ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป(ภาษาอังกฤษใช้แองเจเล่แทนเย่ซ่งตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป)
แองเจเล่วิ่งไปที่ต้นไม้ทันที ยามทั้งสองคนไม่คิดว่าแองเจเล่จะยิงอะไรและพวกเขาก็สับสนไปสักพักหนึ่งก่อนที่จะเดินไปต้นไม้
“มันเป็นงูตาเดียวสีแดงหนึ่งตัว!” แองเจเล่ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับงูมาก่อน
งูตัวเล็กๆบนต้นไม้กว้างประมาณหนึ่งนิ้วและมีดวงตาดวงเดียวสีแดงเลือดนั่นก็คือที่มาของชื่อของมัน สีของมันคล้ายๆกับสีของต้นไม้ ถ้ามันไม่ถูกลูกธนูปักไว้ยามทั้งสองคนก็อาจจะหาไม่พบ
แองเจเล่เอาดาบของเขาฟันหัวของงูอย่างแม่นยำ งูค่อยๆอ่อนกำลังและมันก็หยุดนิ่ง
“ข้าได้ยินว่าดวงตาของมันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับข้า ข้าจะกินมัน” แองเจเล่พูดเสียงเบา
ยามสองคนไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะหยุดนายน้อยหรือไม่
แองเจเล่เอามีดล่าสัตว์ออกมาจากเข็มขัดของเขาและเขาเจาะเอาดวงตาของงูออกมา ในที่สุดเขาก็ได้ดวงตาสีแดงเลือดมาไว้ในมือและเขาก็โยนมันเข้าปากทันที แองเจเล่ได้เคี้ยวแต่กลืนทันที
แม้ว่างูจะมีพิษร้ายแรงอยู่ในฟันมันแต่ดวงตาของมันก็ไม่มีพิษ ยามทั้งสองคนไม่หยุดแองเจเล่เพราะพวกเขาไม่ต้องการทำให้นายน้อยผิดหวัง
พวกเขามองแองเจเล่กลืนดวงตาเข้าไปและพวกเขาก็เห็นสีหน้าแปลกๆจากใบหน้าของนายน้อย
“ไปต่อ” แองเจเล่พูดและโยนซากงูไปให้ยาม ยามเอาถุงผ้าลินินออกมาและใส่งูเข้าไป
ยามไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและพวกเขาก็ได้ยินเสียงลูกธนูปักต้นไม้อีกครั้ง แองเจเล่ยิ้มและรีบวิ่งไปต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลอย่างรวดเร็ว ยามเห็นงูตาเดียวถูกตรึงลำตัวไว้กับต้นไม้
“นายน้อยแองเจเล่ยิงได้ยอดเยี่ยมไปเลย!” หนึ่งในยามพูด “พวกเราไม่เห็นแม้แต่งูบนต้นไม้จากระยะไกลขนาดนั้น” เขารู้สึกประหลาดใจจริงๆ
แองเจเล่ได้ยินคำชมเชยแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่ยิ้ม
เขาเดินไปที่ต้นไม้และดึงลูกธนูใส่ไว้ในซองลูกธนูของเขา ครั้งนี้เขายิงโดนตาของงูและมันเป็นเรื่องผิดพลาด ถ้าตาของพวกมันถูกโจมตีมันก็กินไม่ได้อีกต่อไป
แม้ว่าชิปจะช่วยเขาปรับท่าทางหลังจากที่ค้นพบเป้าหมายเขาก็ยังต้องฝึกฝนอย่างมาก เมื่อเขาอยู่บนโลกผู้คนแข่งขันทักษะการยิงธนูโดยยิงเป้าหมายที่ห่างจากพวกเขาหนึ่งกิโลเมตร พวกเขาใช้ธนูกลและพวกเขาสามารถยิงถูกเป้าจากระยะไกล ผู้คนทั้งหมดมีชิปคอยช่วยเหลือพวกเขาดังนั้นคนที่ฝึกมาดีกว่าก็มีโอกาสในการชนะการแข่งกัน
“ไปต่อ” แองเจเล่พูด
กลุ่มสามคนเริ่มมองหาเป้าหมายในป่าและแองเจเล่มีอัตราความแม่นยำ 60% ยามสองคนให้กำลังใจกับสมรรถภาพของเขา อัตราความแม่นยำ 60% มันมีประสิทธิภาพมากเมื่้อคิดจากในป่าที่มีต้นไม้อยู่มากมาย แองเจเล่ไม่มีเมล็ดพันธุ์และเขาต้องเพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อใช้ธนูยาวคุณภาพสูงให้ได้เต็มประสิทธิภาพ เขาจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อนักรบที่แข็งแกร่งถ้าเขาเป็นเหมือนนักธนูทั่วไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมาถุงผ้าลินินของยามทั้งสองก็เต็ม ถุงเต็มไปด้วยสัตว์ที่แองเจเล่ล่ามาได้เช่นกระรอก กระต่ายเทาและงูตาเดียว ยามทั้งสองแทบไม่ได้ทำอะไร
“กลับไปเก็บสัตว์ข้าจะรอเจ้าที่นี่” แองเจเล่พูด “ข้าจะพักผ่อนที่นี่ก่อนเดี๋ยวตามไป” เขาโยนงูที่เขาพึ่งได้ให้ยามขณะที่พูด แองเจเล่แทงปากของงูและเขาก็เอาถุงพิษสีขาวออกมาก่อนที่จะยามจะโยนมันทิ้งไป
ยามจับงูที่ตายและพวกเขาก็มองกันอยู่ครู่หนึ่ง
“แฮงก์เอากลับไปก่อน ข้าจะอยู่ที่นี่พร้อมกับท่าน” หนึ่งในยามพูด
“ไม่เป็นไรหรอก” แองเจเล่พยักหน้า เขาเหน็ดเหนื่อยดังนั้นเขาจึงนั่งลงข้างต้นไม้ เขากินดวงตาของงูไปประมาณสี่สิบดวง เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นในร่างกายของเขาและเขารู้สึกว่าตอนนี้การลงมือของเขาเร็วขึ้น
ยามคนหนึ่งนั้นเอาสัตว์กลับไปที่ปราสาทและยามอีกคนนั่งบนพื้นหญ้าใกล้ๆกับเขา
“ที่จริงแล้วพวกเราเคยได้ยินเกี่ยวกับประโยชน์ของดวงตางู บางคนพยายามลองกินมันแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น” ยามยิ้มและเขาก็พูด
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้น?” แองเจเล่ถาม
“ครับ พวกเขามีช่วงเวลาที่ไม่ดีในห้องน้ำแต่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น” ยามตอบ
แองเจเล่พยักหน้า เขารู้ว่าวิธีนี้อาจจะไม่ได้ผลสำหรับทุกคน รายงานจากซีโร่ระบุว่าวิธีนี้ใช้ได้กับบางคนเท่านั้น ดวงตาดิบของงูมีธาตุพิเศษอยู่ข้างในและมันสามารถช่วยแองเจเล่เพิ่มความว่องไวของเขาได้ ผู้คนมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอนและวิธีนี้อาจจะมีผลกับช่วงอายุที่กำหนดเท่านั้น
แองเจเล่มีความสุขกับสิ่งที่เขาได้รับวันนี้ เขาได้ยิงพลาดไปหลายครั้งเพราะเขาไม่อยากทำให้ยามตกตะลึงมากเกินไป เขาสามารถโจมตีได้ทุกเป้าด้วยการช่วยเหลือของชิป
“ข้าพอแล้วสำหรับวันนี้ กลับกันเถอะ” แองเจเล่พูดหลังจากพักผ่อนไปสักพัก
“ครับ” ยามพูด
พวกเขาเดินกลับผ่านเส้นทางที่พวกเขามา
สิบสี่วันที่แองเจเล่ล่าสัตว์ทุกๆวันในป่าและผู้คนในปราสาทก็เริ่มได้ยินเรื่องทักษะการยิงธนูที่ยอดเยี่ยมของเขา ผู้คนไม่แปลกใจอีกต่อไปเกี่ยวกับสัตว์จำนวนมากที่เขาสามารถล่าได้ทุกๆครั้ง
*****************
มันเป็นเวลาช่วงเที่ยงวันในป่าและมีร่มเงาที่ถูกสร้างขึ้นจากแสงแดดที่ใต้ต้นไม้มีใบไม้ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
ลูกธนูขนนกสีขาวที่ถูกยิงโดยชายหนุ่ม
งูตาเดียวถูกตรึงไว้บนกิ่ง
ตามรอยเท้ามีเด็กหนุ่มในชุดสูทล่าสัตว์สีเขียวปรากฏขึ้นและเขาถือธนูสั้นสีดำไว้ในมือ เขาเดินออกมาจากต้นหญ้าสูงและมีนักรบเด็กกำลังสวมชุดเกราะสีเทาอยู่ข้างหลังเขา
“อีกตัว”หนึ่งในนักรบเด็กพูดและเขาก็ยิ้ม
เด็กหนุ่มพยักหน้าและเดินไปที่กิ่งไม้เขาดึงลูกธนูออกและจับไปที่งู เขาได้เอาดวงตาของงูออกมาอย่างรวดเร็วด้วยมีดล่าสัตว์ของเขาและเขาก็กลืนมันทันทีหลังจากที่เอาออกมา
เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเขาและเขารู้สึกสุขใจ
“วันนี้พวกเราเสร็จแล้วใช่ไหมครับนายน้องแองเจเล่” หนึ่งในยามถาม
แองเจเล่หลับตาลงและเขาก็ยิ้ม
“วันนี้ข้าจะไปหาอีกหน่อยพวกเจ้าทั้งสองคนกลับไปเก็บของก่อน ข้าอาจจะหากวางดำเจอก็ได้” เขาพูด
ยามทั้งสองคนรู้ความสามารถของแองเจเล่ว่ามันเพียงพอสำหรับป่านอกและแทบจะไม่มีสัตว์ตัวใดที่อาจทำร้ายเขาได้ พวกเขาคว้าถุงของพวกเขาและพวกเขาเดินกลับไปอย่างช้าๆ
‘ตรวจสอบสภาพร่างกายของข้า’ แองเจเล่พูดในหัวหลังจากที่ยามสองคนไป
[แองเจเล่ ริโอ ความแข็งแกร่ง 0.8,ความว่องไว 2.4,ความอึด 1.6] ซีโร่รายงาน
แองเจเล่พอใจกับผลลัพธ์
ตอนนี้เขาได้กินดวงตาสีแดงเลือดนัยร้อยแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะเพิ่มถึงจำนวนสูงสุดที่เขาต้องการและการกินไปมากกว่านี้มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร อย่างไรก็ตามเขาทำให้ความว่องไวของเขาดีขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงมากและเขาก็พอใจกับมัน การฝึกยังช่วยให้เขาเพิ่มค่าความอึด
แม้จะไม่มีความช่วยเหลือของเมล็ดพันธ์แองเจเล่ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก อย่างไรก็ตามการระเบิดพลังของเขาก็ยังเป็นเรื่องน่ากลัว เขาสามารถทำได้ดีกว่านี้ถ้าเขามีเมล็ดพันธ์ เมล็ดพันธ์อาจจะเพิ่มพลังต่อสู้ของเขาสองหรือสามเท่าแต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้
‘แต่….’ แองเจเล่คิด
เขายิ้มและเขาก็ชักดาบแล้วเขาก็ฟันด้านหน้าอย่างรวดเร็วจนเกือบจะไม่ได้ยินเสียงในอากาศ กิ่งไม้ด้านหน้าของเขาได้หักและตกลงมา ความเร็วของเขาเร็วกว่าอแลด
‘และ….’ เขาคิด
แองเจเล่มองไปกิ่งไม้ที่หักและมีแมลงวันอยู่ เขาได้เล็งไปที่ปีกของแมลงวันและปีกของมันก็ถูกตัดออกอย่างแม่นยำ แมลงวันยังคงเคลื่อนไหวอยู่บนกิ่งไม้
“ข้าไม่ใช่คนเจ้าสำราญที่อ่อนแออีกต่อไป” แองเจเล่จับดาบของเขาและหัวเราะอย่างมีความสุข
******************
มีผู้ชายกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เย่ซ่งจากประมาณหนึ่งร้อยเมตร เขาพยายามที่จะทำไม่ให้มันเกิดเสียงขณะที่เดินบนพื้นหญ้าเงียบๆ มีนกและแมลงที่กำลังส่งเสียงอยู่ในป่าดังนั้นแองเจเล่อาจจะไม่ได้ยินอะไรเลย
“ที่นี่?” ชายคนนี้หยุดและเขาพยายามซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้
ชายคนนี้ชื่อดิ๊กและเขาเป็นสมาชิกของสมาคมนักฆ่าที่เรียกว่าสัญลักษณ์ทมิฬ เขาเป็นคนรอบคอบมากและเขาจะทำให้แน่ใจว่าเขาจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมายของเขามากพอก่อนที่จะเริ่มภารกิจของเขา แม้ว่าเขาจะมีทักษะของอัศวินแต่เขาก็เป็นคนที่ระมัดระวังมากและนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาแทบจะไม่ล้มเหลวภารกิจ
‘เป้าหมายการลอบสังหารบารอนริโอ ตัดศีรษะของเขาออกมาเป็นหลักฐาน ตามข้อมูลคาร์ล ริโอมีระดับอัศวินเขาจัดการทหารม้าเกราะหนักสิบคนด้วยตัวเขาเองและเขาก็หลบหนีมาได้สำเร็จ’ เขาคิดเกี่ยวกับภารกิจของเขาในหัวอีกครั้งและเขาไม่ค่อนสนใจเรื่องอำนาจของบารอน
‘ทหารม้าเกราะหนักสิบคนมันไม่ได้มีอะไรมากมาย…..นั่นคือเหตุผลที่ข้าเกลียดชนบท พวกเขาเป็นเหมือนกบในกะลาที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลก’ ดิ๊กคิด เขาพึ่งฆ่าทหารม้าเกราะหนักยี่สิบคนและอัศวินติดต่อกันไม่นานมานี้
เขาพยายามที่จะทำตามคำสั่งมิฉะนั้นเขาอาจจะรีบวิ่งเข้าไปในปราสาททันทีและออกมาหลังจากที่ฆ่าทุกคน
‘ภารกิจง่ายๆเช่นนี้……ฆ่าขุนนางของชนบทและเป็นเพียงแค่อัศวินธรรมดาๆ’ ดิ๊กได้ฆ่าอัศวินมาเป็นจำนวนมากในชีวิตของเขาและเขาก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะต่างออกไป
*******************
ข้างในปราสาทภายในห้องประชุม
บารอนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าที่ผิดหวังแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
อูดิสและเหว็ดนั่งอยู่เคียงข้างเขาและพวกเขาทั้งสองคนได้มีสีหน้าเคร่งขรึม
“นักฆ่าจากสัญลักษณ์ทมิฬผู้ที่อาจจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้? เขาอาจจะจ่ายเงินให้พวกเขามากจริงๆ” เหว็ดพูด “สัญลักษณ์ทมิฬเป็นองค์กรขนาดใหญ่และมีพวกเขาอยู่ทั่วอาณาจักร สมาชิกของพวกเขาทั้งหมดแข็งแกร่งมาก ครั้งนี้มันเป็นปัญหาใหญ่” เขากังวลจริงๆ
“พวกเขาส่งจดหมายบอกว่าพวกเขากำลังมาหาข้า” บารอนพูดเสียงต่ำ “พวกเขากำลังบอกข้าว่าข้ากำลังจะตาย มีสิ่งหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจ แม้ว่าจะใช้หลายพันเหรียญทองเพื่อสั่งฆ่าคนหนึ่งคนจากพวกเขาแต่ดินแดนทั้งหมดของข้าทำได้เพียงหลายร้อยเหรียญทองต่อปี….ข้าคุ้มค่ามากถึงขนาดนั้นเชียวหรือ” บารอนสงสัย
“ไม่มีอะไรต้องกลัว พวกเรามีอัศวินสามคนกำลังนั่งรอพวกเขาอยู่ที่นี่” อูดิสพูด
บารอนยังคงโกรธเรื่องนี้ เขาเล่นจดหมายที่เขาได้รับ จดหมายเป็นสีดำมีเพียงสัญลักษณ์แมงมุมสีแดงที่ส่องแสงเป็นครั้งคราว มันทำให้ตัวหนังสือดูแปลกตาและสวยงามในเวลาเดียวกัน