ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเป็นความจริงที่ว่า พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อชุมนุมเฉย ๆ หรอกนะ จุดประสงค์พวกเขา คือ สมบัติในหุบเขาพันปีศาจ
‘ชูเฟิง’เข้าใจในทันที พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อชุมนุมหรือเป็นพันธมิตรที่แท้จริงต่อกัน จุดประสงค์ของพวกเขาแน่ชัดอยู่แล้ว คือ สมบัติในหุบเขาพันปีศาจ
แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นจริง นครอันทรงเกียรติ ต้องการใช้พลังของตนและ ต้องการความแข็งแกร่งของพวกเขาที่จะมาช่วยกำจัด ปีศาจที่หุบเขาพันปีศาจ
‘ชูเฟิง’ จึงคิดว่าทุกคนที่มาที่นี่ ก็แค่หวังเพียงสมบัติจาก หุบเขาพันปีศาจเท่านั้น
” ใช่แล้ว พวกเขาที่ถูกเรียกมาการชุมนุมในครั้งนี้ พวกเขาต้องร่วมมือกัน หากพวกเขาร่วมมือกัน โอกาสที่จะโจมตีหุบเขาพันปีศาจสำเร็จก็มีมากเช่นเดียวกัน “
‘กู่ โบ’ พูดอธิบาย
ที่’ชูเฟิง’รู้สึกหนักใจคือ จากการที่เขาเห็นว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแล้วแต่มีความสามารถกันทั้งนั้น ?
“คนที่นี่ไม่ใช่ว่าความสามารถของพวกเขาแข็งแกร่งมากและเป็นคนรุ่นใหม่ไม่ใช่หรือ ขนาดระดับพวกเขายังไม่สามารถจะที่จะชนะสัตว์อสูรในหุบเขาพันปีศาจได้ แสดงว่าเหล่าปีศาจนั้นต้องแข็งแกร่งอย่างมาก?”
‘ชูเฟิง’รู้สึกสงสัยเล็กน้อย
” ท่านยังไม่รู้ ที่จริง คนจากอาณาจักรทั้งเก้านี้มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงอยากแสดงพลังอำนาจของพวกเขาที่เป็น #1 ของอาณาจักรนั้น ๆ ข้าเชื่อว่าพวกเขาไม่ได้เป็นพันธมิตรกันอย่างแท้จริง พวกเขาคงจะร่วมมือกันชั่วคราว “
” นอกจากนี้หากพวกที่มีอำนาจใหญ่ ๆ หลาย ๆ แห่งเป็นพันธมิตรกันจริง ราศวงศ์ เจียง ก็คงจะสงสัยและไม่พอใจเป็นแน่ หลังจากนั้นพวกเขาคงได้รับผลที่ตามมา “
” แต่นี้คือ งานชุมนุมอันทรงเกียรติ ที่เปิดให้กับคน ทั้งเก้าอาณาจักร มันจะเปิดให้ทุกคน ทุกทวีป เข้าร่วมได้ ไม่จำกัดเพศ หรือ อายุ ตราบใดที่พวกเขาเหล่านั้นมีความแข็งแกร่ง จริง ๆ นั่นคือผลประโยชน์อย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ที่หลบซ่อน ตามหุบเขา หรือคนที่มาจากที่ ภายนอก สามารถเข้าร่วมได้ถ้าเขาให้ความร่วมมือในการกำจัดหุบเขาพันอสูรไป นอกจากนี้พวกเขาอาจจะได้ส่วนแบ่งในสมบัติต่าง ๆ”
” ดั่งนั้นถ้าเกิดอุบัติเหตุใด ๆ เกิดขึ้นกับอัฉริยะต่างๆ ภายในหุบเขาพันปีศาจ พวกเขาจะไม่รับผิดชอบแต่อย่างใด เพราะทุกคนที่อยู่ที่นี่มาด้วยความสมัครใจของพวกเขาเอง ดั่งนั้นอำนาจการตัดสินใจเป็นของพวกเขาว่าจะเข้าร่วมการกำจัดเหล่าปีศาจนั้นหรือไม่ “
ในมุมมองพวกเขา นครอันทรงเกียรตินี้ต้องการอาศัยขุมพลังมาจัดการ หุบเขาพันอสูร พวกเขาจึงขอความช่วยเหลือและจัดตั้งพันธมิตรชั่วคราวขึ้นมา
” อย่างไรก็ตาม มีสมดุลอำนาจทิ่ยิ่งใหญ่ อย่าง ราศวงศ์ เจียง อยู่ พวกเขาจึงมีข้อจำกัดในการทำสิ่งต่างๆมากมาย หากเขาคิดจะก่อตั้งพันธมิตรขึ้นจริง “
” นอกจากนั้นการจับมือกันของขั้วอำนาจต่างๆนี้ ก็ เหมือนดาบสองคม หากฝ่ายใดถูกทำลายที่ หนึ่งพวกเขาก็อาจจะสูญเสียอำนาจและกำลังรบของพวกเขาเอง และอาจจะโดนจู่โจมจาก ฝ่ายพันธมิตรด้วยกันเอง ก็เป็นไปได้ “
” แต่นครอันทรงเกียรตินี้ พวกเขาไม่คำนึงถึงความเสียหายที่พวกเขาจะได้รับ หากเกิดการทำลายในหุบเขาปีศาจ พวกเขาจะรับผิดชอบและยอมสูญเสียพื้นที่ และจะจัดการเองทั้งหมด”
‘กู่ โบ’ อธิบาย
มันก็อาจจะเป็นไปได้ หลังจาก’ชูเฟิง’ ที่ได้ยิน ‘กู่ โบ’ อธิบาย
‘ชูเฟิง’ที่ไม่เข้าใจสถานการณ์หรือเป้าหมายของนครอันทรงเกียรติที่แน่นอน แต่เขาก็พอจะเข้าใจ อาจกล่าวได้ว่า ‘กู่ โบ’ ที่มาจากอาณาจักรจิตวิญญาณ เขาจึงทราบข้อมูลทุกอย่างเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ภายในงานชุมนุมแห่งนี้ แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะอยู่ระดับสูงก็จริง แต่ในที่นี่ก็ไม่มีใครที่มีความแข็งแกร่งที่ห่างชั้นกับคนอื่นมากพวกเขาอยู่ระดับใกล้เคียงกันทั้งหมด
” พี่ชาย ชูเฟิง ท่านรู้หรือไม่ว่า นครอันทรงเกียรติ นี้ส่งจดหมายเชิญร่วมงาน เพียงแปดฉบับเท่านั้น”
‘กู่ โบ’ พูด
” จดหมายเชิญงั้นหรอ ? ข้าไม่ยักจะรู้ อะไรคือจดหมายเชิญ? “
‘ชูเฟิง’พูดออกมาเพราะเขาไม่เคยรู้มาก่อน
‘กู่ โบ’ เห็นว่า’ชูเฟิง’งุนงง เขาไม่ได้มีท่าทีเยาะเย้ยและปกปิดข้อมูลกับ’ชูเฟิง’แต่อย่างใด เขาจึงพูดว่า
” ข้าจะบอกท่าน อาณาจักรจิตวิญญาณของข้าก็ได้รับจดหมายเชิญมา หนึ่งฉบับ แต่ตัวอย่างเช่น ข้า กับคนอื่นๆในอาณาจักรจิตวิญญานนั้นบางคนจะต้องผ่านการทดสอบบางอย่างถึงจะมีส่วนร่วมในงานได้ พวกเขาเหล่านั้นจะต้องแสดงความแข็งแกร่งหรือคุณสมบัติว่ามีพร้อมที่จะเข้าร่วม การชุมนุมครั้งนี้ได้ “
” แต่คนที่ได้รับจดหมายเชิญ ไม่จำเป็นต้องทดสอบหรือตรวจสอบ มันอาจกล่าวได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและพลังอำนาจ “
” แต่สำหรับงานชุมนุมอันทรงเกียรตินี้ เขาได้ส่งจดหมายเชิญอย่างเปิดเผย สิ่งที่ข้าอยากจะกล่าวคือ ท่าน รู้หรือไม่ ว่าใครบ้างที่ถูกเชิญ “
” ข้าไม่รู้ เขาเป็นใคร??? “
‘ชูเฟิง’อยากรู้มาก เขากล่าวขึ้นเพราะอยากรู้
อัจฉริยะที่ถูกเชิญนี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงและความแข็งแกร่ง ของแต่ละอาณาจักร และเป็นคนรุ่นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ
” อาณาจักร ถัง อัจฉริยะอันดับ 1 แห่ง สำนัก หยวนกัง, ถัง ยี่ซิ้ว “
” อาณาจักร ซ้ง อัจฉริยะอันดับ 1 แห่ง สำนัก เทพอัคคี, ซ้ง ฉิงเฟิง “
” อาณาจักร หยวน อัจฉริยะอันดับ 1 แห่ง นิกายไป๋, ไป๋ หยุนเฟย “
” อาณาจักร หมิง อัจฉริยะอันดับ 1 แห่ง ที่ราบหุบเขาไร้ใจ, หลิว เสียวเหยา “
” อาณาจักร สุ่ย อัจฉริยะอันดับ 1 แห่ง หุบเขาเทพกระบี่. มู่หรง ยู่ “
“นอกจากนี้ยังมีผู้นำของตระกูล เจี่ย ในอนาคต และเป็นพี่ชายของ เจี่ย ปู๋ฟ้าน ชื่อเขาคือ เจี่ย ฉิงหมิง “
” นอกจากนี้ยังมีคนรุ่นใหม่จากนิกายโลกวิญญาณของเรา เขาคือ สู่ จงยู๋ “
” พวกเขาเหล่านั้นแข็งแกร่งอย่างมาก บางคนก็เข้าสู่ อาณาจักรสวรรค์แล้ว บางคนถึงจะไม่ถึง ขั้น วิญญาณสวรรค์ แต่พวกเขาก็อยู่ใน ระดับ แก่นแท้วิญญาณระดับสูงสุดทั้งหมด พวกเขามีความแข็งแกร่งที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน พวกเขาคือตัวตนคนรุ่นใหม่ที่คนรุ่นเก่าบางคนก็ไม่กล้าที่จะโจมตีหรือทำร้ายพวกเขา “
” อย่างไรก็ตาม ท่านต้องระวังคนเหล่านั้น โดยเฉพาะ เจี่ย ฉิงหมิง ที่ได้ก้าวเข้าสู่ขั้น วิญญาณสวรรค์ แล้ว อีกทั้งเขายังมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากและ ผู้เชื่อมต่อชุดฟ้า ที่เป็นคนหนุนหลัง พวกเขาล้วนแต่แข็งแกร่งอย่างมาก จนสามารถทำให้ เจี่ย ฉิงหมิง ยึดได้ขณะที่มองเหยียดหยันคนอื่น “
” ที่สำคัญที่สุดคือ การที่ท่านทำร้าย เจีย ปู้ฟ้าน ครั้งสุดท้ายที่หอคอยอสูรฟ้า ถ้าเกิดเจีย ปู้ฟ้าน ฟ้อง พี่มัน ข้าเกรงว่า เจี่ย ฉิงหมิง มันจะไม่ปล่อยให้ท่านลอยนวลเป็นแน่ “
” แต่อย่างไรท่านไม่ต้องกังวลมากก็ได้ ท่านก็เป็นหนึ่งในนิกายจิตวิญญาณของเรา ดั้งนั้นถ้าท่านต้องการที่จะเข้าร่วม หุบเขาพันปีศาจ ข้าจะให้ความร่วมมือและช่วยท่านเอง “
” เพราะนิกายจิตวิญญาณของเรานั้น มีผู้อาวุโส สู่ จงยู๋ ที่ก้าวเข้าสู่ ขั้นวิญญาณสวรรค์ เมื่อไม่นานนี้ และเขายังเป็นผู้เชื่อมต่อชุดฟ้า หาก เจี่ย ฉิงหมิง ต้องการจะทำร้ายท่านจริง มันก็คงต้อง ระวังตัวอย่างมาก ขนาดนี้ว่าต้องคิดอยู่หลายตลบ “
‘กู่ โบ’ กล่าวอธิบาย
” อืม!!! “
‘ชูเฟิง’ตอบพยักหน้าอย่างไว เขารู้ว่าเขาในตอนนี้ยังไม่สามารถต่อกรกับคนที่อยู่ ระดับวิญญาณสวรรค์ได้ ชูเฟิงยังจำเป็นต้องมีพลังที่แข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้ จนสามารถต่อกรผู้อยู่อาณาจักรสวรรค์
เขายังจำ ‘ยัน หยางเทียน’ และ ‘หลิน โม่หลี่’ ได้ พวกมันอยู่ที่ ระดับ 1 วิญญาณสวรรค์ มันยังคงแข็งแกร่ง ทำให้เขารู้ว่า ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ ที่เป็นอัฉริยะที่อยู่ อยู่ระดับ 1 วิญญาณสวรรค์ และยังมีคนหนุนหลังที่แข็งแกร่ง
‘ชูเฟิง’คิดว่าตอนนี้เขายังไม่สามารถต่อกรกับมัน ได้เป็นแน่
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’พลัน นึกขึ้นได้
” กู่ โบ๋ เจ้าบอกว่าข้าว่า พวกเขาส่งจดหมายเชิญให้ 8 ฉบับ แต่ที่เจ้ากล่าวมา มีเพียงแค่ 7 คน และอีกคนที่เหลือละ “
” พี่ชาย ชูเฟิง ท่านน่าจะเดาได้นะว่า คนสุดเป็นใคร “
‘กู่ โบ’ กล่าวตอบ
” ข้ารู้งั้นหรอ “
ตอนนั้น ในทันทีที่ถูก ‘กู่ โบ’ ถาม ‘ชูเฟิง’ก็รู้สึกสับสนอย่างมาก
ใช่ เขาคิดอย่างหนัก มีอาณาจักรทั้งเก้า และอาณาจัก ฮั่น ถูกปกครองโดย ราชวงศ์ เจียง และด้วยพลังและอำนาจของพวกเขา พวกเขาคงไม่สนใจที่จะมาชุมนุม นี่หรอก
” สำหรับจำนวนลูกศิษย์ต่างๆ หลิว จื่อซุนแม้เขาจะมีความแข็งแกร่งมาก ตั้งแต่งานชุมนุมนี้เปิดออกข้าก็ยังไม่เห็นเขา ก็อาจจะเป็นไปได้ที่เขาอาจจะได้รับเชิญ “
เขาคิดเกี่ยวกับมัน และคนอื่นๆ ที่แข็งแกร่งที่สุดของคนรุ่นใหม่ ยังมีใครอีกที่เขายังไม่รู้
” นี่เจ้าอย่าบอกนะว่าเจ้าพูดถึง อาณาจักรมังกรฟ้าของข้า “
” ถูกต้อง เขาคืออัฉริยะรุ่นใหม่จาก อาณาจักรมังกรฟ้าของท่าน ที่เป็นคนสุดท้ายที่ได้รับเชิญมาร่วมงานชุมนุมอันทรงเกียรติครั้งนี้ “
หรือจะเป็นข้ากัน!!!
แหม๋พี่เฟิง ไม่คิดเข้าข้างตัวเองไปหน่อยหรือ
ถึงท่านจะมีชื่อเสียง แต่วีรกรรมที่ท่านก่อมีแต่เรื่อง ชั่วๆทั้งนั้น
ข่มขื่นเอย ฆ่าล้างโครตบ้าง ถล่มสำนักอันดับ 1 บ้าง
แล้วพี่เฟิงเราจะมาสร้าง วีรกรรมอะไรไว้ที่งานชุมนุมในครั้งนี้
ต้องรอติดตาม
แปลโดย# ‘
ที่มา: