I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

The Tutorial Is Too Hard ตอนที่ 7 – การฝึกในชั้นแรก ห้องรอ(4)

| The Tutorial Is Too Hard | 877 | 2367 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

[Attempt 1, Day 0. 26 ชั่วโมง 10 นาที]

[เวลาก่อนถึงการฝึก: 45 ชั่วโมง 50 นาที]

“นี่มันบ้ามาก จะให้ชั้นหุบปากแล้วไม่ทำอะไรอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?”

“ไม่ได้หมายความอย่างนั้น แค่พูดเพราะว่าเธอตกใจง่ายยังไงล่ะ”

เกิดบรรยากาศตึงเครียดขึ้นระหว่างยองมินและมินซิก.
พวกเขาเป็นแบบนี้มาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว

สิ่งที่เขาเถียงกันมากว่าครึ่งชั่วโมงมันแตกต่างกันมาก
ทุกอย่างมันเริ่มขึ้นเพราะอีโก้ที่เกิดระหว่างที่ลองฝึกใช้อาวุธของแต่ละคน

นอกจากนั้น ดูเหมือนว่าทั้งสองคนอยากจะขึ้นเป็นหัวหน้าปาร์ตี้

พูดง่ายๆ คือยองมินดูป่าเถื่อน และค่อนข้างเป็นลูกผู้ชาย

เขาเกลียดการทำสิ่งที่น่าเบื่อและต้องใช้ความอดทน แต่เขาจะทำสิ่งที่ทำให้เขาดูเด่น

ถ้าจะให้พูดถึงมินซิก มันคงเป็นเรื่องที่เขามีความอดทนสูงมากเหมือนคนมีอายุ
เขาจริงจังและใจเย็น แต่เขาก็ไม่ยืดหยุ่นกับคนและยึดมุมมองตัวเองเป็นหลัก

ยิ่งกว่านั้น ถ้าให้อธิบายเป็นคำพูด เขาแสดงถึงความลุ่มหลงในพลัง

ไม่แน่ใจว่าการเป็นหัวหน้าของคนแค่ 4 คน จะดับความลุ่มหลงนั่นได้ไหม แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็แค่อยากเป็นหัวหน้า

พูดตรงๆ เขาทำให้การสนทนาของเราเป็นกลุ่มก้อน
เขาบอกให้เราแบ่งปันวิธีฝึกต่างๆ
เขาได้ทำหน้าที่ของการนำปาร์ตี้ไปแล้วล่ะ

สำหรับผม…
อืม…ผมไม่สนใจ ผมชอบจะเล่นคนเดียวมากกว่า ผมลองเล่นเกมมาทุกแบบแล้วในอดีต ที่สิ่งผมชอบก็คือการใช้ทีมเวิร์คให้น้อยที่สุดและเชื่อมั่นในตัวเองที่เก่ง

ผมนั่งดูสองคนเถียงกันต่อไป
ซูอานั่งอยู่ถัดจากผม และดูเหมือนจะไม่อยากเข้าไปเถียงกับสองคนนั้น แค่นั่งดูพวกเขาเหมือนกับผม

“มหาลัยฮันโซ? นายต้องเก่งมากเลยสิ”

“พ่อแม่ฉันบอกว่าถ้าผมทำข้อสอบเข้ามหาลัยไม่ได้ ผมจะไม่มีวันได้เป็นเกมเมอร์อาชีพ ผมเลยเรียนอย่างหนัก”

เราสองคนพูดคุยกันสบายๆ ในขณะที่ดูว่าเขาจะเถียงกันจบเมื่อไหร่
ผมเซ็งเล็กๆ ที่เราไม่มีป๊อปคอร์นน่ะ

 

ในที่สุดก็ดูเหมือนว่าเขาเถียงกันใกล้จะจบแล้ว
สงครามอีโก้ที่ว่า “ใครจะได้เป็นหัวหน้าปาร์ตี้y?”

“เอางี๊แล้วกัน ใครทำได้ดีกว่าในด่านฝึกก็เป็นหัวตี้แล้วกัน”

“เออ อย่าถอนคำพูดแล้วกัน”

เรื่องของพวกเขาทั้งหมดก็สรุปประมาณนี้

“พวกนายเห็นด้วยไหม?”

ยองมินหันมาพูดกับผมและซูอา
พวกเขาตกลงกันเอง จะให้ผมเห็นด้วยกับอะไรล่ะ

“อา แน่นอน ฉันจะลืมเรื่องไร้สาระไปแล้วกัน ไม่ว่าใครจะได้เป็นหัวหน้า”

หลังจากนั้นเราก็ฝึกกันต่อ

กลับมาฝึกกันต่อ
มิกซิกกับยองมินที่ผ่านการเกณฑ์ทหารมาแล้วช่วยการฝึกของเราได้ดีมาก

เราออกกำลังตามที่พวกเขาบอกในตอนพัก
แม้ว่ามันจะไม่ได้ต้องการการใช้กำลังมากนัก แต่มันก็น่าตลกมาก

ปกติการฝึกพวกนี้มันจะทำให้ปวดกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาด แต่อย่างที่คิด ผลของการฟิ้นฟูอัตโนมัติในห้องรอนี้ทำให้เราไม่ปวดกล้ามเนื้อแถมยังไม่เหนื่อยอีกด้วย

ด้วยการฝึกนี้และการฟื้นฟูร่างกายที่รวดเร็วของห้องรอ กล้ามเนื้อส่วนมากและการตอบสนองนั้นได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าซูอาจะรำคาญเรื่องของมินซิกกับยองมินที่เล่าประสบการการเกณฑ์ทหาร เหมือนที่เขาโม้ไว้ มันจะช่วยได้มาก

[Attempt 1, Day 0. 71 ชั่วโมง 57 นาที]

[เวลาก่อนถึงการฝึก: 3 นาที]

ในที่สุดก็จะได้เริ่มมันซักที

ความเครียดของเราทั้ง 4 ลอยไปทั่วห้องรอ แต่บอกได้เลยว่าทุกคนรวมทั้งผม ตื่นเต้นมากกว่าเครียดและหลอน

ทำไมคนอื่นเลือกระดับนรกกันนะ?

ใน 72 ชั่วโมงสุดท้าย เราฝึกกันอย่างหนักมากทั้ง 3 วัน
มันเป็นไปได้เพราะความจริงเราอยู่ในสภาพที่ไม่ได้รับการบาดเจ็บอีกทั้งยังไม่หิวและไม่เหนื่อยเลย
ถ้าไม่มีข้อได้เปรียบแบบนี้ นอกจากจะไม่มีเวลา  เรายังต้องบาดเจ็บกันหนักมาก เช่นกล้ามเนื้อฉีก กระดูกหักจากการฝึกจำลองการต่อสู้ทั้งหมดที่ทำไป

แต่เราใช้ห้องรอให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถึงมันจะเป็นที่ที่ให้เราพัก แต่เราก็ใช้ห้องรอให้การฝึก
ผลก็คือเราเติบโตขึ้นในระดับที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะทำได้ใน 3 วัน

[การฝึกครั้งแรกกำลังจะเริ่ม]

[ทางเข้าด่านฝึกกำลังจะเปิด]

ประตูเวทมนต์ 4 บานปรากฏขึ้นในห้องรอ

บนประตูมีข้อความอยู่

[ลีโฮแจ]

อืม…

“พวกนาย ดูเหมือนว่าจะไปได้ทีล่ะคนนะ”

ซูอาพูดออกมา

การฝึกกลุ่มทั้งหมดที่เราทำมา…จะไม่ใช้งั้นเหรอ?

“แย่ละ หมายความว่าเราเสียเวลางั้นสิ?”

“ฮืม… เราไม่ได้เสียเวลาหรอก เราเติบโตไปด้วยกัน นอกเหนือจากนี้เราอาจจะได้มาร่วมทางกันในอนาคต อย่าเสียใจไปเลย”

มิกซิกพูดให้สมาชิกใจเย็นลง.

[ทางเข้ากำลังจะใช้ได้]

เราไปที่ทางเข้าของแต่ลำคนตามลำดับ

“ทุกคนระวังตัวด้วย. หวังว่าจะได้เจอกันหลังจากการฝึก”

ผมรู้สึกเหมือนกับมินซิก
ผมอยากคนพวกนี้ปลอดภัยและกลับมาเจอกันอีกครั้ง

อาจจะเป็นเพราะช่วงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกัน ที่เราตั้งใจฝึกกันมาใน 3 วันสุดท้าย มันทำให้พวกเราสนิทกันมากจริงๆ

แน่นอน เราอาจจะมีปากเสียงและเห็นแก่ตัวกันบ้าง แต่ก็รู้สึกพูดได้ว่าคนพวกนี้เป็นเพื่อนของผม

ผมชอบที่จะเล่นทีมเดี่ยว
มันไม่สะดวกใจที่จะปกป้องคนอื่นเพราะมั่นใจกว่าทำเองได้ดีอยู่แล้ว
ยังไงก็ตามในสภาพนี้ 3 คนนั้นดูจะเป็นคนที่ผมคาดหวังได้
พวกเขาอาจจะยากเกินไปที่จะอยู่ด้วยได้ แต่มันก็เชื่อถือได้ใน 3 วันที่ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน
แทนที่จะรู้สึกเหมือนถูกขัง มันดูเหมือนเวลาที่ได้ไปเค้าแคมป์ฝึกฟุตบอลตอนวันหยุดมากกว่า

“เฮ้ ก่อนฉันจะไป…”

ยองมินยกหมัดของเขาขึ้นม.
ทุกคนยิ้มและยกหมัดขึ้นมาเหมือนกัน

“อย่าเจ็บตัวและมาเจอกันอีกครั้งล่ะ”

“ระวังตัวด้วย ซูอา”

“อื้ม ขอให้ปลอดภัยล่ะทุกคน”

เราทำให้ทุกคนสบายใจและยืนอยู่ที่หน้าทางเข้า

[ทางเข้ากำลังจะใช้งานได้]

[กรุณาเข้าไปในด่าน. เวลาเหลือ: 24 ชั่วโมง]

[คุณจะเข้าไปยังด่านไหม?]

“ตกลง”

แสงสีฟ้าในทางเข้าสว่างขึ้นมาและรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังร่วง และอย่างที่คิด สภาพแวดล้อมทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

มันไม่ใช่ที่ที่เคยอยู่มา 3 วัน แต่เป็นทางเดินมืดๆ

[ด่านฝึก, ยินดีต้อนรับสู่ระดับนรกชั้นแรก]

มันเริ่มขึ้นซักที

ผมหายใจเข้าออกช้าๆ
ให้ใจเย็นขึ้น
คิดว่ามันเป็นเกม

เป็นทางเดินเส้นตรงมืดๆ
มีไฟแขวนอยู่ข้างบน ระยะแต่ละดวงห่างเท่ากัน
แสงมันหรี่มาก อาจจะสว่างไม่เท่าเทียนด้วยซ้ำ
แต่มันก็ทำให้เห็นว่าทางเดินเป็นเส้นตรง
แย่ล่ะมืดเกินไปแล้ว

กำแพง เพดาน พื้นนั้นทำจากหิน
เพดานสูงกว่า 3 เมตร
พื้นหินมันแบนแต่ก็ขรุขระ
ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ ผมลื่นบนพื้นนี่ไม่ได้ด้วยซ้ำ

ที่ข้างหลัง
กำแพงและทางเข้า

ทางเข้า?

ผมเข้าไปหาทางเข้า

[ไปห้องรอชั้นแรก?]

“…ตกลง”

จากนั้น ผมก็กลับมายังที่ห้องรอ

[กรุณาเข้าด่านฝึก. เวลาเหลือ: 23 ชั่วโมง 59 นาที]

แสดงว่าเรากลับมาได้โดยไม่โดนจำกัดอะไร

ในขณะที่กลับอย่าไม่คิดอะไร รู้สึกว่าเวลาเหลือมันลดลง

อะไรจะเกิดขึ้นถ้ามันผ่านเวลาจำกัด 24 ชั่วโมงไปแล้ว?
หลังจากคิดกับตัวเอง เลยอยากจะลองเท่าที่ทำได้
ใช้ดาบกรีดลงบนหลังมือให้เป็นแผลเล็กๆ

เลือดไหลลงอย่างช้า แต่ไม่นานก็หยุดไหลแผลก็สมานกันอย่างสมบูรณ์
ผลของการฟื้นฟูในห้องรอยังคงทำงาน

ไม่รู้ว่ากี่ครั้งผมจะบาดเจ็บในการฝึก
ถ้าผมกลับมายังห้องรอได้ ผมก็จะรักษาตัวเองได้
ผมเจออะไรที่ดีเข้าจริงๆละ
ในสถารการณ์ฉุกเฉิน มันอาจจะช่วยชีวิตผมได้

ตอนนั้น แสงจากทางเข้าสว่างขึ้นและมิกซิกออกมา

“มินซิก?”

ผมเขินนิดหน่อยที่เราเพิ่งแยกจากกันด้วยความตั้งใจแน่นอนว่าจะเข้าไปในการฝึก

“ฮ่าๆๆ. กะแล้วเชียวว่าถ้าเป็นนายก็ต้องลองแบบนี้เหมือนกัน”

มิกซิกพูดพลางเกาหัวตัวเองไปด้วย

ผมบอกสิ่งที่เพิ่งรู้กับมินซิก

“นี่มันเป็นข้อมูลสำคัญมาก ซูอากับยองมินควรรู้เรื่องนี่เหมือนกัน…’

แต่เขาสองคนไม่ได้กลับมา
ที่เป็นไปได้คือพวกเขากำลังอยู่ในการฝึก

หลังจากไม่มีอะไรที่พอจะทำได้แล้ว ผมกับมินซิกก็กลับเข้าไปยังด่านฝึก

[กรุณาเข้าสู่ด่านฝึก. เวลาเหลือ: 23 ชั่วโมง 42 นาที]

[ด่านฝึก, ยินดีต้อนรับสู่ระดับนรกชั้นแรก]

มาเริ่มกันใหม่อีกรอบ

“แถบสเตตัส”

[ลีโฮแจ (มนุษย์)]

Strength: 10
Dexterity: 13
Endurance: 11
Intelligence: 21

ภายในการฝึก 3 วัน ค่า str ของผมเพิ่มขึ้นมา 2 และความทนทาน(endurance)เพิ่มมา 1 มันไม่มีของอย่างเครื่องช่วยฝึก แต่พอรู้ว่าค่าสเตตัสมันเพิ่มขึ้นได้จากการใช้กำลัง ผมก็ออกกำลังกายอย่างมาก

HP และ MP ไม่ถูกแสดงอยู่ในแถบสเตตัส

ไม่แน่ใจว่าถ้ามันเหมือนเกมจริงๆ เราจะตายตอน HP เหลือ 0
ที่นี่เราอาจจะตายจากการโดนโจมตีที่หัวที่แรงมากๆ หรือโดนแทงที่หัวใจ

ถ้าผมหลบการโจมตีหนักๆแบบนั้นได้ และกลับมายังทางเข้าไปห้องรอได้สำเร็จ มันก็จะฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้น
ผมรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านโดยไม่เสียเลือดซักหยด แต่ผมก็อดคิดมากไม่ได้อยู่ดี
หรือถ้าผมโดนโจมตีส่วนอื่นของร่างกาย ผมก็จะตั้งสมาธิกับการป้องกันหัวใจ คอ และหัว

ด้วยโล่บนแขนซ้าย ผมยกไว้ใต้ระดับสายตาและบังหน้าอก คอ และหน้าไว้ ผมย่อเข่าเพื่อให้ส่วนของร่างกายอยู่หลังโล่ให้ได้มากเท่าที่จะทำได้

ด้วยตาทั้งสองข้างเหนือโล่  และดาบของผม ผมค่อยๆเดินหน้าไปช้าๆ

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments