I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

tsuki-ga-michibiku-isekai-douchuu ตอนที่ 27 เผื่อไว้ก่อน ผมเลยจำเป็นจะต้องทำด้วยเหมือนกัน รู้ไหม

| Tsuki ga Michibiku Isekai Douchuu | 1731 | 2364 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ผมได้ยินเสียง

“เฮ้อ~”

มีใครบางคนกำลังถอนหายใจยาวๆอยู่เสียงนั่นดังมาจากบริเวณสัมภาระของรถม้าตอนที่ผมมองผ่านๆ ผมเห็นคน 4 คนกำลังชะโงกหน้าออกมาจากรถม้าด้านหลัง เพื่อที่จะมองไปยังกำแพงสูงใหญ่ซึ่งกำลังตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าของพวกเรายังมีระยะห่างระหว่างพวกเรากับกำแพงนั่นอยู่พอสมควร

แต่จากการที่ผมเห็นว่ามันเป็นกำแพงที่สูงมากจากระยะที่ห่างถึงขนาดนี้.. แสดงว่าข้างหลังกำแพงนั่น คือเมืองขนาดใหญ่ไม่ผิดแน่ท้ายที่สุด.. คน 5 คนซึ่งเคยอาศัยอยู่ที่เมืองล่าสุดนั้น ต่างปรารถนาที่จะพาผมไปส่งยังเมืองถัดไปที่มีชื่อว่า ‘ซึเงะ’

ผมไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธพวกเขา.. พูดให้ถูกอีกหน่อยก็คือ ผมปฏิเสธพวกเขาไม่ได้เพราะผมรู้สึกผิด ที่ผู้ติดตามของผมทั้งสองคนได้ทำลายเมืองทั้งเมืองไป ผมเลยฟังคำขอร้องของพวกเขา

ระยะทางที่คาดการณ์ไว้ก็คือสองสัปดาห์ แต่ด้วยจำนวนคนที่เพิ่มมากขึ้นของรถม้า และการที่พวกเรามัวแต่     เถรไถลตามจุดต่างๆ ทำให้ระยะทางทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็นสามสัปดาห์เลยทีเดียวตอนนี้..

‘มิโอะ’ ซึ่งสวมใส่ชุด กิโมโน และ ‘รินอน’ ซึ่งกำลังตื่นตะลึงไปกับการได้เห็นกำแพงเมืองที่สูงเฉียดฟ้า กำลังนั่งขนาบข้างของผมทั้งสองฝั่งอยู่ตอนนี้ ผมมีดอกไม้สองดอกนั่งอยู่ข้างๆผม..

ถึงแม้ว่าด้านหนึ่งจะเป็นผู้ติดตามแสนโรคจิต และอีกด้านหนึ่งจะเป็นแค่เด็กผู้หญิงก็เถอะ..และถึงแม้ว่าผมจะเรียกชุดที่ ‘มิโอะ’ ใส่ว่ากิโมโน แต่จริงๆแล้วมันก็แค่ชุดที่เหล่าดวอร์ฟทอขึ้นมา ด้วยการหลอกแบบมาจากชุดของ ‘โทโมเอะ’ นั่นคือเหตุผลที่มันไม่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่เสื้อผ้าชนิดใดเลย แต่มันก็ยังเป็นชุดที่สามารถสวมใส่ไปรเวตได้อยู่ดี.. มันคือสิ่งที่คนเรียกกันว่า พอนจี*

[*พอนจีคือผ้าไหมที่ถูกทอขึ้นมาจากตัวไหมป่าและมีสีธรรมชาติ ]

มันมีแขนเสื้อที่ยาวมากอย่างที่คิด ผมเลยอยากจะหยุดความคิดของเธอที่จะสวมใส่มัน เนื่องจากมันจะต้องทำให้เธอเคลื่อนไหวลำบากมากแน่ๆและผมได้สั่งให้ ‘โทโมเอะ’ แยกออกไปทำอย่างอื่นแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า มันคือการฝึกฝน ตามแผนที่วางไว้ในตอนแรก!

ต้องขอบคุณมากจริงๆส่วนคนที่มากับพวกเรา เอาแต่จ้องมองมาที่ผมด้วยสายตาอันหวาดกลัวเพราะพวกเขากำลังมองมาที่บุคคล ซึ่งสามารถออกคำสั่งกับหญิงสาวชื่อว่า ‘โทโมเอะ’ ได้

ผมมีเรื่องที่ต้องทำ และ ‘โทโมเอะ’ เองก็สามารถจัดการตัวของเธอเองได้ ดังนั้นผมก็เลยปล่อยให้เธอไปแต่ถ้าผมปล่อยให้ ‘มิโอะ’ ไปกับเธอหล่ะก็.. ผมรู้สึกได้ว่ามันอาจจะต้องเกิดความยุ่งเหยิงขึ้นอีกแน่ๆ ผมเลยเลือกที่จะให้ ‘มิโอะ’ เดินทางร่วมกับผม…

นี่ขอพูดจากใจจริงเลยนะ ผมว่า ‘มิโอะ’ ไม่ได้เป็นคนไร้เหตุผลขนาดนั้น.. แต่ก็เฉพาะตอนที่ผมอยู่ใกล้ๆเธอเท่านั้นแหละส่วน ‘รินอน’ นั้น ค่อนข้างตัวติดกับผมและ ‘มิโอะ’ .. ส่วนคนอื่นๆที่มากับพวกเรานั้น แทบจะไม่ได้พูดคุยอะไรกับพวกเราเลย.. ยกเว้นคุณ ‘โทอา’ ผมคิดว่ามันค่อนข้างเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง

แต่ถ้าหากผมคิดถึงสาเหตุที่พวกเขามากับพวกเราแล้ว ผมก็เลยไม่ตกใจอะไรมากนัก ที่พวกเขาประพฤติตัวกับพวกเราแบบนี้.. ผมก็เลยพยายามล้มเลิกความตั้งใจ ที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรานั้นดีขึ้นผมควรจะดีใจนะ ที่อย่างน้อยก็มีคนหนึ่งคน ซึ่งตอนนี้แทบจะตัวติดกับผมไปแล้ว..

ยังไงก็เถอะ ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะมีความจำเป็นอะไร ที่จะทำตัวสนิทสนมกับเหล่านักผจญ ซึ่งทำตัวเหมือนกับตัวเองเป็นแค่ผู้ชม และห้อยตามพวกเรามาด้วยพวกนี้หรอกผมก็แค่จะช่วยพวกเขานิดหน่อย.. เมื่อถึงซึเงะแล้ว ผมก็จะทิ้งพวกเขาให้อยู่ในสถานะแค่คนรู้จักเท่านั้น

เพราะการทดลองของผมมันไปได้สวยเลยนี่นาหมอกของ ‘โทโมเอะ’ .. ความมืดของ ‘มิโอะ’  แล้วก็ความรู้ที่ผมได้รับมาด้วยการความสามารถเหล่านั้น ผมเลยสามารถทำให้พวกเขาลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองก่อนหน้านี้ ได้เร็วขึ้นอีกเล็กหน่อย..

มันเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ที่ผมไม่คาดคิดมาก่อนเลยมันอาจจะใช้เวลา.. แต่อย่างน้อยที่สุด มันจะสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาได้ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์เพื่อหลีกเลี่ยงการยกประเด็นในเมืองที่เหลือแต่ซากแห่งนั้นมาเป็นบทสนทนาผมเลยจำเป็นจะต้องเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง

แต่พวกเรายังไม่ได้จัดการปัญหาของคุณ ‘โทอา’ กับ ‘รินอน’ เลยเอาเถอะ.. ค่อยเก็บไว้คิดวันหลังละกัน เพราะผมวางแผนจะพักอยู่ที่ซึเงะไปอีกนานเลยนี่นา

” สุดย~อดไปเลย!! กำแพงขนาดใหญ่~! ” (รินอน)

ในที่สุด ‘รินอน’ ก็ส่งเสียงออกมาด้วยความตื่นเต้นและร่าเริงมันใหญ่มากจริงๆนั้นแหละนะแต่เธอเคยอาศัยอยู่ในเมืองที่ไกลออกไปอีกไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ว่าเธอเคยมาที่นี้อย่างน้อยครั้งนึงแล้วหรอกเหรอ?

” ‘รินอน’  เธอไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเหรอ? ” (มาโกโตะ)

” เอ๋? อ่า.. ค่ะพี่ชาย หนูเดินทางมาที่นี้ ผ่านทางเวทย์มนต์ประเภทเคลื่อนย้าย ดังนั้นหนูก็เลยแทบไม่ได้ออกมาเดินเล่นข้างนอกมากเท่าไหร่ค่ะ ” (รินอน)

‘รินอน’ ใช้สรรพนามแทนตัวผมว่าพี่ชาย อย่างถาวรไปแล้ว..  การเคลื่อนย้ายด้วยเวทมนตร์งั้นเหรอ? พวกเขามีวิธีการเดินทางที่สะดวกดีเหมือนกันแฮะ

” เอ๋? เวทย์ย้ายตำแหน่งเหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นจะไม่เร็วและปลอดภัยกว่าเหรอ ถ้าหากพวกเราใช้สิ่งนั้นในการเดินทาง? ” (มิโอะ)

คุณ ‘มิโอะ’ พูดแบบนั้นออกมา.. ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะขยันปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้ดีขนาดนี้.. เธอยังปกปิดความเป็นคนโรคจิตของตัวเองได้ดีขึ้นมากอีกด้วย ผมอยากขอบคุณเธอจริงๆ! ผมขอภาวนาให้สักวันหนึ่ง เธอจะสามารถรักษาอาการโรคจิตในตัวของเธอให้หมดไปได้

” อืม… ค่าใช้จ่ายมันค่อนข้างแพงมากน่ะค่ะ ดังนั้นพวกเราเลยขอร้องให้พวกคุณจ่ายค่าเคลื่อนย้ายให้ไม่ได้หรอก~ ”  (โทอา)

โอ้..ผมหันไปหาเจ้าของเสียง ซึ่งก็คือคุณ ‘โทอา’ .. เธอมุดหัวออกมาจากท้ายของรถขนสินค้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เธอเริ่มที่จะเรียก ‘มิโอะ’ ว่า

“ท่าน ‘มิโอะ’ “

แล้ว.. เธอหวังด้วยซ้ำว่า ‘มิโอะ’ จะรับเธอเป็นลูกศิษย์ แต่ตอนนี้ผมไม่ยอมให้เธอทำอะไรแบบนั้นหรอกนะความสัมพันธ์แปลกประหลาดแบบลูกศิษย์ของผู้ติดตามของผม.. ช่วยไว้ชีวิตผมจากความแปลกประหลาดนั่นด้วยเถิด!

” มันแพงแค่ไหนเหรอ? ” (มาโกโตะ)

” ถ้าหากเป็นของซึเงะ.. หนึ่งคนจะเท่ากับ 20 เหรียญทองค่ะ ส่วนสัมภาระนั้นจะถูกแยกออกไปอีกที แล้วจะตามมาทีหลัง ” (โทอา)

อึก~ ค่าตัวดาราชัดๆเลย!ถึงผมจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ตอนนี้ผมได้เงินมาเป็นจำนวนมาก จากการขายสินค้าต่างๆที่ผมนำมาจากอะโซระ.. จำนวนเงินแค่คนละ 20 เหรียญทองน่ะ มันคงไม่ฉีกเงินในกระเป๋าผมมากนักหรอก ถ้าเทียบกับบาปที่ผมทำไว้แก่พวกเขา..

สำหรับนักผจญภัยที่หวังจะฝึกฝนและร่ำรวยขึ้นมาจากการเดินทาง ผมไม่คิดหรอกว่าพวกเขาจะละทิ้งโอกาสในการฝึกฝนและเงินของตัวเอง ไปกับเวทมนตร์เคลื่อนย้าย.. ผมควรจะคิดว่า วิธีการนี้มีไว้สำหรับพวกผู้ประกอบการแล้วก็พวกชนชั้นสูงเท่านั้นด้วยซ้ำ

” แพงจริงๆด้วยสินะ.. เอาเถอะ อีกประมาณแค่ 8 วันเท่านั้น ที่พวกเราจะไปถึงที่หมาย.. ดังนั้นตอนนี้ จะคุยเรื่องเคลื่อนย้ายด้วยเวทมนตร์ไปก็ไม่มีความหมายอะไรหรอก~ ” (มาโกโตะ)

” อะแฮะๆ จริงด้วยค่ะ.. ยิ่งกว่านั้น การเดินทางด้วยรถม้าของพวกเราในตอนนี้ก็สบายมากเลยค่ะ ความปลอดภัยเองก็สูงมากอีกด้วย ฉันคิดว่ามันสามารถนำมาทำเป็นธุรกิจได้เลยนะค่ะ ” (โทอา)

คุณ ‘โทอา’ กำลังพูดชมเชยอยู่ ‘มิโอะ’ กางพัดออกเพื่อปิดรอยยิ้มของเธอ.. เหมือนเคยเลย เธอเป็นคนประเภทที่อ่อนแอต่อคำชมเชยสินะพัดของ ‘มิโอะ’ นั้น มีโครงที่ทำมาจากเหล็ก ดังนั้นมันก็เลยดูไม่น่ารักเท่าไหร่..

ผมสงสัยจริงๆ ว่าทำไม ‘มิโอะ’ ถึงออกแบบพื้นฐานของอาวุธที่ตัวเองจะใช้ ให้มีลักษณะเป็นพัดที่สามารถพับเก็บได้ พลังโจมตีเองก็ไม่ได้สูงอะไรขนาดนั้น.. หรือว่าโครงเหล็กของพัดอันนี้ ถูกสร้างมาจากเหล็กแฟนตาซีอย่างแร่มิธริล?

แต่การที่เธอใช้มันแบบนั้น มันอาจจะทำมาจากแร่มิธริลจริงๆก็ได้.. และถึงแม้ว่าผมจะเรียกมันว่าพัดมิธริลก็เถอะ ผมก็ยังไม่รู้สึกว่า มันเหมาะจะใช้เป็นอาวุธอยู่ดีแต่ก็จริงที่คุณ ‘โทอา’ บอก

ตอนนี้การเดินทางนั้นปลอดภัยและราบรื่นมากพวก ‘มาโมโนะ’ ที่รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของ ‘มิโอะ’  แทบที่จะหนีออกห่างทันที.. ส่วนตัวที่ไม่รู้นั้น ก็ถูกกำจัดภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น.. มันไวยิ่งกว่าการฆ่าอีกฝ่ายทั้งหมดในเทิร์นแรกตอนเล่นเกมส์ซะอีก..

ด้วยเหตุนี้มันเลยทำให้รู้สึกว่า ทุ้งกว้างแห่งนี้ปลอดภัยกว่าที่คิดมากเอาจริงๆมันเหมือนกับว่า กำลังเล่นเกมส์ที่มี 0 เทิร์นอยู่เลยด้วยซ้ำตอนที่เก็บรวบรวมวัตถุดิบแล้วก็ผ่าร่างของ ‘มาโมโนะ’ พวกนั้น ยังนานกว่าตอนฆ่าพวกมันอีกจริงๆพวกเราคิดจะปล่อยศพพวกมันไว้แบบนั้น

แต่คุณ ‘โทอา’ และนักผจญภัยคนอื่นๆที่ตามมาด้วยนั้น ต่างแสดงสีหน้าเดียวกันซึ่งตีความได้ว่าเสียดายและต่อมาด้วยสีหน้า จะทิ้งวัตถุดิบพวกนั้นไว้แบบนั้นจริงๆเหรอ?

ผมเลยปล่อยให้พวกเขาจัดการเพราะพวกเขามองศพของสัตว์ร้ายแล้วก็แมลงเหล่านั้น ด้วยแววตาที่เหมือนกับจะร้องไห้โดยเฉพาะผู้ที่มีใบหน้าเหมือนกับรุ่นน้องของผมอย่างคุณ ‘โทอา’ .. จ้องไปที่พวกสัตว์ซึ่งมีสภาพเหมือนกับถูกรถชนและจ้องไปที่แมลงซึ่งสภาพเหมือนกับถูกกระทืบเหล่านั้น ราวกับว่าพวกมันเป็นอัญมนีล้ำค่า..

มันทำให้ผมรู้สึกปวดร้าวใจมากเลยจริงๆแต่ก็ต้องขอบคุณพวกเขาหล่ะนะ เพราะผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบในตัวสัตว์และแมลงพวกนั้นบ้างเล็กน้อย รวมไปถึงความรู้พื้นฐานอื่นๆด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่าวัตถุดิบที่พวกเราได้รับมานั้น ถูกเก็บไว้กับรถขนสินค้าด้านหลัง ด้วยเหตุผลนี้แหละ เหล่านักผจญที่ตอนนี้กำลังนอนหลับอยู่ด้านหลังนั้น แทบจะไม่มีพื้นที่เหลือให้นอนอีกแล้วแต่ถึงแบบนั้นก็เถอะ

ตอนนี้พวกเขากำลังมีใบหน้าที่พึ่งพอใจมาก.. มันน่าดีใจมากแค่ไหนกัน? กับการต้องนอนหดตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เพียงเพราะวัตถุดิบเหล่านั้นมีจำนวนมากขึ้นๆตอนนี้ ผมได้เก็บวัตถุดิบแต่ละชนิดไว้อย่างละ 1 ชิ้น

ในกล่องซึ่งแยกออกมาต่างหากพวกมันจะกลายมาเป็นวัตถุดิบ ที่ผมจะใช้ในการศึกษาได้เป็นอย่างดีเอาเถอะ.. มันคงจะไม่เป็นไร ถ้าจะแบ่งวัตถุดิบต่างๆ ในตอนที่พวกเราแยกทางกัน.. เพราะตอนนี้มันเยอะจนแทบจะล้นเลยทีเดียว

” ผมไม่ได้คิดที่จะอาศัยอยู่ในเขตชายแดนหรอกนะ.. ผมเป็นพ่อค้าโดยกำเนิดนี่นา มันก็เลยเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะเดินทางไปนาๆประเทศเพื่อขายสินค้า ” (มาโกโตะ)

” เข้าใจแล้ว.. น่าเสียดายมากเลยค่ะ.. คุณมีพลังมากขนาดนั้นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ ” (โทอา)

จากมุมมองของคุณโทอามันก็ต้องแบบนั้นแหละ สำหรับเหล่านักผจญแล้ว รายได้นั้นสำคัญมาก.. แต่มันทำให้ผมรู้สึกเศร้าเล็กน้อยนะ เพราะพลัง ที่เธอพูดถึงนั้น กล่าวถึงคนรับใช้ทั้งสองคนของผม ไม่ใช่ผมยังไงก็ตาม เมื่อพวกเราไปถึงเมืองเมื่อไหร่ ผมก็จะมีโอกาสได้ใช้ความคิดไปกับเรื่องต่างๆได้สบายใจมากขึ้น

” พี่ชายค่ะ มีอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น!! ” (รินอน)

” ท่านนายน้อย ตรงนั้นค่ะ ” (มิโอะ)

หลังจากได้ยินเสียงเรียกของคนสองคนจากที่นั่งด้านข้างแล้วนั้น ผมหันหัวกลับไปข้างหน้า.. นั่นมันแมลงมดที่ใช้ขาสี่ข้างในการเดิน ขณะที่ขาหน้าสองข้างนั้นทำหน้าที่เหมือนกับเคียว แล้วก็มีผึ้งที่ตัวสีแดงสด พวกมันทั้งสองชนิดนั้นตัวใหญ่มาก และจำนวนของพวกมันก็… 1,2,3… 10 ตัวพวกเขาบอกว่า ชื่อของพวกมันคือ มดยักษ์* แล้วก็ ผึ้งแดง.. ใช่ไหม?

[*Size Ant ผมไม่รู้ว่าจะแปล size ว่า ยักษ์ ดีรึเปล่านะครับ แต่ก็ไม่รู้จะแปลว่าอะไรแล้ว ]

เอาเถอะ มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมายนี่นา.. มันก็ชนิดเดิมๆ ซึ่งพวกเราเจอมาเยอะแล้ว ระหว่างการเดินทาง..

” อ่าาาาาาาา~!! “

อะไร?!ตอนที่ผมหันไปมอง ทุกๆคนที่นั่งอยู่ในรถขนสินค้า กำลังมุดหัวของพวกเขาออกมาจากผ้า.. ตอนนี้ผมอยากจะพูดมากเลยว่า พวกเขาเหมือนกับเต่ามาก..แต่ว่า ทำไมพวกเขาถึงส่งเสียงร้องออกมา?

” คะ-คุณ ‘ไรโด’ ครับ! นั่นมัน..นั่น! “

” มดยักษ์กับผึ้งแดงใช่ไหม? พวกมันมีอะไรเหรอ? ” (มาโกโตะ)

” ไม่ใช่แบบนั้น! ตัวที่เป็นผึ้งน่ะ! “

” นั่นมัน..ของจริง… “

” ไม่อยากจะเชื่อ.. ดวงตารูบี*.. “

[ รูบี(Rubee) หินอัญมนีสีแดง/ทับทิม มันคือคำที่คล้ายๆกับรูบี้(Ruby) นั้นแหละครับ ]

โอ้ ดูเหมือนจะต่างออกไปจากมอนสเตอร์ปกติสินะ.. ปฏิกิริยาของพวกเขา.. หรือว่าจะเป็นมอนสเตอร์หายาก?

” มันต่างจากปกติเหรอคะ? ” (มิโอะ)

จากที่ผมเห็น พวกมันมีทั้งหมด 6 ตัว.. ดูเหมือนพวกมันจะเห็นพวกเราแล้ว แต่น่าจะใช้เวลาอีกนานเลย กว่าพวกเราจะเดินทางไปถึงจุดที่พวกมันอยู่

” มันหายากอย่างไม่น่าเชื่อเลยหล่ะ!!! เหลือเชื่อจนเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ที่มันจะมาอยู่ในเขตใกล้ตัวเมืองแบบนี้! “

” และพวกมันก็แข็งแกร่งมากอีกด้วย!! พวกมันเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก เวทมนตร์ก็ใช้ไม่ได้ผล  แถมพิษของพวกมันก็ร้ายแรงมากอีกด้วย! “

[*ใครชายใครหญิงไม่รู้ครับ ไม่ขอใส่ ครับ/ค่ะ ละกัน ]

พวกเขาตื่นเต้นกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ? ถ้าหากพวกมันแข็งแกร่งมากจริงๆ ก็แย่มากเลยสิเนี่ย?

” แล้ว.. พวกคุณจัดการมันได้รึเปล่าหล่ะ? ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็ไม่รังเกียจที่จะปล่อยมันให้พวกคุณจัดการหรอกนะ ” (มาโกโตะ)

ถ้าหากพวกเขาจัดการมันได้ ปล่อยให้พวกเขาจัดการก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรหรอก.. เพราะถ้าหาก ปล่อยพวกเขานั่งนอนจนรากงอกอยู่หลังรถม้าแบบนี้ มีแต่จะส่งผลกระทบต่อความสามารถและทักษะนักผจญภัยของพวกเขาซะเปล่าๆ

” เป็นไปไม่ได้หรอก! มันกวาดล้างพวกเราทั้งหมดแน่! “

เฮ้ย เฮ้ย..

” ถ้าอยากจะสร้างความเสียหายใส่มันให้ได้เล็กน้อย อย่างน้อยที่สุดต้องเป็นปาร์ตี้ของคนที่เลเวลสูงกว่า 130 เลยนะ “

หมายความว่า คนที่มีเลเวลใกล้เคียงกับ 130 มากที่สุดในตอนนี้ก็คือ คุณ ‘โทอา’  กับ แม่ชีนักรบหญิงเผ่าดวอร์ฟคนนั้นสินะ?.. ผมลืมชื่อเธอซะแล้วแต่พวกเขาก็ยังคงสนุกสนานและร่าเริงไปกับการเดินทางครั้งนี้ ราวกับกำลังนั่งรถเปิดประทุนกลางซาฟารียังไงอย่างงั้น.. ผมพอจะเข้าใจได้ว่า คนพวกนี้ค่อนข้างเซ่อทีเดียว

”  ‘มิโอะ’  ฝากจัดการด้วยนะ ” (มาโกโตะ)

” อึก.. มดพวกนั้น.. ครั้งก่อนมันละลายเสื้อผ้าของฉันนะคะ รู้ไหม? ” (มิโอะ)

ขณะที่พูดแบบนั้น เธอก็โชว์เนื้อผ้าส่วนที่ถูกละลายออกไป ซึ่งอยู่ส่วนปลายสุดของแขนเสื้อของเธอ.. มันถูกละลายไปแค่ไม่กี่เซนติเมตรเอง ถ้าหากน้อยแค่นั้น มันก็ไม่น่าจะทำให้เธอเป็นกังวลได้มากมายนะ

” พวกเราไปถึงเมืองเมื่อไหร่ เดี๋ยวผมจะเย็บส่วนที่ขาดให้เอง.. ตอนนี้… ” (มาโกโตะ)

” ตอนนี้ไม่มีทางเลือกสินะคะ.. ” (มิโอะ)

ดูเหมือนเธอจะยอมทำจนได้ ช่วยผมได้มากเลย

” ท่าน ‘มิโอะ’ ! อย่าทำลายเคียวของมดยักษ์นะ! “

” ไม่ว่าจะยังไงก็อย่าทำลายส่วนหัวของดวงตารูบีนะ! “

” แล้วก็ปีกของดวงตารูบี… “

ก่อนที่จะเริ่มเชียร์ พวกเขาเริ่มเรียกร้องเงื่อนไขต่างๆ.. ช่างเป็นพวกที่เห็นแก่ตัวจริงๆเลย

” …. ท่านนายน้อย ” (มิโอะ)

ผมรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี…

” หืม? “

” ฉันไม่อยากจะทำแล้วค่ะ.. ท่านนายน้อยจัดการเองเลยดีกว่าค่ะ ” (มิโอะ)

” หา! “

ว้าว.. ทุกๆคนมีใบหน้าที่ตกใจพร้อมๆกันเลยแฮะ.. จริงๆแล้วผมเองก็ตกใจเหมือนกัน

” ผะ-ผมควรจัดการเอง? “

” พระเจ้า… ทุกๆรอบ ทุกๆครั้ง ตลอดทุกงาน.. มันทรมานมากเลยค่ะ! อย่าทำลายส่วนนั้น.. โจมตีไปที่จุดนี้.. จนถึงตอนนี้ ฉันอดกลั้นมาตลอด แต่ฉันทนไม่ไหวอีกแล้วค่ะ! ” (มิโอะ)

” ตะ-แต่ว่านะ ‘มิโอะ’ .. พวกมันเป็นวัตถุดิบที่สำคัญนี่นา.. แถมมันยังช่วยเธอฝึกฝนด้วยนะ จริงไหม? ‘ (มาโกโตะ)

” ฉันฝึกการออมมือมามากพอแล้วค่ะ! แถมนี่ก็จะเป็นการฝึกที่ดีของท่านชายน้อยเช่นกัน! ฉันเลยขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของท่านจัดการ! ” (มิโอะ)

เธอหันหัวของเธอออกไปด้วยกิริยาที่ดูเหมือนจะโกรธจัด แล้วก็ปฏิเสธคำขอร้องของผม..ฮ่า~ ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอหรอกนะ.. ไม่ว่าเวทมนตร์ด้านความมืดจะได้ผลหรือไม่ก็เถอะ แต่การที่เธอต้องถูกบีบบังคับให้ใช้ความมืด แล้วก็เก็บกวาดพวกมัน ขณะที่ต้องมาคำนึงถึงวัตถุดิบที่จะเก็บรวบรวม.. มันก็สมควรที่จะทำให้เธอเครียดนั้นแหละ

ถ้าหากระยะห่างแค่นี้… ไม่มีทางเลือก.. ผมกะว่าจะไม่โชว์ความสามารถของตัวเองแล้ว แต่ว่า..มันทำให้ผมรู้สึกแย่เล็กน้อย ถ้าหากพวกเขาเอาแต่คิดว่า ผมเป็นแค่คนไร้ความสามารถ ที่เอาแต่หวังพึ่งความช่วยเหลือจากผู้ติดตามทั้งสองคนดังนั้นผมจะจัดการพวกมันเอง

———————————————

ขอบคุณความคิดเห็นจากผู้อ่านทุกๆคนนะครับ สรุปว่าจะขอใช้เป็น นายน้อย เหมือนเดิมนะครับ ^^

ขอบคุณกำลังใจจากทุกๆคอมเมนท์ และจากทุกๆคนที่ติดตามมากนะครับ ^

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments