I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) ตอนที่ 38 สำเร็จขั้นพื้นฐานท่าเท้าเหยียบคลื่น

| Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) | 1005 | 2364 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ยามสนธยาของวันที่ห้าหลังจาก ‘หลี่เฉิงเฟิง’ เดินทางไปยังเมืองลั่วซี

ในร่องเขาด้านหลังหมู่บ้าน ภายใต้แสงอาทิตย์ยามอัสดงสาดส่อง เงาร่างคล้ายภูตพรายเคลื่อนที่ไปมาท่ามกลางหมู่ต้นไม้ บางคราพุ่งไปด้านหน้า บางคราเคลื่อนขวาง บางคราก็ทะยานถอยและบางครายังพุ่งตรงเข้าหาต้นไม้ใหญ่แล้ววิ่งไปตามลำต้นราวกับเป็นพื้นราบจากนั้นหมุนกายวิ่งต่อไปอีกด้านตามแนวขวางขนานกับพื้น

เงาร่างนี้เคลื่อนไหวรวดเร็วสุดขีดจนเกือบจะทิ้งเงายาวตามหลัง ทว่ายังนี่ไม่ประหลาดพอ เงาร่างนี้ถึงกับไม่มีเสียงฝีเท้าใดๆ มีเพียงเสียงสะบัดของเสื้อผ้าดังมาแผ่วเบา หากคนทั่วไปมาพบเห็นเช่นนี้ คงต้องร่ำร้องตะโกนว่า

“มีภูตผี!”

แล้ววิ่งหนีไปราวคลุ้มคลั่ง

เงาร่างนี้ย่อมไม่ใช่ภูตผี นี่จะเป็นผู้ใดหากไม่ใช่ ‘ไป่หยุนเฟย’

ตั้งแต่ ‘หลี่เฉิงเฟิง’ เดินทางไปเมืองลั่วซี จิตใจมันก็รู้สึกกระสับกระส่าย ห้าวันที่ผ่านมาแทนที่จะใช้กระบวนการอัพเกรดเพื่อพัฒนาพลังวิญญาณ  ‘ไป่หยุนเฟย’ กลับใช้เวลาเกือบทั้งหมดศึกษาและฝึกฝนเคล็ดการควบคุมจุดชีพจร

ความพยายามอันมุ่งมั่นย่อมนำมาซึ่งประสิทธิภาพในการฝึกฝนและผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่ หนึ่งวันก่อน                ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็ฝึกปรือจุดชีพจรพื้นฐานที่จำเป็นบนขาทั้งสองข้างสำเร็จ ในที่สุดมันก็สามารถผ่านเงื่อนไขที่ตั้งไว้เองได้และเริ่มต้นฝึกปรือเคล็ดวิญญาณนามว่าท่าเท้าเหยียบคลื่น

เคล็ดวิญญาณที่เฝ้ารอฝึกฝนมาเนิ่นนานนี้ไม่ได้สร้างความผิดหวังให้แก่ ‘ไป่หยุนเฟย’ แม้จะสำเร็จเพียงขั้นพื้นฐานแต่ก็เสริมความเร็วและความคล่องตัวขึ้นอย่างไม่คาดฝัน

กระทั่ง ‘ไป่หยุนเฟย’ มองเห็นควันไฟลอยอ้อยอิ่งจากเตาไฟในหมู่บ้านจึงหยุดยั้งลง หลังจากปาดเช็ดเหงื่อบนหน้าผากมันก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่ง

“นี่ราวกับพบเห็นแหล่งน้ำกลางทะเลทราย… ยามนี้เมื่อสามารถใช้ท่าเท้าเหยียบคลื่น ยิ่งทำให้ข้ามั่นใจเมื่อเผชิญอันตรายภายหน้า!”

ขณะที่ครุ่นคิดในใจ ‘ไป่หยุนเฟย’ เดินกลับหมู่บ้านตามกลิ่นอาหารที่โชยตามลมมา

“ไม่ช้าข้าจำต้องกล่าวอำลาชีวิตที่สุขสงบเช่นนี้แล้ว! เป็นไปได้อย่างยิ่งที่ข้าไม่อาจหลีกเลี่ยงการตามล่าจากตระกูลจางได้ แต่ด้วยฝีมือข้าในปัจจุบันก็ไม่จำเป็นต้องกริ่งเกรงพวกมัน! เมื่อทหารมาตั้งทัพสู้ น้ำมาก่อทำนบกั้น! เมื่อใดที่ออกจากมณฑลฉิงหยุน ข้าจะเป็นเช่นมัจฉาสู่มหาสมุทร เป็นเมฆที่ล่องลอยบนนภาอันไร้ขอบเขต!”

ยามค่ำคืน ‘ไป่หยุนเฟย’ นอนบนเตียงหนุนแขนตนเองมองดูแสงจันทร์ที่สาดลอดเข้ามาในบ้านและพลางใคร่ครวญถึงสถานการณ์ปัจจุบัน

“นับว่าประหลาดนัก… ผ่านมาสิบเจ็ดวันนับจากที่ข้าสังหารจางหยาง ไฉนบริวารตระกูลจางยังมาไม่ถึงหมู่บ้านแห่งนี้อีก? ต่อให้มิจฉาชีพเหล่านั้นทุ่มเทชีวิตหลบหนีก็ยังไม่อาจรอดพ้นทั้งหมดได้ ตระกูลจางสมควรใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็ตามล่าพวกมันได้ จากนั้นอาศัยคำสารภาพและกำลังของตระกูลจางการจะสืบหาว่าข้าคือใครย่อมไม่ยากเย็น เมื่อถึงตอนนั้นตระกูลจางต้องระดมกำลังออกตามล่า ตามที่ข้าคาดไว้ไม่เกินสิบวันพวกมันสมควรตามล่ามาถึงที่นี่…”

“นี่หมายความว่า… เป็นไปได้ว่ายามที่ข้าลงมือฆ่าจางหยาง จางเจิ้นซานไม่ได้อยู่ในบ้าน! อีกทั้งยังอยู่ห่างไกลจากเมืองลั่วซี! เมื่อในตระกูลจางไม่มีผู้ใดกล้าตัดสินใจพวกมันจึงรอคอยจางเจิ้นซานกลับมา ทำให้เสียเวลาเปล่าไปหลายวัน…”

“หากเป็นเช่นนั้น ข้ามิพลาดโอกาสหลบหนีหรอกหรือ? หากว่าข้าไม่รั้งอยู่ที่นี่และหลบหนีไปทันที…”

“นั่นก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน ข้าไม่ทราบแม้แต่น้อยว่าอิทธิพลของตระกูลจางมากน้อยเพียงใด อีกอย่างข้าทราบเรื่องราวภายนอกเพียงน้อยนิด หากว่าเร่งรีบหลบหนีไปย่อมต้องพลาดโอกาสที่จะฝึกปรือและละทิ้งโอกาสเข้มแข็งขึ้นอีกหลายเท่าในเวลาอันสั้น หากข้าเลือกเผชิญอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อขณะที่ยังฝีมืออ่อนด้อย นั่นกลับเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด… ยามนี้ข้าซ่อนตัวในที่ห่างไกลและใช้เวลาอย่างคุ้มค่าทุ่มเทฝึกปรือพัฒนาฝีมือให้เข้มแข็ง นี่จึงเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง!”

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ความจริงที่ว่าตระกูลจางเคลื่อนไหวช้าไปก้าวหนึ่งกลับเป็นผลดีต่อข้า! อย่างน้อยยามนี้ข้าก็เชี่ยวชาญการเคล็ดการควบคุมจุดชีพจรพื้นฐานถึงยี่สิบกว่าจุด มิหนำซ้ำยังชำนาญพลังหมัดเก้าทบ เรียนรู้ท่าเท้าเหยียบคลื่นและใกล้จะบรรลุด่านวีรชนวิญญาณระดับกลางได้แล้ว… ยามนี้ฝีมือข้าเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างน้อยอีกหลายเท่าตัว!”

“ถึงเวลาที่ข้าต้องไปจากที่นี่แล้ว อย่างน้อยต้องจากไปก่อนตระกูลจางจะหาหมู่บ้านนี้พบ ข้าไม่อาจสร้างปัญหาใดๆแก่ชาวบ้าน…”

“หลังจากเฉิงเฟิงกลับมา ข้าก็จะทราบความเคลื่อนไหวของตระกูลจาง จากนั้นอีกไม่เกินสามวันจะถึงเวลาที่ข้าจากไป”            … … … …

วันต่อมา หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จไม่นาน ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็เห็น ‘หลี่เฉิงเฟิง’ ที่ตรากตรำเดินทางเร่งรุดกลับมาด้วยใบหน้าหมดสิ้นเรี่ยวแรง ด้วยฝีมือมันในปัจจุบันนี่แสดงว่า ‘หลี่เฉิงเฟิง’ เค้นพลังวิญญาณออกมาใช้เร่งความเร็วเกินตัวอย่างต่อเนื่องระหว่างเร่งรุดเดินทางกลับ

นอกจากความเหน็ดเหนื่อยสิ้นเรี่ยวแรง บนใบหน้า ‘หลี่เฉิงเฟิง’ ยังเปี่ยมด้วยความกังวลใจ ทันทีที่กลับมาถึงหมู่บ้านยังไม่ทันทักทาย ‘หลิงเอ๋อร์’ ก็ปรายตาบอกใบ้ ‘ไป่หยุนเฟย’  จากนั้นหันหลังเดินออกจากหมู่บ้านไป

เมื่อเห็นเช่นนั้น  ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็คาดเดาได้เลือนราง มันโบกมือบอกแก่ ‘หลิงเอ๋อร์’ ว่าไม่ต้องกังวลเรื่อง ‘เฉิงเฟิง’  จากนั้นก็ติดตามมันออกไป

“หยุนเฟย ข้าคาดเดาได้แต่แรกว่าเจ้ากลับเมืองลั่วซีไปเพื่อแก้แค้น แต่ข้าไม่คาดคิดเลยว่าศัตรูเจ้าจะเป็นนายน้อยตระกูลจาง… เจ้าช่างยอดเยี่ยมนัก!”

ราวกับเหน็ดเหนื่อยอย่างยิ่ง  ‘หลี่เฉิงเฟิง’ จึงทรุดตัวลงบนพื้นหญ้ากล่าวกับ ‘ไป่หยุนเฟย’ ที่เดินเข้ามาพลางส่ายศีรษะด้วยท่าทีอับจนปัญญา

“โอ แม้แต่เจ้าก็ทราบแล้ว? มิผิด ข้าเป็นผู้สังหารนายน้อยตระกูลจางนามว่าจางหยาง นั่นก็เพราะ… มันสมควรตาย! อย่าได้พูดถึงแล้ว บอกเล่าสถานการณ์ในเมืองลั่วซีแก่ข้าก่อน ตระกูลจางมีความเคลื่อนไหวอย่างไร?”

ราวกับคาดเดาได้ว่า ‘หลี่เฉิงเฟิง’ จะกล่าวอันใด ‘ไป่หยุนเฟย’ จึงถามคำถามที่สำคัญที่สุดแทนที่จะเสียเวลาอธิบาย

“อืม เป็นเจ้าฆ่ามันจริงๆ ขอบอกต่อเจ้าว่าจางหยางนั้นสมควรตายอย่างยิ่งแล้ว แม้ชาวบ้านทั่วไปในเมืองลั่วซีไม่กล้ากล่าวถึงโดยเปิดเผย แต่ผู้คนล้วนมีร่องรอยความยินดีในแววตาให้พบเห็นได้”

‘หลี่เฉิงเฟิง’ ก็ไม่นำเพียงพยักหน้าและไม่ไต่ถามเรื่องจางหยางอีก

“ยามนี้ภาพเหมือนเจ้าถูกติดประกาศทุกหนแห่งในเมืองลั่วซี แม้แต่คนของจวนเจ้าเมืองก็ถูกระดมออกมาตามล่าเจ้ามิหนำซ้ำตระกูลจางก็ส่งคนออกมามากมายยิ่ง ทั้งหมดกระจายกำลังออกทุกทิศทาง ไปยังทุกเมือง ทุกหมู่บ้านเพื่อตามล่าเจ้า…”

“ข้าคิดว่าไม่กี่วันพวกมันคงมาถึงที่นี่ หยุนเฟยเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป?”

‘หลี่เฉิงเฟิง’ ถามด้วยท่าทีวิตกกังวลหลังจากบอกเล่าสถานการณ์โดยรวมที่มันพบเห็นมาแก่ ‘ไป่หยุนเฟย’

“โอ นี่ไม่ผิดจากที่ข้าคาดการณ์มากนัก เช่นนั้นข้าจะไปจากที่นี่ภายในสองวัน…”

‘ไป่หยุนเฟย’ ใคร่ครวญชั่วครู่จึงกล่าววาจา

“เจ้าจำต้องหลบหนีจริงหรือ?”

“มิผิด ข้าจำต้องหลบหนีไป เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใดแก่หมู่บ้าน”

‘ไป่หยุนเฟย’ พยักหน้ายอมรับจากนั้นจึงเปลี่ยนหัวข้อเป็นสอบถาม

“จริงสิ เจ้าซื้อมีดสั้นมากี่เล่ม? คุณภาพเป็นเช่นไร?”

เมื่อเห็นว่า ‘ไป่หยุนเฟย’ ตัดสินใจแล้ว ‘หลี่เฉิงเฟิง’ ก็ไม่กล่าวถึงอีก มันพลิกข้อมือนำมีดสั้นที่เปล่งประกายเย็นเยียบออกมามอบให้แก่ ‘ไป่หยุนเฟย’ พลางกล่าวว่า

“ข้าทำตามที่เจ้าบอก ซื้อมีดสั้นชั้นดีทั้งหมดในร้านศาสตราสมบัติมา ทั้งหมดมีอยู่ร่วมร้อยเล่ม บางเล่มยังดีกว่าเล่มนี้อีก”

‘ไป่หยุนเฟย’ รับมีดสั้นมาพร้อมกับเพ่งความคิด ข้อมูลเบื้องต้นของมีดสั้นก็ปรากฏในจิตใจ

“ระดับไอเทม: ชั้นดี”

“สร้างความเสียหาย: 43”

“สิ่งจำเป็นในการอัพเกรด: แต้มวิญญาณ 3 แต้ม”

‘ไป่หยุนเฟย’ พยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า

“อืม ไม่เลว นี่เป็นมีดชั้นดีจริงๆ”

“ส่งแหวนช่องมิติของเจ้ามาให้ข้า ภายในสองวันข้าจะสร้างมีดสั้นที่ผ่านการยกระดับให้แก่เจ้าสองเล่ม จากนั้นข้าจะไปจากที่นี่…”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments