I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) ตอนที่ 16 ฆ่า ฆ่า ฆ่า

| Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) | 891 | 2361 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

พยัคฆ์หลี่เป็นหนึ่งในสี่หัวหน้าหอแห่งค่ายไม้ดำ ฝึกปรือถึงระดับปลายด่านนวกะวิญญาณ ชื่อของคนผู้นี้ฟังดูโอหังอยู่บ้างแต่ท่าทางของมันกลับดูเหมือนบัณฑิตยิ่งกว่า หากมันถือพัดจีบแทนที่จะเป็นดาบใหญ่ร้อยห่วงคงไม่มีใครคาดคิดว่ามันเป็นโจรร้าย

กระนั้นแม้ภายนอกดูสุภาพอ่อนแอแต่ในบรรดาหัวหน้าพอทั้งสี่มันกลับโหดเหี้ยมที่สุด มันมักเข่นฆ่าผู้คนมากมายหรือฆ่าล้างหมู่บ้านเพียงเพราะความไม่พอใจเพียงเล็กน้อย — ดังเช่นวันนี้

ภารกิจคุ้มกันบรรณาการกลับไปยังสำนักกลับถูกหัวหน้าหอแซ่จงแย่งชิงไป มันจึงหงุดหงิดใจยิ่ง วันนี้มันพาพรรคพวกลงเขาหวังจะหาสตรีมาเล่นสนุก มิคาดหมู่บ้านเล็กๆนั้นกลับต่อต้านจึงถูกมันทำลายด้วยความพิโรธ จากนั้นคร่ากุมสตรีมาเจ็ดแปดคน

เดิมทีมันคิดจะกลับค่ายในคืนนี้ แต่ระหว่างทางมันรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง จึงหยุดยั้งที่ลานกว้างนี้เพื่อดื่มกินและพักผ่อน ก่อนจะเดินทางต่อ

มันเห็นเหล่าสมุนล้วนกระเหี้ยนกระหือรือจะเล่นสนุกกับสตรีที่ถูกคร่ากุมมา พยัคฆ์หลี่ดื่มสุราจากถุงหนังอึกหนึ่งก็ตวาดใส่กลุ่มโจรที่อยู่ด้านขวามือ

“บัดซบ! สตรีงามหยาดเยิ้มนั้นเป็นของข้า! เจ้าอุบาทว์บัดซบกล้าแย่งชิงนางต่อหน้าข้า? ผู้นั้นก็เช่นกัน! ข้าจะนำกลับไปมอบให้ท่านรองหัวหน้า! ห้ามแตะต้องนาง! ได้ยินหรือไม่?”

โจรสองกลุ่มที่ถูกมันตวาดว่ากระจายตัวออกด้วยสีหน้าอับอาย กลุ่มโจรด้านขวาขออภัยมันครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยรอยยิ้มสอพลอจากนั้นขยับไปด้านข้างแหวกช่องเปิดทางให้หัวหน้าหอของพวกมันได้’กัดคำแรก’

พยัคฆ์ ‘หลี่’ ลุกขึ้นเดินไปได้สองก้าวจู่ๆก็หันหลังกลับราวครุ่นคิดถึงบางอย่าง มันมองไปยังทิศทางที่เพิ่งผ่านมาก็พบเห็นเพียงเส้นสายสีแดงฉานพุ่งเข้าหาอย่างเร่งร้อน

หลังจากมองเห็นชัดตามันก็พบว่านั่นไม่ใช่เส้นสีแดงแต่กลับเป็นชายหนุ่มถือทวนสีแดงเพลิงวิ่งตะบึงเข้ามาสุดกำลังด้วยท่าทีเปี่ยมรังสีฆ่าฟัน ยามที่มันมองเห็นได้ชัดตาระยะห่างระหว่างพวกมันก็ร่นเหลือเพียง 100 เมตร

ศัตรู! มิหนำซ้ำความรู้สึกนี้… มันเป็นผู้ฝึกปรือวิญญาณ!

พยัคฆ์ ‘หลี่’ เป็นคนหลักแหลม มันทราบในแทบจะทันทีว่าผู้มาไม่มีเจตนาดีจึงตะโกนก้อง

“มีศัตรู! เตรียมพร้อมต่อสู้!”

เสียงตะโกนของมันทำทุกคนแตกตื่น พวกมันหันหน้าไปมองก็เห็นเพียงชายผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาพร้อมทวนในมือจึงงงงันวูบ: เพียงคนเดียว ไฉนหัวหน้าหอจึงตื่นตระหนกเช่นนี้?

โจรกลุ่มนอกสุดยกอาวุธขึ้นเตรียมสั่งสอนบทเรียนอันโหดเหี้ยมแก่เจ้าคนที่พุ่งมาอย่างหุนหัน ให้มันรับทราบว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนที่รบกวนเวลาหาความสุขของพวกมัน — ด้วยชีวิต

เห็นเจ้าผู้นั้นพุ่งเข้ามาใกล้ โจรที่อยู่หน้าสุดก็เงื้ออาวุธในมือขึ้นด้วยท่าทีอำมหิต ตระเตรียมจะฟันลง            กระนั้นมือที่เงื้อขึ้นของมันก็หยุดยั้งอยู่เหนือหัว กระทั่งรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมบนหน้ามันก็แข็งค้างราวถูกแช่แข็ง มันส่งสายตาอันสับสนมองไปยังทวนสีชาดที่ทะลวงอกมัน ขณะที่จะสิ้นใจมันยังคิดว่า — ทรวงอกมัน’อบอุ่น’ยิ่ง…

ทว่ามันยังไม่ทราบอีกอย่าง แม้แต่โจรที่ยืนด้านหลังมันก็ถูกทะลวงด้วยทวนเล่มนี้พร้อมกัน            … … … …

‘ไป่หยุนเฟย’ ดวงตาเปี่ยมแววอำมหิตพุ่งเข้ากลางกลุ่มโจรเบื้องหน้าโดยไม่รีรอ ทวนในมือแทงออกอย่างแยบยล ความเร็วของมันไม่ใช่สิ่งที่โจรทั่วไปจะโต้ตอบได้ทัน ทวนของมันจึงทะลวงผ่านร่างของโจรทั้งคู่ออกไป

มันชักทวนกลับในพริบตาปล่อยเลือดให้กระเซ็นใส่ร่างแล้วจึงหันกายไป มันวาดทวนเป็นวงโค้งสีแดงฉานตามร่างมันไป ปลายทวนก็กวาดผ่านคอหอยของโจรสามคน หลังจากที่เลือดพุ่งกระฉูดออกมาโจรทั้งสามก็ค่อยๆหงายหลังล้มลงโดยไม่ทันได้ตอบสนองอันใด

“มันเป็นผู้ฝึกปรือวิญญาณ! รีบรวมกลุ่ม ทุกคน! รีบรวมกลุ่ม! ร่วมกันฆ่ามัน!”

พยัคฆ์ ‘หลี่’ คำรามกึกก้องปลุกพวกโจรฟื้นจากความตระหนก เพียงเห็นหัวหน้าหอเข้าปะทะผู้บุกรุกพวกมันก็มีปฏิกิริยาชูดาบขึ้น แม้จะหวาดกลัวศัตรูที่เป็นผู้ฝึกปรือวิญญาณเพียงใด แต่กระทั่งหัวหน้าหอยังร่วมต่อสู้ หรือยังจะให้พวกมันหดหัวซ่อนหางได้? เช่นนั้นพวกมันคงไม่ต้องการชีวิตแล้ว

พยัคฆ์ ‘หลี่’ ทั้งตระหนกทั้งขุ่นเคือง มันพุ่งไปเบื้องหน้าขณะขบคิดสมองแทบแตก

“ผู้ใดจะคาดคิดว่าผู้ฝึกปรือวิญญาณจะพลันปรากฏกายจู่โจมพวกเรา? มันต้องการอันใด? มันไม่นำพาสมุนทั้งสี่สิบกว่าคนของข้า? แม้ดูเหมือนมันจะแข็งแกร่งกว่าข้า แต่ข้ายังมีสมุนอีกหลายสิบคน หากร่วมมือกันต้องกำจัดมันได้แน่นอน!”

‘ไป่หยุนเฟย’ กวาดตามองพยัคฆ์หลี่ที่พุ่งเข้ามาแต่สองเท้าไม่ได้หยุดยั้งลง หลังจากหลบเลี่ยงดาบที่ฟันมาจากด้านหลังก็เตะโจรเบื้องหน้าปลิวกระเด็นไปปะทะโจรหลายคนที่ตามมาเข้ามาล้มลง จากนั้นเสือกด้ามทวนทะลวงกลับหลัง โจรด้านหลังก็ถูกด้ามทวนแทงทะลุคอหอยทันที มันเบิ่งตากว้างแล้วหงายหลังล้มลงไป

‘ไป่หยุนเฟย’ ขวางทวนรับดาบสองเล่มที่ฟันลงมาจากด้านข้าง จากนั้นออกแรงผลักส่งทั้งโจรคู่หงายหลังแล้วตวัดคมทวนออกไปตัดคอหอยพวกมัน!

ยามนี้พยัคฆ์หลี่ก็มาถึง มันคาดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะอำมหิตขนาดฆ่าคนถึงสามคนในคราเดียว มันพลันคำรามก้องทะยานขึ้นฟาดฟันดาบใส่ ‘ไป่หยุนเฟย’

‘ไป่หยุนเฟย’ หันกายไปตอบโต้ด้วยทวนไม่ทันการ จึงทำได้เพียงขวางทวนขึ้นต้านรับเหนือศีรษะ ยามต้านรับดาบไว้มันก็ถูกแรงปะทะกระแทกถอยกายไปหลายก้าว เมื่อพยัคฆ์หลี่ไล่ตามเข้ามากลับถูกไป่หยุนเฟยกวาดทวนบีบให้ล่าถอย

หลังจากบังคับพยัคฆ์ ‘หลี่’ ล่าถอยไป่หยุนเฟยก็พุ่งกายไปด้านหลังยืดระยะออก และหันไปจู่โจมกลุ่มโจรเจ็ดแปดคนทางอื่น

ทุกคราที่พยัคฆ์ ‘หลี่’ หวังจะเข้ามาต่อสู้ ‘ไป่หยุนเฟย’ จะบีบให้มันถอยแล้วหันไปจัดการพวกโจรอีกกลุ่ม

‘ไป่หยุนเฟย’ ราวกับพยัคฆ์ในฝูงแกะ ทวนของมัน หมัดของมันและเท้าของมันล้วนเป็นอาวุธล่าชีวิตสำหรับพวกโจร เหล่าโจรล้มลงไปทีละคน ที่ยังคงยืนอยู่ได้ก็ลดลงทีละคน

ยาม ‘ไป่หยุนเฟย’ ใช้ทวนทะลวงอกโจรไปอีกคนหนึ่ง พยัคฆ์ ‘หลี่’ ก็ได้โอกาสเร่งความเร็วพุ่งมาตรงหน้าและวาดดาบใหญ่ขนานพื้นเข้าใส่หว่างเอว ‘ไป่หยุนเฟย’

‘ไป่หยุนเฟย’ ปักทวนลงพื้นด้านข้างเพื่อต้านดาบ ดวงตาพยัคฆ์หลี่ทอประกายยินดีวูบสืบเท้าไปครึ่งก้าวส่งให้มันกับ ‘ไป่หยุนเฟย’ แทบปะทะชนกัน จากนั้นยกแขนซ้ายที่เบ่งพองด้วยกล้ามเนื้อปูดโปนพุ่งทะลวงใส่ทรวงอก ‘ไป่หยุนเฟย’

มันทำเช่นนี้พราะเห็นว่า ‘ไป่หยุนเฟย’ เชียวชาญเพลงทวน สมควรอ่อนด้อยในการต่อสู้ประชิด ยามนี้มันเข้าใกล้ตัวศัตรูในระยะสัมผัสทวนของมันย่อมไม่อาจกวัดแกว่งได้ ตราบที่มันพัวพันจู่โจมประชิดตัวทั้งมีพวกโจรคอยลอบทำร้ายอยู่รอบด้าน คนผู้นี้ต้องตายแน่นอน!

กระนั้น ‘ไป่หยุนเฟย’ กลับไม่ตระหนก มันถอยเท้าขวาครึ่งก้าวเพื่อสร้างระยะจากนั้นยกหมัดขวาขึ้นชกเช่นเดียวกัน

เสียงบดกระดูกดังสดใสที่ได้ยินสะท้านจิตใจพยัคฆ์หลี่ ดวงตามันทอแววไม่เชื่อถือยามที่ละลิ่วถอยหลังโดยไม่ทันตั้งตัว พลังมหาศาลผ่านแขนขวาศัตรูเข้ามา ตามติดด้วยพลังระลอกที่สองและระลอกที่สาม พริบตาเดียวพลังหมัดสามระลอกก็ทะลักผ่านหมัดมันเข้ามา กระทั่งยังรู้สึกว่ากระดูกแขนซ้ายตั้งแต่ปลายนิ้วไล่ไปถึงหัวไหล่ล้วนแหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

วิชาระลอกคลื่น พลังหมัดสามทบ!

หลังจากส่งคู่ต่อสู้ปลิวออกไป  ‘ไป่หยุนเฟย’ ไม่ได้ไล่ตามไปจู่โจมต่อทันที มือขวามันสั่นระริก แม้ว่าจะใช้เพียงขั้นแรกของวิชาระลอกคลื่นนามพลังหมัดสามทบ แต่แขนขวามันยังไม่อาจทนทานผลข้างเคียงจากการปะทุพลังอยู่บ้าง

“ข้ายังไม่แตกฉานพอ…”

‘ไป่หยุนเฟย’ สะบัดแขนขวาและชักนำพลังวิญญาณเข้าไปเพื่อฟื้นฟูอย่างรีบเร่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองพวกโจรรอบด้านที่หยุดชะงักด้วยท่าทีหวาดกลัว เนื่องเพราะหัวหน้าหอพวกมันถูกกระแทกปลิวละลิ่วไป

ไม่เพียงแต่พวกโจรยามนี้แม้แต่พยัคฆ์ ‘หลี่’ ก็ยังจับจ้อง ‘ไป่หยุนเฟย’ อย่างไม่เชื่อถือ แขนซ้ายมันสั่นสะท้าน เมื่อเห็น ‘ไป่หยุนเฟย’ ไม่ไล่ตามมาจู่โจมก็ลอบถอนใจโล่งอกแต่ดวงตามันยังเปี่ยมด้วยความหวาดกลัว

“ร่วมมือกัน!! ร่วมมือ…”

คำพูดของพยัคฆ์หลี่ติดอยู่ที่ลำคอไม่อาจกล่าวได้ เนื่องเพราะยามนี้มันตื่นตระหนกยิ่งที่พบว่าเหลือโจรเพียงไม่กี่คนที่ยังยืนหยัดอยู่ได้

แทบเท้า ‘ไป่หยุนเฟย’ มีโจรนอนเกลื่อนกลาดอยู่สามสิบกว่าคน พวกมันล้วนไม่อาจคืบคลานลุกขึ้นได้อีก!

เสียงร่ำร้องจากพยัคฆ์ ‘หลี่’ ปลุกพวกโจรที่รอดชีวิตจากความแตกตื่น แต่แทนที่จะเข้าไปจู่โจมศัตรูตามคำสั่งหัวหน้าหอ พวกมันกลับวิ่งหนีอย่างคลุ้มคลั่ง

พวกมันไม่ใช่คนโง่งม! ศัตรูผู้นี้กำจัดพวกมันไปสามสิบกว่าคนอย่างง่ายดาย กระทั่งผู้ฝึกปรือวิญญาณเช่นหัวหน้าหอแซ่หลี่ยังไม่ใช่คู่มือ!

แต่ยามที่พวกมันวิ่งหนีไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ต้องแตกตื่นเพราะเสียงร้องโหยหวนจากที่ไกลออกไป พวกมันจึงชะงักเท้าไม่กล้าเคลื่อนไหวอีกครา

นี่ต้องเป็นสองคนก่อนหน้าที่วิ่งหนีหายเข้าไปในป่าละเมาะอีกด้าน ทว่ามันทั้งคู่กลับถูกมีดสั้นซัดทะลวงหัวใจจากด้านหน้าอย่างกะทันหัน แล้วพวกมันก็ล้มลงอย่างงุนงง

‘หลี่เฉิงเฟิง’ เดินออกจากป่ามาช้าๆดึงมีดสั้นออกจากซากศพ จากนั้นเดินเข้ามายังโจรที่เหลือสี่ห้าคนทีละก้าว มันมอง ‘ไป่หยุนเฟย’ ที่ยืนห่างออกไปและกล่าวเสียงทุ้ม

“ที่เหลือข้าจัดการเอง…”

เดิมทีโจรที่เหลือทั้งสี่ก็หวังจะวิ่งหนีเข้าป่าเอาชีวิตรอดเช่นกัน ทว่ายามนี้เห็น ‘หลี่เฉิงเฟิง’ เพียงปรากฏกายก็ฆ่าสหายทั้งสองที่หนีไปทันที ทั้งยังเดินเข้าหาด้วยแววตาอำมหิต พวกมันตื่นตระหนกยิ่งจึงร่ำร้องอย่างหวาดกลัวแยกย้ายกันวิ่งหนี

หนึ่งในพวกมันสุ่มเลือกทางหนีไปหา ‘ไป่หยุนเฟย’  ยามที่รู้สึกตัวก็สายเกินไปถูก ‘ไป่หยุนเฟย’ เตะกระเด็นออกไป  ‘หลี่เฉิงเฟิง’ ก็ไล่ตามไปเฉือนคอหอยมันในมีดเดียว

‘หลี่เฉิงเฟิง’ ไล่ตามไปสังหารโจรสามคนที่เหลือทีละคนจนหมดสิ้น

จากนั้น ‘หลี่เฉิงเฟิง’ ก็กลับไปข้างกาย ‘ไป่หยุนเฟย’ และเริ่มตรวจสอบพวกโจรที่ถูก ‘ไป่หยุนเฟย’ จัดการล้มลงก่อนหน้าเพื่อจัดการผู้ที่ยังมีลมหายใจอยู่ด้วยมีดของมัน พยัคฆ์ ‘หลี่’ เห็นดังนั้นใบหน้าก็บิดเบี้ยวปั้นยาก

มันไม่คาดคิดมาก่อนว่าศัตรูจะมีผู้ร่วมทาง อีกทั้งยังเป็นผู้ฝึกปรือวิญญาณเช่นเดียวกัน! เมื่อเห็นท่าทีอันอำมหิตของพวกมัน พยัคฆ์ ‘หลี่’ ก็ล้มเลิกความคิดร้องขอความเมตตา ดวงตามันเป็นประกายแวววับยามครุ่นคิดหาทางหลบหนี

จู่ๆดวงตามันทอประกายวูบด้วยความยินดี มันชำเลืองหางตามองหญิงสาวทั้งสามที่โอบกอดกันด้านซ้ายห่างไปสองเมตร พวกนางเม้มปากแน่นดวงตาเปี่ยมด้วยความหวาดกลัวทั้งร่างสั่นสะท้าน

เสียงร้องอย่างน่าเวทนาดังขึ้นเมื่อ ‘หลี่เฉิงเฟิง’ พบว่ามีโจรคนหนึ่งแกล้งตายอยู่บนพื้นจึงใช้มีดฆ่ามันอย่างอำมหิต

กระนั้นยามได้ยินเสียงร่ำร้อง ดวงตาพยัคฆ์ ‘หลี่’ ทอประกายดุร้าย มันคลายนิ้วปล่อยอาวุธในมือขวาลงแล้วพลันพุ่งไปด้านซ้าย ขณะเดียวกันก็ยื่นมือขวาไปคร่ากุมหญิงสาวนางหนึ่ง!

มันคาดเดาว่าศัตรูทั้งคู่สมควรมาช่วยเหลือสตรีเหล่านี้ ดังนั้นมันต้องคร่ากุมตัวประกันเพื่อหาช่องทางรอดชีวิต

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments