I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

tsuki-ga-michibiku-isekai-douchuu ตอนที่ 28 ผมลงมาจากรถม้า แล้วบทบาทพี่เลี้ยงเด็กก็จบลง

| Tsuki ga Michibiku Isekai Douchuu | 1429 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

” ผมไม่มีทางเลือกแล้วสินะ ถ้าอย่างนั้นผมจะจัดการพวกมันเองก็ได้ ” (มาโกโตะ)

” เอ๋?! ” (รินอน)

เสียงอุทานที่ดังขึ้นมา คือเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงจากรินอน*ฮือ*ฮือ.. เธอประเมินผมไว้ต่ำแค่ไหนกันเนี่ย?

” อะ-อืม คุณ ‘ไรโด’ ? พวกเราเองก็จะร่วมสู้ด้วยนะ?! ดังนั้นได้โปรด ขอร้องให้คุณ ‘มิโอะ’ จัดการด้วยเถอะ! “

[*เหมือนเดิมครับ ไม่รู้ว่าชายหรือหญิงพูด แต่จริงๆควรจะใส่หางเสียงลงบทพูดแหละครับ เพราะพวกเขาน่าจะเกรงมาโกโตะกัน ]

คนอื่นๆเองก็พยายามอย่างหมดหวัง เพื่อที่จะหยุดความคิดของผมเหตุการณ์กระตุ้นต่อมน้ำตา.. คงจะอารมณ์ประมาณนี้เองสินะแค่รวบรวมวัตถุดิบผมยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นพวกเขาจะมองผมเป็นมือใหม่แบบสุดๆก็คงจะไม่แปลกอะไรหรอกผมมองหาคันธนูแล้วก็ลูกธนู เสร็จแล้วก็หยิบพวกมันขึ้นมา…

เสร็จแล้วผมก็บอกให้มิโอะหยุดรถม้าผ่านทางสายตาสมกับเป็นคุณม้าสายพันธุ์ไบคอร์นจริงๆ คุณม้าไม่หวั่นไหวต่อแมลงที่ดูน่ากลัวและแข็งแกร่ง ซึ่งกำลังตรงดิ่งมาหาพวกเราเลยแม้แต่น้อย.. แต่ยังไงคุณม้าก็ยังคอยฟังคำสั่งของผมอยู่น่ะนะอืม.. จุดอ่อนของพวกมดคือส่วนหัวใช่ไหม? แล้วของพวกผึ้งมันอยู่ส่วนไหนแล้วนะ?

” เอ่อ.. จุดอ่อนของมดยักษ์คือส่วนหัวใช่ไหม? แล้วก็ดวงตารูบี.. คือส่วนหัวเหมือนกันรึเปล่า? ” (มาโกโตะ)

” พวกเราก็บอกแล้วไงคุณ ‘ไรโด’  ว่ามันเป็นไปไม่ได้! “

” แล้วก็กรณีของดวงตารูบี จะเล็งแต่ส่วนหัวอย่างเดียวไม่ได้นะ!! “

” คุณไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับพวกมันเลยเหรอ การที่จะสู้กับพวกมัน คุณจะต้อง…! “

พวกเขายังคงพยายามทำให้ผมเลิกล้มความตั้งใจต่อไป.. ผมจะร้องไห้แล้วนะรู้ไหม? แต่ดูเหมือนพวกเขากำลังพยายามจะบอกผมว่า อย่าเล็งที่ส่วนหัวสินะ? ผมเกือบจะพลาดแล้วนะเนี่ย

” ไม่เป็นไรหรอกครับ.. ได้โปรดบอกผมเถอะว่า ผมควรจะเล็งไปที่จุดไหนของดวงตารูบี ”           (มาโกโตะ)

” อุหวา… ผู้ชายคนนี้คิดจะยิง โดยที่ไม่รู้ถึงระยะทางที่ไกลที่สุดของธนูคันนั้นเลยเนี่ยนะ! “

” ได้โปรดเถอะ! พวกเรายังอ้อนวอนให้คุณ ‘มิโอะ จัดการได้อยู่นะ “

” …. จุดอ่อนของดวงตารูบี.. ถ้าหากฉันจำไม่ผิด น่าจะอยู่ที่บริเวณท้องของมันค่ะ ” (โทอา)

” เฮ้ ‘โทอา’ ?! “

‘โทอา’ ทำให้พวกชวนหนวกหูพวกนั้นเงียบไปเลยแฮะ.. อืม.. ผู้หญิงคนนี้มีสายตาที่เฉียบคมมาก ดูเหมือนว่าเธอจะมองเห็นความสามารถในการยิงธนูของผม ตั้งแต่ตอนที่ผมตั้งท่าเตรียมยิงเลยสินะ.. หึๆ ผมกลัวตัวเองจริงๆส่วนหัว แล้วก็ท้องสินะ..ฮืม..

ถ้าหากพวกมันอยู่ใกล้แค่นี้.. ผมไม่มีทางที่จะยิงพลาดแน่ๆถ้าหากผมเรียนแค่กีฬายิงธนูธรรมดา มันก็คงจะกลายเป็นอีกกรณีหนึ่ง.. แต่ผมได้ฝึกฝนทักษะการต่อสู้ด้านการยิงธนูมาด้วยเหมือนกัน ถ้าหากมันจำเป็น ผมก็พอจะสู้ระยะประชิดด้วยธนูได้ด้วยเช่นกัน..

อ่า จริงด้วยสิ.. ครั้งต่อไป ลองขอให้คุณดวอร์ฟสร้าง ‘สิ่งนั้น’ ให้ผมดูหน่อยละกันแน่นอนอยู่แล้วว่าผม คุ้นเคยกับการยิงศัตรูที่กำลังเคลื่อนที่..ผมเตรียมคันธนูขึ้นมา.. และดูเหมือนว่าจะยังเหลือลูกธนูที่เหล่าดวอร์ฟมอบให้แก่ผมอีกเยอะเลย ดังนั้นมันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

” เฮ้ย เฮ้ย โทอา?! “

“เงียบเลย! เพราะดูเหมือนตอนนี้เขากำลังใช้สมาธิอยู่นะ ” (โทอา)

” ไม่นะ.. เหมือนอย่างที่บอกนั้นแหละว่ามันเป็นไปไม่ได้! ระยะห่างขนาดนี้ มีแต่เวทมนตร์เท่านั้นแหละ ที่จะสามารถยิงไปถึงเป้าหมายได้ “

” แถมเขายังมีเลเวลแค่ 1 เองนะ.. เขาคิดอะไรของเขา? “

พวกแก.. ยะ-หยาบคายจริงๆเลย! แล้วก็คำพูดอันเยือกเย็นของหญิงสาวซึ่งน่าจะเป็นเผ่าเอลฟ์ ยังเจ็บปวดซะจนเหมือนกับโดนแทงทะลุหัวใจเลยนะ! ทั้งๆที่เธอพูดจาให้เกียรติ ‘มิโอะ’ ถึงขนาดนั้นแท้ๆ!แต่จากศัตรูทั้งหมด 10 ตัว.. ผมล็อคเป้าหมายใส่พวกมัน 6 ตัวเรียบร้อยแล้ว..7,8,9….เอาหล่ะ.. ลองมาฟังความคาดหวังจากคุณ ‘โทอา’ กันต่อดีกว่า..ผมคิดแบบนั้น แต่ว่า..

” ถ้าหากเรื่องมันเลวร้ายขึ้นมาจริงๆ ยังไงพวกเราก็ยังมีท่าน ‘มิโอะ’ อยู่นะคะ ” (โทอา)

” โอ้..จริงด้วยสิ.. ตอนนี้พวกเราปล่อยให้เขาทำตามใจชอบไปก่อนสินะ เสร็จแล้วท่าน ‘มิโอะ’ ถึงจะเริ่มลงมือ “

” แต่ว่านะ.. เขาอาจจะแข็งแกร่งจริงๆก็ได้ เพราะท่าน ‘มิโอะ’ ปล่อยให้เขาจัดการนี่นา “

” ….ไม่ๆๆ… เป็นไปไม่ได้หรอก สำหรับคนที่มีเลเวลแค่ 1 “

” ไม่ใช่ที่ตัวคุณ ‘ไรโด’ หรอก น่าจะเป็นที่คันธนูมากกว่า มันอาจจะเป็นธนูที่แข็งแกร่งกว่าธนูทั่วไปก็ได้นะ.. มันอาจจะมีความสามารถพิเศษที่เพิ่มความแม่นยำในการยิง หรือเพิ่มโอกาสในการยิงจุดตาย ซึ่งจะปริดชีพศัตรูในดอกเดียวก็เป็นได้ ” (โทอา)

” ..เข้าใจแล้ว ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยแฮะ.. จริงด้วยสิ ถ้าหากไม่นับคันธนูแล้ว ลูกธนูดูเหมือนจะทำมาเป็นอย่างดีเลยหล่ะ “

คำนินทา.. ซึ่งอาจจะทำให้หัวใจของผมต้องหลั่งน้ำตา จนแตกสลายไปเมื่อไหร่ก็ได้.. นี่ตั้งใจสรุปกันเป็นเสียงเดียว ว่าจะปฏิเสธความสามารถของผมในทุกกรณีเลยเหรอ?คันธนูตั้งหากที่แข็งแกร่งงั้นเหรอ!?ผมควรจะเปลี่ยนเป้าการยิงมาที่พวกแกแทนเลยดีไหม?! พวกโง่เอ๊ยย… อือ…ผมไม่สนแล้วว! ตั้งใจดูให้ดี แล้วก็ตะลึงในความสามารถของผมซะ!

” พี่ชาย.. เป็นอะไรรึเปล่าคะ? ” (รินอน)

โอ็ย.. ผมเริ่มที่จะมองเห็นว่ารินอน คือผู้หญิงที่น่ารักที่สุดซึ่งอยู่ที่นี่แล้วนะเนี่ย!ระยะห่างคือ 100 เมตรงั้นเหรอ?ผมเล็งเป้าทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว.. เริ่มที่พวกผึ้งก่อนละกันนะ

” …ฮึบ~ “

ผมพ่นอากาศออกจากปอดอย่างเงียบๆ.. จากนั้น ลูกธนูดอกแรก.. จากดวงตารูบีสองตัว ซึ่งกำลังนำขบวนตรงดิ่งมาหาพวกเราในตอนนี้ หนึ่งในนั้นโดนยิงจนล่วงไปแล้ว..ต่อจากนั้น ก็ตัวถัดมา.. ผึ้งอีกตัวหนึ่งซึ่งกำลังนำขบวน ได้ถูกยิงทะลุท้องและล่วงลงกับพื้น3,4,5…

ผมเล็งยิงทีละตัวอย่างคล่องแคล่ว จนพวกมันค่อยๆล่วงไปทีละตัวจากด้านหลังของผม ผมได้ยินเสียงทำนองว่า

“เป็นไปไม่ได้”

หรือ

“เกิดอะไรขึ้น?”..

เห็นความสามารถของผมรึยังหล่ะ พวกบ้าเอ๊ย?เข้าใจรึยัง? ว่าตอนที่ผมจับธนูหน่ะ ผมแข็งแกร่งแค่ไหน?ผมอาจจะมีหน้าตาที่ห่วยของห่วยที่สุดนะ.. แต่ในชมรมยิงธนูน่ะ ผมขึ้นชื่อว่า เป็นคนยิงธนูได้เก่งที่สุดเลยก็ว่าได้

8,9…และตัวสุดท้าย.. ปิดฉากสักที.. *ฉึก!มดตัวสุดท้ายถูกยิงจนหัวทะลุเป็นรูมันใช้เวลาประมาณ 30 วินาทีเท่านั้นพวกศัตรูแสดงอาการตกใจ หลังจากที่โดนโจมตีครั้งแรก พวกมันก็เลยหยุดการเคลื่อนไหว..

ตอนที่ผมเริ่มยิงน่ะ การต่อสู้มันก็จบลงไปตั้งนานแล้วผมไม่ปล่อยให้พวกมันเข้ามาใกล้เลยสักตัว ผมจัดการพวกมันได้หมด ด้วยการยิงเพียงครั้งเดียวต่อตัวเท่านั้น! อย่าดูถูกความสามารถของนักยิงระยะไกลสุดแกร่งอย่างผม!

อืม.. แต่การหยิบธนูดอกใหม่ขึ้นมายิง มันช้าขึ้นกว่าเมื่อก่อนเล็กน้อย แต่ความแม่นยำของผมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง.. ผมอาศัยอยู่ที่อะโซระมานานมากไปหน่อยแฮะ ผมเลยไม่ค่อยได้ฝึกการยิงธนูมากเหมือนเคย   แต่ตอนนี้ผมสบายใจขึ้นมากเลยหล่ะ

” … เหลือเชื่อ ” (รินอน)

ขอขอบคุณคำชมจาก ‘รินอน’ ด้วยใจจริงเลยครับ! คราวนี้แหละ พวกเขาจะได้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อตัวผมกันสักที! ว่ะฮะๆๆ!

” มันง่ายแค่นี้เอง.. จะมองผมใหม่ได้รึยังหล่ะ? ” (มาโกโตะ)

ผมพูดใส่พวกผู้ชมที่นั่งอยู่ด้านหลัง.. พูดให้ถูกก็คือ ผมแสดงให้พวกเขาได้เห็นว่า คันธนูนี้มันไมไ่ด้พิเศษอะไรเลย

” ละ-เหลือเชื่อ! แม้ว่ามันจะเหมือนธนูธรรมดาจริงๆก็เถอะ… “

ก็-ผม-บอก-แล้ว-ไง-ว่า-มัน-ไม่-เกี่ยว-กับ-ธนู!!!!พวกเขาปฏิเสธในตัวผมมากแค่ไหนกัน? การเป็นคนเลเวล 1 มันตัดสินโชคชะตาได้ขนาดนี้เลยเหรอ? บ้าที่สุด..

” …คันธนูนี่เป็นคันธนูธรรมดา.. แต่ว่าลูกธนูน่ะ ถูกสร้างด้วยช่างที่มีฝีมือ แต่พวกมันไม่ได้เคลือบไปด้วยเวทมนตร์อะไรเลยนะ.. ผมแค่มีพรสวรรค์เรื่องการยิงธนูมาตั้งแต่เด็กแล้ว ” (มาโกโตะ)

หลังจากพูดแบบนั้น ผมก็ส่งคันธนูแล้วก็ลูกธนูให้พวกเขาดู.. ผมแสดงได้สุดยอดมาก แต่ถึงแบบนั้นก็เถอะ ด้วยเหตุผลบางอย่าง หัวใจของผมก็ยังรู้สึกเหมือนกับถูกพวกเขาปฏิเสธอยู่ดีผมออกคำสั่งให้ ‘มิโอะ’  นำรถม้าเคลื่อนไปยังบริเวณที่มีซากศพของพวกแมลงอยู่เห~ จริงด้วย.. เจ้าพวกนี้มันต่างจากพวกผึ้งแดง.. ดวงตาของพวกมันเรืองแสงแวววาวราวกว่าอัญมนี.. ดวงตารูบีสินะ.. เข้าใจแล้ว

” นี่มัน.. มันถูกสร้างมาแบบประณีตมาก แต่ว่ามันไม่มีเวทมนตร์เคลือบอยู่อย่างแน่นอนครับ “

[*อันนี้ค่อยรู้เพศชัดเจนหน่อย ฮ่าๆ ]

หนุ่มนักเล่นแร่แปรธาตุ ตรวจสอบคันธนูของผม และพูดข้อสรุปออกมา.. แล้วก็เหมือนเคย ผมลืมชื่อของเขาด้วยเหมือนกันและการที่ต้องจดจำชื่อของคนหยาบคายพวกนี้ ผมขอเลือกที่จะไม่จำดีกว่า.. ขนาดเห็นความสามารถของผมด้วยตาตัวเองแล้ว แต่กลับยังไม่เชื่อสิ่งที่ตาตัวเองเห็นเนี่ยนะ?

” … เป็นไปไม่ได้ “

หญิงสาวเอลฟ์ผู้ซึ่งใช้เป็นนักธนูเหมือนกับผม กระซิบออกมาเบาๆ.. ส่วนชื่อของเธอผมขอนำมันไปไว้ ในส่วนที่ลึกที่สุดของความทรงจำเลยก็แล้วกัน

” ความแรง.. ระยะทาง.. ความแม่นยำ.. ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ “

” ใช่ค่ะ ” (โทอา)

‘โทอา’ เองก็เห็นด้วยเช่นกัน.. ที่แล้วๆมา พวกเขาคิดว่ามันเป็นความสามารถซึ่งมาจากอุปกรณ์ ดังนั้นก็ไม่แปลกหรอก ที่มันจะเหนือความคาดหมายของพวกเขาเพราะยังไงผมก็มีเลเวลแค่ 1 จริงๆนั้นแหละ

” ทุกๆคน พอใจกันรึยัง? รีบรวบรวมวัตถุดิบจากแมลงพวกนั้น แล้วเข้าไปในเมืองซึเงะกันเถอะ ” (มาโกโตะ)

หลังจากรถม้าเคลื่อนมาถึง ผมก็เดินไปข้างๆศพของมดยักษ์ และตัดขาหน้าอันแหลมคมซึ่งดูเหมือนกับเคียวของมันออกมา แล้วผมก็กระตุ้นคนอีก 4 คน ซึ่งเอาแต่ใจจดใจจ่ออยู่กับการตรวจสอบคันธนูในเวลาแบบนี้

การสื่อสารด้วยการเขียนมันดีจริงๆนั้นแหละ.. ถ้าหากผมเขียนไว้ในพื้นที่ๆต้องการจะสื่อสาร ผมก็จะสามารถคุยกับใครจากที่ไหนก็ได้ แม้จะเป็นในสถานที่ที่เสียงของผมส่งไปไม่ถึงก็ตามเพราะยังไงผมก็ไม่ชินกับการต้องตะโกนเรียกใครสักคนหรอกทั้งสี่คนนั้น

หลังจากที่เห็นข้อความของผม ก็รีบตรงดิ่งมายังซากของพวกแมลงมันจะต้องเป็นเพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันมาหลายสัปดาห์นั้นแหละ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ตั้งปาร์ตี้รับเก็บวัตถุดิบกันก็เถอะ แต่พวกเขาก็สามารถแบ่งหน้าที่เก็บวัตถุดิบกันได้อย่างลงตัวและหลังจากนั้น ก็ถึงเวลาที่พวกเราเดินทางมาถึงซึเงะกันสักที!

พวกเขาทั้งสี่คนกำลังจ้องมองมาที่ผม ราวกับว่าผมเป็นคนละคนกับเมื่อก่อนหน้านี้.. มันทำให้ผมรู้สึกดีใจขึ้นมากเลยเมื่อรินอนมองความรู้สึกของผมออก เธอก็พูดว่า

“เยี่ยมมากเลยใช่ไหม?”..

ผมรู้สึกเขินนิดหน่อยมันผ่านมาสามสัปดาห์แล้ว หลังจากค่ายแห่งนั้นถูกลบออกจากแผนที่โลก.. และตอนนี้มันก็ผ่านมาเป็นเวลาสองสัปดาห์แล้ว หลังจากที่พวกเรามาถึงที่นี่

[*ผมไม่มั่นใจว่า ‘ที่นี่’ หมายถึงซึเงะรึเปล่านะ แต่เหมือนจะไม่ใช่นะครับ ]

พวกเรามาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเมือง เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นมาอยู่เหนือหัวของพวกเราพอดิบพอดีในที่สุดพวกเราก็มาถึงเมือง ซึเงะ สักที! มันเป็นที่แรกเลย ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับเมืองจริงๆ หลังจากที่ผมถูกส่งมายังโลกแห่งนี้—

” อะไรนะ?! ค่าย ‘เซนโน(Zenno)’ ถูกทำลายแล้ว?!

คุณ ‘โทอา’ กำลังรายงานรายละเอียดให้แก่กิลด์นักผจญภัยแน่นอนว่าเธอไม่ได้เล่าความจริงทั้งหมดผมให้นักผจญภัยอีก 3 คนเข้าร่วมรายงานด้วยเช่นกัน.. แต่งเรื่องขึ้นมา แล้วทำให้รายงานของพวกเขาแต่ละคนนั้นตรงกันผมไม่ได้บอกคุณโทอาและรินอน ถึงสิ่งที่ผมทำ.. เธอคงคิดว่าเรื่องราวของเธอนั้น คล้องจองกับรายงานของนักผจญภัยคนอื่นๆยังไงก็ตาม เมืองนั่น.. ไม่สิ.. ค่ายนั่นมีชื่อแปลกๆอย่าง ‘เซนโน*’ งั้นเหรอ? เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ยินอะไรแบบนี้

[*ผมไม่รู้ว่ามันคำเดียวกันรึเปล่านะครับ แต่ Zeno ในภาษาญี่ปุ่นแปลทำนองว่าตัวตนอันยิ่งใหญ่ ผิดขออภัยนะครับ]

เลเวลเฉลี่ยที่ค่ายแห่งนั้นมากกว่า 100.. สำหรับพวกฮิวแมนแล้ว ที่แห่งนั้นค่อนข้างเป็นปราการที่แข็งแกร่งทีเดียว.. ถ้าหากคุณได้ยินว่า กลุ่มคนที่แข็งแกร่งเหล่านั้นถูกทำให้หายไปในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นใครก็ต้องตกใจ..แต่เอาเถอะ ยังไงมันก็เป็นสถานที่ซึ่งขับเคลื่อนไปด้วยวิธีอันสกปรกนั้นแหละนะแต่พวกเขาเหล่านั้น ท้ายที่สุดก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่ง ซึ่งถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยให้แก่พวกผู้ประกอบการและชนชั้นสูงอันชั่วร้ายและต่ำช้า

“เพราะเหตุผลหลายอย่าง ทำให้ผมหาชื่อตัวบงการที่ค่ายแห่งนั้นไม่ได้”

นั่นอาจจะเป็นเหตุผลว่า ทำไมพวกนักผจญภัยที่ห้อยตามผมมา ไม่ค่อยมีความผูกพันกับค่ายแห่งนั้นเท่าไหร่นัก ‘รินอน’ เองก็เหมือนกัน แต่ว่า.. ดูเหมือนคุณ ‘โทอา’ จะมีเหตุผลส่วนตัวอยู่เธอไม่ได้ปฏิเสธที่จะเดินทางออกมาจากค่ายแห่งนั้น แต่ดูเหมือนว่าเธอจะมีความรู้สึกบางอย่างตกข้างอยู่ยังไงก็ตาม..

เรื่องที่พวกผมให้พวกเขารายงานไปน่ะ มันค่อนข้างส่งเดชมากทีเดียวมันก็แค่เรื่องง่ายๆ.. อย่างการรุกรานครั้งใหญ่จากเหล่า ‘มาโมโนะ’ ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่แปลกมากนักหรอก สำหรับสถานที่ในเขตชายแดนแบบนั้น..

แต่ผมรู้สึกว่า มันคล้ายกับเรื่องแต่งในนิยายบนเว็บมากทีเดียวแล้วจากนั้น พวกเราก็หนีตายสุดชีวิต จนมาถึงเมืองซึเงะแห่งนี้แล้วก็กิลด์ที่ผู้ติดตามทั้งสองของผมสมัครไปนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ส่งข้อมูลเลเวลของพวกเขา ไปยังกิลด์ที่ตั้งอยู่ในเมืองอื่นๆ..

ดังนั้นข้อมูลบนการ์ดของ ‘โทโมเอะ’ และ ‘มิโอะ’  จึงได้หายสาบสูญไปผมไม่รู้ว่าพวกเขาพลาดแบบนี้ได้ยังไง.. สะเพร่าจริงๆเลยตอนที่ผมถามข้อมูลจากค่ายที่อยู่ใกล้เคียงกับค่ายแห่งนั้น พวกเขาบอกว่าเจ้าหน้าที่สถานประกอบการของกิลด์นักผจญภัย ซึ่งประจำการอยู่ที่เขตชายแดน จะไม่สามารถออกมาจากพื้นที่ได้..

ดังนั้นมันก็เป็นเรื่องปกตินั้นแหละ ที่ข้อมูลและข่าวสารจะกระจายออกไปได้ช้ากว่าปกติพอผมถามว่าสถานประกอบการอื่นอยู่ที่ไหนบ้าง เขาก็ตอบมาว่าใกล้ที่สุดก็คือเมือง ซึเงะ และพวกเราสามารถสมัครสมาชิกให้แก่พวกเขาทั้งสองคนใหม่ได้

และด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเราเลยเดินทางผ่านค่ายอีก 3 ค่ายซึ่งไม่ต่างอะไรกับหมู่บ้านเล็กๆเลยด้วยซ้ำ.. ไม่สิ.. มันให้ความรู้สึกที่เหมือนกับแคมป์กลางป่าเลยมากกว่าผมจะเรียก ‘โทโมเอะ’ กลับมาคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ผมจะให้พวกเขาทั้งสองคนไปสมัครสมาชิกอีกครั้ง..

จากนั้นผมก็จะเดินทางไปที่กิลด์ของผู้ประกอบการวันนี้ผมจะหาโรงแรมพักผ่อน แล้วก็ตรวจสอบร้านค้าใกล้ๆนิดหน่อย

วู้ว วู้ว! ในที่สุด ในที่สุด! ผมก็มาถึงเมืองจริงๆสักที! มีอะไรหลายอย่างเลยที่ผมอยากจะทำ!ส่วนคนที่กำลังฟังรายงานจากนักผจญภัยทั้งสี่คนอยู่นั้น หลังจากพยักหน้าแล้ว ก็ได้เดินหายเข้าไปข้างใน และบอกให้พวกเขารออยู่ด้านหน้า

เขาน่าจะกำลังไปคุยกับคนที่มียศสูงกว่า ยังไงมันก็เป็นประเด็นที่จะนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้ เพราะค่ายหายไปทั้งค่ายเลยนี่ ‘นามิโอะ’ ไม่ได้เข้าไปร่วมวงสนทนา และยืนรออยู่ข้างๆผมพร้อมกันกับ ‘รินอน’ .. เพราะผมไม่อยากให้มันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นซ้ำซ้อนอีก

พอมาลองคิดดูแล้ว.. ที่เมืองนี้ คนที่มีเลเวลสูงที่สุดมันเท่าไหร่กันนะ? แล้วก็แรงค์สูงสุดด้วย?อาคารของกิลด์นักผจญภัย มันค่อนข้างใหญ่และสร้างมาเป็นอย่างดี ทำให้ยากที่จะมองหาตารางเลเวลและอันดับ..

โอ้! เจอแล้ว.. ผมไม่จำเป็นต้องอยู่รอการรายงานจากพวกเขาทั้งสี่คนหรอก ดังนั้นผมขอไปส่องดูตารางนั่นสักครู่นะเอาหล่ะ.. ที่ 1 คือ…เลเวล 201 แรงค์ S..หึๆ อย่างที่คิดเลย มันต่ำมากๆ.. พวกมือใหม่มันก็คือมือใหม่ ส่วนผู้ติดตามของผมก็คือผู้ติดตามของผมสินะ.. 

ผมเริ่มไม่รู้แล้วด้วยซ้ำ ว่าเลเวลพื้นฐานมันเท่าไหร่กันแน่ภารกิจเองก็มีแรงค์ที่ต่ำมากเช่นกันถ้าเป็นแบบนี้.. พวกภารกิจแรงค์ S ก็น่าจะเป็นเควสที่ขอจ้างเป็นการส่วนตัว หรือไม่ก็เป็นปาร์ตี้สินะภารกิจที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่จะเป็น แรงค์ A หรือไม่ก็ B.. ดังนั้นพวกปาร์ตี้นักผจญภัย น่าจะคอยแย่งภารกิจระดับ D ถึง B จนแถบไม่เหลือเลยหล่ะมั้ง?

แต่ดูเหมือนว่า ภารกิจประเภทรวบรวม จะจัดอยู่ในแรงค์ A ซะเป็นส่วนใหญ่.. ยอดมากจริงๆพวกมันน่าจะเป็นภารกิจที่น่าเบื่อหน่ายจนจำเป็นต้องจัดอยู่ในระดับสูงๆสินะ? มันเป็นภารกิจทำนอง

“ช่วยหาของที่หายไปของผมให้หน่อยครับ”

รึเปล่านะ?… จะยังไงก็ช่างเถอะ เพราะผมไม่ชอบภารกิจแบบนี้เลย! ดังนั้นผมก็จะไม่รับภารกิจประเภทนี้มาทำเหมือนกันแต่อย่างน้อย ผมควรจะถามพวกเขาว่าภารกิจประเภทรวบรวมนั้น รูปแบบไหนจะง่ายที่สุด..

ผมมีความรู้สึกว่า มันจะสามารถใช้วิธีนั้นได้ที่ ‘เซนโน’ เพราะอุบายที่ชั่วร้ายของ ‘โทโมเอะ’ และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ผมเลยไม่มีโอกาสได้ทดลองใช้มันเลย.. เธอบอกผมว่าการเคลื่อนพลรายบุคคลของเธอกำลังไปได้สวย แต่ยังไงตอนนี้ พวกเราก็ควรจะเริ่มจริงจังกันได้แล้วหือ?

แปลกแฮะ.. มีภารกิจระดับ S หลงเหลืออยู่.. แต่ส่วนสูงของผม มันทำให้ผมเอื้อมไม่ถึง ผมเลยจำเป็นจะต้องกระโดดเล็กน้อย เพื่ออ่านข้อความบนบอร์ดภารกิจ

บางทีผมอาจจะตกเป็นเป้าสายตานิดหน่อยก็ได้ รอบๆข้างก็เลยส่งเสียงดังขึ้นมา.. เอาเถอะ เพราะดูเหมือนจะไม่มีใครอยากจะทำภารกิจนี้นี่นา ดังนั้นก็คงไม่มีคู่แข่งมาแย่งภารกิจหรอก ไหนดูสิ ภารกิจอะไรกัน?

“ได้โปรดเถอะ! พวกเราต้องการตาของดวงตารูบีอย่างน้อย 1 ชิ้น.. ทั้งหมดที่พวกเราต้องการคือ 6 ชิ้น.. พวกเรายินดีที่จะมอบค่าตอบแทนจำนวนมหาศาลให้แก่คนที่หามันมาได้ — บริษัท เรมแบรนดต์(Rembrandt)”

[ ผมไม่รู้ว่า ตา เขาใช้อะไรเรียกนะ ขอใส่ ชิ้น ละกัน (เป็นไอเท็ม misc ไปละกัน 55) ]

แจ๊คพอต!ยิ่งไปกว่านั้น ผู้มอบภารกิจยังเป็นคนของบริษัทอีกด้วยเหรอ? นี่มันเยี่ยมมากเลย ผมโชคดีจริงๆ!      จะเกิดอะไรขึ้นกันนะ ถ้าหากผมสร้างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพวกเขา?ชื่อของพวกเขาคือ บริษัทเรมแบรนดต์.. บางทีมันอาจจะเป็นบริษัทที่ใหญ่มากแน่ๆ แถมมันยังเป็นภารกิจแรงค์ S อีกด้วย ดังนั้นค่าตอบแทนเองก็คงจะสูงมากเช่นกัน

อืม.. ผมควรจะไปบอกนักผจญภัยพวกนั้น แล้วขอให้พวกเขามอบตาของดวงตารูบีทั้งหมดให้แก่ผม.. ยังไงผมก็เป็นคนล่ามันเอง ดังนั้นก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรถ้าหากพวกเขาไม่ยอมมอบให้ จะให้ผมใช้กำลังแย่งมาก็ได้นะ.. เพราะต่อให้พวกเขาเข้ามารุมผมพร้อมกัน ‘มิโอะ’ คนเดียวก็ทำให้พวกเขาฝันร้ายกันได้แล้ว.. คุฮึๆๆๆ *ยิ้มอย่างชั่วร้าย*

” พี่ชาย ทำหน้าตาน่ากลัวจังเลยค่ะ ” (รินอน)

” ท่านนายน้อย มีแผนการอันชั่วร้ายเหรอคะ? ” (มิโอะ)

‘รินอน’ ซึ่งกำลังหวาดกลัว และผู้ที่พยายามพูดว่า

“ขอฉันร่วมแผนอันชั่วร้ายด้วยค่ะ”

อย่าง ‘มิโอะ’ .. แต่ทางฝั่งของรินอน ทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก

” ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ‘รินอน’ .. พอดีพึ่งจะเจอภารกิจที่น่าสนใจเข้าน่ะ ” (มาโกโตะ)

” อะไรกันน้า~ อ่า! พี่สาวแล้วก็คนอื่นๆ! ” (รินอน)

เสร็จแล้วสินะ?เมื่อผมหันไปมอง มีคน 4 คนกำลังเดินมาทางนี้ผมเหลือบไปมองตารางแรงค์เล็กน้อยพอผมคิดดูแล้ว.. ถ้าหากเป็นระดับท็อป 10..  ‘โทอา’ กับดวอร์ฟสาวน่าจะสามารถเข้าร่วมได้.. พวกเขาจัดอยู่ในกลุ่มผู้ที่แข็งแกร่งมากๆ ทั้งๆที่เป็นกันแบบนี้เนี่ยนะ?

อืม…ขอพูดจากใจจริงเลย ผมมองพวกเขาเป็นแค่พวกชวนหนวกหูเท่านั้นแหละคนจากทางกิลด์ดูเหมือนจะไม่ได้เดินตามมาด้วย ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้กลายเป็นปัญหาที่ใหญ่หลวงมากนัก..

เพื่ออธิบายถึงเหตุการณ์ คือภารกิจที่เราได้รับมาจากค่ายล่าสุดที่เราเดินทางไป พวกเขานำเอกสารเหล่านั้นเข้ายื่นเพื่อยืนยันเรื่องนั้น.. พูดง่ายๆก็คือ มันเป็นภารกิจโดยตรงจากทางกิลด์นั้นแหละพวกเขาดูดีใจกันมากเลยนะนั่น

” กลับมาแล้วค่ะ!  ‘รินอน’  เธอไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้พวกเขาทั้งสองคนใช่ไหม? ” (โทอา)

” หนูประพฤติตัวดีมากเลยค่ะ! ” (รินอน)

บทสนทนาระหว่างพี่สาวและน้องสาว~ ดีจริงๆเลย~ การมีพี่สาวน้องสาวเนี่ย.. ผมก็มีนะแต่ว่า.. ไม่สิ.. ผมไม่ควรจะไปคิดถึงเรื่องนั้นรินอนเป็นเด็กสาวที่ประพฤติตัวได้น่ารักมาก

” ยินดีต้อนรับกลับมาครับ แล้วทำภารกิจนั่นเสร็จรึยัง? ” (มาโกโตะ)

” เสร็จแล้วค่ะ ต้องขอบคุณคุณมากจริงๆ.. แต่คุณจะโอเคกับมันเหรอ? ฉันคิดว่าพวกคุณสองคน น่าจะเป็นคนที่สมควรได้รับรางวัลจากความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจมากกว่าพวกเรานะ ” (โทอา)

ผมรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของคุณ ‘โทอา’ มาก แต่ว่า.. ถ้าหากพวกเราพูดว่า ‘โทโมเอะ’  พวกเราเพิ่มแรงค์ของตัวเอง จากการทำภารกิจอย่างตั้งใจ ขณะที่เธอไม่ได้อยู่กับพวกเรานะ’ ผมมั่นใจว่ามันจะต้องกลายเป็นสถานการณ์ที่วุ่นวายมากแน่ๆถ้าหากผมคิดถึงสถานการณ์และบรรยากาศจนถึงตอนนี้ ผมรู้สึกได้ว่า ต่อให้พวกเราไม่พยายามรับและทำภารกิจก็เถอะ ยังไงพวกเราก็เพิ่มแรงค์ได้ง่ายๆอยู่ดี

” ไม่ๆ.. ชื่อเสียงในฐานะนักผจญภัยของพวกเรานั้นต่ำเกินไป ดังนั้นตอนนี้ พวกเธอเอาของรางวัลไปเถอะ ” (มาโกโตะ)

จริงด้วย! ด้วยเงื่อนไขนี้ ผมจะได้ขอดวงตาพวกนั้นจากพวกเขาได้!

[*มาโกโตะเอ๋ย ตัวเองเป็นคนเอาให้พวกเขาแท้ๆ ทำไมถึงคิดว่าพวกเขาจะไม่ยอมคืนให้]

” ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่คุณทำให้แก่พวกเรานะครับ! “

ช่างเป็นชายหนุ่มที่สุภาพจริงๆ

” ค่าประสบการณ์ เงิน แรงค์ และวัตถุดิบ คุณช่วยพวกเราไว้มากจริงๆค่ะ.. ฉันขออวยพรให้ท่าน ‘ไรโด’ ได้รับพรอันศักดิ์สิทธิ์จากเหล่าสปิริตนะคะ “

ดวอร์ฟหญิง

” สอนวิธีการยิงธนูให้ฉันด้วยนะคะ “

เอล์ฟหญิง.. ใครจะไปสอนหล่ะ!

” พวกเราเพิ่มแรงค์และเลเวลของพวกเราได้ ต้องขอบคุณคุณมากจริงๆค่ะ มันเหมือนกับฝันเลย..  ดูนี่สิคะ! ” (โทอา)

คุณ ‘โทอา’  ดูเหมือนความระมัดระวังตัวของเธอต่อตัวผม เริ่มที่จะจางหายไปแล้ว~ ไหนดูสิ.. ดูเหมือนทุกๆคนจะยื่นกิลด์การ์ดของพวกเขาให้แก่ผม ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มคุณโทอาเลเวล 125.. แรงค์ A.. ฉายาโจรเงา.. เดี๋ยวนะ? โจรเงา? ช่างเป็นฉายาที่ดูอันตรายจริงๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผมคงจะไม่อยากเข้าใกล้คนที่มีฉายาแบบนี้แน่ๆดวอร์ฟสาวเลเวล 122.. แรงค์ B+.. ฉายแม่ชีนักรบ(ดิน).. น่าจะหมายถึงว่า เธอคือนักรบที่สามารถใช้เวทมนตร์จากวิญญาณธาตุดินได้หล่ะมั้ง?เอล์ฟสาวเลเวล 108.. แรงค์ A-.. มือปืนศักดิ์สิทธิ์.. หา? มือปืน? เธอใช้ปืนด้วยเรอะ? แต่ผมเห็นเธอกำลังถือคันธนูอยู่นะ?! แล้วโลกนี้มันมีปืนด้วยเหรอ?!แต่ก็เป็นเรื่องจริง ที่พวกเขาทั้งหมดต่างมีเลเวลเพิ่มมากขึ้นเอล์ฟสาวตอนแรกนั้น ยังมีเลเวลไม่ถึง 100 เลยด้วยซ้ำ.. เลเวลของเธอเพิ่มมานิดหน่อยสินะหมายความว่า คนที่ทำงานอย่างหนักด้วยการเก็บกวาดพวกมัน 10 ตัวอย่างผม ควรจะมีเลเวลเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30 เวล.. รึเปล่า?

” ธุระของพวกเราที่นี่หมดลงแล้ว ดังนั้นกลับกันเถอะ.. หรือพวกเธอยังมีเรื่องที่ต้องทำกันอยู่? ”  (มาโกโตะ) 

” พวกเราหมดธุระแล้วก็จริง.. แต่ท่านมิโอะกับคุณ ‘ไรโด’ จะต้องสมัครนะ “

พวกเขาทุกคนต่างพยักหน้าพร้อมๆกัน.. ช่างเป็นการประสานหัวที่พร้อมเพียงกันจริงๆทำไมพวกเธอถึงอยากให้พวกเราสมัครกันขนาดนั้นหล่ะ?

” พวกเราวางแผนที่จะทำแบบนั้น แต่ก็หลังจากที่ ‘โทโมเอะ’ กลับมาแล้วเท่านั้น.. พวกเราเลยไม่คิดที่จะสมัครวันนี้  ‘โทโมเอะ’ จะต้องเคืองแน่ๆ ถ้าพวกเราทำแบบนั้น ” (มาโกโตะ)

” เห็นด้วยค่ะ.. ถ้าหากเป็นคุณ ‘โทโมเอะ’  เธอจะต้องเคียงแน่ๆเลยค่ะ ” (มิโอะ)

‘มิโอะ’ เองก็เข้าใจดีเหมือนกันสินะถึงแม้ว่าเธอจะถูกผมสั่งให้ไปทำอย่างอื่นอยู่ก็เถอะ แต่เธอเป็นคนประเภทที่ไม่ยอมฟังเหตุผลแน่ๆ ถ้าหากพวกเราสามคน ไม่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์สำคัญต่างๆพร้อมกัน

” เอ๋~? แต่ฉันอยากเห็นคนอื่นๆในกิลด์ตกใจมากเลยนะคะ~! ” (โทอา)

คุณ ‘โทอา’  อย่าพูดตัดความรับผิดชอบแบบนั้นเลยนะครับ…

” พวกเราจะมาที่นี่กันพรุ่งนี้อยู่แล้ว.. ดังนั้นถ้าหากพวกเธออยากจะเห็น พวกเธอก็มารอที่นี่พรุ่งนี้ก็แล้วกันนะ ” (มาโกโตะ)

มันอาจจะกระทันหันไปหน่อย แต่พวกเราพักอยู่คนละแห่งกัน.. ไม่สิ.. พวกเราจะแยกทางกันมากกว่าผมจะพาพวกเขาไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลาไม่ได้หรอกเพราะว่าเป้าหมายของพวกเราคือ การเดินทางอย่างราบรื่นไปประเทศต่างๆนี่นา.. อะไรทำนองนั้นแหละแล้วก็.. ดูเหมือนว่าที่โลกแห่งนี้ จะไม่สามารถตั้งปาร์ตี้กับนักผจญภัยที่มีเลเวลห่างกันพอสมควรได้ระบบจัดการการสร้างปาร์ตี้ของนักผจญภัยขนาดใหญ่นั้น ดูเหมือนจะไม่สมดุลสำหรับพวกเราเป็นอย่างมาก ถ้าหากความคิดผมไม่ผิดพลาดหล่ะก็นะ…

” … จริงด้วยสิ.. จนถึงตอนนี้พวกเราก็เดินทางกับคุณมาโดยตลอด แต่นับจากนี้ จุดหมายของพวกเราก็คงจะแตกต่างกันอย่างแน่นอนสินะ “

” ท่าน ‘โรได’  มันอาจจะยากที่จะเชื่อ แต่ถ้าหากคุณเลือกที่จะเดินทางสายผู้ประกอบการจริงๆ.. มันอาจจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างก็ได้ “

” ถ้าหากเลเวลต่างกัน 20 หรือมากกว่านั้น ก็จะไม่สามารถตั้งปาร์ตี้กันได้ “

20 งั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้น ‘โทโมเอะ’ กับ ‘มิโอะ’ เองก็จับปาร์ตี้กันไม่ได้สินะ

” ใช่แล้ว.. ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ ไปหาอาหารกลางวันเบาๆกินกันเถอะ เสร็จแล้วก็แบ่งสัมภาระออกมาจากรถขนสินค้า หลังจากนั้นพวกเราก็จะแยกทางกันชั่วคราว ” (มาโกโตะ)

” ชั่วคราว? ” (โทอา)

คุณ ‘โทอา’ ถามผมกลับ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง.. ผมตอบความคาดหวังนั้นไม่ได้หรอกนะ เพราะผมเองก็มีความรู้สึกบางอย่างเหมือนกัน ดังนั้นผมก็เลยคาดหวังอะไรคล้ายๆกัน

” ถ้าหากทุกๆคนไม่ได้รีบไปไหนหล่ะก็.. พวกเราไปกินอาหารกลางวันด้วยกัน เสร็จแล้วก็ไปจัดงานปาร์ตี้อำลา เพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับความสำเร็จ ในการทำภารกิจกิลด์ของพวกเธอยังไงหล่ะ ”     (มาโกโตะ)

” ไม่พลาดอยู่แล้วครับ/ค่ะ! “

ขอบคุณที่ยินยอมนะ.. ให้ตายเถอะ..

” ท่านนายน้อย ฉันไม่อยากกินอะไรเหมือนครั้งล่าสุดแล้วนะคะ ” (มิโอะ)

‘มิโอะ’ .. ผมเข้าใจนะว่าเธอพยายามจะสื่อถึงอะไร แต่คราวนี้พวกเราจะไปที่ร้านซึ่งมีลักษณะคล้ายๆกับบาร์ แล้วก็สวาปามทุกอย่างให้หนำใจไปเลย!แล้วก็ระหว่างการเดินทาง พวกเรากินแต่อาหารดอง แล้วก็หลายๆอย่างที่ไม่มีรสชาติมาตลอดเลยนี่นา

” เข้าใจแล้ว ‘มิโอะ’ .. พวกคุณเคยมาที่เมืองนี้มาก่อนใช่ไหม? ” (มาโกโตะ)

พวกเขาทุกคนต่างพยักหน้า.. โอเค ถ้าอย่างนั้นผมจะปล่อยให้พวกเขาเลือกร้านก็แล้วกัน

” ถ้าอย่างนั้นผมปล่อยให้พวกคุณจัดการนะ และได้โปรดเลือกร้านที่มีอาหารและเครื่องดื่มจำนวนมาก แล้วก็สะดวกสบายด้วย.. ผมตั้งความคาดหวังไว้สูงมากๆเลยนะ! ” (มาโกโตะ)

” อ๋อ..แล้วก็.. ต้องเป็นร้านที่เหมาะสมกับรินอนด้วยนะ ” (มาโกโตะ)

ผมเติมคำพูดเข้าไปนิดหน่อยเอาหล่ะ ค่ำคืนนี้ก็ได้วางแผนทุกอย่างไว้แล้ว.. ที่เหลือก็อาหารเที่ยงสินะ.. ร้านที่พวกเราสามารถแยกสัมภาระ แล้วก็กินอาหารไปพร้อมกันได้สะดวก.. อืม.. ปล่อยให้เป็นหน้าที่พวกเขาด้วยเลยแล้วกัน

” งั้นก็ไปกันเถอะ ” (มาโกโตะ)

————————————————————

สรุปว่าใช้นายน้อยเหมือนเดิมนะครับ ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นครับผม ^^ตอนแรกกะจะรีบแปลตอนนี้ให้เสร็จเช้าๆครับ เพราะตอนที่แล้วมันค้าง แต่มันดันยาวกว่าที่คิดสะงั้น 55ผิดพลาดตรงไหนขออภัยนะครับขอบคุณกำลังใจจากทุกๆคอมเมนท์ และจากทุกๆคนที่ติดตามมากนะครับ ^^

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments