“ชูเฟิงไม่ต้องกังวลไป พวกเราจะอยู่เคียงข้างเจ้าเอง “
 
 
“ชูเฟิงเจ้าเป็นคนของตระกูลชู พวกเราจะไม่ให้เจ้าต้องโดดเดี่ยว. “
 
 
“ใช่ชูเฟิง เจ้ายังมีพวกเรา ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรพวกเราจะสนับสนุนเจ้าและไม่ทอดทิ้ง “
 
ในตอนนั้นเมื่อเห็น’ชูเฟิง’ ทุกคนต่างพูดออกมาด้วยความกังวลมาก ในที่สุด’ชูเฟิง’ก็รู้ว่า มีบางอย่างผิดปกติ เขาต้องการรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงถามไปว่า
 

 
“ในช่วงไม่กี่วันมานี้เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ”
 
 
“น้องชายนี่เจ้ายังไม่ทราบหรือ”
 
‘ชู กูหยู’ ถามเมื่อเห็นหน้าตาสงสัยของ’ชูเฟิง’
 

 
“ตั้งแต่งานชุมนุมร้อยสำนัก ข้าก็แอบฝึกฝนมาตลอดหลังจากนั้นข้าก็มาที่นี่ทันที จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น “
 
‘ชูเฟิง’อธิบาย
 

 
“น้องชาย ตามข้ามา “
 
‘ชู กูหยู’มองรอบข้างอย่างระมัดระวัง และเดินเข้าไปในที่พักของเขา ในตอนนั้น’ชูเฟิง’ได้กระจายอำนาจวิญญาณของเขาปกคลุมพื้นที่นี้แล้วกล่าวว่า
 

 
“พี่ชาย พูดที่นี่ได้เลย “
 
‘ชูเฟิง’นั้นกังวลเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเขาอยากรู้สิ่งที่เกิดขึ้นจรืงๆ
 

 
“น้องชาย เจ้าฆ่าตูกู โอวหยุน และ ทำให้เฟิง ฮ่าว พิการในงานชุมนุมร้อยสำนักจริง. “
 
‘ชู กูหยู’ ถามอย่างจริงจัง
 

 
“ใช่แล้ว เป็นสำนักหลิง หยุน สร้างปัญหาอย่างนั้นหรือ “
 
‘ชูเฟิง’ถาม
 

 
“อืม ไม่เพียง แต่สำนักหลิงหยุน แม้แต่ คฤหาสน์องค์ชายกิเลนก็ตามหาตัวเจ้าอยู่”
 
‘ชู กูหยู’ ตอบ
 

 
“อะไรนะ คฤหาสน์องค์ชายกิเลน”
 
หลังจากที่ได้ยิน ‘ชูเฟิง’ก็ตกใจอย่างมาก แม้เขารู้ว่า สำนักหลิง หยุนกับ คฤหาสน์องค์ชายนั้น มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ว่า ในคฤหาสน์องค์ชายกิเลนนั้น ยังมี’ฉีเฟิง หยาง’อยู่!
 
‘ฉี เฟิงหยาง’ ปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์วิญญาณแล้ว เขาควรจะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้น และอำนาจของเขาควรจะมากกว่า สำนักหลิงหยุน ทำไมคฤหาสน์องค์ชายกิเลนถึงทำเหมือนไม่เห็นหัวเขา
 

 
“น้องชาย หลังเจ้างานชุมนุมเจ้าก็ไม่ได้เจอ ฉี เฟิงหยาง หรือ ไปคฤหาสน์องค์ชายกิเลนกับเขาใช่หรือไม่?”
 
‘ชู กูหยู’ถาม
 

 
“ถูกต้อง.”
 
‘ชูเฟิง’ตอบ
 

 
“อ่า … “
 
‘ชู กูหยู’ ถอนหายใจกล่าวว่า
 

 
“ตอนนี้มีข่าวลือว่า เจ้าร่วมมือกับฉี เฟิงหยาง เพื่อสังหาร ผู้นำของคฤหาสน์องค์ชายกิเลน เพื่อให้ให้ฉี เฟิงหยาง ได้ขึ้นเป็นผู้นำแทน “
 
 
“เจ้าสำนัก หลิง หยุน นั้นเข้าร่วมด้วยในตอนนี้ และ อย่างนั้นเจ้าทั้ง2คน จึงไม่สามารถทำอะไรได้ และตอนนี้ ฉี เฟิงหยางถูก ตัดสินให้ถูกตัดหัวอีก 10 วันข้างหน้า “
 
 
“ในตอนนี้คฤหาสน์องค์ชายกิเลนต้องการที่จะจับตัวเจ้า พวกเขายังสั่งให้ทุกคนตัดความสัมพันธ์กับเจ้าทิ้งซะ และยังสร้างข่าวลือทำลายชื่อเสียงของเจ้า และใครก็ตามที่เกี่ยวพันกับเจ้ามันก็จะตัดสินให้เป็นคนชั่วแบบเจ้าหรือคนอื่น… “
 
 
“คนอื่นหมายความว่าอย่างไร”
 
‘ชูเฟิง’ถามอย่างจริงจัง
 

 
“หลังจาก ที่มีคำสั่งประหาร ฉี เฟิงหยาง พวกเขาจะเริ่มกำจัดทุกคนที่มีความข้องเกี่ยวกับเจ้าหรือผู้ที่ยังไม่ตัดความสัมพันธ์กับเจ้าทั้งหมด “
 
 
“มันเกิดบ้าอะไรขึ้น!!”
 
‘ชูเฟิง’ขมวดคิ้วแน่นเขาไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ในเวลาสั้นๆ ‘ฉี เฟิงหยาง’ ถูกจับกุบตัวและ จะถูกประหาร เพราะอะไร เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสังหาร ผู้นำคฤหาสน์องค์ชายกิเลน และตอนที่’ฉี เฟิงหยาง’คุยกับ’ชูเฟิง’เรื่องผู้นำนั้นมันแสดงออกถึงความเคารพและจริงใจมากนั่นเป็นไปไม่ได้เลยที่’ฉี เฟิงหยาง’ที่คิดจะก่อกบฎ
 
เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำอย่างแน่นอน แต่’ชูเฟิง’ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับมัน เพราะพี่ชายของเขากำลังถูกตัดหัวโดย ผู้นำคฤหาสน์องค์ชายกิเลนที่เขาเคารพ
 

 
“ชูเฟิง ผู้นำคฤหาสน์องค์ชายกิเลน และ เจ้าสำนักหลิง หยุน จับตัวฉี เฟิงหยางไว้ เพื่อบังคับให้เจ้าปรากฏตัว “
 
 
“สิบวันต่อจากนีถ้าเจ้าไม่ไปปรากฏตัว มันจะพลิกแผ่นดินอาณาจักรมังกรฟ้าเพื่อตามล่าเจ้าและข้าทุกคนที่เกี่ยวพันกับเจ้า “
 
 
“ตอนนี้เจ้าต้องรีบพาคนสำคัญของเจ้าไปหลบในที่ปลอดภัย และหลังจากนั้นเจ้าต้องหาวิธีช่วย ฉี เฟิงหยาง และคนอื่นๆ ไม่งั้นไม่เพียงแต่เจ้าที่ต้องตายแม้คนอื่นๆก็ต้องตายตามไปด้วย “
 
 
“อย่าคิดว่าพวกมันจะปราณีพวกเขาแม้ได้ประกาศว่าตัดความสัมพันธ์กับเจ้าแล้ว แต่มันก็ยังจะฆ่าพวกเขาอยู่ดี “
 
 
“นั่นเป็นเพราะ ไม่มีใครกล้าต่อต้านในสิ่งที่พวกมันทำ “
 
‘ต้านต้าน’เตือนเนื่องจากเธอรู้ว่า’ชูเฟิง’นั้นกำลังจะทำอะไร
 

 
“ต้านต้าน เจ้าคิดว่าสถานที่ใดปลอดภัยที่สุดในตอนนี้”
 
‘ชูเฟิง’ถาม
 

 
“ตอนนี้น่าจะเป็นสุสานพันกระดูก ไม่เพียงแต่มีผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าอยุ่ แต่ยังมีสระแก่นแท้ ที่ช่วยบ่มเพาะพลังของพวกเขาด้วย “
 
‘ต้านต้าน’พูด
 

 
“สุสานพันกระดูก เป็นไปไม่ได้ ผู้ก่อตั้งสำนักต้องการให้ข้าปิดเรื่องเขาเป็นความลับ ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอนุญาตให้ข้าพา ครอบครัวของข้าไปอยู่ในสุสานพันกระดูก “
 
‘ชูเฟิง’พูด
 

 
“เจ้าโง่.ถ้าเมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ตอนนี้ผู้ก่อตั้งนั้นมีเรื่องที่ต้องให้เจ้าช่วยดังนั้นเขาต้องไม่ปฏิเสธ แน่นอน”
 
 
“นอกจากนี้มันก็เหมือนการเพิ่มไพ่ในมือเขาด้วย “
 
 
“หมายความว่าอย่างไร “
 
‘ชูเฟิง’ไม่เข้าใจ
 

 
“ลองคิดดู ผู้ก่อตั้งต้องการให้เจ้าชุบชีวิตเขา แต่เขาไม่สามารถไว้วางใจเจ้าได้อย่างสมบูรณ์ เจ้าอาจจะไม่ทำก็ได้จริงไหม “
 
 
“แต่ถ้าเจ้าให้ครอบครัวเจ้าเข้าไปอยู่ในสุสานพันกระดูกก็เมือน เขาก็จะมีเบี้ยไว้ต่อรอง ให้เจ้าทำในสิ่งที่เขาต้องการ. “
 
 
“มันเหมือนกับเป็นการส่งครอบครัวเจ้าไปให้ผู้ก่อตั้งมังกรฟ้า เพื่อที่เขาจะสามารถคุกคามเจ้าได้ และผู้ก่อตั้งสำนักนั้นเป็นคนฉลาด เขาจะต้องเห็นด้วยทันที และไม่ว่าเจ้าจะพาคนเข้าไปกี่คนเขาก็จะเห็นด้วย “
 
‘ต้านต้าน’พูด
 

 
“นี่มัน … “
 
ในตอนนั้น’ชูเฟิง’เล็กน้อย ตอนแรกเขากังวลว่าผู้ก่อตั้งนั้นจะยอมหรือไม่ แต่ได้ยินที่ต้านต้านพูดมันเหมือนกับ การส่งอ้อยเข้าปากช้างทันที
 

 
“ชูเฟิง ในตอนนี้นั้น เจ้าอาจคิดว่าทางที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาคือ การออกจากอาณาจักรมังกรฟ้า”
 
 
“แต่เจ้าสามารถรับประกันความปลอดภัยได้งั้นหรือ ว่าเขาจะปลอดภัยเมื่อออกจากอาณาจักรมังกรฟ้า “
 
 
“ด้วยตัวเจ้าในตอนนี้ แม้เจ้าจะออกจากอาณาจักรมังกรฟ้า มันก็อยากที่จะหลีกเลี่ยงกับการเจอศัตรูที่แข็งแกร่ง บางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่าสำนัก หลิง หยุน และ คฤหาสน์องค์ชายกิเลนก็เป็นได้ เจ้านั้นเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว แต่พวกเขาล่ะ ดังนั้นเจ้าต้องหาทางที่เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของพวกเขา “
 
 
“ตอนแรกเจ้าสำนักมังกรฟ้าต้องการพึ่งเจ้า ตอนนี้ เจ้าการก็ต้องพึ่งเขา เช่นกัน”
 
ที่มา: