I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

World Destroying Demonic Emperor 3

| World Destroying Demonic Emperor | 711 | 2357 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ตอนที่ 3 : คำขอ

ถึงแม้ว่านี่อาจจะเป็นเนินเขาที่ไม่มีใครอยู่ แต่สีหน้าและสายตาของนักรบหญิงผู้นั้นก็ยังจับจ้องไปยังถนนต่อไปเรื่อยๆ และเมื่อพบเจอสิ่งใดผิดปกติหรือดูน่าอันตราย พวกนางพร้อมที่จะหยิบดาบขึ้นมาทันที

นักรบสาวที่ปกป้องรถลากขนาดใหญ่โดยเจ้าม้าสองตัวที่ถึงแม้ว่ามันสองตัวจะไม่ดูสง่างามเท่า คนที่มาชุดแรกเท่าไหร่นัก

ม้าเหล่านั้นวิ่งบนถนนเข้าใกล้หลานหลิงที่กำลังจะตาย ท้องฟ้าที่มืดมิดเริ่มบดบังสายตาในการมองเห็นของม้า ถ้าหากม้าไม่เห็นว่าหลานหลิงอยู่บนถนนละก็ หลานหลิงคงต้องตายเพราะม้าที่วิ่งผ่านแน่ๆ

30 เมตร 20 เมตร 10 เมตร เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ..

ในอีกไม่กี่ก้าวหลานหลิงจะถูกม้าเหยียบตาย

“น้องหญิง หยุดก่อนมีคนอยู่บนถนน!”

แม้ท้องฟ้าจะมืดมินแล้ว แต่สาวที่สวมชุดสีดำยังคงเห็นหลานหลิงนอนอยู่บนท้องถนน เขาได้หยุดการวิ่งของม้าในทันที

แม้ว่าจะหยุดม้าแล้วนั้น แต่รถที่ถูกลากมาด้วยแรงม้า มันก็ยังไหลอยู่ (นางจึงใช้มือไปกั้นไม่ให้ไหลมันไถลไปชนหลานหลิง/นางจึงใช้มือทั้งสองกั้นตัวรถไว้ไม่ให้มันไถลไปชนหลานหลิง)

ใครจะคิดเล่า ว่าร่างกายที่ดูมีเสน่ห์เช่นนี้จะมีความสามารถแบบนี้ด้วย

“น้องหญิง อย่าพึ่งขยับรถไปไหนนะ” สาวในชุดสีดำได้สั่งผู้หญิงอีกคน ก่อนที่นางจะหยิบอาวุธออกมาแล้วมุ่งหน้าไปยังหลานหลิง

”พี่หญิง ระวังตัวด้วยนะ!” พวกเขาคือพี่น้องฝาแฝดกันจริงๆตามที่หลานหลิงได้มองคร่าวๆก็รู้ทันที น้องสาวของนางเตรียมหยิบอาวุธพร้อมเสริมหากพี่สาวเขาตกอยู่ในอันตราย

พวกเขาให้ความสำคัญกับรถที่ลากมามาก ของที่อยู่ในนั้นต้องเป็นอะไรที่ดูลึกลับและมีมูลค่าแน่ๆ

สาวที่สวมชุดสีดำเดินไปข้างหน้า หลานหลิง เธอหยิบดาบแล้วจี้ไปที่ต้นคอของเขาเพื่อฟังลมหายใจ นางมองเห็นผมและเคราที่ยาวอยู่ทั่วใบหน้าของชายหนุ่ม นางคิดว่า “ก็แค่คนเถื่อน หากฆ่ามันละก็จะได้ทำให้มันตายอย่างไม่เจ็บปวดซักที”

นางยกดาบขึ้นพร้อมที่จะตัดคอของหลานหลิง

“พี่หญิงอย่าพึ่ง” น้องสาวของนางรีบกระโดดลงจากม้ามาทันที “ช่วยคนๆนี้ไว้ก็จะดีกว่านะ ข้าว่า จะได้นำมันมาช่วยสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นให้พวกเราไง”

สาวชุดดำกล่าวต่ออีกว่า“พวกคนเถื่อนมันอันตรายนะ มันชอบกินเนื้อคนและดื่มเลือด ยังไงพวกมันก็ต้องถูกฆ่าอยู่ดี”

น้องสาวของนางเดินเข้าไปใกล้หลานหลิง“จะทำยังไงล่ะ ถ้าหากเขาไม่ใช่คนเถื่อนอย่างที่เราคิด เราช่วยเขาก่อนมั้ย เผื่อว่าบางทีเขาอาจจะพูดภาษาเราได้? บางทีเขาอาจจะไม่ต้องมาตายเพราะเป็นคนเถื่อนก็ได้นะ”

หลังจากที่พูดเสร็จ น้องสาวของนางก็พาหลานหลิงขึ้นไปบนรถทันที ด้วยพลังมังกรของนาง นางช่วยล้างเลือดที่ติดอยู่ในหน้าอกของหลานหลิง จากนั้นนางก็เอายาใส่เข้าไปในปากของหลานหลิงตามด้วยน้ำหนึ่งอึก

…………………..

หลังจากนั้นไม่รู้เวลาผ่านมาเท่าไหร่นัก หลานหลิงก็ตื่นขึ้น

เขามองดูสภาพแวดล้อมต่างๆที่อยู่รอบตัวเขา เขารู้สึกว่าเหมือนกำลังอยู่ในรถม้ายังไงยังงั้น สิ่งที่เขาเห็นเป็นอันดับแรกก็คือโฉมหน้าของสาวงาม คนหนึ่งคมดุจดาบที่เยือกเย็น อีกคนดุจสาวน้อยไร้เดียงสาต่อโลกที่แฝงไปด้วยความน่ารัก

แต่พวกนางไม่ได้สวมชุดประเภทเดียวกัน หนึ่งคนสวมชุดหนังสีดำ ส่วนอีกคนสวมชุดสีแดง แม้ว่าพวกเขาจะเหมือนกัน แต่อุณภูมิภายในร่างกลับไม่เหมือนกัน ความร้อนภายในร่างของพวกนางต่างกันสิ้นเชิง ตั้งแต่ที่หลานหลิงเข้ามาในโลกนี้ หลานหลิงไม่เคยเห็นสาวงามที่ไหนที่รูปทรงได้รูปอะไรเช่นนี้มาก่อน มันชวนให้เขาไม่อาจละสายตาได้เลย

สาวชุดดำเห็นหลานหลิงตื่นขึ้น นางรีบคว้าดาบแล้วจี้ไปที่คอของเขา “พูดมา”

“พูดออกมา หากเจ้าพูดภาษาของเราได้ แสดงว่าเจ้าไม่ใช่คนเถื่อน ดังที่น้องสาวของข้ากล่าวไม่ให้ฆ่าเจ้า” สาวชุดแดงเห็นพี่สาวพูดแบบนั้นก็เป็นกังวลในทันที

ตามความจริงตั้งแต่หลานหลิงมาที่นี้ เขาไม่แน่ใจว่าโลกนี้ใช้ภาษาอะไรกันแน่

แต่ไม่น่าเชื่อว่า ภาษาที่พวกนางพูดกลับเหมือนภาษาจีนที่หลานหลิงใช้ ถึงแม้ว่าสำเนียงจะแปลกๆไปหน่อย แต่หลานหลิงก็เข้าใจภาษาพวกนางอยู่ดี

นี่มันแปลกมาก! โลกนี้มันเป็นโลกที่แตกต่างกับโลกของเขาจริงๆ มีดวงจันทร์ถึงสองดวง กริฟฟิน ยูนิคอร์นเอ่ย ต่างก็มาปรากฏในโลกแห่งนี้ นี่นับว่ามันแปลกมากๆ

แต่หญิงสาวพวกนี้กลับพูดภาษาจีนได้? หรือว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญกันแน่นะ?

“หากเป็นคนเถื่อนก็จงตายเสียเถอะ” สาวชุดดำกล่าวแล้วพยายามจะฟันไปที่ตัวเขาทันที

“หยุดก่อน! ข้าไม่ใช่คนเถื่อนนะ…!” หลานหลิงพูดตอบอย่างรวดเร็ว

ดาบของหญิงสาวชุดดำหยุดลงทันที แล้วนางมองไปที่หลานหลิงอย่างประหลาดใจ

“พี่หญิง เขาไม่ใช่คนเถื่อนจริงๆด้วย เขาพูดภาษาเดียวกับพวกเราเหมือนกัน” สาวชุดแดงเอ่ย

พี่สาวชุดดำได้บอกต่ออีกว่า “พูดอีกสักประโยคซิ”

“พี่หญิง นี่ก็พิสูจน์แล้วไงว่าเขาไม่ใช่คนเถื่อน เขาเป็นคนแบบพวกเรา” น้องสาวพูดเพื่อช่วยหลานหลิง

“ข้าไม่ใช่คนเถื่อน ว่าแต่พวกเจ้าเป็นใครกัน?” หลานหลิงเอ่ย

“เห็นมั้ยพี่หญิง เขาพูดภาษาเดียวกับเรา แต่วิธีพูดของเขาฟังดูงงๆนิดหน่อยแต่เราก็เข้าใจนะ” สาวชุดแดงเอ่ย

“เจ้าพูดถูก” นางกลับจี้ดาบไปที่คอของหลานหลิงอย่างรวดเร็วหลังจากพูดจบ

หลานหลิงรู้สึกถึงความเย็นบนใบดาบ เคราของเขาสัมผัสกับตัวดาบทำให้เส้นหนวดปลิวว่อนไปเผยให้เห็นใบหน้าที่นุ่มนวลของหลานหลิงอีกครั้ง

เมื่อมาถึงตรงนี้ แฝดสาวทั้งสองกลับตกใจ เขาแทบไม่อยากเชื่อกับใบหน้าของหลานหลิงเลย

“ไม่เพียงแค่เสียงของเขาที่ดูเหมือนชนชั้นขุนนาง รูปลักษณ์ใบหน้าของเขาก็เหมือนกับนายน้อยเลย” น้องหญิงผู้นั้นกล่าว

“นี่เป็นการแทรกแซงของสวรรค์งั้นเหรอ? สรรค์ต้องการที่จะช่วยตระกูลซั่วของข้างั้นหรือนี่?!” สาวชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

“พวกเจ้าหมายความว่ายังไงกัน?” หลานหลิงถาม

เธอไม่ได้พูด แต่กลับชี้ดาบไปที่ด้านข้างของหลานหลิง

หลานหลิง มองที่ด้านข้างทันที เขาตกใจมากที่พบว่ามีโลงศพอยู่ข้างๆเขา ฝาแฝดสาวสองคนนี้กำลังนำศพนี้ไปฝังแน่ๆ

“พวกเรามาจากตระกูลซั่วที่เป็นตระกูลนักรบ หัวหน้าซั่วของพวกเราได้เสียชีวิตลง นายหญิงก็เลยสั่งให้ไปหุบเขาอสูรสวรรค์เพื่อตามหาทายาทของหัวหน้า ซั่ว หลุน แต่พวกเรากลับพบเจอแต่ร่างของเขาเท่านั้น” สาวชุดดำพูด “ดังนั้นพวกเราก็เลยจะพาร่างของเขากลับไปยังบ้านตระกูลหลัก แต่เราก็มาพบเจอกับเจ้าก่อนนะสิ”

จากนั้นเธอก็เปิดฝาโลงศพให้เห็นใบหน้าของศพที่อยู่ข้างใน

ศพถูกรักษาสภาพอย่างดีไม่เน่าเปื่อยด้วยสมุนไพรที่รอบล้อมตัวศพ

หลานหลิงมองเข้าไปในโรงศพ พบเห็นร่างที่เหมือนกับเขามาก แต่โดยส่วนตัวหลานหลิงหล่อกว่า มีแปดจุดที่คล้ายกัน แถมสูงก็ยังสูงเท่ากันอีก

หลานหลิงประหลาดใจมากยิ่งขึ้น เขาเพิ่งเข้ามาในโลกนี้ แถมยังมีคนที่เหมือนเขาอีกแต่คนผู้นั้นกลับตายไปแล้ว

“เจ้ามีนามว่าอะไร?” สาวชุดดำเอ่ยปากถามทันที

“หลานหลิง” เขาตอบ

“เจ้าอาศัยอยู่ที่ไหน? เหตุใดถึงได้มานอนกลางถนนกัน?”

“ข้าไม่รู้…บ้านของข้าอยู่ที่ไหนกันล่ะ ” หลานหลิงลังเลที่จะพูด เขาเลือกที่จะโกหกต้นกำเนิดของเขาเพื่อความสบายใจดีกว่า

หญิงสาวเงียบไปชั่วขณะหนึ่งและพูดว่า “หลานหลิง ชีวิตของมนุษย์เรานั้นมีค่ามากนัก เจ้าเชื่ออย่างที่ข้าพูดรึเปล่า?”

หลานหลิงพยักหน้า

สาวชุดดำยังพูดต่ออีกว่า “ข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้ เจ้าสมควรจะตอบแทนบุญคุณหน่อยใช่รึเปล่า?”

หลานหลิงรู้อยู่แล้วว่าพวกนางต้องการจะสื่ออะไร แต่เขายังไม่กล้าที่จะตอบคำถาม

“อืม ง่ายๆข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้ เพราะฉะนั้นเจ้าช่วยมาเป็นบุญชายของขุนนางตระกูลซั่วเราจะได้รึไม่? เป็นซั่วหลุน สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าต่อไป”

ด้วยคำถามที่รวดเร็วยิ่งนัก หลานหลิง ถึงงงจนไม่รู้จะพูดอะไรออกไป ไม่นานนัก เขาก็กล่าวว่า “ถึงแม้ว่า ข้าจะมีลักษณะที่คล้ายกับตัวเขาผู้นี้ แต่หากมองใกล้ๆ มองยังไงข้าก็ว่าไม่เหมือนนะ”

สาวชุดดำเอ่ยต่ออีก “สบายใจได้ ข้ามีวิธีที่จะทำให้รูปลักษณ์ของตัวเจ้าคล้ายกับเขาอยู่”

“แต่ว่า….” หัวใจของหลานหลิงต้องการจะปฏิเสธ แต่เขาก็ไม่สามารถเอ่ยปากเป็นคำพูดได้

“หลานหลิง ข้าไม่รู้ว่าจะเป็นใครมาจากไหน แต่ข้าพอเดาได้ว่าเจ้าไม่ได้จากตระกูลที่ร่ำรวย เจ้าเป็นพวกเร่ร่อนใช่มั้ยล่ะ?”

หลานหลิงเติบโตมากับพี่สาวของเขา แม้ว่าจุดกำเนิดของเขาอาจจะย่ำแย่ แต่พี่สาวของเขาก็ได้งานที่ดีมีเงินพอสมควร พยายามส่งเขาให้ศึกษาสถาบันสูงๆ แต่ในหมู่นักศึกษานั้น หลานหลิงถือว่าเป็นคนที่ยากจนที่สุดเลย

“ข้าจะให้เจ้าเป็นนายน้อย ซั่วหลุน ตระกูลซั่วแม้ว่าจะไม่ใช่ตระกูลที่โดดเด่นเท่าไหร่นักในแคว้น แต่ว่าด้วยประวัติอันยาวนานสองร้อยกว่าปี และเป็นเจ้าเมืองปกครอง เทียนโซว มาหลายชั่วอายุคนแล้ว”

นางยังคงเกลี้ยกล่อมให้หลานหลิง รับอำนาจของตระกูลมาไว้ปกครอง แต่หลานหลิงกลับไม่ได้สนใจ เขาคิดถึงแต่เพียงสิ่งเดียวนั้นคือกลับโลกเดิมเพื่อไปหาพี่สาวของเขา

นางยังคงพูดต่ออีกว่า “เจ้ารู้รึไม่ล่ะว่า เมืองเทียนโซว ใหญ่แค่ไหน? มีพื้นที่กว้างถึง 500 ไมล์เชียวนะ ประชากรในเมืองยังมีอีก 5 แสนกว่าคน กองกำลังทหารอีก 2 หมื่นหน่วยประจำการ ตราบใดที่เจ้าตอบรับคำขอของข้า เจ้าจะสามารถควบคุมเมืองนี้ได้ทันที เจ้าจะกลายเป็นนายใหญ่ของเมืองเทียนโซว”

หัวใจของหลานหลิงกับเต้นรัวๆ ที่จริงเขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเพราะความมั่งคั่งหรืออะไรทั้งนั้น แต่ตื่นเต้นเพราะ เนื้อที่ของตัวเมือง 500 ไมล์แถมประชากรอีกมากมาย ราวกับว่านี่มันโชคตกทับใส่เขาจริงๆ เป็นไปไม่ได้แน่ถ้าหากทั้งชาตินี้จะครอบครองอำนาจและทรัพย์สมบัติมหาศาลแบบนี้

ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ของหลานหลิง คือการแต่งงานกับพี่สาวของเขา และสร้างบ้านให้กับนาง แต่ตารางเมตรของที่นู้นตกค่าใช้จ่ายเท่ากับ 4 หมื่นเหรียญทองแหน่ะ

นายน้อยตระกูลซั่ว นี่โชคดีจริงๆ “แล้วเขาตายได้อย่างไรล่ะ?” หลานหลิงถาม

สาวชุดดำตอบกลับทันที “เขาไม่รู้ว่าสวรรค์อยู่สูงมากเพียงไหนหน่ะ เขาพยายามไล่จีบเจ้าหญิง จื่อหนิงแต่ก็ไม่สำเร็จ เขาอับอายมากก็เลยไปออกรบ แต่ก็กลับพ่ายแพ้ในสงคราม เมื่อเขากลับมายังเมือง เขาก็บอกกับทุกคนว่าจะไปที่ภูเขาอสูรสวรรค์ และก็เป็นเหตุให้เขาตายที่นั่นหน่ะ”

“ถูกฆ่าตายงั้นเหรอ?” หลานหลิงถาม

สาวชุดดำเอ่ยต่อว่า “ไมได้ถูกฆ่าตาย แต่หุบเขาอสูรสวรรค์กลับเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับและอันตรายมากต่างหาก”

หลานหลิงเอ่ยปากเล็กน้อยว่า “แม่นางทั้งสองท่าน แม้ว่าข้าจะต่ำต้อยและยากจน แต่ข้าก็มีสิ่งที่ข้ายังอยากทำอยู่ ข้าไม่อยากกลายเป็นหุ่นเชิด คอยถูกรับใช้หรือกดดัน แม้ว่าคนผู้นั้นจะร่ำรวยหรือยิ่งใหญ่คับฟ้า เขาก็ไม่อาจควบคุมข้าได้หรอกนะ”

สาวชุดดำตกใจมาก นางไม่คิดเลยว่าหลานหลิงกล้าที่จะปฏิเสธคำขอของนาง ข้อเสนอนี้หากเป็นใครใครก็ตอบรับทันที แต่หลานหลิงยืนกรานอย่างหนักแน่นว่าไม่เอา นางยิ้มและพูดช้าๆเพื่อตอบกลับหลานหลิงว่า “ข้าขอชื่นชมในตัวเจ้า ในความคิดของเจ้า แต่นี่คิดซะว่าเป็นการตอบแทนข้าจะได้มั้ย ไม่เช่นนั้นเจ้าจะตอบแทนข้าด้วยสิ่งใดกันล่ะ?”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments