ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” ท่านบรรพบุรุษ ไม่ว่าท่านจะสั่งให้ทำอะไรก็ตาม ตราบเท่าที่ข้าน้อยสามาทำได้ ข้าน้อยจะไม่ลังเล ต่อให้ปีนหน้าผาสูงชันหรือบุกข้ามหาสมุทรเปลวเพลิง ข้าน้อยก็จะไม่เกี่ยง “
เห็นแบบนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็รีบให้สัจจะและสัญญาก็เหมือนกับที่ ‘ต้านต้าน’ บอก ตอนแรกที่เขาพบสุสานพันกระดูกและเขาก็ได้ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าช่วยไว้ หากไม่ได้ความช่วยเหลือจากท่าน เขาคงไม่มีทางที่จะได้ทำพันธะสัญญากับ’ต้านต้าน’และถ้าหากไม่ได้ความสามารถของ ‘ต้านต้าน’ ช่วยเหลือ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะประสบความสำเร็จในตอนนี้ โดยที่ไร้การปกป้องจากนาง ไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่เขาจะต้องตาย ดังนั้น เมื่อบรรพบุรุษ มีเรื่องขอร้อง เป็นธรรมดาที่ ‘ชูเฟิง’ จะแสดงความกตัญญูออกมาจากใจ
” ชูเฟิง สิ่งที่ข้าต้องการให้เจ้าทำ มันไม่ยากอย่างที่เจ้าว่ามา อีกอย่างข้าเพียงขอร้อง ไม่ได้บังคับหรือสั่งเจ้าแต่อย่างใด “
” สิ่งที่ข้าขอ . . . . . . ข้าได้แต่หวังว่า ก่อนสติของข้าจะหายไป และก่อนที่ร่างกายของข้าจะเน่าเปื่อย เจ้าจะสามารถช่วยข้าผสานสติที่เหลือกับร่างของข้า “
ผู้ก่อตั้งมังกรฟ้า ยิ้มและกล่าว
” ผสานสติกับร่างงั้นหรอ ? “
‘ชูเฟิง’ขมวดคิ้วลงเล็กน้อย พร้อมกับรู้สึกสับสน ถึงแม้ว่าเขาเป็นผู้เชื่อมต่อฯ เขาก็ไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน
” โฮะ โฮะ . . . . . .หากพูดให้ชัดเจน ก็คือการช่วยให้คนแก่อย่างข้า ฟื้นคืนชีพ !!! “
ผู้ก่อตั้ง มังกรฟ้า ยิ้ม
” อะไรนะ ? ฟื้นคืนชีพงั้นหรอ ? นี่มัน . . . . . .”
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ไม่อาจที่จะสงบได้ ขณะที่พูดเขาก็ลวนไปหมด ปัจจุบันผู้ก่อตั้งสำนักนักมังกรฟ้านั้นได้ตายไปแล้ว อีกทั้งยังตายมาเป็นเวลานาน หากต้องการที่จะให้ช่วย เขา เห็นได้ชัดว่า’ชูเฟิง’ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะเค้าไม่รู้ว่าจะช่วยผู้ก่อตั้งได้ยังไง
” ไม่ต้องห่วงหรอก โลกนี้แสนกว้างใหญ่ และมีสิ่งแปลกประหลาดมากมาย ถ้าจิตไม่ดับสูญหรือยังไม่ถูกทำลาย ตราบเท่าที่สติยังคงอยู่ นอกจากนี้ยังมีสมบัติที่ช่วยป้องกันให้ร่างไม่ต้องเน่าเปื่อย แน่นอนว่าคนตายก็สามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้ “
” ตอนนี้จิตของข้ายังไม่ถูกทำลายและสติก็ยังคงอยู่ อีกร่างกายของข้าก็ไม่มีร่องรอยของความเสียหาย เนื่องจากมุกพันปีมอบพลังให้ร่างกายของข้าไม่ให้สูญสลาย ดังนั้นเงื่อนไขทุกอย่างก็ครบถ้วน เหลือแต่หาคนที่สามารถช่วยให้เราฟื้นกลับมาหลังจากความตายได้ “
” ในช่วงเวลานี้ ทุกอย่างถูกเตรียมไว้แล้ว สื่งเดียวที่ขาดคือบุคคลที่สามารถช่วยข้าได้ และคนๆนั้นจะต้องเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ “
” เจ้าก็รู้ว่าสำหรับ ผู้เชื่อมต่อฯ แหล่งพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งนั้นเปรียบดั่งสมบัติ ไม่ว่าจะเป็นศพ สภาพสมบูรณ์หรือไม่ อีกทั้งยังมีสมบัติที่ป้องกันไม่ให้ร่างเน่าเปื่อย สื่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ ผู้เชื่อมต่อฯ ต่างพากันโหยหา”
” ดังนั้น ข้าจึงต้องมั่นใจว่า ผู้เชื่อมต่อฯ ไว้ใจได้ และยอมชุบชีวิตให้กับข้า และเจ้าก็คือคนที่ข้าเต็มใจอยากจะให้ช่วย “
ตอนนั้น ผู้ก่อตั้ง จ้องมอง ‘ชูเฟิง’
” แน่นอนว่าข้าน้อยเต็มใจที่จะทำ หากบรรพบุรุษกลับมาฟื้นฟูสำนักมังกรฟ้า เพิ่มอำนาจของอาณาจักรเรา สาวกทั้งหลายคงจะปลอดภัยขึ้นเป็นอย่างมาก และพวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหวาดกลัวกับปัญหาใดๆ จากสำนัก#1 หรือ บุคคลที่ทรงอำนาจ !!! “
‘ชูเฟิง’พยักหน้าลัวๆตอบ และคำพูดทั้งหมดที่ออกมาล้วนแล้วแต่มาจากก้นบึ้งของหัวใจหลังจากที่เข้ามาสำนักมังกรฟ้ามานาน ไม่ว่าจะเป็นสาวกหรืออาวุโส ต่างปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดี รวมไปถึงผู้นำสำนักคนปัจจุบัน ที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้หลายครั้ง
นั่นจึงทำให้ ‘ชูเฟิง’ มีความรู้สึกผูกพันธ์ต่อสำนักมังกรฟ้า หากผู้ก่อตั้งสามารถฟื้นฟูสำนักให้รุ่งเรืองเหมือนในครั้งอดีต เป็นธรรมดาที่ ‘ชูเฟิง’ เต็มใจที่จะช่วยเขา
” ฮ่า ฮ่า ฮ่า แน่นอนเรื่องนั้นข้าคงไม่ปล่อยไป แต่การที่เจ้าต้องการช่วยข้า เจ้าจะต้องพยายามอย่างหนัก และหากข้าเดาไม่ผิด เจ้าน่าจะเป็นผู้เชื่อมต่อฯชุดเทา แล้วใช่มั้ย ? “
ผู้ก่อตั้งมังกรฟ้ายิ้มและถาม
” อืม… “
‘ชู เฟิง’พยักหน้า
” ไม่เลวๆ ได้เป็นผู้เชื่อมต่อฯชุดเทาตั้งแต่อายุเพียงเท่านี้ นั้นหมายความว่าความสามารถของเจ้าแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ยังไงก็ตาม หากเจ้าต้องการที่จะช่วยข้าผสานสติกับร่าง เจ้าจะต้องมีความสามารถของผู้เชื่อมต่อฯชุดม่วง “
ผู้ก่อตั้งมังกรฟ้ายิ้มและกล่าว
” ผะ . . . . . ผู้ . . . . . . . ผู้เชื่อมต่อฯ ชุดม่วง . . . . . . . . “
‘ชูเฟิง’ ถึงกับยืนอึ้งและตกใจอย่างมาก ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วงนั้น มีอยู่แค่ในตำนานปัจจุบันไม่มีเหลือแล้วใน 9 อาณาจักร!!
” ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้ให้เจ้าเป็นผู้เชื่อมต่อฯชุดม่วงในตอนนี้ทันที ข้าสามารถอยู่ได้อย่างน้อยอีก 500 ปี และข้าเชื่อมั่นว่าด้วยความสามารถของเจ้า ตราบเท่าที่เจ้ามีความพยายาม เวลาขนาดนั่นคงทำให้เจ้าไปสู่ขั้นนั้นได้ “
ผู้ก่อตั้งมังกรฟ้า ตบไหล่’ชูเฟิง’เบาๆ และหลังจากนั้น เขาก็คว้าโลงคริสตัล ทันใดนั้นก้อนแสงนั้นก็ลอยขึ้นมาในฝ่ามือของผู้ก่อตั้ง จากนั้นเขาก็ตบเข้าไปที่ หัวของ ‘ชูเฟิง’ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ตั้งใจที่จะหลบ แต่เขาก็ทำไม่ทัน ขณะที่ความเร็วของมัน เร็วกว่าปฏิกิริยาของ’ชูเฟิง’ ก้อนแสงแปลกๆลอยเข้าไปในหัวของ ‘ชูเฟิง’
” อ้าาาาาาาา ! “
ความเจ็บปวดที่คมชัด ทำให้’ชูเฟิง’ต้องกอดหัวของเขาด้วยมือทั้งสองข้าง เขาไม่สามารถขัดขืนได้ จึงได้แต่ร้องออกมา อย่างเจ็บปวด ในเวลาไม่นานความเจ็บปวดก็สลายไป เมื่อเขากลับมาเป็นปกติ ‘ชูเฟิง’ก็พบว่ามันมีอะไรบางอย่างแปลกๆเข้ามาในสมองของเขา มันคือการใช้ทักษะลับ
และยังเป็นทักษะลับ ระดับสูงสิ่งที่ ‘ชูเฟิง’ เคยฝึกฝนคือทักษะลับ ระดับต่ำ เทคนิค กำหนดลมปราณ แต่ทักษะลับ ระดับนี้เรียกว่าเป็นสุดยอดทักษะลับของสำนักมังกรฟ้า ไม่สิ สำหรับทักษะลับอันนี้โดยพื้นฐานของมัน ไม่น่าจะมีใครใช้ได้เลยด้วยซ้ำในอาณาจักรมังกรฟ้า แต่เวลานี้ เขากับได้มันมา แล้วทำไม ‘ชูเฟิง’ จึงจะไม่ตื่นเต้น เขามีความสุขราวกับคนบ้าที่เสียสติ
” ข้าถ่ายทอดทักษะลับที่แข็งแกร่งไปให้เจ้าเพื่อให้เจ้า หลีกเลี่ยงภัยพิบัติ อย่างไรก็ตาม ทักษะลับที่จะแตกต่างจากทักษะลับทั่วไป มันจะหลบซ่อนอยู่ภายในร่างกายของคน อีกทั่งมันยังเพิ่มพลังในการต่อสู้ให้แก่เจ้า หากใครได้เห็นความสามารถของเจ้าพวกเขาก็จะไม่รู้เลยว่าเจ้ามีพื้นฐานของทักษะเร้นลับ “
” แต่ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่เจ้าสามารถช่วยให้ข้าผสานสติกับร่าง จนข้าฟื้นกลับมา ไม่เพียงแต่ข้าจะถ่ายทอดทักษะต่างๆให้กับเจ้า ข้ายังจะถ่ายทอดทักษะเร้นลับให้กับเจ้าอีกด้วย!!! “
ผู้ก่อตั้งมังกรฟ้า กล่าวอย่างจริงจัง
” ทักษะเร้นลับ !!! “
หลังจากได้ยินประโยคนั้น หัวใจของ’ชูเฟิง’ได้แต่เต้นลัว อย่างที่เขาคิด ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าเคยได้รับประโยชน์จากสุสานจักรพรรดิและเขาก็ได้รับทักษะเร้นลับมาแต่ยังไงก็ตาม ‘ชูเฟิง’ ก็ยังมีข้อสงสัย ว่าทักษะเร้นลับที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของคนและทำไมถึงไม่สามารถพูดออกมาได้
แน่นอน ถ้าเขายอมถ่ายทอดมันไปให้คนอื่นๆด้วยตัวเองก็ดีไป แต่ใครบ้างจะทิ้งขุมพลังที่ร้ายกาจให้กับคนอื่นๆ แล้วทำไมผู้ก่อตั้งมังกรฟ้าถึงยินดีทำแบบนั้นหลัง
จากนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็ได้พูดคุยกับผู้ต่อตั้งมังกรฟ้า เพิ่มเติม เขารู้ว่าผู้ต่อตั้งได้สร้างสำนักมังกรฟ้าขึ้นมาและะยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ขึ้นไปยังจุดสูงสุดของอาณาจักรสวรรค์ ในชีวิตของเขา เพียงต้องการอยากจะผ่านเข้าสู้อาณาจักร เทพแห่งสงคราม และได้เข้าสู่วิถีเทพแห่งสงครามแต่มันก็ไร้ประโยชน์
แม้เขาจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้เขายังต้องมาตายในสุสานจักรพรรดิ จากนั้นเขาก็ได้รู้ความน่ากลัวของสุสาน ว่ามันมีมากแค่ไหนหลังจากที่คุยกันมากขึ้น มากขึ้น ‘ชูเฟิง’ก็ไม่ต้องการที่จะรบกวนการพักผ่อนของผู้ต่อตั้ง
ดังนั่น เขาจึงขอตัวลา ก่อนที่’ชูเฟิง’ จะจากไป ผู้ก่อตั้งมังกรฟ้า เตือน ว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับบุคคลภายนอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ภายในสุสานจักรพรรดิ
แน่นอน ‘ชูเฟิง’ ตอบตกลงรักษาสัญญา แม้นเขาจะถูกบังคับให้ไม่มีทางเลือก เขาก็จะไม่มีทางบอกคนอื่นเป็นเด็ดขาด ถึงแม้ผู้ก่อตั้งมังกรฟ้าจะไม่เตือนเขาก็ตามหลังจากที่เก็บเกี่ยวสมบัติเล็กๆน้อยๆ ‘ชูเฟิง’ก็เดินทางออกจากทางเข้าสุสานจักรพรรดิ และกลับไปยังภูเขาโอสถวิญญาณในป่า ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
ภายในวันเดียว ไม่เพียงแต่พลังวิญญาณของเขาจะเพิ่มขึ้นมาก เขายังเข้าสู่จุดสูงสุดในอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ อีกทั้งยังได้พื้นฐานทักษะลับ ที่พัฒนาจากทักษะเร้นลับ แม้แต่’ต้านต้าน’เอง ก็มีพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นจากระดับ 2 แก่นแท้ เป็นระดับ 3 แก่นแท้วิญญาณ ผลที่ได้รับมากมายขนาดนี้ทำไม ‘ชูเฟิง’ จะไม่ดีใจ หรือ ร่าเริง
” ชูเฟิง เจ้าไม่ควรเชื่อทุกอย่างที่ผู้ก่อตั้งสำนักพูด “
ในขณะที่ ‘ชูเฟิง’ แสนจะเปรมปรีดิ์ ‘ต้านต้าน’ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่กังวล
พื้นฐานของทักษะเร้นลับ จากเทพพิทักษ์ สุสานทั้งสี่ นั้นก็คือ มังกรฟ้า
แต่ส่วนตัวชื่อวิชานั้น เท่ เอามากๆ กล่าวได้ว่าเป็น ทักษะที่รวดเร็วที่สุดที่เคยมีมา ตราบใดที่ ชูเฟิง มีพลังวิญญาณสูงๆ แม้แต่ ผู้เชี่ยวชาญอาณาจักร สวรรค์ยังไล่ตามเขาไม่ทัน
ความเลว เอ้ย!!! ความเร็วของ ชูเฟิง จะถึงขนาดนั้นหรือเปล่าต้องรอ ดู
ใกล้เข้าสู่การดูตัว เจ้าสาว ของชูเฟิง ที่ เจ้าสำนักมังกรฟ้า ได้หาลือ กับ เจ้าสำนักสตรีหยก . . . . .
ชูเฟิง จะทำเช่นไรกับ สถานการณ์นี้ . . . . .
และเจ้าสาวของเขา จะแสบแค่ไหน . . . . .
ต้องรอติดตาม . . . . .
ที่มา: