I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 263 – ความเกลียดชัง

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

การส่งเสริมสำนักมังกรฟ้าให้เป็นสำนัก # 1 ถูกจัดขึ้นตามกำหนดการเดิม นอกจากจากพวกสำนัก#1 สำนักอื่นๆที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ต่างพากันไปแสดงความยินดี

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้คนที่เข้าไปแสดงความยินดี พวกเขาได้รับการต้อนรับจากเหล่าองครักษ์ของคฤหาสน์องค์ชายกิเลนที่สวมเกราะทอง มันทำให้ทุกคนตกใจอย่างมาก

แต่เมื่อพวกเขาพบว่าองครักษ์จากคฤหาสน์องค์ชายกิเลนมี ‘ฉี เฟิงหยาง’ เป็นผู้บัญชาการ ก็ถึงกับทำน่าแปลกๆ เพราะคิดว่าจะเป็น ‘ชูเฟิง’ ที่ออกมาต้อนรับ

เรื่องที่ ‘ชูเฟิง’ เป็นพี่น้องกับ ‘ฉี เฟิงหยาง’ เรื่องนั้นต่างสร้างความประหลาดใจให้กับหลายๆคน อีกทั้งความน่าเหลือเชื่อ ที่’ชูเฟิง’อยู่ในระดับ 7 กำเนิดวิญญาณ แต่กับเอาชนะ ‘กง ลู่หยุน’ ที่อยู่ในระดับ 4 แก่นแท้ ได้ ทุกคนจึงรู้สึกว่าตัวตนของ ‘ชูเฟิง’ แสนจะยิ่งใหญ่ และ ลึกลับ

ดังนั้น คนทั้งหลายจึงต้องการที่อยากจะเห็น ความยิ่งใหญ่ของอัจฉริยะอย่าง ‘ชูเฟิง’ แต่มันก็ไร้ประโยชน์ ในวันที่สำคัญของสำนัก ‘ชูเฟิง’ ก็ยังไม่ปรากฏตัว ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน พวกเขาจึงคิดว่า ‘ชูเฟิง’ แยกตัวออกไปฝึกฝนวิชา

ในเวลาเดียวกัน ‘กง เทียนผิง’ และคนอื่นๆ ของเมืองเต่าทมิฬ ก็เดินทางกลับไปยังเมือง ปัจจุบัน ‘กง เทียนผิง’ ทำได้แค่อดทนต่อความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียลูกชาย เขาจึงแยกตัวออกไปไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตา แต่เมื่อบุคคลขนาดใหญ่จากคฤหาสน์องค์ชายกิเลน นำกองทัพใหญ่มาเยือน เขาจึงไม่มีทางเลือก ได้แต่ออกมาพบพวกเขา

” อะไรนะ ท่านหลิน หลาน ไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์องค์ชายกิเลนงั้นหรอ นี่มันไม่ถูกต้อง . . . . ดูจากระยะทางเขาน่าจะถึงแล้วหนิ “

ภายในห้อง ‘กง เทียนผิง’ ผู้เฒ่าหลายคนจาก ตระกูลหลิน ยืนพูดคุยอยู่ในนั้น

” ใช่ นั้นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงกังวล บางที อาจจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นระหว่างทางกลับ จากสำนักมังกรฟ้าเนื่องจากทีโดน ฉี เฟิงหยาง กดดัน และที่พวกเรามานี่ก็เพื่อมาหาข้อมูลเพิ่มเติม “

ความแข็งแกร่งของผู้เฒ่าทั้งหมดไม่ต่ำกว่า ระดับ 7 แก่นแท้วิญญาณ แต่ยังไงก็ตามออร่าของพวกเขาดูแข็งแกร่งกว่า ‘กง เทียนผิง’ ที่กำลังมาตามหาตัว’หลิน หลาน’

” วันนั้น ฉี เฟิงหยาง ทำให้ท่านหลิน หลาน ได้รับบาดเจ็บสาหัส และด้วยเขามีความสัมพันธ์พิเศษกับ ชูเฟิง ท่าคิดว่าเป็นไปได้ไม๊ที่ ฉี เฟิงหยาง จะจับเขาไปคุมขัง ขณะเดินทางกลับ ? “

‘กอง เทียนผิง’ เดาส่งๆ

” เขาไม่ทำหรอก แม้ว่า ฉี เฟิงหยาง จะบ้าคลั่งเวลาต่อสู้ แต่เวลาเขาทำอะไรเขามักจะตรงไปตรงมา เพราะยังไงเขาก็ต้องซื่อสัตย์ต่อคฤหาสน์องค์ชายกิเลน แม้ว่าเขาจะไม่ถูกกับตระกูล หลิน แต่ยังไงเขาก็ไม่ฆ่าคนในคฤหาสน์อย่างแน่นอน ข้าจึงรู้ว่าเรื่องนี้ ฉี เฟิงหยาง ไม่น่าเกี่ยวข้อง “

ผู้เฒ่าหลายคน ส่ายหัว

” ปล่อยข้า!!! ข้าจะเข้าไป!!! “

” ฮูหยินช้าก่อน ฮูหยิน!!! ฮูหยิน !!!!! “

ในตอนนั้น ด้านนอกห้องโถงรับแขกมีเสียงดังเข้ามา จากนั้น ประตูที่ปิดอยู่ก็เปิดออกโดย ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังร้องไห้จนใบหน้าเปียกปอน พร้อมกับฝ่าองครักษ์เข้ามา

” เจ้ามาทำอะไรในนี้ ไม่เห็นหรอว่าข้ามีแขก รีบๆออกไปซะ !!!! “

เมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้น ‘กง เทียนผิง’ โมโหมากพร้อมกับตะโกนใส่ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครนอกซะจาก ภรรยา ‘กง เทียนผิง’ แม่ของ ‘กง ลู่หยุน’

ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ หลงจากถูกตะหวาดแบบนั้น นางก็จะกลัวมากๆ จนไม่กล้าพูดอะไรต่อ แต่วันนี้นางดูต่างออกไป ไม่เพียงแต่นางไม่ไป นางยังชี้นิ้วไปที่ใบหน้า ‘กง เทียนผิง’ และกัดฟันขณะที่กล่าว

” กง เทียนผิง เจ้ามันเป็นคนไร้หัวใจ เพราะ ลู่หยุน ไม่ได้เกิดจากท่านและข้า ท่านก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยให้เขาตายหนิ ถึงยังไงเขาก็เรียกท่านว่า พ่อ ตลอดเวลา 20 ปี ในหัวใจเขาเห็นท่านเป็นเหมือนพ่อแท้ๆของเขา!!! “

เล่าซะหมดเลยนะมิง

” แม้ ท่านหลิน หลาน จะเป็นคนให้กำเนิด ลู่หยุน มันก็ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดหรือแอบมีความสัมพันธ์ลับในปัจจุบัน แต่มันเกิดขึ้นก่อนที่ข้าจะได้รู้จักท่านซะอีก !!! “

ยังไม่หยุดอีก เออ . . .

” แต่ . . . . แต่ท่านกับฆ่าเขาอีกทั้งยังทรมานเขาแบบนี้อีก!!! ท่านมันไม่ใช่คน ท่านมันป๊ศาจ!!! “

หลังจากพูดถึงจุดนั้น น้ำตานางก็ไหลลงมาดั่งสายฝน น้ำเสียงของนางก็แหบแห่ง ยืนตัวสั่นสะท้านด้วยความโกรธ

” เจ้า  . . . .  เจ้าพูดเรื่องบ้าอะไร ? “

ในตอนนั้น ในหัวของ ‘กง เทียนผิง’ เต็มไปด้วยหมอก เขาเดินเข้าไป ตบใบหน้าของภรรยาเขาอย่างแรง จนนางกระเด็นไปหลายสิบเมตร

” ตีข้าสิ ตีข้าอีก ตีข้าให้ตาย ยังไง ลู่หยุน ก็ตายแล้ว ข้าไม่อยากมีชีวิตต่อไปอีกแล้ว แต่ก่อนที่ข้าจะตาย ข้าจะต้องลากปีศาจอย่างท่านไปด้วย!!! “

” ท่าน หลิน หลาน ถูกไอ้บ้า กง เทียนผิง ฆ่าตาย ตอนนี้ร่างของเขาอยู่ในห้อง กง เทียนผิง นี้แหละ “

หญิงวัยกลางคนพูดขณะที่ร้องไห้ บอกกล่าวผู้เฒ่าทั้งหลาย ในเวลาเดียวกัน นางก็ลุกขึ้นจากพื้น และเดินออกไปผู้เฒ่าทั้งหลายจากคฤหาสน์องค์ชายกิเลน มีสีหน้าเครียด พวกเขามองหน้ากันและกัน แล้วรีบตามนางไป

” อาวุโส อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของนาง เพราะลูกชายข้าตาย นางจึงจิตตก ดังนั้นนางเลยแต่งเรื่องบ้าๆ นี้ขึ้นมา ปกติแล้วนางไม่เป็นเช่นนี้ “

เห็นแบบนั้น ‘กง เทียนผิง’ ก็ต้องรีบอธิบายๆหลายๆอย่าง แต่ ผู้เฒ่าก็ไม่สนใจเขาภายใต้การนำทางของผู้หญิง พวกเขาก็เดินมาถึงห้องของ ‘กง เทียนผิง’อย่างรวดเร็ว ในเวลานั้นไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น ที่แทบบ้า พวกที่ตามมาด้วยก็เช่นกัน

ภายในห้อง มีร่างเปลือยเปล่าถูกแขวนอยู่ สภาพศพไม่สมบูรณ์ เขาไม่มีมือหรือเท้า และแม้กระทั้ง กระปู๋

อย่างไงก็ตาม หน้าของศพยังคงสภาพสมบูรณ์ และเจ้าของร่างนั้นก็ คือ ‘หลิน หลาน’ ผู้จัดการ คฤหาสน์อังค์ชายกิเลน

แต่ยังไงก็ตาม ดวงตาของ’หลิน หลาน’ถูกขวักออกไป ลิ้นยังถูกตัด และทีเด็ดคือแผ่นป้ายที่ห้อยไว้บนคอ ป้ายนั้นมีอักษรตัวใหญ่ เขียนว่า ” ชู้ “

” กง เทียนผิง ดูที่ท่านทำสิ แม้ ลู่หยุน เกิดจากข้าและท่านหลิน หลาน ท่านก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทรมานเขาถึงขนาดนี้ ท่านมันเป็นคนที่ไร้หัวใจ !!! “

หลังจากเห็น ‘หลิน หลาน’ในสภาพแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นได้แต่ร้องไห้อีกครั้ง

” สวรรค์ นี่ . . . . . . . . . . “

‘กง เทียนผิง’ ถึงกับ คุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่มึนงง เพราะฉากด้านหน้าของเขา

” กง เทียนผิง คนจากคฤหาสน์องค์ชายกิเลนคอยสนับสนุนตระกูลเจ้าเรื่อยมา แล้วเจ้ายังกล้าทำร้ายท่านหลิน หลานถึงขนาดนี้เพราะแค่ความแค้นส่วนตัวงั้นหรอ !!! “

หนึ่่งในผู้เฒ่าชี้หน้า ‘กง เทียนผิง’ เสียงดัง พร้อมกับตำหนิ

” ทหารทั้งหมดจงฟัง ฆ่า ผู้ชายคนนี้ และ ตระกูล กง ทั้งหมดอย่าให้เหลือ ไม่เว้นแม้กระทั้ง สนุข !!!! “

ตอนนั้นกองทัพกิเลนตะโกนโห่ร้องเข้ามาทิศทางค่ายด้านนอกของเมืองเต่าทมิฬสำหรับผู้เฒ่าสามคน เขาตรงไปโจมตี ‘กง เทียนผิง ‘ในทันที พวกเขาซัดฝ่ามือใส่ขมับและบริเวณหัว ‘กง เทียนผิง’ ในเวลานั้นใบหน้าของ’กง เทียนผิง’ มีเลือดไหลอาบ ผู้เฒ่าทั้งหมดต่างตะโกนพร้อมกันว่า

” หากข้าไม่ผ่าเจ้าออกเป็น 8 ส่วน ความแค้นในใจของข้าคงไม่สามารถสลายได้ และข้าคงไม่มีหน้าไปพบท่าน หลิน หลาน ที่อยู่บนสรวงสวรรค์ “

หลังจากที่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น กองกิเลนที่กำลังต่อสู้ก็ยิ่งโกรธแค้นมากยิ่งขึ้น พวกเขาสังหารคนอย่างไร้ความปราณี โดยเริ่มต้นที่จะสังหารตระกูล กง ให้หมด เพราะหากไม่ทำเช่นนั้น พวกเขาก็ไม่สามารถดับเปลวเพลิงแห่งความโกรธในจิตใจลงไปได้

เพราะการตายของ ‘หลิน หลาน’ เป็นฉนวนที่นำมาสู่การล้มสลายของตระกูล กง พวกเขาต่างจมลงสู่ความสิ้นหวัง ในเวลานั้น ทั้งเมืองต่าง มีเสียง กรีดร้อง บ้าางก็ร้องไห้ ด้วยความทุกข์ ความเจ็บปวด ไม่นานพวกเขาคงถูกกองทัพกิเลน ลบออกไปจากอาณาจักรมังกรฟ้าตระกูล กง ถูกทำลายจนหมดสิ้น

บนยอดพระราชวังแห่งหนึ่งในเมืองเต่าทมิฬ มีเด็กหนุ่มยืนอยู่ปลายยอด นั้นคือ ‘ชูเฟิง’

เมื่อมองไปที่ ตระกูล กง ที่กำลังถูกสังหาร หมู่ ใบหน้าของเขาไมมีร่องรอยแห่งความสงสารแม้แต่น้อย ‘ชูเฟิง’ เงยหน้าขึ้นท้องฟ้าและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แสนเศร้า

” ท่านพ่อ คนที่ทำร้ายพวกท่านตอนนี้พวกมันได้รับโทษอย่างสาสม ขอให้ท่านหลบตาลงอย่างสงบเถิด”

ใกล้ถึงจุดจบเล่มที่ 1

จึงต้องเปลี่ยนยุคสมัย . . . .

เรื่องราวจะเข้มข้น และยิ่งสนุกมากกว่านี้ . . . . .

เมื่อชูเฟิงต้องเผชิญหน้า กับสำนัก หลิง หยุน เพื่อชิงความเป็นหนึ่ง . . . . .

เขาจะเติบโตขึ้นมากแค่ไหน ต้องมารอติดตามไปพร้อมๆกัน

ไว้พบกันใหม่นะ คับ

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments