I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

tsuki-ga-michibiku-isekai-douchuu ตอนที่ 14 การเปิดตัว ซึ่งทำให้อาการปวดหัวของผมรุนแรงขึ้นถึงระดับ 2

| Tsuki ga Michibiku Isekai Douchuu | 1033 | 2337 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เช้าวันต่อมา หลังจากค่ำคืนแห่งการมอบชื่อให้แก่’เช็น’และแมงมุมตอนที่ผมเดินออกมาจากเต้นท์ ผมก็มองเห็นเหล่าออร์คมารวมตัวกัน และมองเห็นผู้ติดตามทั้งสองคนของผม ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขามีเรื่องอะไรกันตั้งแต่เช้าละเนี่ย?

” เอาหล่ะ ทุกคน! เมื่อคืนนี้ข้าได้รับชื่อมาจากนายท่านของข้า.. อย่างที่ข้าบอกไปก่อนหน้านี้ ว่านับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป.. โปรดเรียกข้าว่า โทโมเอะ! “

(เช็น->โทโมเอะ)

” ฉันเองก็ได้รับชื่อเช่นเดียวกันค่ะ.. โปรดเรียกฉันว่า มิโอะ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป “

(แมงมุม->มิโอะ)

หวา…พวกออร์คเริ่มส่งเสียงเชียร์ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเชียร์ไปทำไมอะไร.. นี่เป็นเหตุการณ์ระดับประวัติศาสตร์หรือไงกัน?ผมทำอะไรพลาดไปอีกแล้วงั้นเหรอ?

” ในส่วนของการที่นายท่าน ซึ่งเป็นผู้ปกครองสูงสุดของดินแดนแห่งนี้.. ข้าคิดว่าไม่ดีแน่ ถ้าหากพวกเจ้าเรียกเขาว่า นายท่าน เช่นเดียวกันกับข้า “

(โทโมเอะ)

” และฉันเองก็คงไม่ชอบด้วยเช่นกัน ถ้าหากพวกคุณเรียกเขาว่า ท่านเจ้านาย หรือว่า ท่านเจ้าบ่าว.. แล้วก็แน่นอนค่ะ ว่าฉันจะไม่ยกโทษให้กับคนที่เรียกชื่อของเขาห้วนๆเช่นกัน “

(มิโอะ)

ไม่.. ผมไม่ได้ถือสาอะไรเลยนะ ที่ใครจะเรียกชื่อผมตรงๆหน่ะ รู้ไหม? ถ้ายิ่งมีสรรพนามเรียกตัวผมแบบนี้ ผมจะยิ่งรู้สึกแย่นะ! ไว้ชีวิตผมด้วยเถอะ!แต่ดูเหมือนว่า.. เหล่าออร์คต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอต่างๆเหล่านั้นผม.. ตัวผมยิ่งใหญ่มาจากไหนกัน?

” ดังนั้น! “พวกเขาทั้งสองคนตะโกนออกมาพร้อมกัน.. ยิ่งไปกว่านั้น เสียงเชียร์นี่.. แล้วก็คำพูดที่ดูทรงพลัง…พวกเธอช่างชำนาญในเรื่องแบบนี้จริงๆ ให้ตายซิ!ดูเหมือนว่าผมคงต้องปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปเฉยๆงั้นเหรอ? ทุกๆคน!”

“ครับ ครับ.. จะพูดอะไรกันแน่ครับ?”

“ท่านชาย.. นายน้อย… ผู้อาวุโส… เลือกมาหนึ่งอย่าง! เราจะเริ่มด้วยการโหวตจากเสียงส่วนใหญ่น้า! “

(โทโมเอะ)

หะ..หา? หาาาา?ชื่อเรียกพวกนั้นมันอะไรกัน?!

ผมหมายถึง… แต่ละชื่อนี่ที่เสนอมานั้น เห็นผมเป็นอะไรกัน?!

” ดะ…ดะ…ก่.. “

(มาโกโตะ)

ผมพูดออกมาไม่เป็นภาษาแล้วเนี่ย!ยิ่งไปกว่านั้น.. ตัวเลือกที่สามนั้นมันอะไรกัน?อย่าว่าแต่อันที่สามเลย มันไม่มีอันไหนที่เหมาะเลยสักอันเดียว!

” ถ้าอย่างนั้น.. คนที่อยากจะเรียกเขาว่า ท่านชาย ยกมือขึ้น! “

(โทโมเอะ)

หวา…มีคนยกมือเยอะขนาดนี้เลยเรอะ?!

” ต่อไป.. คนที่อยากจะเรียกเขาว่า นายน้อย ยกมือขึ้น! “

(โทโมเอะ)

หวา…?!มากกว่าชื่อแรกอีกเรอะ?!

” ชื่อสุดท้าย! คนที่อยากจะเรียกเขาว่า ผู้อาวุโส ยกมือขึ้น!! “

(โทโมเอะ)

หวา…เห็นผมแก่แล้วเรอะไงกัน!จากนั้น.. ผู้ติดตามของผมทั้งสองคน ก็หันมาจ้องหน้าผม

” และนั้นก็คือข้อสรุปน้า “

(โทโมเอะ)

” และนั้นก็คือข้อสรุปค่ะ “

(มิโอะ)

สรุปอะไร?!

” ได้โปรดเรียกตัวเองว่า นายน้อย ด้วยน้า “

(โทโมเอะ)

” เธอบ้าไปแล้วเหรอ? บ้าไปแล้วเหรอไง? หรือแค่งี่เง่า?! “

(มาโกโตะ)

” ข้าได้ตัดสินมันในรูปแบบของการโหวตเลยน้า.. ท่านชอบมันใช่ไหมหล่ะ? ตัดสินกันที่เสียงส่วนใหญ่หน่ะ “

(โทโมเอะ)

” ฉันเองก็มีคะแนนโหวตหนึ่งคะแนนเหมือนกันค่ะนายน้อย.. เพราะว่านับจากนี้เป็นต้นไป ท่านก็คือนายน้อยค่ะ “

(มิโอะ)

ผมรับมันไม่ได้!ถ้าดูจากสถานการณ์แล้ว นี่มันเรื่องที่พวกเธอวางแผนมาก่อนแล้วชัดๆ!

” ไม่ ไม่.. ผมคือเจ้านายของพวกเธอ ใช่ไหม? ทำไมมันกลายมาเป็นแบบนี้? “

(มาโกโตะ)

” ท่านบอกเองว่าให้พวกเราตัดสินใจเรื่องชื่อเรียกของท่านกันเอง หลังจากที่พูดคุยกันเมื่อคืนนี้.. พวกเราเลยมาตัดสินใจร่วมกันกับทุกคน “

(โทโมเอะ)

” แล้วทำไมมันถึงมีตัวเลือกแปลกๆแบบตัวเลือกที่สามด้วยหล่ะ?! “

(มาโกโตะ)

” ตัวเลือกที่สามนั้น คือตัวเลือกที่พวกเราได้รับมาหลังจากที่ปรึกษากับทุกคนตลอดทั้งคืนเลยน้า! มันไม่ใช่ตัวเลือกที่แปลกแน่นอน! “

(โทโมเอะ)

ตะ..ตลอดทั้งคืน?!คุณโทโมเอะครับ คุณทำอะไรอยู่?!หมายความว่า ทุกๆคนที่กำลังยืนอยู่ที่นี่.. ไม่ได้หลับมาตลอดทั้งคืนเพื่อตัดสินเรื่องบ้าบอนี่เนี่ยนะ?

ตัวเลือกที่สามนั้น ‘โทโมเอะ’จะต้องเป็นต้นคิดอย่างแน่นอน…

อือ.. ผมขอโทษพวกออร์ค และใครก็ไม่รู้อีกสองคนที่ผมไม่อยากจะนึกถึง.. กำลังยืนจ้องผมด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง และรอคอยคำปราศรัยของผมอยู่อือ…ผมไม่มีปัญหาจริงๆนะ ถ้าหากพวกคุณจะเรียกผมด้วยชื่อของผมหน่ะแต่ตอนนี้.. พวกเขากำลังส่งสายตาแฝงคำพูดมาให้ผมว่า ‘เอาเลย! เอาเลย!’

การที่ผมตื่นมาเจอเรื่องแบบนี้..ผมกำลังโดนรังแกอยู่นิดหน่อยใช่ไหม?

” เรียกว่า นายน้อย ก็ได้ครับ… “

(มาโกโตะ)

เสียงเชียร์อันยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยความสุขดังขึ้น.. เสียงที่ทำให้ผมอยากอุดหูและแทรกแผ่นดินหนียังคงดังก้องอยู่ข้างในหัวของผมต่อไป..ก็ยังดีที่เธอไม่ได้ล้างสมองพวกเขาให้เรียกผมด้วยตัวเลือกที่สามหล่ะนะ

หลังจากวันนั้น.. ทุกๆคนที่ผมเจอในดินแดนแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ เด็ก หรือผู้สูงอายุ.. ต่างเรียกผมว่านายน้อย… นายน้อย.. แล้วก็นายน้อย..จริงๆเลย..ผมไม่สนอีกต่อไปแล้ว และเริ่มออกเดินทางต่อไป เพื่อที่จะไปยังเมืองของมหนุษย์..

และในตอนที่ผมมองเห็นเมือง ความตึงเครียดของผมก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง.. แต่ว่า..พวกเขาบอกให้ผมรอก่อน…อีกแล้วเรอะ?!ผมเริ่มจะประสาทแล้วนะเนี่ยเอาเถอะ ไม่เป็นไร…ค่อยเข้าไปในเมืองพรุ่งนี้ก็แล้วกันผมยอมแพ้อย่างช่วยไม่ได้ และตัดสินใจกลับไปพักผ่อนที่อะโซระอืม..

พรุ่งนี้เหล่าดวอร์ฟน่าจะโยกย้ายกันเสร็จแล้วสินะถ้าเสร็จเมื่อไหร่.. ก็แค่ปล่อยให้ร่างโคลนของ’เช็น’นำทางพวกเขาไปดูรอบๆ ก็เท่านั้นแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างพวกเขาบอกผมว่า เหล่าดวอร์ฟจะมาขอเข้าพบผมพรุ่งนี้ ตอนช่วงบ่าย.. ผมเลยนอนหลับขณะที่จ้องมองไปที่พวกเขาด้วยสีหน้าสงสัยเหตุการณ์คราวนี้ คงจะไม่แย่เหมือนครั้งก่อน.. ใช่ไหม?

เช้าวันต่อมานี่มันแย่มากๆ ผมปวดหัวแล้วเนี่ยเมื่อวานมีแค่พวกออร์คแค่นั้นเอง แต่ว่า…วันนี้ผมเห็นเหล่าดวอร์ฟยืนอยู่ทางฝั่งซ้าย และผู้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดของพวกเขาก็คือ คุณ’เบเรน’.. ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีจำนวนประมาณ 50 คนตรงกลาง ถ้าผมคิดถูกต้อง.. พวกเขาน่าจะเป็นมนุษย์กิ้งก่าซึ่งมีเกล็ดเป็นสีน้ำเงิน และคนที่ยืนอยู่หน้าสุดก็คือ คุณ’โทโมเอะ’..

ทางด้านนี้ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากกว่า 100 คนส่วนด้านขวา เป็นตัวอะไรสักอย่างที่มีท่อนล่างเป็นแมงมุมและท่อนบนเป็นมนุษย์ และคนที่ยืนอยู่หน้าสุดก็คือ คุณ’มิโอะ’.. ดูเหมือนว่าทางฝั่งนี้จะมี 5 คน ถ้านับรวมคุณมิโอะด้วยนี่มันเรื่องอะไรกัน?! ยังมีมากกว่านี้อีกเหรอ?! หาาาาา?!

” เอาหล่ะ งั้นมาเริ่มกันเถอะ.. เจ้าบอกกับเขาเองว่าจะเป็นช่วงบ่ายนี่นา “

(โทโมเอะ)

คุณ’โทโมเอะ’ ผู้ซึ่งกำลังชมคุณ’เบเรน’

” ไม่หรอกครับ.. ถ้าหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเปิดตัวผู้อยู่ในอุปการะหล่ะก็.. ในโอกาสแบบนี้ ผมก็อยากทักทายเขาพร้อมกันกับทุกคนมากกว่า! เพราะมันจะให้ความประทับใจที่ต่างไปจากเดิมหน่ะครับ! “

(เบเรน)

” … “

(?)  [อันนี้น่าจะเป็นครึ่งคนครึ่งแมงมุมที่ยืนอยู่กับมิโอะครับ]

” เฮ้อ.. พวกเจ้านี่ช่างทำตัวขรึมซะจริงนะ~ ฉันจะบอกอะไรไวอย่างนะ.. ถ้าหากพวกเจ้าทำอะไรสักอย่าง ที่เป็นการลบหลู่นายน้อยหล่ะก็ ฉันจะจับกินให้หมดเลย “

(มิโอะ)

” !!! (*พยักหน้า*พยักหน้า) “

(?) [นี่ก็น่าจะครึ่งคนครึ่งแมงมุมเช่นกัน]

อือ… ความวุ่นวายผมไม่เข้าใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้เลย..ผู้อยู่ในอุปการะ.. นั่นคือสิ่งที่คุณเบเรนพูดถ้าพูดถึงผู้อยู่ในอุปการะหล่ะก็ มันให้ความรู้สึกถึงสมุน.. หรือไม่ก็บางที ลูก?ยังไงก็ตาม.. จำนวนคนมากมายนี่ก็เต็มพื้นที่ไปหมดถ้านั้นคือจำนวนดวอร์ฟทั้งหมดในหมู่บ้าน ดูเหมือนพวกเขาจะมีจำนวนไม่มากนักครอบครัวโดยพื้นฐานแล้ว

มักจะมีสองคนหรือมากกว่านั้น และถูกควบคุมด้วยคู่ที่สมรสกัน หรือไม่ก็พ่อแม่แล้วก็ลูก.. ถ้าหากพูดถึงการมี พ่อ แม่ แล้วก็ลูก ก็จะมีจำนวน 3 คนต่อครอบครัว.. ฉะนั้นพวกเขาก็น่าจะมีทั้งหมด 16 ครอบครัวด้วยกันถ้าหากพวกเขามีรุ่นปู่ย่าตายายด้วยแล้วหล่ะก็.. จำนวนทั้งหมดน่าจะเหลือสัก 10 ครอบครัวจำนวนแค่นั้นก็ก่อตั้งหมู่บ้านได้แล้วเหรอ?

หรือบางที ความคิดในแง่ของการตั้งหมู่บ้านของผมมันจะแคบเกินไป?เพราะยังไงผมก็มาจากประเทศญี่ปุ่นอันแสนสงบสุขอยู่แล้ว..แล้วถัดไป.. ก็มีมนุษย์กิ่งก่าที่มีเกล็ดสีน้ำเงินอันงดงาม ถ้าหากตัดสินจากการที่มี’โทโมเอะ’ยืนอยู่ข้างหน้าแล้วหล่ะก็..พวกเขาน่าจะเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันกับตระกูลของโทโมเอะนั้นแหละด้วยดาบที่ถูกเสียบลงบนพื้น พวกเขาวางมือไว้บนด้ามจับของตัวดาบ และยกหน้าอกของพวกเขาขึ้น

ไหล่และหัวของพวเขาลดต่ำลงมาเล็กน้อย.. ภาพลักษณ์นั้นทำให้ผมนึกถึงอัศวินดูเหมือนว่าจะไม่มีฝักดาบอยู่ ผมคิดว่าควรจะมีไว้สักอันนึงนะ.. ผมมาจากวัฒธรรมที่เกี่ยวกับดาบคาตานะ.. ฉะนั้น ถ้าหากผมเห็นดาบที่ไม่ได้อยู่ในฝักหล่ะก็ มันจะรู้สึกอันตรายอย่างบอกไม่ถูกผมไม่เคยคิดเลยว่าแม้แต่เช็นเอง ก็มีครอบครัวในเผ่าพันธุ์ด้วยเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นประเภทที่ ได้รับสิทธิเหนือกว่าคนอื่นๆ ในครอบครัวหน่ะนะที่ด้านหลังของ’มิโอะ’

มีครึ่งคนครึ่งแมงมุมยืนอยู่ 4 คนจำนวนแค่นี้ไม่น่าจะเรียกได้ว่ามาจากหมู่บ้านนะ.. ฉะนั้นพวกเขาก็น่าจะเป็น ลูกสมุนของเธอ?แต่ในระหว่างการต่อสู้ พวกเขาไม่ได้ปรากฎตัวขึ้นมา.. แล้วก็ จะพูดว่ายังไงดี.. มันดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่จะอาศัยอยู่กันเป็นกลุ่มด้วยสิมันให้ความรู้สึกที่เหมือนกับว่า..

พวกเขาแต่ละคนเป็นถึงระดับบอสเลยมากกว่าพวกเขากำลังยืนตรง วางมือขวาของพวกเขาไว้กลางอก และก้มหัวของพวกเขาลงและน่าจะเป็นเพราะความขรึม.. ปากของพวกเขายังไม่อ้าเลยสักครั้งในดวงตาของพวกเขา.. ผมรู้สึกได้ถึงสติปัญญา และความรู้สึกอื่นอีกที่ผมยังไม่แน่ใจตอนนี้พวกเขากำลังก้มหัวของพวกเขาลง ผมเลยไม่ค่อยมั่นใจมากนัก

” พวกเจ้าเข้าใจสินะ? ฟังให้ดี.. ท่านผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น หรือก็คือนายน้อย.. ได้ช่วยเหลือฉัน และช่วยเหลือพวกเจ้าจากความหิวโหย.. จงอุทิศตนรับใช้เขา เด็กๆทั้งหลาย “

(มิโอะ)

พวกเขาคือเด็ก? ฮ่า~ สำหรับพวกเขาแล้ว.. ตัวผมมันน่าอร่อยแค่ไหนกัน?เข้าใจหล่ะ.. นอกจากสายตาที่เต็มไปด้วยสติปัญญาแล้ว ดูเหมือนสายตาของพวกเขายังถามอีกด้วยว่า

“นั้นคือต้นกำเนิดของอาหารอันโอชะของพวกเรา?”

ถ้าหากพวกเขาเป็นนญาติของ’มิโอะ’แล้วหล่ะก็.. เวลาเกิดภาวะฉุกเฉิน(หิว) พวกเขาก็คงปรากฎตัวขึ้น แล้วก็กลืนกินทุกอย่างสินะอือ.. หลังจากที่’มิโอะ’ดูดพลังเวทย์ของผมไป แล้วนำไปแจกจ่ายต่อให้กับพวกเขาอีก 4 คนที่เหลือ ดูเหมือนว่า’มิโอะ’จะยังสามารถควบคุมสติของตัวเองได้อยู่สินะไม่สิ..

ตอนนี้หยุดความคิดเรื่องพลังเวทย์ของผมไปก่อนแล้วกัน

” อือ.. พวกคุณ “

(มาโกโตะ)

‘โทโมเอะ’ได้ยินเสียงของผม เสร็จแล้วพวกเขาทั้งสองคนก็หันมาหาผมเมื่อพวกเขาสองคนหันมามองผม พวกเขาก็ปรับเปลี่ยนท่าทางของพวกเขาใหม่

” อ่า… อรุณสวัสดิ์ครับทุกๆคน? “

(มาโกโตะ)

ดีแล้วรึเปล่านะ ที่จะพูดว่าทุกๆคน? ผมรู้สึกกังวลเล็กน้อย

” อรุณสวัสดิ์ครับ/ค่ะ นายน้อย!! “

โอ้? ผมสามารถเข้าใจภาษาที่พวกเขาพูดออกมาได้อย่างชัดเจนเลยแฮะ.. ยิ่งไปกว่านั้นการที่พวกเขาทักทายผมกลับได้ นั้นก็หมายความว่าพวกเขาเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดเช่นกันเจ้าแมลง.. ขอบคุณที่มอบพลังนี่ให้กับผมนะ ผมซึ้งจริงๆ’เบเรน’ขออนุญาตจาก’โทโมเอะ’และ’มิโอะ’..

แล้วเขาก็ก้าวออกมาข้างหน้าเหล่าดวอร์ฟซึ่งกำลังนั่งคุกเค่าอยู่ ลุกขึ้นมาพร้อมกัน แล้วก็ก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับโค้งคำนับ..อย่างที่คิด.. พวกเขาดูจริงจังเป็นอย่างมาก

” ท่านมาโกโตะ.. ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย สำหรับความไร้มารยาทของผมที่เรียกชื่อของท่าน..เหล่าดวอร์ฟอาวุโสซึ่งกำลังยืนอยู่ที่นี่ มีทั้งหมด 54 คนครับ.. และจากนี้เป็นต้นไป พวกเราจะขอเข้าอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้.. พวกเราตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกันกับท่านครับ! “

(เบเรน)

” ผมเองก็ตั้งหน้าตั้งตารอเหมือนกันครับ.. ผมชื่อว่ามาโกโตะ และผมก็ไม่ถือสาอะไร ถ้าหากพวกคุณจะเรียกผมว่ามาโกโตะนะครับ รู้ไหม~? “

(มาโกโตะ)

” ถ้าอย่างนั้น.. ผมจะให้หัวหน้าหมู่บ้านของพวกเรามาเข้าพบท่านด้วยนะครับ!! “

(เบเรน)

คุณ’เบเรน’ถอยหลังไปหลายก้าว แล้วเหล่าดวอร์ฟคนอื่นๆก็กลับไปนั่งในท่าคุกเค่าอีกครั้งหนึ่ง

จากนั้น.. ดวอร์ฟผู้มีหนวดเคราน่าเกรงครามและสง่าผ่าเผยก็เดินออกมาข้างหน้า เขาจ้องมองผมด้วยสายตาที่กำลังประเมินในตัวผม แต่ผมไม่รู้สึกว่ามันเป็นสายตาหยาบคายหรอกนะเขาคือคนที่ผมรู้สึกได้ว่า ยืนอยู่เหนือคนอื่นๆ.. เขาแก่กว่าคุณเบเรนอย่างแน่นอนเลยหล่ะ ดูเหมือนว่า ที่คุณเบเรนบอกมาว่าตัวเองอายุยังน้อยดูจะเป็นเรื่องจริงสินะแต่การมองคนอื่นที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกด้วยสายตาแบบนี้มันออกจะ…

แล้วก็การทำอะไรบางอย่างที่เหมือนกับการทูตในสถานที่แบบนี้มันก็…เขาก้มหัวของเขาลง ผมเห็นเขาทำแบบนั้นผมก็เลยก้มตามอย่างอัตโนมัติ..ดูเหมือนว่าในโลกแห่งนี้ยังมีวัฒนธรรมที่ต้องก้มหัวให้กันอยู่สินะ

” ข้าคือผู้นำของเหล่าดวอร์ฟอาวุโส ข้ามีนามว่าเอลโดะ.. สำหรับพวกเราที่ต้องคอยหลบซ่อนตัวอยู่ในดินแดนที่โหดร้ายนั้น.. ข้ารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ท่านได้มอบโอกาสให้พวกเรา ได้อาศัยอยู่ในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้ “

(เอลโดะ)

” อ่า ไม่มีปัญหาครับ.. ผมชื่อว่ามาโกโตะ ถ้าหากมีอะไรบางอย่างกวนใจคุณ หรือมีเรื่องบางเรื่องที่คุณอยากจะถามผม ก็ถามมาได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ “

(มาโกโตะ)

” ขอบคุณครับ ถ้าอย่างนั้นขอถามเลยได้ไหม? “

(เอลโดะ)

” ครับ? “

(มาโกโตะ)

” นายน้อยดูเหมือนจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่เกือบจะเป็นมหนุษย์.. แต่ว่าผู้ติดตามที่ท่านทำสนธิสัญญากันไว้..หนึ่งในนั้นคือ ผู้ควบคุมภาพมายา.. มังกรชั้นสูง.. ท่านเช็น.. และอีกคนหนึ่งก็คือ ผู้ที่ถูกหวาดกลัวว่าสักวันหนึ่งจะกลืนกินโลกทั้งใบ.. แมงมุมภัยพิบัติดำ.. ไม่ว่าข้าจะมองยังไง ก็ไม่มีทางเลยที่ตัวตนที่เรียกว่ามหนุษย์  จะสามารถปกครองพวกเขาได้ “

(เอลโดะ)

” เอ่อ.. ครับ… “

(มาโกโตะ)

พอเขาพูดแบบนั้น ทั้งงูบินแล้วก็แมงมุมโรคจิตต่างก็ตกใจเช่นกัน.. บางทีอาจจะเป็นเพราะร่างกายสุดโกงของผมก็เป็นได้.. แล้วที่เขาพูดว่า เผ่าพันธุ์ ‘ที่เกือบจะเป็น’ มหนุษย์ มันหมายความว่ายังไงกัน?

” จะขอถามตรงๆเลยละกันครับ.. ท่านถูกมอบหมายภารกิจจากเทพธิดาผู้ซึ่งปกครองโลกแห่งนี้ รับการคุ้มครองอันศักดิ์สิทธิ์ และถูกส่งตัวมายังดินแดนรกแล้งแห่งนี้ ใช่ไหมครับ? “

(เอลโดะ)

ดวงตาของคุณผู้ใหญ่บ้านเริ่มมีประกายเล็กน้อย.. แต่ว่าผมมีเรื่องจะเถียงนะ!

” พะ..พูดอย่างกับว่าผมอยากจะได้การคุ้มครองศักดิ์สิทธิ์บ้าบอจากแมลงพรรค์นั้น! จริงอยู่ว่าผมถูกโยนมาตกแม๊ะอยู่ที่นี้.. แต่ตอนที่ผมอยู่ที่นี่ ผมแถบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว! “

(มาโกโตะ)

” มะ..แมลง? “

(เอลโดะ)

” ใช่.. ยัยผู้หญิงนั้นเหมาะแล้วที่จะเรียกเธอว่าแมลง! ยัยนั้นพูดว่า ‘ไปใช้ชีวิตอยู่กับเหล่ามาโมโนะที่สุดขอบของโลกซะ’ พอพูดเสร็จก็โยนผมออกมาโผล่ที่ดินแดนแห่งนี้!!”

(มาโกโตะ)

อ๊ากกก แค่นึกถึงมันก็ทำให้ผมโมโหขึ้นมา!

” อะ…เอ่อ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีภารกิจอะไรเลย? ท่านไม่มีเป้าหมายอะไรเลยเหรอครับ? “

(เอลโดะ)

” ใช่ ไม่มีเลย! ไม่มีแม้แต่อย่างเดียว! ผมเป็นผู้เคราะห์ร้ายนะรู้ไหม?! แต่อย่างน้อย ยัยนั้นก็ทำให้ผมสามารถพูดคุยกับเหล่ามาโมโนะ แล้วก็พวกสัตว์ปีศาจได้.. ผมก็รู้สึกขอบคุณเธอเล็กน้อยนะ แต่ว่า.. “

(มาโกโตะ)

เสียงจากคำพูดของผม เริ่มที่จะเบาลงเรื่อยๆ

” การที่ท่านสามารถพูดคุยกับพวกเราได้ ไม่ใช่ว่าท่านได้รับการคุ้มครองอันศักดิ์สิทธิ์มาจริงๆเหรอครับ? “

(เอลโดะ)

” ความสามารถนั่นเรียกว่า ‘หยั่งรู้’… ยัยนั้นบอกกับผมว่า มันน่าขยะแขยงจะตายที่จะมอบการคุ้มครองอันศักดิ์สิทธิ์ให้กับผม! “

(มาโกโตะ)

ผมไม่อยากจะนึกถึงมันเลยจริงๆดูเหมือนว่า คุณผู้ใหญ่บ้านของเหล่าดวอร์ฟกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่

” ถะ..ถ้าอย่างนั้น นายน้อยเป็นมหนุษย์ ที่ไม่ได้รับมอบอิทธิพลมาจากพลังอะไรเลย.. อย่างนั้นเหรอครับ? “

(เอลโดะ)

” ครับ.. แล้วก็ ได้โปรดหยุดเรียกผมว่ามหนุษย์สักทีได้ไหมครับ? ผมจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าถูกเรียกว่ามนุษย์นะ “

(มาโกโตะ)

” มนุษย์? นั่นมันชื่อของเผ่าพันธุ์โบราณ.. บางคนเรียกพวกเขาว่าเป็นบรรพบุรุษของเหล่ามหนุษย์.. “

(เอลโดะ)

” อะไรก็เถอะ แต่ผมหน่ะเป็นมนุษย์.. แล้วก็ ด้วยสาเหตุบางอย่าง ผมถึงมีพลังเวทย์มนต์ที่แข็งแกร่งอย่างสมเหตุสมผล รวมไปถึงพลังทางด้านกายภาพด้วย “

(มาโกโตะ)

‘โทโมเอะ’พูดว่า ‘ต่อยมังกรจนกระเด็นแล้วยังกล้าพูดว่า ‘แข็งแกร่งอย่างสมเหตุสมผล’ อีกงั้นเหรอ?’  เสร็จแล้วก็หันหน้าไปอีกด้านหนึ่งส่วนมิโอะ.. ‘พลังเวทย์นั้น.. ร่างกาย.. แล้วก็เลือดของเขา.. มันอร่อยมากๆถึงมากที่สุดเลยค่ะ!’เธอพูดด้วยสีหน้าที่มีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก…ผมไม่ได้ยิน.. ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น!

” ข้ารู้สึกโล่งใจ พวกเราเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่เห็นด้วยกับเทพธิดา.. แต่พวกเราก็ไม่ได้คิดเป็นศัตรูกับเธอนะครับ.. แต่ว่าพวกเราก็ไม่มีมหนุษย์หรือเผ่าพันธุ์ปีศาจ ที่พวกเราสามารถเรียกพวกเขาว่าพวกพ้องได้เลยสักคนเดียว “

(เอลโดะ)

” นั่นก็… พวกคุณดูจะคอยพึ่งพาซึ่งกันและกันเองดีจริงๆเลยนะ หืม~ “

(มาโกโตะ)

” แต่ว่าตัวท่านดูน่าสนใจมากครับ ความคิดในเรื่องของเมืองลับแล.. ความสามารถในการพูดคุยกับพวกเรา.. และพลังเวทย์มนต์ที่สูงจนทะลุขีดจำกัดนั้น “

(เอลโดะ)

จะต้องน่าสนใจมากแน่ๆ ถ้าหากพวกเราติดตามท่านไปนั้นคือสิ่งที่เขาพูด

” อะ..เอ่อคือ ผมก็ไม่ได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้นหรอกนะครับ “

(มาโกโตะ)

” หึๆๆ ถ้าอย่างนั้น ข้าต้องขอโทษด้วยสำหรับบทสนทนาอันยาวนาน.. ข้าจะนำผลิตภัณฑ์มาให้ เป็นคำทักทายในอนาคตที่จะถึงนี้ก็แล้วกันครับ “

(เอลโดะ)

หัวหน้าหมู่บ้านถอยหลังกลับไป เขาคงคิดว่าการมอบของคงจะเป็นการนอบน้อมหล่ะมั้ง? แล้วก็.. พลังเวทย์มนต์ที่สูงจะทะลุขีดจำกัดงั้นเหรอพลังเวทย์มันเป็นสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ด้วยเหรอ?

” เอาหล่ะ ดูเหมือนว่าจะถึงตาข้าแล้วสินะ “

(โทโมเอะ)

เสียงนั้นคือเสียงของ’โทโมเอะ’.. เหมือนอย่างเคยเลย ดูเหมือนเธออารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลาเลยนะเหล่ามนุษย์กิ้งก่าเกล็ดน้ำเงินต่างก็ยืนกันอย่างเป็นรูปแบบ ช่างเป็นภาพที่งดงามจริงๆ.. มันทำให้ผมคิดว่า พวกเขาเป็นกองกำลังที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

” นายน้อย! ผู้ที่ยืนอยู่ข้างหลังข้า ต่างก็เป็นผู้ที่อยู่ในตระกูลเดียวกับข้า พวกเขาคือมนุษย์กิ้งก่าสายหมอก.. น้ำและลม พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์หายากที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถควบคุมธาตุทั้งสองอย่างนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ! และลักษณะพิเศษของพวกเขา ไม่ว่าจะมองยังไงก็ต้องเป็นที่เกล็ดสีน้ำเงินอันงดงามของพวกเขาอย่างแน่นอน!

(โทโมเอะ)

“นี่เป็นครั้งแรกเลย.. ที่ผมได้ยินว่าเธอมีญาติด้วย “

(มาโกโตะ)

“ถ้าหากนับพวกที่นับถือข้าด้วยตัวพวกเขาเองแล้ว พวกเขามีกันเยอะมากเลยนะรู้ไหม? แล้วไหนจะพวกที่เรียกข้าว่าพระเจ้าอีก.. แต่ว่าพวกที่ใกล้เคียงกับข้ามากที่สุดก็คือพวกเขานี่แหละน้า เหมาะสมกับจะเป็นญาติข้าจริงๆ.. พวกเขาหนึ่งคน เป็นนักรบที่สามารถต่อสู้ได้สูสีกับมังกรระดับต่ำเลยทีเดียวน้า “

(โทโมเอะ)

” นั้นมันน่าทึ่งมากเลย.. ยิ่งไปกว่านั้น ตัวตนของพวกเขาบ่งบอกผมว่า พวกเขาเชี่ยวชาญในเรื่องของการต่อสู้กันเป็นกลุ่ม.. พวกเขาแข็งแกร่งจนเทียบด้กับอาวุธเลยทีเดียว “

(มาโกโตะ)

” ดูแปลกจริงๆที่ท่านพูดแบบนี้.. แล้วก็ช่างน่าตกใจจริงๆ ที่ท่านมองเห็นความสามารถของพวกเขาได้อย่างทะลุปรุโปร่งแบบนี้.. ยังไงก็ตาม นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเขาทั้ง 108 คนจะย้ายมาอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้…  ได้โปรดดูแลพวกเรานับจากนี้เป็นต้นไปด้วย! “

(โทโมเอะ)

‘โทโมเอะ’ก้มศรีษะลงเล็กน้อย เหล่ามนุษย์กิ้งก่าเองก็เช่นกัน.. พวกเขาแสดงท่าทางขอบคุณ ด้วยการเคลื่อนไหวที่เหมือนกับผ่านการฝึกมาก่อนจริงเหรอเนี่ย พวกเขาดูดีเกินไปสำหรับ’โทโมเอะ’ด้วยซ้ำ.. พวกเขาสามารถสู้กับมังกรขั้นต่ำแบบหนึ่งต่อหนึ่งได้ แล้วถ้าเกิดพวกเขาทำงานกันเป็นทีมหล่ะก็..

ถ้าเลือกสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม พวกเขาน่าจะต่อสู้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อเลยทีเดียวถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกเรียกว่านับรบ.. แต่สำหรับผม ผมมองว่าพวกเขาเหมือนกับอัศวินมากกว่าแฮะ ดังนั้นพวกเขาอาจจะไม่สามารถเคลื่อนไหวแบบกองกำลังพิเศษได้ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกเขาจะต้องเป็นระดับหัวกะทิอย่างแน่นอน..

ต่อไปก็ ‘มิโอะ’

” นายน้อย.. พวกที่ยืนอยู่ข้างหลังฉันคือญาติของฉันเองค่ะ พวกเขาถูกเรียกว่า อาร์เกะ ค่ะ..พวกเขาเองก็เหมือนกับฉัน ซึ่งไม่สามารถหนีจากความหิวโหยได้.. แต่ต้องขอบคุณพลังงานจากนายน้อยจริงๆค่ะ พวกเขาเลยกลับมามีสติอีกครั้ง.. ฉันเลยพาพวกเขามายังที่แห่งนี้ “

(มิโอะ)

อาร์เกะ.. ผมไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลยอย่างที่คิด.. ญาติของ’มิโอะ’เป็นสิ่งมีชีวิตที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน และดูเหมือนว่าจะไม่มีอยู่ในโลกของผมด้วย เดี๋ยวนะ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น…พลังงาน? เธอหมายความยังไงเรื่องพลังงาน?ผมคิดว่าเธอน่าจะมอบพลังเวทย์ของผมให้กับพวกเขาเล็กน้อย แต่เรียกมันว่าพลังงานเนี่ยนะ? ผมไม่ชอบมันเลย..

[ในภาษาญี่ปุ่นใช้ตัวอักษร 精 ซึ่งนอกจากแปลว่าพลังงานแล้ว ยังแปลว่าน้ำ…ด้วยครับ  นั้นแหละ.. เข้าใจตรงกันนะครับ]

ยิ่งไปกว่านั้น เธอแบ่งมันให้พวกเขาได้ยังไงหน่ะ?

” ธะ..เธอแบ่งบางอย่าง ที่แค่มองยังมองไม่เห็นให้พวกเขาได้ยังไงกันหน่ะ? “

(มาโกโตะ)ผมพยายามพูดให้สุภาพที่สุดแล้ว.. อย่างที่คิดเลยมันกลายเป็นบางอย่างที่..?

” นั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว.. แบบนี้ค่ะ! “

(มิโอะ)

เธอแสดงให้ดูก่อนจะอธิบายจบซะอีก.. เธอเรียกหนึ่งในอาร์เกะที่ใกล้ที่สุดให้เข้ามาหา และเธอก็แทงมือของเธอเข้าไปบริเวณไหล่ของเขา ใช่แล้ว..แทงเข้าไปจริงๆ

” เฮ้ยย!! “

(มาโกโตะ)

เสียงของผมหลุดออกมาโดยที่ผมไม่ทันได้คิด

” ~~♫ “

แต่ดูเหมือนว่าอาร์เกะกลับรู้สึกดีที่ถูกแทงเอ๋..เอ๋อ?!พวกนี้เป็นแบบนี้กันหมดเลยหรือไงนะ?!ถ้าเป็นแบบนี้ผมก็มี’มิโอะ’จิ๋วเพิ่มขึ้นหนึ่งคน สองคน สามค..?!

โอ็ย ผมปวดหัว…

จากจุดที่มิโอะแทงเข้าไปเพื่อให้อาหารญาติของเธอ ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างไหลเข้าไปในร่างกายของพวกเขา.. นี่คือสิ่งที่เธอบอกว่าแบ่งสินะดูรุนแรงจริงๆ..

” โอเค~ ผมเข้าใจแล้ว.. ไม่สิ ผมเข้าใจดีเลยหล่ะ ฉะนั้นพอได้แล้วมิโอะ “

(มาโกโตะ)

” ค่ะ ขอบคุณสำหรับเวลานะ “

(มิโอะ)

เธอดึงมือของเธอออก.. แล้วปากแผลที่ถูกแทงนั้นก็ปิดลงโดยที่ไม่มีเลือดไหลเลยสักหยด..วิธีการให้อาหารนั้นก็ดูลึกลับชอบกล สืบทอดมาจากสายเลือดหรือยังไงกันนะ.. พวกเขาก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่ค่อนข้างขี้โกงเหมือนกันนะเนี่ย

” พวกเรา เรียกว่า อาร์เกะ ชื่อ ไม่มี ได้โปรด ดูแลพวกเรา

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพูดไม่ค่อยเก่งแต่พวกเขาก็ยังพยายามจะพูดกับผมอย่างช้าๆ พวกเขาน่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่หมั่นเพียรน่าดูแล้วอีกอย่างหนึ่ง ผมคิดว่าพวกเขาต้องอาศัยอยู่ด้วยตัวของตัวเอง พวกเขาก็เลยไม่มีใครให้พูดคุยด้วยเลยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา.. นั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องพูดสินะและมิโอะเองก็หิวโหยเหมือนกับพวกเขาเช่นกัน ไม่สิ.. เธอเคยหิวโหยต่างหาก

ลืมพูดว่า ‘ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปนะ’ รู้ตัวไหม? อยากจะถูกกินมากเหรอไง หา?! แง่ง?! “

(มิโอะ)

เธอมาจากแก๊งยากูซ่าเหรอไงกัน!

” มิโอะ ไม่เป็นไร! พวกเขาพูดได้ดีแล้ว.. แล้วจากนี้พวกเขาก็ต้องคอยปรับตัว ให้เข้ากับการอาศัยอยู่ที่นี่อีกด้วยนะ “

(มาโกโตะ)

เมื่อ’มิโอะ’ถอยกลับไป เหล่าอาร์เกะเองก็รู้สึกโล่งอก และเหมือนจะเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมพูดพวกเขาซึ่งนำโดยมิโอะ ทำให้ผมรู้สึกกังวลเกี่ยวกับอนาคตเล็กน้อย…

” ตัวฉัน และเหล่าอาร์เกะ สามารถสร้างวัตถุดิบพิเศษขึ้นภายในร่างกายของพวกเราได้.. และพวกเราก็ยังมีความรู้ด้านการเล่นแร่แปรธาตุจากสมัยโบราณอีกด้วยค่ะ.. พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเราจะช่วยทำประโยชน์ให้กับท่านได้ ในทุกๆหนทางค่ะ.. พวกเราอาจจะดูเหมือนเผ่าพันธุ์ที่ไม่คู่ควร แต่ได้โปรดดูแลพวกเรานับจากนี้เป็นต้นไปด้วยค่ะ นายน้อย “

(มิโอะ)

ช่างตีเหล็กพวกเรามีดวอร์ฟ.. เย็บผ้ามีเหล่าอาร์เกะ.. ในการต่อสู้พวกเราก็มีมนุษย์กิ้งก่าสายหมอก และในงานทั่วๆไป พวกเรามีเหล่าออร์คภูเขา และพวกเราก็หวังพึ่งพวกมนุษย์กิ้งก่าในงานด้านนี้ได้เช่นกัน

อืม.. ดูเหมือนว่ามันจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเยอะเลยแฮะ.. แต่พวกเรายังขาดจำนวนคนที่มากเพียงพอในการก่อตั้งเมืองอยู่สินะและในที่สุด การแนะนำตัวก็จบลง.. แล้วด้วยเหตุผลนี้ การเดินทางของผมไปยังเมืองของเหล่ามหนุษย์ก็ช้าเข้าไปอีก ยังไงก็ตาม ตอนนี้ผมก็สามารถไปได้แล้ว..

หลังจากแนะนำตัวกันเกือบจะชั่วโมง ในที่สุดผมก็สามารถไปเยี่ยมเยือนเมืองของมหนุษย์ได้สักทีในที่สุดผมก็จะได้เจอกับมนุษย์ตัวเป็นๆแล้ว! เย้!

” เอาหล่ะทุกๆคน ผมจะตั้งหน้าตั้งตารอสำหรับสิ่งที่เราจะทำร่วมกันในอนาคตนะครับ.. ถ้าหากต้องการทราบรายละเอียดต่างๆ ถามได้จากผู้ติดตามของผมได้เลย..’โทโมเอะ’ ‘มิโอะ’ พาคุณ’เอลโดะ’ไปดูรอบๆทีนะ คุณจะเลือกที่ดินตรงไหนเป็นที่อาศัยก็เลือกได้เต็มที่เลยครับ แต่ว่าอย่ามีเรื่องอะไรกันนะครับ.. ส่วนผมจะเดินทางไปยังเมืองของมหนุษย์.. มันอยู่ไม่ไกลมาก ฉะนั้นผมจะไปคนเดียว “

(มาโกโตะ)

” ไปคนเดียวไม่อันตรายเหรอ? “

(โทโมเอะ)

” ใช่ค่ะ ให้ฉันได้ไปกับท่านด้วยเถอะ “

(มิโอะ)

” ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเทียบกับตอนที่ผมสู้กับพวกเธอแล้ว นี่มันปลอดภัยกว่ากันเยอะเลย.. แล้วก็ผู้คนทั้งหมดนี่ ถ้าหากไม่มีใครชี้แนะพวกเขา มันอาจจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นทีหลังได้.. ไม่ต้องห่วงผมหรอก ถ้าหากทุกๆอย่างไปได้สวยหล่ะก็ ผมจะขอพักอยู่ที่นั้นหนึ่งคืน แล้วพรุ่งนี้ผมจะกลับมา… ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวหล่ะนะ “

(มาโกโตะ)

หลังจากที่พูดแบบนั้น ผมก็เดินออกประตูหมอกไป โดยที่ไม่ได้กินแม้แต่ข้าวเช้าด้วยซ้ำทั้ง’โทโมเอะ’กับ’มิโอะ’ ก็เหมือนจะยินยอมกับสิ่งที่ผมพูด

เพราะพวกเขาไม่ได้ตามผมออกมาถ้าหากอะโซระมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น เดี๋ยวผมค่อยกลับมาแก้ไขทีหลังก็ได้!

ตอนนี้.. ผมควรจะไปที่เมืองก่อนนี่มันก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว หลังจากที่ผมมายังโลกแห่งนี้เดินทางโดยที่ไม่เจอมนุษย์เลยสักคน.. ยิ่งไปกว่านั้น ยังเกือบตายอีกตั้งสองครั้งในที่สุดก็ถึงเวลาสักที ที่ผมจะได้เจอกับมนุษย์ตัวเป็นๆ!

 

ตอนนี้แปลยากพอสมควรเลยครับผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะครับขอบคุณกำลังใจจากทุกๆคอมเม้น และจากทุกๆคนที่ติดตามครับผม ^^

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments