้าหนีตายอย่าหัวซุกหัวซุนก็คือข้า และในวันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าและหั่นศพของเจ้าออกเป็นหมื่นๆชิ้น”

‘หลิน หลาน’ได้คร่ำครวญด้วยความโกรธ เขายื่นมือของเขาเข้าไปในถุงจักรวาล พร้อมกับยิบเม็ดยาต้องห้ามสีดำออกมาและปรากฏอยู่ในฝ่ามือของเขา หลังจากที่เขาได้รับผลข้างเคียงจากเม็ดยาต้องห้ามมันจึงทำให้เขาไม่ได้มีพลังอำนาจในการต่อสู้เหมือนเก่า ดังนั้นถ้าหากเขาต้องการที่จะเอาชนะ’ชูเฟิง’ในตอนนี้

มันก็มีแต่เขาจะต้องพึ่งเม็ดยาต้องห้ามอีกครั้งถึงแม้ว่ามันจะส่งผลอันตรายต่อเขาอย่างมากก็ตามแต่ในตอนนี้มันก็เป็นเพียงแค่ทางเลือกเพียงทางเดียวของเขาเท่านั้น

*** หวืบ ***

“อ้าาาา!!”

แต่มันมีเหตุผลใดกันที่’ชูเฟิง’จะต้องให้โอกาสเขา?

เริ่มมีประกายแสงปรากฏที่ใต้ฝ่าเท้าของ’ชูเฟิง’และเขาก็ได้พุ่งเข้าใส่ ‘หลิน หลาน’ในทันที เขาได้กำดาบใหญ่ที่อยู่ในมือของเขาแน่นและเหวี่ยงออกไปอย่างไร้ความปราณี เพียงในเวลานั้นได้มีแสงจ้าผ่านกวาดไปและปรากฏเสียงดังชึ่บ เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วพื้นพร้อมกับมือของ ‘หลิน หลาน’ที่ได้กำเม็ดยาต้องห้ามเอาไว้ มันถูกตัดโดย’ชูเฟิง’

หลังจากที่ได้ตัดมือของ ‘หลิน หลาน’ออกไป’ชูเฟิง’ก็ได้ไปยิบเม็ดยาต้องห้ามขึ้นมาในมือของเขา และในขณะที่เขามองไปที่เม็ดยาต้องห้ามซึ่งมันเต็มไปด้วยพลังงานที่แปลกประหลาด’ชูเฟิง’จึงได้เม้มริมฝีปากของเขาพร้อมกับกล่าวว่า

“ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอันตรายกับผู้ที่ใช้มันไม่น้อยก็ตาม แต่มันก็ยังคงคุ้มค่าอยู่ที่ข้าจะเก็บมันเอาไว้”

ในขณะที่พูดจบ’ชูเฟิง’ก็ได้เก็บเม็ดยาต้องห้ามไปในทันที หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังมือที่ตัดออกมาจาก ‘หลิน หลาน’และกล่าวว่า

“ในฐานะที่ยาเม็ดนี้นั้นเป็นของดี…มันไม่ควรที่จะถูกกินโดยสุนัขที่ไร้ประโยชน์เช่นเจ้า”

หลังจากที่พูด’ชูเฟิง’ได้ยกเท้าของเขา และเยียบลงไปที่มือของ ‘หลิน หลาน’จนเละกลายเป็นเศษเนื้อ มือข้างที่ถูกตัดออกมา

“อ้า ~~~~ ข้าจะกินที่เจ้าทั้งเป็น !!”

เมื่อเห็นฝ่ามือของตัวเองถูกเยียบเละจนกลายเป็นเศษเนื้อไปต่อหน้าต่อตาของเขา มันทำให้ ‘หลิน หลาน’รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างแท้จริง เขาได้ตะโกนอย่างบ้าคลั่งและกระโจนเข้าใส่ชูเฟิงอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากผลข้างเคียงของเม็ดยาต้องห้าม, มันจึงทำให้พลังวิญญาณของเขาในตอนนี้ถูกจำกัดอยู่แค่ระดับ 6 แดนแก่นแท้วิญญาณเท่านั้น

และด้วยพลังที่หมูหมาหาไก่แบบนี้จะเอาอะไรไปชนะ’ชูเฟิง’ได้?

“ไอ้เจ้าบ้าเอ้ย”

‘ชูเฟิง’ได้เตะตรงไปที่ ‘หลิน หลาน’จนปลิวและล้มลงไปที่พื้นดินพร้อมกับมองไปที่ ‘หลิน หลาน’และกล่าวว่า

“เจ้าชอบเห็นคนอื่นตัดไข้ตัวเองนักใช่ไหม? ฮ่าฮ่าฮ่า ได้ได้ วันนี้ข้าจะแสดงให้เจ้าดูว่าคนที่กำลังจะโดนตัดไข่นั้นมันรู้สึกยังใง!!”

หลังจากที่’ชูเฟิง’พูดจบเขาก็ได้พุ่งตัวเองไปด้วยความเร็วแสงพร้อมกับโพสท่าฟรีคิกไปที่ไข่ของ ‘หลิน หลาน’

“ม่ายยย !!”

ในทันที ‘หลิน หลาน’ก็ได้กรีดร้องออกมาด้วยความกลัวอย่างบ้าคลั่งแต่มันมีเหตุผลใดที่’ชูเฟิง’จะต้องฟังคำพูดของเขา? เท้าของ’ชูเฟิง’ได้ฟรีคิกเขาไปที่เป้าชอง ‘หลิน หลาน’อย่างเหี้ยมโหด

*** ปุก ***

มีเสียงบางอย่างได้แตกออกมาพร้อมกับเลือดที่สาดไปกระเซ็นไปทั่วบริเวณเป้ากางเกงของเขา อวัยวะเพศของเขาทั้งหมดได้ถูกเตะจนกลายเป็นเศษเนื้อโดย’ชูเฟิง’

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า อะไรมันจะเล็กได้ขนาดนั้น? นี่ข้าเทียบที่จะไม่ได้รู้สึกว่าเตะโดนเลยนะเนี่ย”

‘ชูเฟิง’เม้มริมฝีปากของเขา พร้อมมองไปที่ ‘หลิน หลาน’ด้วยสีหน้าที่ตายด้าน แต่ในหัวใจของเขานั้นค่อนข้างที่จะรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ ในทันทีใบหน้าของ ‘หลิน หลาน’นั้นเป็นเหมือนราวกับขี้เทา ความเจ็บปวดมันทำให้วิญญาณของเขาแถบจะหลุดออกจากร่าง แต่ความเจ็บปวดทางกายของเขาก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้กับความเจ็บปวดทางใจ

เขามีลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวแต่ก็กับถูกฆ่าตายโดย’ชูเฟิง’ มือของเขาก็ยังถูกตัดและถูกขยี้จนกลายเป็นเศษเนื้อโดย’ชูเฟิง’ และในตอนนี้แม้แต่ไข่ทั้งสองใบบวกกับช้างน้อยของเขาก็ยังถูกเตะจนกลายเป็นเศษเนื้อโดย’ชูเฟิง’

เขาในตอนนี้นั้นไม่สามารถที่จะให้กำเนิดบุตรชายหรือสืบทอดทายาทได้อีกต่อไปอีกแล้ว

“เขาบอกกันว่าเจ้าเป็นถึงผู้จัดการหัวหน้าตระกูลหลินจาก คฤหาสน์องค์ชายกเลน แต่เจ้ามีของเพียงแค่นี้? มีเพียงแค่โอสถแก่นแท้คุณภาพสูงแค่ไม่กี่โหล ของเพียงแค่นี้มันไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของข้าได้เลยสักนิด”

‘ชูเฟิง’หยิบเอาถุงจักรวาลของ ‘หลิน หลาน’มาตรวจสอบและค้นหาว่ามีสิ่งใดอยู่ในนั้นบ้าง

“ฆ่าข้าซะ”

‘หลิน หลาน’ในตอนนี้อยู่ในสภาพที่เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว เขาจึงได้กล่าวคำพูดเหล่านั้นออกมา

“เจ้าพูดว่ายังใงนะ?”

‘ชูเฟิง’ทำเหมือนกับว่าเขาได้ยินไม่ชัด

“ฆ่าข้าซะ!!”

‘หลิน หลาน’คร่ำครวญเสียงดัง

  1. “โฮ้ เจ้าต้องการที่จะตาย?”

‘ชูเฟิง’หัวเราะแล้วก้มลงไปพร้อมกับกระซิบข้างหูของ ‘หลิน หลาน’

“เจ้าต้องการที่จะตายตามไปอยู่กับลูกชายของเจ้า”

“เจ้า…เจ้า…เจ้าหมายถึงอะไร?”

หลังจากได้ยินคำพูดของ’ชูเฟิง’

‘หลิน หลาน’ถึงกับเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่เพราะในชีวิตของเขานั้นไม่มีผู้ใดร่วงรู้ว่าเขามีลูกชาย ถึงแม้ว่า ‘กง ลู่หยุน’จะเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเขาแต่มันไม่ควรที่จะมีผู้ใดที่รู้เรื่องนี้ว่า ‘กง ลู่หยุน’คือบุตรชายของเขา

แต่มันกลับเห็นได้ชัดว่าคำพูดที่’ชูเฟิง’พูดออกมานั้นมันเหมือนกับว่าเขาได้รู้บางสิ่งบางอย่าง

“หึข้าก็ไม่ได้หมายถึงอะไร หากแต่เจ้าต้องการเช่นนั้นข้าก็จะให้เจ้าได้สมหวังดั่งความปรารถนาของเจ้า แต่ก่อนที่มันจะเป็นเช่นนั้นข้าคงต้องทรมานเจ้าให้สาแก่ใจซะก่อน”

‘ชูเฟิง’พูดพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความชั่ว!!ร้ายและปรากฏมีดสั่นในมือของเขา และเขาได้เริ่มบรรเลงความซาดิสของเขาลงไปในตัวของ ‘หลิน หลาน’เริ่มจากการจวงมีดสั่นเขาไปในตาข้างหนึ่งของ ‘หลิน หลาน’

“อ้า ~~~~~~~”

หลังจากนั้นบนถนนสายเล็กๆ ก็ได้ปรากฏเสียงร้องทุกประเภทดังออกมาและไม่นานนักมันก็ค่อยๆเบาลงและเงียบหายไปอย่างสมบูรณ์ ################################################################################################# เอาล่ะเข้าสู่สาระเร้าใจท้ายบทกับ : นายกระทิข้น

ปล.ที่ 1. ช่วงเมาส์มอยท้ายบท : ให้ความรู้สึกแบบเหมือนกูกำลังดูหนังสยองขวัญอ่ะ ไม่มีคำบรรยายนอกจากสงสารไอ้หลินจริงๆในบทนี้

ปล.ที่ 2. ว่ากันด้วยเนื้อหาที่ซ่อนอยู่ในบท : ในตอนนี้ก็จะมี คีย์เวิร์ดหนึ่งที่เห็นกันอย่างชัดๆเลยว่า บักเฟิงของเรานั้นได้ไปร่วงรู้ความลับของไอ้หลินเราตอนไหนว่ะ แม่มไวชิบหายซิ่งในตอน 263 นี่จะเฉลยทุกอย่าง 5555 ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังใงล่ะก็คลิกบทถัดไปอ่านกันได้เลยคับ

ปล.ที่ 3. ทิ้งท้าย ปล.2 : อ่อตรงนี้ในเรื่องของ เม็ดยาต้องห้ามนะครับ คือเม็ดยาพวกเนี้ยมันมีที่มาจากผู้เชื่อมต่อฯเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเชี่ยวนะฮ่ะ นี่จึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่กล่าวได้ว่าเหนือกว่าเหล่าคนธรรมดา ย้ำว่าส่วนหนึ่งนะ แล้วก็คนที่จะสร้างยาพวกนี้ได้เนี่ยมันก็ต้องอยู่ในขั้นสูงด้วยถึงจะสร้างได้ และก็ยังมีอะไรอื่นๆอีกมากมายที่เหล่าผู้เชื่อมต่อฯนั้นทำได้ซึ่งผมจะค่อยๆทยอยบอกไปเลื่อยๆทุกคนจะได้รู้กันไวขึ้นว่าผู้เชื่อมต่อนั้นแตกต่างจากคนธรรมดายังใง

ปล.ที่ 4.ทิ้งท้าย : ในบทที่ 264 นี้จะนับได้ว่าจบกับภาคต่อสู้กับไอ้กงของเราแล้วน่ะฮะ ก็ในตอนท้ายของบทที่ 264 ผมจะเขียนสคริปในภาคต่อไปกันเอาไว้ให้ยั่วน้ำลายกันเล่นๆนะ 555 เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 3 หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิงไปพร้อมกลับคุณ

1 : เห้อ จริงๆก็สงสารไอ้หลินเหมือนกันนะ 2 แต่ก็เงี้ยแย้มกับพี่เฟิงเราก็จบไม่สวยแบบนี้ทุกราย นายคิดเหมือนฉันไหม

2 : ช่ายยย ฉันก็คิดเหมือนนาย 1 แถม หลิน หลานก็กากเองด้วยการที่ตายแบบนี้ก็เหมาะแล้ว

3 : เหอะ ไอ้พวกไม่มองความยุติธรรม ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนมึงมองกันไม่เห็นหรือไงว่าไอ้เฟิงแม้งทำร้ายคนไม่มีทางสู้ คือแบบคนบาทเจ็บอ่ะ คนไม่มีเรียวมีแรงนี่เก่งจัง พอตอนเขาท็อปฟอร์มหน่อยๆนี่หงอเลย

“ขอเพียงแค่ท่านพูดมาแล้ว ข้าน้อยจะยินดีทรมานตัวเอง”

โด่วไอ้สร้างภาพรอให้ไม่มี จูเกอ ผู้เฒ่าหลี่ ซูรู่ ซูเหม่ย และนิกายโลกวิญญาณดิ แม้งก็คง เดินชมจันหนีและปล่อยให้คนนับล้านตายไปแล้ว อะโธ่ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน?? ดูทำตัวกูว่าแม้งเป็นพวกเดียวกัน กับไอ้หกคนที่รุมทำร้ายคนพิการชัวกูมั่นใจ

1 : นายก็พูดเกินไปนะ 3 ถ้านายอ้างตัวว่าเป็นพวกชอบความยุติธรรมจริง ทำใมตอนไอ้หลินมันประกาศจะฆ่าคนนับล้าน นายถึงได้ไม่ด่ามันแต่กลับสรรเสริญมันในตอนนี้??

3 : เอิ่ม……..

2 : ใช่ๆนายก็ทำตัวเหมือนกับ…..ที่ออกมาปกป้องไอ้พวกหกโจ๋อ่ะแหละ 3

3 : เอ้อ กูยอมก่ะด๊ายกูตัวโกงมีไรป่าว!!

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments