I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) ตอนที่ 26 การต่อสู้เพื่อล้างแค้น (3)

| Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) | 1244 | 2361 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

มิผิด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าล้วนเป็น ‘ไป่หยุนเฟ’ ยวางแผนจัดฉากขึ้น! ทั้งการไม่ใช้อาวุธ ทั้งการถูกหลี่ซื่อไล่ตามทัน ทั้งการจงใจเผยว่าเกราะอ่อนบนร่างเป็นวัตถุวิญญาณ รวมทั้งการต่อสู้ที่คู่คี่กับหลี่ซื่อนั้นก็ใช่…             ทั้งหมดล้วนทำเพื่อป้องกันไม่ให้จางหยางหลบหนีไป!

มันและ ‘หลี่ซื่อ’ นับว่ามีพลังสูสีกัน แต่นั่นเพียงทัดเทียมในแง่พลังวิญญาณที่อยู่ระดับเดียวกันเท่านั้น! ทว่า       ‘ไป่หยุนเฟย’ ยังมีเคล็ดวิญญาณกระทั่งยังมีวัตถุวิญญาณเช่นเกราะอ่อน ทวนเปลวอัคคีและหนามธารน้ำแข็ง!

กล่าวได้ว่าหากทุ่มเททุกสิ่งออกมาใช้กับ ‘หลี่ซื่อ’ ตั้งแต่เริ่มต่อสู้  ‘หลี่ซื่อ’ ย่อมถูกสังหารแต่แรก!

กระนั้นมันกลับไม่ได้กระทำ เนื่องเพราะหากมันแสดงความแข็งแกร่งออกมา จางหยางย่อมต้องหลบหนีไปโดยไม่ลังเลหลังจากพบว่า ‘ไป่หยุนเฟย’ ร้ายกาจเพียงใด แม้จะสังหาร ‘หลี่ซื่อ’ ได้รวดเร็วแต่ ‘ไป่หยุนเฟย’ ยังไม่อาจสังหารในกระบวนท่าเดียว ขอเพียงมันถูกลากถ่วงไว้ชั่วครู่ก็เพียงพอให้จางหยางหลบหนีไป

หากการต่อสู้แปรเปลี่ยนเป็นการไล่ล่า ย่อมทำให้ไป่หยุนเฟยเสียเปรียบอย่างใหญ่หลวง ฉะนั้นแล้วจึงไม่อาจทำให้จางหยางหวาดกลัวหลบหนีไปทั้งยังต้องล่อมันเข้าร่วมต่อสู้แทน!

ดังนั้นหลังจากฆ่าตู้ซินอย่างกะทันหัน ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็ต่อสู้พัวพันกับ ‘หลี่ซื่อ’ และจงใจต่อสู้อย่างคู่คี่ก้ำกึ่งกระทั่งยังจงใจเผยเกราะอ่อนบนร่างว่าเป็นวัตถุวิญญาณ หลังจากผ่านศึกบนภูไม้ดำมันก็เข้าใจแล้วว่าวัตถุวิญญาณเหล่านี้มีค่าเพียงใด จึงใช้เป็นเหยื่อล่อ ‘จางหยาง’ เข้าร่วมการต่อสู้

ที่จริงความอ่อนล้าที่แสดงออกหลังจากต่อสู้มายาวนานล้วนเสแสร้งขึ้น เพราะ ‘ไป่หยุนเฟย’ ยังไม่ได้ใช้พลังกายและพลังวิญญาณไปมากมายเช่นเดียวกับคู่ต่อสู้ ทั้งเกราะอ่อนสีทองบนร่างก็ไม่ได้เป็นเพียงวัตถุวิญญาณทั่วไปแต่เป็นวัตถุวิญญาณที่ผ่านการอัพเกรดถึงระดับ +10!

(คุณสมบัติของเกราะวิญญาณไหมทอง)

ระดับไอเทม: หายากระดับต่ำ

ระดับการอัพเกรด: +10

พลังป้องกัน: 267

พลังป้องกันเพิ่มเติม: 139

ผลเพิ่มเติมระดับ +10: เมื่อถูกจู่โจม มีโอกาส 5% ที่จะเพิ่มพลังป้องกันขึ้นอีก 50% เป็นเวลา 3 วินาที

สิ่งจำเป็นในการอัพเกรด: แต้มวิญญาณ 64 แต้ม

เกราะอ่อนชิ้นนี้จะเป็นสิ่งใดหากไม่ใช่วัตถุวิญญาณของ ‘หานเซียว’ หัวหน้าโจรค่ายไม้ดำ หลังจากฆ่ามันแล้ว ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็ได้รับเกราะนี้มา ด้วยพลังป้องกันอันสูงล้ำจากการอัพเกรดและผลเพิ่มเติมที่บังเกิดในบางครา ทำให้ทุกดาบที่มันต้านรับศัตรูด้วยเกราะนี้กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไป

แน่นอนว่าย่อมไม่อาจให้คู่ต่อสู้ไหวตัวทัน หนำซ้ำสถานการณ์ที่จงใจสร้างขึ้นนี้ต้องทำให้ ‘จางหยาง’ รู้สึกว่าเพียงร่วมมือกับหลี่ซื่อต่อสู้ย่อมสามารถสังหารและแย่งชิงวัตถุวิญญาณจากศัตรูมาอย่างง่ายดาย!

เมื่อ ‘จางหยาง’ อดไม่ได้ต้องสอดมือร่วมต่อสู้  ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็ไม่รีรอเริ่มแสดงละครฉากต่อไปทันที

เมื่อถูกรุมกระหนาบจากศัตรูทั้งคู่ หากการต่อสู้ถูกลากถ่วงต่อไปมันย่อมตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้าย สิ่งแรกที่ ‘ไป่หยุนเฟย’ ต้องกระทำคือกำจัด ‘หลี่ซื่อ’ ที่ต่อสู้พัวพันจนคุ้นชินกับจังหวะการต่อสู้ ทั้งยังต้องลงมืออย่างรวดเร็ว ดุดัน เฉียบขาดและสำเร็จในคราเดียว!

ดังนั้นแล้ว ‘ไป่หยุนเฟย’ จึงฉวยโอกาสใช้เคล็ดวิญญาณที่เก็บงำไว้ต่อ ‘หลี่ซื่อ’ เพื่อกระแทกมันถอยไป            กระนั้นท่าชี้ขาดกลับเป็นการจู่โจมที่ตามหลังมา! ทวนเปลวอัคคีแม้จะทรงพลังยิ่งแต่หากจู่โจมไม่ถูกจุดสำคัญยังคงไม่อาจเอาชีวิตในทวนเดียว แต่หากผลเพิ่มเติมของทวนบังเกิดขึ้นไม่ว่าจะจู่โจมถูกส่วนใดย่อมเพียงพอจะสังหารศัตรูได้!

ทว่าการระเบิดของทวนเปลวอัคคีกลับมีโอกาสบังเกิดขึ้นเพียงหนึ่งในสิบ ซึ่งนับว่าน้อยอย่างยิ่ง  ‘ไป่หยุนเฟย’ จึงใช้ออกด้วยท่าไม้ตายที่เพิ่งฝึกปรือสำเร็จ — ทะลวงสามทบ!

ด้วยการดัดแปลงเคล็ดการโจมตีทบซ้อนของวิชาระลอกคลื่นให้เป็นวิชาทวน พลังหมัดสามทบที่ถ่ายทอดผ่านปลายทวนจึงเป็นที่มาของนาม ทะลวงสามทบ

หนึ่งหมัดที่จู่โจมด้วยพลังหมัดสามทบแท้จริงแล้วกลับจู่โจมทบซ้อนสามระลอก ฉะนั้นแล้วหนึ่งทวนที่ใช้ท่าทะลวงสามทบย่อมเท่ากับการจู่โจมสามคราติดต่อกันเพิ่มโอกาสเกิดผลเพิ่มเติมอย่างมากมาย

แน่นอนว่า ‘ไป่หยุนเฟย’ ย่อมไม่ฝากความหวังทั้งมวลไว้กับท่าทวนนี้ หากผลเพิ่มเติมของทวนเปลวอัคคีไม่บังเกิดขึ้น มันจะเผยไพ่ตายสุดท้ายเพื่อใช้สังหารหลี่ซื่อ นั่นคือหนามธารน้ำแข็ง!

‘ไป่หยุนเฟย’ นับว่าโชคดี เมื่อท่าทะลวงสามทบจู่โจมถูกศัตรูผลของทวนเปลวอัคคีก็ถูกกระตุ้นให้บังเกิดขึ้น หนำซ้ำยังเกิดขึ้นหลังจากทะลวงแทงหน้าท้องสังหารคู่ต่อสู้ในบัดดล…

หลังจากสังหารหลี่ซื่อ ‘ไป่หยุนเฟย’ กลับไม่จู่โจมใส่จางหยางที่ตะลึงงันในทันที เนื่องเพราะผลข้างเคียงจากการใช้ท่าทะลวงสามทบนับว่าสาหัสนัก อย่างน้อยก็รุนแรงกว่าการใช้พลังหมัดสามทบหลายเท่าตัว ผ่านไปหลายลมหายใจหลังจากใช้ออกแขนขวาทั้งข้างของ ‘ไป่หยุนเฟย’ ยังคงชาด้านโดยสิ้นเชิง ยังดีที่จางหยางไม่ฉวยโอกาสหลบหนีไป

ยามที่ ‘จางหยาง’ กรีดร้องอย่างหวาดกลัว แขน ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็ฟื้นฟูกลับคืนมา มันไม่เอ่ยปากกล่าวคำก็กระชับทวนในมือพุ่งเข้าหาจางหยางทันที

เดิมที ‘จางหยาง’ หมายจะกล่าวอันใดแต่เมื่อเห็นศัตรูพุ่งเข้าหาก็ไม่กล้าแบ่งแยกสมาธิอีก มันมีท่าทีหวาดหวั่นขณะที่ทุ่มเทกำลังรับมือเงาทวนที่จู่โจมเข้ามา

มีดสั้นในมือ ‘จางหยาง’ ดูเลิศหรูยิ่งกระทั่งยังมีเพชรเม็ดเล็กฝังไว้ที่ด้ามจับทั้งยังคมกล้าไม่น้อย มีดสั้นนี้สมควรสร้างจากวัสดุชั้นเลิศ แต่ถึงอย่างนั้นมีดสั้นนี้ก็ยังไม่ได้เป็นวัตถุวิญญาณ

ด้วยฐานะศิษย์สำนักธารน้ำแข็งทั้งยังเป็นนายน้อยตระกูลจาง แม้มันจะไม่ใส่ใจฝึกปรือแต่ภายใต้การเคี่ยวเข็ญของบิดา ‘จางหยาง’ กลับมีฝีมือไม่ต่ำทราม จังหวะการรุกและรับของมันล้วนเหมาะเจาะสมบูรณ์ ยามกะทันหันกลับไม่อาจจำแนกเหลื่อมล้ำต่ำสูงกับ ‘ไป่หยุนเฟย’ ได้

‘ไป่หยุนเฟย’ ประมือกับหลี่ซื่อมาหลายสิบกระบวนท่า อีกทั้งยังปลดปล่อยพลังวิญญาณเพื่อใช้พลังหมัดสามทบและทะลวงสามทบอย่างต่อเนื่องจึงไม่สมบูรณ์พร้อมเช่นเดิม ถึงกระนั้นมันกลับไม่แสดงสีหน้ากังวลอันใด ‘ไป่หยุนเฟย’ กวัดแกว่งทวนอย่างสง่าผ่าเผยบีบให้คู่ต่อสู้ล่าถอยไปทุกคราที่หวังจะประชิดตัวเข้าจู่โจม

หลังจากการต่อสู้ผ่านไปชั่วครู่ เมื่อเผชิญกับทวนที่พุ่งแทงเข้ามา จางหยางเอนกายไปด้านข้างหลบเลี่ยงคมทวนไปเพียงปลายเส้นผม ขณะเดียวกันก็วาดแขนขวาออกหมายใช้มีดสั้นเชือดคอหอย ‘ไป่หยุนเฟย’

กระนั้นท่าจู่โจมนี้กลับผิดระยะไป เพียงไป่หยุนเฟยเอนกายเล็กน้อยมีดนี้ก็ไม่อาจกระทบผิวมันได้ ทว่ายามที่ ‘ไป่หยุนเฟย’ คิดว่าจะหลบเลี่ยงมีดนี้และเตรียมชักทวนกลับเพื่อจู่โจมอีกครา พลันเกิดเรื่องราวประหลาด!

มือที่เหยียดตึงของ ‘จางหยาง’ พลันยืดออกอีกหนึ่งนิ้วครึ่ง พุ่งแทงมีดตรงมายังคอหอยของ ‘ไป่หยุนเฟย’ !

นี่คือเคล็ดวิญญาณนามว่าหมัดแขนยาว!

เคล็ดวิญญาณที่ชื่อธรรมดาสามัญนี้เป็นเคล็ดวิญญาณระดับต่ำที่สุดทั้งยังเป็นวิชาเดียวที่จางหยางฝึกปรือสำเร็จ วิชานี้มิได้มีความร้ายกาจใดเพียงมีประสิทธิภาพตามชื่อ คือเป็นเคล็ดวิญญาณที่ช่วยยืดแขนให้ยาวขึ้นอีกเล็กน้อยเท่านั้น

ถึงกระนั้น บางคราวิชาอันต่ำต้อยกลับมีประสิทธิภาพเกินคาด ดังตัวอย่างเช่นในยามนี้!

‘จางหยาง’ ซุกงำฝีมือมาตลอดและเพียงยามนี้มันจึงใช้ออกด้วยเคล็ดวิญญาณ เนื่องเพราะมันรอจังหวะอันเหมาะสมที่จะใช้จัดการคู่ต่อสู้โดยไม่ทันตั้งตัว

ยามเผชิญกับมีดสั้นที่พลันมุ่งเป้าที่ลำคอ แม้ ‘ไป่หยุนเฟย’ จะแตกตื่นแต่ไม่ลนลาน มันละทิ้งการจู่โจมในบัดดลและแอ่นตัวไปด้านหลังอย่างกะทันหันอีกครา ปลายมีดจึงเฉียดผิวหนังทิ้งรอยแผลเล็กๆไว้บนคางปรากฏหยดเลือดไหลซึมออกมา แม้จะป้องกันไม่ให้มีดนี้เชือดคอหอยได้แต่ ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็ต้องเสียหลักล้มไปด้านหลัง

ดวงตา ‘จางหยาง’ ทอประกายอำมหิต มันพลิกมีดในมือหันคมลงด้านล่างแล้วจ้วงแทงลงใส่ลำคอ                  ‘ไป่หยุนเฟย’ !

ขณะที่ล้มไปด้านหลัง ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็ชักมือขวากลับ ทวนในมือก็พลันสาบสูญไป ยามที่ ‘จางหยางพลิก’ มีดสั้นในมือ  ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็สะบัดมือขวาซัดมีดสั้นเข้าใส่ใบหน้า ‘จางหยาง’

เมื่อเห็นมีดในมือกำลังจะแทงเข้าลำคอศัตรู ดวงตาจางหยางก็ปรากฏแววยินดี ทว่าเมื่อเห็น ‘ไป่หยุนเฟย’ พลันสะบัดมือขวาซัดประสายเย็นเยียบใส่ราวสายฟ้า มันก็แตกตื่นจนไม่กล้าจู่โจมต่อรีบเบี่ยงกายสุดแรงโดยไม่ลังเลเพื่อหลบเลี่ยงมีดบินสังหาร

พริบตาต่อมามีดสั้นอีกเล่มก็พุ่งเข้าหามัน!

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments