I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

tsuki-ga-michibiku-isekai-douchuu ตอนที่ 20 อ่า~ นี่มันร้านอาหารที่อยู่ริมแม่น้ำสินะ ใช่ที่ไหนหล่ะ

| Tsuki ga Michibiku Isekai Douchuu | 878 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เสียง *แคร่ง *แคร่ง ดังขึ้นมา[มันดังอย่างนี้รึเปล่าครับ เสียงส้อมกระทบจาน ทำไมผมนึกไม่ออก]ผม.. คุณไรโด.. ตอนนี้กำลังถือมีดและส้อมเพื่อกินอาหารเย็นอ้ำ! กรุบ!! กรึบ!…

[เอาจริงๆนะ ผมนึกเสียงไม่ออกจริงๆครับ = =”]

ข้างๆผม.. มีหญิงสาวญี่ปุ่นสุดสวยและสง่างาม กำลังนั่งสวาปามอาหารทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ด้วยการใช้ส้อมเพียงอย่างเดียวผมควรจะสอนมารยาทบนโต๊ะอาหารให้ ‘มิโอะ’ ด้วยสินะผมควรจะสอนให้เธอ ‘ทำตัว’ ให้เหมาะสมต่อสถานการณ์เมื่อจำเป็น.. อย่างน้อยที่สุด ผมจำเป็นต้องสอนจริงๆ!!เฮ้อ~

พวกเรากำลังดึงดูดความสนใจนอกเหนือจากพวกเรา.. ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครที่เป็นนักผจญภัยอยู่ใกล้ๆคนที่อยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแขกที่มาเพื่อรับประทานอาหาร.. และผมรู้สึกได้เลยว่า พวกเขาเป็นลูกค้าที่มีคุณสมบัติแตกต่างจากนักผจญภัยอย่างสิ้นเชิงเลยหล่ะผมจะขอพูดอีกรอบ..

เด็กหนุ่มคนนั้น.. เขาเอาคืนพวกเราด้วยแผนราคาแพงพวกเขาพาเราเข้ามายังร้านอาหารสุดหรู ที่มองแว๊บเดียวก็อดคิดไมไ่ด้ว่า คนที่เข้ามากินยังที่แห่งนี้ได้ จำเป็นจะต้องแต่งกายให้เหมาะสมกับกฎระเบียบของทางร้านด้วยซ้ำไปนี่มันค่ายผู้ลี้ภัยไม่ใช่เรอะ?!ที่นี่มันหรูหราถึงระดับไหนกัน?

นี่คือสิ่งที่ ‘มาโกโตะ’ พยายามคิดผมสงสัยมาก ว่าจะมีอาหารแบบไหนถูกเซิร์ฟออกมาบ้าง.. แล้วตอนที่ผมเดินไปถึงโต๊ะ ผมมองเห็นมีดแล้วก็ส้อมเฮ้ๆ? หรือว่านี่จะเป็นอาหาร ‘ประเภท’ นั้น?แล้วสุดท้ายก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆดังนั้น อาหารเหล่านี้เลยไม่ได้ทรยศความคาดหวังของผม..

เมื่อพิจารณาอาหารเสร็จ ผมก็เริ่มมองไปรอบๆที่นี่เต็มไปด้วยผู้คน ที่ดูเหมือนจะเป็นพวกเชื้อพระวงศ์หรือไม่ก็พวกผู้ประกอบการค้า.. ผมไม่รู้หรอกว่าพวกเขาเป็นเชื้อพระวงศ์จริงๆรึเปล่า.. แต่มันน่าประทับใจมาก ที่เห็นพวกเขาสามารถสวมใส่เสื้อผ้าที่แค่มองดูก็รู้แล้วว่า แค่ขยับตัวยังทำได้ลำบากเลย..

ที่นี่มันควรจะเป็นเมืองที่มีไว้เพื่อฝึกฝนไม่ใช่เหรอ? มันทำให้ผมสงสัยถึงความปกติทางด้านจิตใจของพวกเขาจริงๆถึงแม้ว่าพวกนักผจญภัย จะมีเงินมากพอจะมากินร้านอาหารหรูๆก็เถอะ..

ยังไงผมก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะมายังสถานที่แบบนี้อยู่ดีอาหารที่น่ารับประทาน ถูกเซิร์ฟไปยังโต๊ะต่างๆที่ร้านอาหารแห่งนี้.. แค่มองดูอาหารเหล่านั้น มันก็ทำให้ดวงตาของผมกลับมาสดใสและมีชีวิตชีวาอีกครั้งเลยทีเดียว.. แล้วยังมีสาวผมดำ ซึ่งกำลังนั่งกินอาหารอย่างร่าเริงอยู่ข้างๆตัวผมอีกด้วย..

ผมพยายามจะไม่สนใจแล้วนะต้องขอขอบคุณ ‘คนคนนั้น(แมลง)’ จริงๆ.. ที่ทำให้ผมไม่ได้กินอะไรที่เรียกได้ว่าอร่อยแม้แต่อย่างเดียว นับตั้งแต่ที่ตัวถูกเตะส่งมายังโลกแห่งนี้ มันไม่มีเลยแม้แต่อย่างเดียว!ถึงแม้ว่าผมอยากจะสำรวจบริเวณรอบๆ โดยไม่ตกเป็นจุดสนใจก็เถอะ.. แต่ตอนนี้ผมอยู่ในสถานการณ์ที่ทุกๆคนต่างมองมาที่โต๊ะของพวกเรา…

แน่นอน.. ตอนนี้ผมกำลังใช้ [ซากาอิ] เพื่อทำเป้าหมายของผมให้ลุล่วงอยู่.. นอกจากเฝ้ามองบริเวณรอบๆแล้ว ผมยังคอยจับตามอง ‘โทโมเอะ’  แล้วก็พวกที่สะกดรอยตาม ‘มิโอะ’ มาอีกด้วยผมขยาย [ซากาอิ] ออกไป กว้างถึงขนาดที่สามารถได้ยินบทสนทนาของโต๊ะอื่นๆเลยทีเดียวอืม..

จะพูดยังไงดีหล่ะ?ถ้าหาก ‘โทโมเอะ’ อยู่ที่นี่ เธอคงจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเลยหล่ะเพราะที่นี่ มีแต่บทสนทนาที่ฟังดูน่าสงสัยทั้งนั้นเลยนี่นาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคลังอาวุธ.. กำไรจากการขายความลับต่างๆ.. การทดลอง.. วัตถุดิบ.. และอื่นๆไม่ต้องสงสัยเลยว่า คนกว่าครึ่งของที่นี่.. มีแต่พวกที่มีจิตใจอันชั่วร้ายถ้าพูดในทำนองของละครย้อนยุคแล้วหล่ะก็.. ก็ต้องเป็น ‘มีช่องทางมากมายแค่ไหนกันนะ?*’

 [ ตรงนี้คนแปลอังกฤษไม่มั่นใจนะครับ 体何話分なのかねえ ]

ผมไม่อยากจะมีความคิดที่ว่า คนรวย = คนไม่ดี หรอก.. แต่ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ มันก็ช่วยไม่ได้แหละนะหรือบางที.. นับจากนี้ผมอาจจำเป็นจะต้องมากินอาหารยังร้านอาหารทำนองนี้บ่อยๆ เพื่อรวบรวมข้อมูล? ก็ไม่ใช่ว่าผมถือสาอะไรหรอกนะ~

” นายน้อยคะ.. อาหารมันอร่อยก็จริง แต่ปริมาณเท่านี้มันไม่น้อยเกินไปหน่อยเหรอคะ? ” (มิโอะ)

ถึงแม้ว่าเธอจะหยุดใช้ส้อมแล้วก็เถอะ.. แต่สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของเธอก็คืออาหารหรือไงกัน? ผมควรจะทำยังไงกับเธอดีนะ คุณมิโอะ?

” อืม? นี่มันไม่ใช่อาหารที่จะหากินได้ง่ายๆนะ ดังนั้นมันก็ช่วยไม่ได้หรอก ” (มาโกโตะ)

มีคนมองพวกเราอยู่ ผมเลยเขียนคำพูดไว้ที่หน้าอกของผม เพื่อให้มีแต่ ‘มิโอะ’ เท่านั้นที่มองเห็น

” แต่กัดไปคำเดียวมันก็หมดแล้วนะค่ะ… ” (มิโอะ)

ดูเหมือน ‘มิโอะ’ จะเศร้ามาก.. ปลาที่ถูกทาไปด้วยอะไรสักอย่างซึ่งคล้ายกับเนย เพื่อปรุงแต่งกลิ่นของมัน.. อาหารจานเลิศนั้น กลับถูกกินจนหมดในคำเดียว..

[ แปลอะไรเกี่ยวกับอาหารกลางดึกนี่มัน ทรมานจริงๆครับ ]

มันดูเหมือนกับมูนเย่ร์(meuniere*) ที่ใช้กับพวกเนื้อสีขาวเลย.. มันส่งกลิ่นที่เทียบกันได้กับเนย แต่มันก็คงเป็นแค่ ‘ความแตกต่างระหว่างโลก’ เท่านั้นเอง

 [ meuniere ผมอ่านผิดแน่นอนครับ ฮ่าๆ เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่าการเตรียมอาหารด้วยการชุบด้วยแป้ง แล้วทอดด้วยเนยครับ ส่วนใหญ่จะใช้กับเนื้อปลาครับ (ข้อมูลผิดขออภัยนะครับ) ]

” นั้นคือเหตุผล ที่เธอควรจะใช้ส้อมแล้วก็มีดหั่นเนื้อช้าๆแบบนี้ แล้วก็ค่อยๆเอามันใส่ปากทีละคำๆ เพื่อสัมผัสรสชาตติอย่างช้าๆ.. “(มาโกโตะ)

ด้วยประโยคที่ดูเหมือนผมจะเริ่มเหนื่อยแล้ว แถมยังมีความกดดันจากรอบข้างปนอยู่ด้วย.. สีหน้าของ ‘มิโอะ’    ก็เปลี่ยนไป เสร็จแล้วก็พยักหน้าผมไม่รู้ว่าเธอเอาใจใส่ผู้อื่นรึเปล่านะ.. ผมไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆนี่มัน             ซับซ้อนมากๆ..

พูดให้ถูกก็คือ ตอนนี้ ‘มิโอะ’ กำลังทำสีหน้าลำบากใจ ขณะที่กำลังถือมีดไว้ในมือข้างซ้ายเธอไม่จำเป็นต้องฝึกใช้มันวันนี้ก็ได้นะ ค่อยไปฝึกวันอื่นก็ได้.. หรือเธอพยายามจะพิสูจน์ตัวเองกัน?

” ไม่เป็นไรหรอก ถ้าหากเธอจะค่อยๆพยายามคุ้นเคยกับการใช้มัน.. ” (มาโกโตะ)

ผมจ้องไปที่ ‘มิโอะ’  ซึ่งตอนนี้กำลังเหม่อลอยถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป.. ผมรู้สึกได้เลยว่าอีกไม่นาน ‘โทโมเอะ’ จะต้องหยิบตะเกียบส่วนตัวออกมาแน่ๆ ผมต้องเตือนเธอซะแล้วจานอาหารถูกนำมาเซิร์ฟอย่างไม่ขาดสาย..

มันน่ายินดีนะ ที่ได้รู้ว่าที่แห่งนี้มันครึกครื้นเหมือนกับผับในอดีตนั้น มันมีช่วงเวลาที่ผมกับเพื่อนๆ ไปเที่ยวที่ผับ แล้วจัดปาร์ตี้ไร้แอลกอฮอร์กัน เพราะพวกเรายังอายุต่ำกว่ากำหนดอยู่นั้นคือสิ่งที่ผมเรียกได้ว่า

เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผมสนุกและมีความสุข..แต่ว่า.. มันน่าหงุดหงิดจริงๆ..บทสนทนาที่ผมได้ยินมาจากโต๊ะข้างๆ ช่วงหลังมานี้…บางคนคิดว่าพวกเราเป็นพวกชนชั้นสูงด้วยซ้ำ และนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกผิดแผกมันทำให้ผมมึนหัวเลยทีเดียว..

อ่า~ อาหารมันอร่อยเหลือเกิน.. ผมพยายามจะคิดแบบนั้น แต่ยังไงบทสนทนาพวกนั้นก็ทำให้อาหารหมดความอร่อยอยู่ดีดูเหมือนพวกเขาจะคิดว่า พวกเราเป็นชนชั้นสูงที่ร่ำรวยจริงๆด้วย.. แต่ผมรู้สึกว่าคำพูดเหล่านั้น มันก็แค่คำประชดประชันอยู่ดีอย่างน้อย

นั้นก็เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกได้จาก ‘บุคคลที่รวยเอามากๆ’ รอบๆข้างผมหน่ะนะผมไม่สนหรอกว่า พวกเราออกมาเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับโลกใบนี้.. ในเมื่อระดับแนวคิดยังแตกต่างกันขนาดนี้ ผมรู้สึกได้เลยว่า แนวคิดเหล่านั้นจะเป็นตัวปิดกั้นการเรียนรู้ของพวกเราด้วยซ้ำส่วนบุคคลที่ตกเป็นเป้าสายตาอย่าง ‘มิโอะ’  กำลังสนุกสนานไปกับการกินอาหาร..

เสน่ห์ของเธอไม่ได้มาจาก การประหยัดเงินหรอก.. แต่มันเป็นการผลาญเงินอย่างหนักต่างหากตอนที่ผมพาเธอไปกินแฮมเบอร์เกอร์ เธอพูดว่า ‘ก้อนดินเหนียวนี่ทำไมมันมีรสชาติด้วย? นี่คืออาหารหรอกเหรอ?’ผมรู้สึกได้เลยว่า ดวงตาของเธอเป็นประกายตอนที่เธอพูดแบบนั้น มันเป็นประกายจริงๆนะ..(ประกายเหมือนกับดวงดาวที่ห่างไกล)

ไม่สิ.. ระดับของพวกเขานั้นต่างกัน และดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สนใจสภาพการเงินของเพื่อนร่วมชะตาเลยด้วยซ้ำ พวกเขาเป็นบุคคลที่ไม่สนใจความสมดุลทางด้านการเงิน.. บางทีพวกเขาอาจจะร่ำรวยจนถึงขั้นที่คิดว่า เงินมันเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตเลยก็ว่าได้

ในทางกลับกัน ผู้คนที่อยู่ที่นี่…พวกเขาเปลี่ยนเพื่อนของพวกเขาให้เป็นเงิน และนั่นก็เป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาคิดและคนที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าคนพวกนี้ ก็กำลังควบคุมดอกเบี้ยก้อนโต เพื่อที่จะหาเงินมาใช้จ่ายไม่ว่าผมจะคิดยังไง ผมก็คิดไม่ออกอยู่ดีว่า ผมจะไปข้องเกี่ยวกับพวกคนรวยนี่ได้ยังไงผมคิดไม่ออกจริงๆ

แต่ว่า..คนรวยส่วนใหญ่ในโลก เริ่มต้นจากการเป็นขโมย เป็นโจร เป็นพวกปล้นสะดม หรืออะไรจำพวกนี้ ภายในระยะเวลาหนึ่งปี ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับเกียรติและความเชื่อถือ

ฮืม…สิ่งที่เรียกว่าชีวิตนี่มันช่างลึกลับจริงๆ…ข้อสรุปที่ผมได้มาจากบทสนทนารอบๆตัวผม มันเป็นแบบนี้คนที่ไม่มีเงินเลย ก็ควรที่จะซื้ออาวุธถูกๆ แล้วออกไปล่ามอนสเตอร์ง่ายๆถ้าหากเขาไม่ได้อะไรติดมือกลับมาเลย ทั้งทรัพยากรหรือว่าวัตถุดิบต่างๆ.. ตอนที่เขากลับมา คุณก็แค่หลอกลวงให้เขากู้เงินสกปรก และระยะเวลาชดใช้เงินกู้ที่สั้นจนเรียกได้ว่า หลับตื่นเดียวก็ต้องจ่ายแล้ว เท่านี้คุณก็จะได้ลูกไก่ในกำมือ.. ไม่ต่างอะไรจากการหลอกล่อพวกเด็กๆหรอกถ้าหากเขาสามารถหาอะไรติดไม้ติดมือกลับมาได้ คุณก็แค่เชิญชวนเขามานั่งรับประทานอาหาร เสร็จแล้วก็รับเงินจากพวกเขา..

สินค้าก็ไม่ต่างจากสิ่งล่อลวงนั้นแหละนะผมเข้าใจในส่วนแรกนะ ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง ดังนั้นหนทางหาเงินที่ง่ายที่สุดก็คือการใช้ร่างกายของคุณนั้นแหละ..

ยิ่งไปกว่านั้น บุคคลที่มายังที่แห่งนี้ ส่วนใหญ่จะให้ความสนใจไปที่การฝึกฝน มากกว่าการหาเงินซะอีก..

เรื่องนี้จะต้องมีเหตุผลด้วยแน่ๆแต่ว่า ลูกไก่ในกำมือ… ผมปล่อยให้คำคำเดียวนี้ผ่านสมองไปเฉยๆไม่ได้หรอกพวกเขาขายอาวุธในราคาที่ถูกมากๆ แถมยังพยายามเชิดคนจากเบื้องหลังอีกด้วย..

ถ้าหากพวกเขาสามารถนำอะไรสักอย่างติดมือกลับมาได้ พวกคนที่กำลังเชิดเขาก็จะนำสิ่งนั้นไปขายในราคาที่แพงกว่าอาวุธมาก.. แต่ว่าอาหารแล้วก็โภคภัณฑ์ต่างก็มีราคาสูงเกินกว่าเหตุอยู่ดี.. พวกเขายังต้องอาศัยอยู่ในโรงแรมราคาแพงอีกด้วยถ้าหากพวกเขาไม่ได้อะไรกลับมา พวกเขาก็ต้องพึ่งพาเงินกู้ เสร็จแล้วก็จบชีวิตพวกเขาด้วยการเป็น ‘ลูกไก่ในกำมือ ,หุ่นเชิด’ท้ายที่สุด.. เงินทั้งหมดก็กลับเข้ามาหาเจ้าหนี้.. แถมยังมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น.. สิ่งที่คอยดึงดูดจิตใจอย่าง  อาหาร, เพศตรงข้าม, ความหรูหรา, พวกเขาต่างต้องอาศัยอยู่กับความเป็นจริงที่น่าเวทนา เพราะสิ่งเหล่านี้ต่างถูกตระเตรียมมาจากผู้ที่อ่อนแอกว่านั้นแหละวงจรอันแสนโหดร้าย.. ไม่สิ.. ระบบที่สร้างมาเป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้สร้างได้ผลกำไรอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า

” เพราะพวกส่งเสียงกวนใจรอบๆแท้ๆ… ฉันเลยไม่สนุกกับการกินอาหารเลยค่ะ… ” (มิโอะ)

และ…ดูเหมือนว่าใบหน้าของผมจะบอกเธอแบบนั้นสินะอย่างน้อย ‘มิโอะ’  ก็ดูเหมือนจะสนใจสิ่งต่างๆรอบตัวอยู่บ้าง.. ยังไงนั้นก็ยังเป็นแค่อย่างเดียวที่เธอทำได้หล่ะนะ.. แต่อย่างน้อยผมก็ต้องยอมรับ ว่าเธอคืบหน้าขึ้นเยอะเลย ฮ่าๆ

“ขอโทษนะ ดูเหมือนว่าสีหน้าของผมจะทำให้เธอไปสนใจรอบข้างสินะ ” (มาโกโตะ)

” ไม่ใช่ค่ะ.. ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นคนที่ทำหน้าเย็นหกใส่อาหาร ขณะที่พวกเรากำลังนั่งกินด้วยกันอยู่ค่ะ ” (มิโอะ)

??ตอนที่ผมมองให้ละเอียดอีกครั้ง ผมมองเห็นว่าตอนนี้ใบหน้าของ ‘มิโอะ’  กำลังแสดงสีหน้าที่เหมือนกับอดกลั้นอะไรบางอย่างอยู่ผู้หญิงคนนี้เก็บอาการไม่เก่งจริงๆสินะหึๆ.. นี่คือสิ่งที่เขาเรียกกันว่า ‘ความเซ่อ’ รึเปล่านะ?ไม่ใช่สิ..มาหาข้อสรุปแบบสบายๆกัน

 “ดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้ว.. พวกเราจะกลายเป็นเหยื่องานอดิเรกของ ‘โทโมเอะ’ สินะ พอคิดแบบนั้นแล้วก็เจ็บปวดเล็กน้อยแฮะ”  (มาโกโตะ)

เพราะนี่คือเส้นทางที่พวกเราจะต้องทำ ‘การลงโทษอันศักดิ์สิทธิ์!’หรือผมควรจะ ‘เสียบด้วยสันดาบ’ ดีนะ?อย่างแรกเลยคือ ผมต้องเอาจริง!ผมจะเต้นท่ามกลางฝนสีเลือด!

พอมาคิดดูแล้ว.. ผมอาจจะต้องฆ่าใครสักคน ในอนาคตอันใกล้นี้ก็ได้..ยังไงก็ตาม ผมมีชีวิตอยู่มาหลายปีด้วยกฎเหล็กสูงสุดที่ว่า ห้ามฆ่าใคร.. ดังนั้นผมก็ทำอะไรไม่ได้หรอกยังไงผมก็ฆ่าใครไม่ลงถ้าหากผมตกอยู่ในสภาพตื่นตระหนกและไม่สามารถทำมันลง.. ผมยังมี ‘โทโมเอะ’ และ ‘มิโอะ’ อยู่

ดังนั้นน่าจะมีหนทางอื่นอยู่อีกผมคงจะไม่เหลือช่วงเวลาแสนสุขเลยสินะ?ฆ่า ฆ่า ฆ่าแทง ฟัน ทุบ แล้วก็ฆ่าตอนที่ผมเจอ ‘ลิซึ’ นั้น ผมไม่ได้คิดจะฆ่ามันจริงๆหรอก.. มันเป็นอุบัติเหตุ ดังนั้นผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นมากแล้วก็ช่วงที่เจอเผ่าดีม่อนที่ภูเขาของเช็น

ผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาอยู่ตรงนั้นแล้วก็ตอนที่เจอ ‘โทโมเอะ’ และ ‘มิโอะ’  มันเป็นผมต่างหากที่กลัวว่าจะตายตอนที่ผมรู้ว่าพวกเขาต่างกลายร่างเป็นมนุษย์..ผมก็อดหัวเราะไม่ได้.. ไม่สิ.. ผมคงตกใจจนทำอะไรไม่ได้นอกจากหัวเราะมากกว่า..

ทำไมผมถึงคิดถึงฉากที่ตัวผม สามารถฆ่าสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์ได้ ‘ง่าย’ แบบนี้นะ?แต่ทั้งแบบนั้น ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไม่รู้สึกอะไรอยู่ดี ถ้าหากเกิดการฆ่าขึ้นจริงๆนั้นมันไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงหรอก.. ไม่มีทาง..

แต่ว่า..ผมกินอาหารต่อไป ขณะที่กำลังใช้ความคิดเกี่ยวกับความกังวลในหัวของผม

” คุณ ‘โทโมเอะ’ คงกำลังภาวนาในใจ ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นแน่นอนค่ะ ” (มิโอะ)

” เพราะว่านี่เป็นเพียงชั่วโมงแรก* ” (มาโกโตะ)

[ คนแปลอังกฤษก็ไม่รู้ว่าสำนวนนี้คืออะไรครับ 時間の〆だからね ]

” ?? ” (มิโอะ)

[ ขนาดมิโอะยังงงเลยครับ ฮ่าๆ ]

ดูเหมือนว่า ‘มิโอะ’ จะไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด และกำลังทำหน้าตางุนงงงอยู่.. สำนวนนี้มันสวยมากเลยนะ มันหมายถึง ผู้ที่งดงาม ไม่ว่าจะทำอะไรก็ยังคงงดงามอยู่ดีนั้นสินะ..

บางทีผมควรจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย.. เพราะยังไงพรุ่งนี้พวกเราก็ต้องไปที่พื้นที่การค้าอยู่ดี ดังนั้นผมควรจะสำรวจพื้นที่คร่าวๆไว้ก่อน และสำรวจเส้นทางจากโรงแรมไปยังพื้นที่ดังกล่าวไว้เลยด้วยและผมจะปล่อยให้   ‘โทโมเอะ’ ดูแลรถขนสินค้าของพวกเรา

ดูเหมือนว่า ‘มิโอะ’ กำลังดื่มสาเกอยู่ และกินอาหารจนอิ่มแล้วส่วนตัวผมนั้นไม่ได้ดื่มไปสักนิดเลยนะ.. เพราะผมคิดว่า มันไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยที่จะดื่มมันจริงๆผมก็บอก ‘มิโอะ’ ไว้แล้วด้วย.. แต่ผมอยากจะรู้ว่า แอลกอฮอร์จะมีผลกับผู้ที่ไม่ได้เป็นมนุษย์แต่แรกแบบพวกเธอรึเปล่าเอาหล่ะ ยังไงก็ไปกันเถอะ..

ดูเหมือนว่าเธอจะเมานิดหน่อยสินะ… ส่วนตัวผมก็จะมองขึ้นฟ้า แล้วทำท่าทางเหมือนคนเมาด้วยเช่นกัน เหมือนกับ ‘สองสหายที่กำลังกอดคอกันเมา’ ถ้าหากพวกที่สะกดรอยตามมา มีเป้าหมายอื่นนอกจากสะกดรอยอยู่ละก็.. ผมรู้สึกได้เลยว่า นี่จะต้องเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุดแล้ว ที่พวกเขาจะเริ่มเคลื่อนไหว

เอาหล่ะ.. ยักษ์จะปรากฎกาย หรือจะเป็นงูกันนะ?

” ไปกันเถอะมิโอะ ไปเดินเล่นกันสักหน่อย ” (มาโกโตะ)

ผมไม่รู้ว่า ‘มิโอะ’ จะเข้าใจสิ่งที่ผมพูดรึเปล่านะ.. แต่เธอก็ผลักเก้าอี้ออกแล้วดีดตัวขึ้นมา พร้อมกับพยักหน้าหลายครั้ง

————————————-

แถมให้อีกตอนครับผม เนื่องจากห่างหายไปนาน (จริงๆเพราะตอนนี้มันสั้นด้วยแหละ)ตอนนี้ มาโกโตะเข้าด้านมืดแปลกๆ ดุดันมากครับแปลไปด้วยอินไปด้วย 55แต่ค่อนข้างจะมีส่วนที่แปลได้ยากอยู่หลายส่วนเลยครับ ถ้าผิดก็ขออภัยด้วยขอบคุณกำลังใจจากทุกๆคอมเมนท์ และจากทุกๆคนที่ติดตามครับผม ^^

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments