I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

The Tutorial Is Too Hard ตอนที่ 6 – การฝึกในชั้นแรก ห้องรอ(3)

| The Tutorial Is Too Hard | 797 | 2337 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

[Attempt 1, Day 0. 1:28pm]
[เวลาก่อนถึงการฝึก : 70 ชั่วโมง 32 นาที]

พวกเรานั่งรวมกันอยู่กลางห้องหินอ่อนที่ชั้นที่แรกและเริ่มแนะนำตัว

คนที่ดูเหมือนหมีเป็นคนอธิบายทุกอย่างให้ผม เริ่มแนะนำตัวเป็นคนแรก

เขาชื่อ ‘สุยมินซิก’
เขาอายุ 47 ปี
โดยปกติเขาดูเหมือนคนงาน
เมื่อเขากำลังจะลาออกจากงาน ข้อความก็ปรากฏขึ้นทันทีและเขาก็หมดสติไป

ความสามารถพิเศษของเขาคือการที่เขาอยู่ในทีมกรีฑาของโรงเรียนมัธยม

ต่อมาคือนักเลงเจ้าอารมณ์ ชื่อของเขาคือ โชยองมิน
เขาอายุ 31 ปี
เหมาะมากที่เรียกเขาว่านักเลง

ความสามารถพิเศษของเขาคือเขาชอบเกมเกาหลีแนว RPG เช่น Lineage

ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ชั้นแรก ปาร์คซูอา คือคนถัดไป
เธออายุ 21 ปี
นักศึกษาระดับอุดมศึกษา

เธอชอบอะนิเมะญี่ปุ่นมาก

“ผม ลีโฮแจ อายุ 26 ปีและผมเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพ”

“นักเล่นเกมมืออาชีพ? Lineage หรือ?”

โชยองมินถามด้วยความยินดี
มีนักเล่นเกมLineage มืออาชีพอยู่ด้วยรึนี่?

“ไม่…ผมเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพในหมวด RTS ตอนที่ผมยังเด็กผมได้เล่นกีฬาจำนวนมากรวมถึงเคนโด้ด้วยเพราะฉะนั้นผมมั่นใจในความสามารถของผมมาก” [ RTS เป็นเกมแนววางแผน เช่น Yuri C&C ]

“ตอนนี้พวกเรารู้เรื่องของแต่ละคนมากขึ้น มีใครอยากพูดอะไรไหม?”

มินซิกเริ่มพูด
อย่างไรก็ตามพวกเราเริ่มคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นและพยายามอ่านสถานการณ์ปัจจุบัน
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับมันเลย ผมคิดว่าพวกเราอยู่ด้วยกันจึงเริ่มบทสนทนา

“อันดับแรก ผมเชื่อว่าพวกเราเข้าใจว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เหมือนกับเกมใช่มั้ย?”

สามคนที่เหลือเห็นด้วย

“พวกเขาให้อาวุธกับพวกเรารวมถึงค่าสถานะด้วย มันคล้ายกับเกมแนว RPG  เหมือนกับเกม Lineage ที่คุณโชยองมินชอบ”

“ใช่แล้ว มันเหมือนมากจริงๆ”
โชยองมินตอบด้วยเสียงดัง

“สิ่งที่สำคัญที่สุดในเกมแนว RPG คือการเล่นแบบทีม ในปาร์ตี้พวกเราจะได้รับมอบหมายหน้าที่และเล่นเป็นทีม ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าใครเลือกอาวุธประเภทใดเพื่อจะมอบหมายหน้าที่ให้แต่ละคนได้”

ทั้งสี่คนเปิดช่องเก็บของพร้อมกันและหยิบอาวุธออกมาวาง

สุยมินซิกมีตรีศูลขนาดใหญ่
ด้ามจับที่กว้างและใบมีดขนาดใหญ่
มันหนักมาก
ดูเหมือนจะมีความยาวประมาณ 2 เมตร เป็นเหมือนอาวุธที่ถูกใช้โดยกวนอูและเตียวหุยจากสามก๊ก

โชยองมินเลือกขวาน ใบมีดใหญ่กว่าขวานดับเพลิงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามที่ด้ามจับเป็นโลหะดูเหมือนใช้ง่าย
ผมคิดว่าเคยเห็นอาวุธแบบนี้ที่ไหนสักแห่ง ผมนึกออกแล้วขวานแบบนี้ถูกใช้โดยคนแคระจากเรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริง

พวกเราทั้งสามคนเลือกอาวุธระยะประชิด

ในใจผมหวังว่าปาร์คซูอาจะเลือกอาวุธระยะไกล อย่างธนู อาวุธขว้างหรืออาจจะเป็นไม้เท้าเวทมนตร์

อย่างไรก็ตามซูอาได้หยิบเอาดาบคาตานะมาแทน
มันดูใหญ่กว่าคาตานะทั่วไป
พูดง่ายๆมันดูเหมือนในอนิเมะ

พระเจ้าช่วย เธอจะใช้….
คุณจะเป็นอะไร ยมทูตจากเรื่อง Bleach หรอ?

พวกเราทั้งสี่คนเลือกอาวุธระยะประชิดทั้งหมด การรวมกันเป็นจุดเล็กๆ
ในขณะที่สุยมินซิกและโชยองมินกำลังเถียงกันเรื่องอาวุธใครดีกว่ากัน แล้วผมก็คิดอะไรบางอย่างออก

“ผมคิดออกละ ฟังนะ”

รูปแบบที่ผมคิดคือ

โชยองมินและผมอยู่ด้านหน้า

เพราะว่าผมมีโล่อยู่ ผมจะอยู่ด้านหน้าเพื่อบล็อกการโจมตีด้านหน้าและให้ยองมินโจมตีด้วยขวาน

สุยมินซิกอยู่ด้านหลัง

เพราะสุยยมินซิกอยู่ด้านหลัง เขาสามารถแทงตรีศูลออกมาระหว่างโชยองมินและผม

สุดท้ายปาร์คซูอามีบทบาทอิสระ
ดาบคาตานะมีความยาวมาก เมื่อเทียบกับร่างกายของซูอา มันหนักเกินไป เธอต้องใช้มันเป็นดาบสองมือ นี่เป็นวิธีที่อันตรายมากสำหรับผู้เริ่มต้นใช้

ซูอาจะอยู่ด้านข้างของสุยมินซิกและอ่านสถานการณ์ นอกจากนี้ถ้าโชยองมินหรือผมได้รับบาดเจ็บหรือมีคนไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง ซูอาจะเข้ามาสนับสนุนและโจมตีเฉพาะจุดอ่อนที่มีโอกาสเท่านั้น

“พวกคุณคิดว่าเป็นอย่างไร?”

สุยมินซิกและโชยองมินเห็นด้วยกับตำแหน่งที่ผมเสนอ
สุยมินซิกดูเหมือนจะโล่งอกที่ปลอดภัยกว่าหนึ่งก้าวและโชยองมินดูมีความสุขที่เป็นตัวทำความเสียหายหลักของกลุ่ม

อย่างไรก็ตามปาร์คซูอาไม่ชอบความคิดนี้
จริงๆแล้ว ผมคิดว่าซูอาจะชอบตำแหน่งนี้มากที่สุดเพราะเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยมากที่สุด น่าประหลาดใจเมื่อเธอแสดงความไม่พอใจออกมา

“ซูอา ผมเข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไร แต่ผมคิดว่าคุณควรพิจารณาคำแนะนำของโฮแจนะ
ผมเข้าใจว่านี่มันเป็นเกม แต่พวกเราไม่รู้ว่าถ้าพวกเราบาดเจ็บหรือตายมันจะเหมือนในเกมไหม นอกจากนี้เรายังเลือกระดับความยากมากที่สุดอีกด้วย เราไม่ทราบถึงอันตรายข้างหน้าที่จะเกิดขึ้นและถ้าพวกเราควรทำตามคำแนะนำนะ ผมเชื่อว่าถ้าทำตามที่โฮแจบอกพวกเราจะปลอดภัยและมั่นคง”

สุยมินซิกพยายามโน้มน้าวซูอา
ถึงแม้ว่าสีหน้าของซูอาจะไม่เปลี่ยนไป แต่เธอก็พยักหน้าเห็นด้วย

จากนั้นพวกเราก็เริ่มฝึกเป็นกลุ่ม

ไม่ว่าเราจะไปไกลแค่ไหน พวกเราก็ไม่เจ็บ ไม่เหนื่อยหรือหิวได้ นี่เป็นสถานที่เหมาะที่จะฝึกมาก

อันดับแรก พวกเราเริ่มประจำตำแหน่งที่ผมแนะนำ

โชยองมินและผมอยู่ด้านหน้าโดยผมอยู่ด้านหน้ายองมินเล็กน้อย โดยสุยมินซิกและโชยองมินอยู่ด้านหลังผม

มันเป็นสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ทางสุยมินซิก
พวกเราไม่สามารถอยู่ใกล้เกินไปและไม่อยู่ไกลเกินไป

หลังจากที่ปรับกันหลายครั้ง พวกเราพบระยะห่างที่เหมาะสม
ขั้นแรกพวกเราแกว่งอาวุธกันเหมือนกับคนบ้า

“นี่คงพอละนะ”

คำพูดของโชยองมินมีเหตุผลและพวกเราเริ่มเบื่อกันแล้ว
ดังนั้นพวกเราจึงหยุดแกว่งอาวุธ

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเราก็เริ่มสู้กันเอง
ผมกังวลว่าอาวุธของเราจะได้รับความเสียหายในขณะที่เราฝึก แต่โชคดีที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น
เมื่ออาวุธเสียหาย พวกมันจะซ่อมแซมตัวเองไม่นานหลังจากนั้น
ไม่เพียงแต่ห้องนี้จะรักษาพวกเราเท่านั้น ยังซ่อมแซมอาวุธแบบอัตโนมัติอีกด้วย

ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในห้องรอที่ไม่สามารถบาดเจ็บได้ เมื่อต่อสู้กัน พวกเราฝึกฝนโดยไม่ได้หวังจะฆ่ากัน

พวกเราทุกคนมีชีวิตที่สงบสุขจนกระทั่งเมื่อวานนี้
พวกเราไม่ได้เตรียมที่จะเลือดตกยางออก แม้ว่าพวกเราจะอยู่ในห้องรอก็ตาม

อย่างไรก็ตามพวกเราได้ทำการปรับปรุง
โชยองมินแกว่งขวานและผมได้บล็อกการโจมตีด้วยโล่ของผม
พวกเราฝึกฝนกันอย่างเข้มข้นและเต็มไปด้วยความตั้งใจ

ผมจึงเปิดช่องว่างและแกว่งดาบโจมตีสวนกลับ
เพื่อป้องกันการสวนกลับ โชยองมินเรียนรู้การหมุนขวานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถหมุนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

สุยมินซิกกำลังพยายามที่จะใช้ตรีศุลขนาดใหญ่
ตรีศูลมันหนักเกินไป ไม่สามารถใช้ได้ตามจินตนาการเหมือนที่คุณเห็นในภาพยนตร์จีน คุณสามารถใช้น้ำหนักให้เป็นประโยชน์ในการแทง

โชคดีที่รูปแบบการป้องกันด้านหลังของพวกเรา การโจมตีจากด้านหลังของเราเชื่อถือไม่ได้

ซูอาค่อนข้างมีปัญหา

เนื่องจากคาตานะของเธอมันใหญ่เกินไป เธอไม่สามารถแกว่งมันได้อย่างถูกต้อง
มันเป็นเหมือนกับการโบกไม้โบกมือไปในอากาศแบบที่ไม่สามารถควบคุมได้
เธอยังไม่ชนะเมื่อต่อสู้กับพวกเรา
ผมสามารถตีเธอได้โดยไม่ต้องใช้ดาบ

ผมไม่ได้คาดหวังอะไรจากเธอมาก ดังนั้นผมเลยไม่ผิดหวังมากนัก
อย่างไรก็ตามคุณสามารถบอกเลยว่าเธอหัวเสียกับเรื่องนี้มาก

“เราลองมาเปลี่ยนอาวุธกันดีมั้ย?”

บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอหัวเสียจากการฝึกของเธอ แต่ซูอาได้มาแนะนำให้พวกเราลองสลับอาวุธกัน

“ทำไมล่ะ?”

โชยองมินตอบด้วยน้ำเสียงหยาบคายต่อคำแนะนำของซูอา

บอกได้เลยว่าซูอาหัวเสียทันที

“มาลองดูกันเถอะ บางทีถ้าพวกเราลองใช้อาวุธของแต่ละคน พวกเราอาจจะเข้าใจเพิ่มเติมก็ได้”

โชยองมินตกลงที่จะใช้อาวุธของคนอื่น หลังจากที่ผมพูดอย่างนั้น เขามักจะไม่สนใจซูอาและรู้สึกสนุกกับคำแนะนำของสุยมินซิกทุกครั้ง
แปลกเหมือนกันที่เขายอมรับกับทุกอย่างที่ผมแนะนำ
อาจจะเป็นเพราะผมปฏิบัติกับเขายอมเยี่ยมตั้งแต่ที่ผมพบกับเขา
โชยองมินมักจะบ่นตลอดเวลาและอารมณ์ไม่ดี แต่อย่างน้อยนิสัยของเขากก็ไม่ใช่ไม่ดีซ่ะทีเดียว การรู้ความจริงที่ว่าเขาเป็นนักเลง แต่ว่าเขาเป็นคนที่นิสัยดีเลยทีเดียว
จริงๆแล้วตอนที่โชยองมินแนะนำตัวว่าตัวเองเป็นนักเลง บรรยากาศในห้องรอก็เริ่มเย็นขึ้นมา ถึงอย่างนั้นดูเหมือนโชยองมินจะเข้ากับคนอื่นได้ดี

หลังจากที่ได้เปลี่ยนอาวุธแล้วพวกเราก็เริ่มสู้อีกครั้ง น่าแปลกใจที่ซูอาได้รับชัยชนะหลายครั้ง

“บ้าน่า มันใช้ยากมาก คนในหนังใช้ดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย”

โชยองมินพูดออกมาหลังจากที่พยายามใช้คาตานะ

มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อพวกเราเริ่มซ้อมด้วยอาวุธที่ไม่เหมือนเดิม
ในขณะที่พวกเราได้รู้จักอาวุธของกันและกันมากขึ้น พวกเราได้อธิบายจุดอ่อนของพวกเขา

ที่สำคัญที่สุด ที่มีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อซูอาเหวี่ยงขวานของโชยองมิน
เธอเริ่มซ้อมเหวี่ยงขวานจากการตัดไม้โดยใช้กำลังทั้งหมดของเธอ

แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะใช้ในการต่อสู้จริง แต่ก็เหมาะสมกับหน้าที่ของเธอ

ซูอาเริ่มฝึกฝนแบบไม่หยุดพักด้วยอาวุธอื่นๆทำให้เธอมีความมั่นใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตามมีปัญหาอีกหนึ่งอย่างคือ

“กระชากวิญญาณ! คำพิพากษา! ลำแสงจันทรา!”
ทุกครั้งที่เธอเหวี่ยงอาวุธของเธอเ ธอจะตะโกนบางอย่างออกมา
ตอนแรกผมพยายามที่จะมองข้ามไปเพราะว่าผมเชื่อว่ามันทำให้เธอมีสมาธิ แต่ผมบอกได้เลยว่าผมอายทุกครั้งที่เธอตะโกนออกมา

“โอ้ ทำไมผมถึงรู้สึกอับอายเหลือเกิน?”

“คุณต้องพูดชื่อสกิลทุกครั้งที่คุณใช้มันเลยเหรอ?”

ผมหมายความว่า ทำไมคุณต้องตะโกน ‘แทง’ ทุกครั้งที่คุณฟันมันลงมา

มันไม่มีเหตุผลเลย

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments