I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

The Wizard World ตอนที่ 63: การทรยศ (2)

| The Wizard World | 845 | 2359 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

อุปกรณ์ที่มีคาถาพื้นฐานมีราคาหินเวทมนต์ 2,000 ก้อนในตลาด แต่แองเจเล่ไม่จำเป็นต้องซื้อของเหล่านี้ในปัจจุบัน ผู้หญิงคนอื่นได้เข้ามาหลังจากที่แองเจเล่เซ็นสัญญาแต่เขาไม่ได้สนใจพวกเธอมากนักในขณะที่เขาคิดว่ามีแอนเซ็ตก็เพียงพอแล้ว นอกจากนี้ตระกูลของแอนเซ็ตได้ส่งหินเวทมนต์มามากมายและได้จ่ายค่าหลักสูตรให้แล้ว แองเจเล่พอใจกับสิ่งที่เขาได้รับเมื่อเซ็นสัญญา มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาต้องทำคือการแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเขาเกี่ยวข้องกับตระกูลของแอนเซ็ต

ครึ่งเดือนผ่านไป แต่แองเจเล่ก็ยังสามารถเก็บได้เพียงคาถาสับสนไว้ในชิปเท่านั้น มือดูกำลังต้องใช้ผงรากในการสนับสนุนการร่ายและแองเจเล่ไม่สามารถเก็บมันไว้ในชิปได้

“อะไรนะ! มาเนสได้แปรพักตร์ไปเข้ากับองค์กรอื่น!” แองเจเล่ตกตะลึงมากจนลุกขึ้นขณะที่ทานอาหาร พ่อมดฝึกหัดคนอื่นๆมองไปชั่วครู่ด้วยสีหน้าที่ไม่แยแสตรวจสอบว่าเกิดความวุ่นวายหรือไม่ แอนเซ็ตได้บอกข่าวให้เขาแต่เขาเองก็ไม่เคยคิดว่าสิ่งแบบนี้จะเกิดขึ้น

“มันเป็นความจริง มันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้” แอนเซ็ตดูเหมือนจะเศร้าใจเล็กน้อย

“เขาแปรพักตร์กับเออ ซีซาร์ ‘ผู้อ่านใจน้ำแข็ง’ และคนอื่นๆอีกหลายคน” เธอพูดต่อ

“เกิดอะไรขึ้น เขาไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้น” แองเจเล่สูดลมหายใจเข้าไปครั้งหนึ่งก่อนที่เขาจะนั่งลงอย่างช้าๆ

“ข้าไม่รู้ แต่ข้าได้ยินมาว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลของมาเนสได้แปรพักตร์ มีบางอย่างที่ใหญ่เกิดขึ้นเรื่อยๆพวกเราเพียงแค่ไม่รู้” แอนเซ็ตพูดขณะที่เธอส่ายหัว

“พายุกำลังจะมา” สีหน้าของแองเจเล่เปลี่ยนไปเมื่อได้ตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง แองเจเล่มองไปที่แอนเซ็ตผู้หญิงที่เขามีความสัมพันธ์ทางเพศเป็นครั้งคราว แอนเซ็ตค่อนข้างจะใช้เวลามากขึ้นในการทำสมาธิเพื่อไปสู่ขั้นที่สอง

“เจ้าคิดอย่างไร ข้าได้ยินว่าเรากำลังอยู่ในฝ่ายที่เสียเปรียบกับพันธมิตรแดนเหนือ” แอนเซ็ตถามเสียงต่ำ

“แล้วเจ้าล่ะ” แองเจเล่ถามกลับแทนที่จะตอบคำถามของเธอ แองเจเล่ไม่ได้ใช้เวลากับแอนเซ็ตมากเนื่องจากเป้าหมายของเขาคือการหาแหล่งข้อมูลจากตระกูลของเธอ

“ข้าเกรงว่าข้าจะต้องกลับไปที่ตระกูลของข้า สถานการณ์ที่นี่ทำให้พ่อแม่ข้ากังวล” แอนเซ็ตพูด

“เจ้าต้องการที่จะอยู่กับข้างั้นหรือ ข้ากำลังจะไปขอตำแหน่งที่ชายแดนของจักรวรรดิแรมโซด้า ข้าคิดว่าชายแดนค่อนข้างปลอดภัย เฉพาะพลเมืองทั่วไปที่อาศัยอยู่ที่นั่นและไม่มีทรัพยากรที่สำคัญในบริเวณนั้น ดังนั้นพ่อมดจึงไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก ข้าไม่คิดว่าสงครามจะเปลี่ยนสถานการณ์ที่ชายแดน” แองเจเล่พูดเสียงเบา

“ข้างั้นหรือ ข้าคิดจะอยู่กับตระกูลของข้า พ่อแม่ พี่และน้องของข้าอยู่ที่นั่นทั้งหมด ข้าจะไม่จากพวกเขา” แอนเซ็ตตอบหลังจากที่หัวเราะเบาๆ

“งั้นหรือ” แองเจเล่หยุดพูด ทั้งสองคนรู้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถไปเยี่ยมกันได้อีกเป็นเวลานานถ้าหากตัดสินใจเลือกเส้นทางที่แตกต่างกัน ตามสัญญาแองเจเล่จะต้องช่วยตระกูลของแอนเซ็ตครั้งหนึ่งเมื่อเขากลายเป็นพ่อมด แต่สิ่งนั้นดูเหมือนว่าจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ แอนเซ็ตพูดเกี่ยวกับการกลับไปที่ตระกูลของเธอโดยไม่ได้กล่าวถึงสัญญาซึ่งหมายความว่าตระกูลของเธอได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกสัญญากับแองเจเล่แล้ว

บทสนทนาของแอนเซ็ตกับแองเจเล่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสัญญา แองเจเล่สามารถเข้าใจเจตตาของเธอในระหว่างการสนทนา ตระกูลของเธอไม่ได้สนับสนุนเขาอีกต่อไปและแองเจเล่ไม่จำเป็นต้องส่งคืนสิ่งที่ตระกูลของเธอมอบให้เขา ตระกูลจะไม่รอให้แองเจเล่กลายเป็นพ่อมดเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันของโรงเรียน

“เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าไม่ต้องการอยู่กับข้า” แองเจเล่ถามอีกครั้ง แอนเซ็นลังเลชั่วครู่ เธอกำลังชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียของตัวเลือกแต่ละตัวที่เธอมี หลังจากนั้นครู่หนึ่งเธอก็ส่ายหัวคิดว่าการกลับไปยังตระกูลของเธอเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

พวกเขากินอาหารเสร็จด้วยท่าทางเงียบๆก่อนที่จะออกจากห้องอาหาร แองเจเล่มุ่งหน้าไปยังห้องของอาจารย์ของเขาหลังจากทานอาหารกลางวัน อาจารย์ลิเลียน่าสวมชุดคลุมสีดำที่ปกคลุมร่างกายของเธออย่างสมบูรณ์นั่งอยู่กลางห้องเรียน แองเจเล่เห็นประตูเปิดและจากนั้นผู้หญิงในชุดคลุมสีขาวก็ออกจากห้องเรียน

แองเจเล่โค้งให้และเหลือบมองไปที่ใบหน้าของเธอ เห็นว่าเธอกำลังสวมชุดคลุมสีขาวเธอต้องเป็นแม่มดอย่างแน่นอน

ผู้หญิงคนนั้นมีสีหน้านิ่ง ขอบตาของเธอเป็นสีดำ ถ้าเธอหลับตาลงจะดูเหมือนมีหลุมดำสองหลุมเป็นตาของเธอ มีแผลเป็นมากมายบนผิวของเธอแต่แทนที่รอยแผลของเธอจะมีสีแดงอมชมพูมันดูเหมือนเนื้อเน่าสีดำ

‘ร่างกายศพที่หนีออกมาจากหลุมฝังศพ’ แองเจเล่คิด ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มองไปที่แองเจเล่และหายตัวไปอย่างเงียบๆ

“แองเจเล่ใช่ไหม เข้ามา” เสียงของลิเลียน่าออกมาจากห้อง แองเจเล่เดินเข้าไปในห้องเรียนและปิดประตูหลังจากที่ได้ยินคำพูดของอาจารย์ของเขา

“นั่นคือแม่มดคริสติน่าและยังเป็นนักเรียนของข้าด้วย” ลิเลียน่าพูดขณะที่เธอยิ้ม แต่เธอดูน่ากลัวยิ่งขึ้นหลังจากที่ยิ้ม

“อาจารย์ ข้า….” แองเจเล่ขัดจังหวะเธอ

“ข้ารู้ เจ้าจะไปที่ชายแดนใช่ไหม เจ้าเป็นนักเรียนคนที่ 15 ที่มาที่นี่ในวันนี้ ทุกคนมีจุดประสงค์เช่นเดียวกับเจ้า ข้ามีนักเรียนเพียง 18 คน แต่ 15 คนอยากออกจากโรงเรียน” ลิเลียน่าถอนหายใจ

“ข้ารู้ว่าเจ้ารอดภารกิจของเคดิร่าและทุกๆวันสถานการณ์ของโรงเรียนก็แย่ลง ข้าคิดว่าทางเลือกของเจ้าถูกต้อง แม้ว่าจะไม่มีทรัพยากรมากมายที่ชายแดนแต่มันจะปลอดภัยและเจ้าจะไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของเหล่าพ่อมดแม่มด” เธอพูดต่อ

“ขอบคุณที่อาจารย์เข้าใจ” แองเจเล่พูดขณะที่เขาก้มศีรษะลง

“มีหลายอาณาจักรรอบๆชายแดน เจ้าต้องการไปที่ใด ที่ใกล้กับโรงเรียนนี้เช่นจักรวรรดิแรมโซด้า หรือที่ไหนสักแห่งที่ไกลออกไปเช่นซานเตียโก้” ลิเลียน่าถาม

“จักรวรรดิแรมโซด้า ข้าอาจจะกลับมาที่นี่สักวันหนึ่ง” แองเจเล่พูด

“ดี แต่มีเมือง 24 เมืองในจักรวรรดิแรมโซด้า นักเรียนส่วนใหญ่ไปที่อื่น มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ตัดสินใจเดินทางไปจักรวรรดิแรมโซด้า เจ้าเป็นคนที่สาม มันเป็นอาณาจักรใหญ่ ข้าสงสัยว่าพวกเจ้าแต่ละคนจะได้พบกันในอนาคต เจ้าจำเป็นต้องได้รับทรัพยากรทั้งหมดด้วยตัวของเจ้าเอง” ลิเลียน่าพูด

“อย่างน้อยข้าก็ไม่ต้องการกลับไปที่บ้านเกิดของข้า แทบจะไม่มีทรัพยากรเวทมนต์ใดๆในโพ้นทะเล นอกจากนี้ข้ายังได้รับหินเวทมนต์มากพ่อ อาจารย์ยังสามารถขายยาควบคุมดำให้ข้าได้ไหม” แองเจเล่ยิ้มและเขาก็ถาม

“แน่นอน มันอยู่นี่” ลิเลียน่ายิ้มก่อนที่จะหยิบขวดสีเงินขนาดเล็กจากลิ้นชัก แองเจเล่ได้มีความสุขเมื่อเห็นสิ่งนี้ เขามอบหินเวทมนต์ระดับสูงให้เธอหนึ่งก้อน หินเวทมนต์ระดับสูงหนึ่งก้อนมีค่าเทียบเท่ากับหินเวทมนต์ระดับกลาง 10 ก้อนซึ่งมากพอที่จะซื้อยาควบคุมดำ แองเจเล่โค้งให้อีกครั้งก่อนที่จะรับยา

“ข้าจะพูดคุยกับยามเพื่อที่พวกเขาจะไม่ได้หยุดเจ้าจากการจากไป ตอนนี้เจ้าสามารถไปได้แล้ว” ลิเลียน่าพูด

“ขอบคุณครับอาจารย์” แองเจเล่อำลาก่อนที่จะออกจากห้อง

แองเจเล่รู้สึกแย่เล็กน้อย เขาเข้าร่วมกับโรงเรียนนี้ไม่นานแต่ตอนนี้ต้องออกไปแล้ว หลังจากนั้นเขาจะต้องค้นหาทรัพยากรด้วยตนเอง สิ่งที่ดีคือเขาได้เก็บข้อมูลทั้งหมดที่เขาต้องการไว้ในชิปแล้ว ข้อมูลทั้งหมดได้มาจากตระกูลของแอนเซ็ตและมันก็เพียงพอสำหรับเขาจนกระทั่งเขากลายเป็นพ่อมด อย่างไรก็ตามเขาต้องวางแผนสำหรับอนาคตของเขา

“ถ้าแองเจเล่ถึงขั้นที่สามเขาก็จะกลายเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ลิเลียน่า จากนั้นเขาก็จะสามารถเข้าถึงสิ่งต่างๆมากมายเช่นยาควบคุมดำ อย่างไรก็ตามคนที่เหมือนแองเจเล่ที่เป็นพ่อมดฝึกหัดทั่วไปจะต้องจ่ายค่าเรียนเพื่อที่จะอยู่ในโรงเรียน โรงเรียนไม่ได้ให้ความสนใจพวกเขามากนักและโรงเรียนก็ไม่ขัดขวางพวกเขาให้ออกไป”

“การออกจากโรงเรียนอาจจะดีสำหรับข้า” แองเจเล่พึมพำขณะที่เดินลงไปที่ทางเดิน

‘ซีโร่ความสามารถทางจิตของข้ามีเท่าไหร่’ เขาถาม

[ความสามารถทางจิตของคุณคือ 3.4 คุณต้องมีความสามารถทางจิต 6 เพื่อไปให้ถึงขั้นต่อไป] ซีโร่รายงาน

“ข้าคิดว่าข้าจะต้องไปที่ตลาดก่อนที่จะจากไป” แองเจเล่คิดด้วยการพูดออกมา

**********************************************

ตลาดใต้ดิน

มีร้านค้าหลายแห่งได้หายไปแล้ว แองเจเล่ไม่เจอคนที่ขายอุปกรณ์ปรุงยาให้เขา มีพ่อมดฝึกหัดน้อยลงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ร้านค้าหกร้านยังอยู่ที่จัตุรัส ความเงียบปกคลุมไปทั่วทุกหนทุกแห่งโดยไม่มีผู้คนในบริเวณใกล้เคียง สิ่งเดียวที่แองเจเล่ได้ยินคือเสียงที่มาจากคบเพลิงบนกำแพง

มีขยะอยู่บนพื้นหิน แองเจเล่มองเห็นอุปกรณ์แก้วที่แตก แหวนทองแดงที่พังและเศษเสื้อคลุมสีเทา เขาเห็นร่องรอยของเลือดบนพื้นดิน นี่ทำให้แองเจเล่ขมวดคิ้วขณะที่เดินเข้าไปในร้านเล็กๆ พ่อมดฝึกหัดหลายคนกำลังพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันในโรงเรียนและการจลาจล

แองเจเล่ตัดสินใจที่จะไม่ฟังและรีบเดินเข้าไปในร้านแทน เขามองไปที่สินค้าและหยิบกระเป๋าเล็กๆที่มีผงสีเงินข้างใน

“ผงเรืองแสงหิน หินเวทมนต์ 2 ก้อน” เจ้าของเป็นพ่อมดฝึกหัดที่มีเคราแพะ แองเจเล่พยักหน้าก่อนที่จะวางหินเวทมนต์ลงสองก้อน เขาเริ่มดูสินค้าโดยมีเจตนาที่จะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาสามารถหาได้เนื่องจากเขาไม่รู้ว่าเขาจะไปตลาดเวทมนต์แบบนี้อีกเมื่อไหร่

พ่อมดฝึกหัดคนอื่นๆเข้าไปในร้าน เป็นผู้ชายผมบลอนด์ที่เขาเคยเห็นเมื่อครั้งที่แล้ว ลักษณะของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

“เจ้าของร้าน ข้ามีบางอย่างที่มีค่าเจ้าสามารถตรวจสอบและซื้อมันได้ไหมถ้าเจ้าสนใจ” ผู้ชายผมบลอนด์ตะโกนออกมา

“เจ้าอีกแล้ว ข้าบอกเจ้าไปเมื่อครั้งที่แล้วว่าอุปกรณ์ของเจ้าไม่ได้มีค่าเลย ข้าให้หินเวทมนต์เจ้าเพียงสามก้อนเพราะเรามีอาจารย์คนเดียวกัน” เจ้าของร้านตอบด้วยท่าทางรำคาญ

“ได้โปรดลองดูเถอะ บางทีอาจจะมีสิ่งที่เจ้าต้องการ” ผู้ชายผมสีบลอนด์เปิดกระเป๋าด้วยสีหน้ากังวลใจ

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าไม่ได้ต้องการอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ยา แทบจะไม่มีคนซื้อสิ่งเหล่านี้ ข้าบอกเจ้าว่าไม่ให้ใช้หินเวทมนต์แบบนั้น ไม่มีอะไรที่ข้าสามารถทำให้เจ้าได้” เจ้าของร้านพูดอย่างใจดีหลังจากที่สงบลง

‘อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ยางั้นหรือ’ แองเจเล่คิด

“เอามาให้ข้าดูได้ไหม ข้ากำลังมองหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการปรุงยา” แองเจเล่ถาม ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าผู้ชายผมบลอนด์คนนี้เป็นคนเดียวกับที่เขาพบในช่วงเวลาที่เขาซื้ออุปกรณ์ปรุงยา

“เจ้าแน่ใจหรือ” ผู้ชายผมบลอนด์มองมาที่แองเจเล่และถาม

“ใช่ ข้าแน่ใจ” แองเจเล่ยังคงมีหินเวทมนต์อยู่ประมาณ 5 ก้อน เขาไม่มีวิธีอื่นที่จะใช้พวกมันเมื่อเขาออกจากโรงเรียนนี้ เห็นว่าผู้ชายผมบลอนด์พยายามขายอุปกรณ์ของเขากับหินเวทมนต์หรือวัสดุอื่นๆ มันสามารถเดาได้ง่ายๆว่าสถานการณ์ในโรงเรียนได้เลวร้ายยิ่งขึ้นมันจึงทำให้เขาไม่มีเวลาเรียนรู้ยาอีกต่อไป

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments