I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

World Destroying Demonic Emperor 4

| World Destroying Demonic Emperor | 701 | 2362 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ตอนที่ 4 : เปลี่ยนรูปร่าง

เจ้าจะตอบแทนข้ายังไงล่ะ?

หลานหลิงตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ปกติแล้วหากใครเป็นผู้มีพระคุณ เขาจะตอบแทนคุณเป็นร้อยเท่า

สาวชุดดำยังคงพูดต่ออีกว่า “อย่าลืม ข้าไม่จำเป็นต้องใช้เงินหรืออะไรทั้งนั้น ข้าเพียงต้องการให้เจ้ารับตำแหน่งเป็นตัวแทนของนายน้อยตระกูลซั่ว เพื่อสืบทอดวงค์ตระกูลต่อไป”

“หากข้าไม่ทำเพื่อเจ้า ตระกูลซั่วจะล่มสลายเลยรึไงกัน?”

“ถูกต้อง” สาวชุดดำยังพูดต่อไปอีกว่า “นายน้อยตระกูลซั่วนั้นเป็นคนเดียวที่สืบทอดสายเลือดตระกูลหลัก และปกป้องบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน หากว่าตระกูลเกิดการผลัดเปลี่ยน เมืองเทียนโซ่วจะเป็นเช่นไรล่ะ?”

เมื่อหลานหลิงได้ฟัง มันเงียบ ไม่มีการโต้ตอบในทันที

สาวชุดดำยังกล่าวต่ออีกว่า “หากเจ้าตกลงกับข้า มิเพียงเจ้าสามารถตอบแทนข้าผู้นี้ เจ้ายังสามารถช่วยตระกูลที่มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปีได้เช่นกัน”

“ข้าต้องการตอบแทนบุญคุณเจ้า ทว่าข้ายังอยากเป็นตัวข้าเองอยู่ดี” หลานหลิงตอบกลับ

สาวชุดดำจึงพูดต่อ “เพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น เจ้าเป็นซั่วหลุนเพียงแค่ 3 ปี เพื่อช่วยตระกูลซั่วให้รอดพ้นวิกฤตินี้ไปเสียก่อน 3 ปีให้หลัง เจ้าสามารถเป็นตัวเจ้าเหมือนดั่งเดิมได้”

……

หลังจากถูกตื้อมานาน หลานหลิงจึงยอมตกลง “ได้! ข้าตกลงในการเป็นซั่วหลุนตลอด 3 ปี เพียง 3 ปีเท่านั้น!”

“เยี่ยม” สาวชุดดำยิ้มให้

น้องสาวฝาแฝดของหญิงชุดดำ ที่ทำท่าจะเข้ามาหยุดพี่สาวตกใจเล็กน้อย

“เรียกข้าว่า เย่จิงหยู่ ส่วนน้องสาวข้า เย่จิงเฟิง เมื่อร่างกายเจ้าหายเป็นปกติเมื่อไหร่ เราจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเจ้าให้ทันที และเราจะได้ออกจากที่แห่งนี้กัน” สาวชุดดำกล่าว

“เปลี่ยนรูปลักษณ์?” หลานหลิงที่ได้ยินคำนี้ถึงกับกระโดดด้วยความกลัวทันที

“มิต้องกังวลไป มันมิได้มีอันตรายเกินไปหรอก หลังจากที่เจ้าเปลี่ยนแล้ว มันเพียงแค่แปปเดียวเท่านั้น” เย่จิงหยู่บอก “เจ้าต้องพักผ่อนเยอะ ๆ เมื่อเจ้าหายดี เราจะได้กลับปราสาทเมืองหลวงทันที”

หลังจากเสร็จสิ้นการพูดคุย เย่จิงหยู่กับน้องสาวของนางก็ควบม้าเพื่อลากรถเกวียนไปหาที่พักข้างหน้า

“พี่หญิง เกี่ยวกับเรื่องของเขา เราจะปกปิดมันไว้เช่นนี้หรือ?” เย่จิงเฟิงพูดด้วยเสียงเบา ๆ

“อย่างไรเจ้าหมอนั่นก็ต้องทำตามเรา เราต้องทำทุกอย่างเพื่อตระกูลซั่ว”

……

ถัดมาอีกหลายวัน หลานหลิงหายจากแผลอาการบาดเจ็บ จิงหยู่จึงพาเขามายังสมาคมเวทย์ที่ดูลึกลับ เพื่อเปลี่ยนใบหน้าของเขา

ร่างกายของเขา ทุกอย่างราวกับสวรรค์เสกสร้าง ยามที่เขาใกล้ตายกลับรอด ไม่ต้องถามถึงตอนที่เขาได้รับการรักษา ร่างกายของเขาฟื้นฟูได้เพียงไม่กี่วัน ไม่อาจรู้ได้จริง ๆ ว่าภายในร่างของเขานั้นมีพลังงานลึกลับอะไรอยู่กันแน่

ตอนนี้ทั้งสามคนเดินทางมาไกลกว่าพันลี้แล้วได้ (0.5 กม.) ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มปรากฏมามากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งคน ทั้งบ้านเรือน เริ่มเยอะขึ้นกว่าช่วงแรกที่หลานหลิงเดินอยู่เนินเขาเสียอีก

ตอนนี้เขามาถึงปราสาทแห่งหนึ่ง ที่ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่จะช่วยเปลี่ยนใบหน้าของเขาได้

ปราสาทแห่งนี้อยู่ในภูเขาที่ห่างไกลจากสถานที่เหล่าผู้คน ปราสาทนี่ดู ๆ ไปแล้ว น่าจะไม่มีคนอยู่ด้วยซ้ำไป

แม้ว่าปราสาทจะไม่ใหญ่มาก แต่มันสูงและดูสะดุดตา

ปราสาททั้งปราสาทเป็นสีดำทั้งหมด ทว่ามีสวนที่ดูน่ารื่นรมใจยิ่งนัก ซึ่งแตกต่างกับตัวปราสาทจริง ๆ

ปราสาทที่ดำสนิทเช่นนี้ จอมเวทย์ที่กล่าวถึงคงเป็นจอมเวทย์ที่ใช้มนต์ดำแน่ ๆ การที่มาอยู่ในที่ห่างไกลผู้คนแบบนี้ คงมีใครหลายคนคงคาดไม่ถึงอยู่เยอะ

เย่จิงหยู่และเย่จิงเฟิง สองคนนี้หยุดควบม้าทันที พวกนางสองคนได้บอกให้หลานหลิงเตรียมตัวเพื่อเข้าไปยังปราสาทที่ดูลึกลับแห่งนี้

ตัวปราสาทที่ดูยังกับเป็นบ้านร้าง ช่างคล้ายกับป่าช้ายิ่งนัก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สวนของปราสาทกลับสวยงามยิ่งนัก

หลังจากเข้ามาในตัวปราสาท หลานหลิงรู้สึกได้ถึงอุณภูมิที่ลดลงหลายองศา ข้างในปราสาทกลับถูกตกแต่งอย่างงดงาม มีเพียงแสงสลัว ๆ ไปตามเสาต่าง ๆ หากสถานที่แห่งนี้ไม่มีส่วนคล้ายอารยธรรมจีนแล้วละก็ คงเปรียบเทียบได้กับปราสาทแวมไพร์

ตัวปราสาทไม่มีใครอยู่เลย แม้กระทั้งพวกเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ไม่มี

แม้ว่าเย่จิงเฟิงกับเย่จิงหยู่ พวกนางจะเป็นวรยุทธ์เป็นชั้นเชิงดาบอยู่บ้าง แต่สถานที่แห่งนี้น่ากลัวจริง ๆ บรรยากาศนั้นทำให้น้องสาวอย่างเย่จิงเฟิงต้องจับพี่สาวของนางไว้ หากไม่ใช้มาเพื่อทำธุระแล้ว นางคงไม่มาเหยียบที่แห่งนี้แน่ ๆ

เย่จิงหยู่และน้องสาวก้าวขึ้นบนไดเรื่อย ๆ แม้ไม่รู้ว่าจุดสูงสุดของปราสาทแห่งนี้คืออะไร ก็ยังคงเดินต่อไป และในที่สุดพวกเขาก็มาถึงระดับสูงสุดของปราสาทแล้ว

ที่ด้านหน้าของเขามีประตูบานใหญ่สีดำสลับกับทอง เย่จิงหยู่เอื้อมมือไปเคาะประตูแห่งนั้น แต่กลับไม่มีสัญญาณใด ๆ ตอบกลับมาจากภายในเลย จากนั้นนางเปิดประตูก็เจอกับลมกรรโชกอย่างรุนแรงจากภายในประตู

หลานหลิงตกใจกลัวมาก ทันทีที่ประตูเปิดออก เขากระโดดถอยหลังทันที

ตัวปราสาทตกแต่งด้วยความหรูหรา มีเพียงห้องบนสุดเท่านั้นที่ดูราวกับอยู่ในนรกก็ไม่ปาน หลานหลิงเห็นกระโหลกศรีษะมนุษย์อยู่เป็นจำนวนมาก ยังมีกระดูกเต็มไปหมด กระจัดกระจายไปทั่วห้อง แถมยังมีไหที่เต็มไปด้วยของเหลวแปลกประหลาดนับไปถ้วน ภายในห้องเต็มไปด้วยควันกลิ่นเหม็นแปลก ๆ…

นอกจากชิ้นส่วนของมนุษย์แล้วนั้น ยังมีชิ้นส่วนของสิ่งมีชีวิตสายพันธ์ในโลกนี้อยู่ แม้กระทั้งดวงตายังถูกหักครึ่งกระจายเต็มห้อง

สถานที่แห่งนี้ราวกับห้องทดลอง หลังโต้ะขนาดใหญ่มีคนผอมตัวแห้งสวมเสื้อคลุมสีดำหมวกแหลมราวกับเป็นจอมเวทย์ ใครจะคิดว่าในเสื้อคลุมนั้นมีคนที่ผอมมาก ๆ เมื่อเขายื่นมืออกมายังกับกิ่งไม้เล็ก ๆ เลยล่ะ

จอมเวทย์ลึกลับคือนายใหญ่แห่งปราสาทแห่งนี้

“เจ้าต้องการสิ่งใด? ” เสียงลึกลับเริ่มพูด เสียงที่คล้ายเสียงใบไม้แห้งกระทบกัน มิอาจระบุได้ว่าเป็นหญิงหรือชาย

“เปลี่ยนใบหน้ารูปลักษณ์” เย่จิงยื่อพูด

…………………………..

“ลักษณะใบหน้าของเขาต้องมีโครงสร้างกระดูกที่คล้ายกันถึงจะสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้” คนผู้นั้นกล่าว

“ข้ารู้ โครงสร้างกระดูกของพวกเขาเหมือนกันมาก” จิงยื่อเปิดโรงศพทันที

ราวกับว่าสายลมกรรโชกพัดใส่หน้าของคนที่อยู่ในผ้าคลุม หลานหลิงเห็นได้ในทันที คน ๆ นั้นเป็นผู้หญิง ถึงแม้ว่าจะมีอายุมากเกินกว่าวัย แต่สังเกตได้เลยว่าหน้าของเธอมีผิวหนังหลายชั้น ปากของนางสดใส แต่ตาของนางกลับตาบอดทั้งสองข้าง ลูกตาของนางหายไป มีแต่ความว่างเปล่าในเป้าตา

นางยื่นมือเข้าไปจับที่ใบหน้าของหลานหลิง ทันใดนั้นทุกอนูขนของหลานหลิงลุกขึ้นราวกับถูกผีอำทันที

นางจับใบหน้าของเขาอย่างระมัดระวัง จากนั้นนางก็เดินไปจับใบหน้าศพของซั่วหลุน และไม่ได้ออกจากโรงศพเลย

ผ่านไป 4  ชั่วโมงในที่สุดนางก็ลุกและเปิดปากพูด “สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ใบหน้าได้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1 พันเหรียญทอง”

หลานหลิงยังคงงง และเขาก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับสกุลเงินของโลกใบนี้ เขาไม่รู้ว่าเหรียญทองของโลกนี้มีค่ามากเท่าใดในโลกของเขา หากพี่สาวของเขาอยู่ใกล้ ๆ นางต้องช็อคแน่ ๆ เมื่อใช้จ่ายไปแบบนี้

เย่จิงยื่อพูดว่า “เราไม่ได้นำเงินจำนวนมามากขนาดนั้น แต่ถ้าหากท่านสามารถเปลี่ยนหน้าให้เขาได้ เหรียญทองที่เหลือเราจะส่งมาอีกทีในเดือนหน้า”

“ไม่มีการต่อรอง” นางกล่าว

หลานหลิงจึงพูดว่า “เรากลับไปเอาเงินก่อนหรือไม่ แล้วค่อยกลับมาทำ?”

เย่จิงยื่อจึงบอกว่า “มันนานเกินไป”

จอมเวทย์จึงกล่าวว่า “ไม่ว่าเจ้าจะจ่ายเงินมาเท่าไหร่หากไม่ครบจำนวน ต่อให้นำมันมาเพิ่ม ข้าขอปฏิเสธที่จะเปลี่ยนรูปลักษณ์”

“ข้าบอกไปแล้วว่าข้าไม่ได้นำทองมามากขนาดนั้น” จิงยื่อเริ่มมีน้ำโห

จอมเวทย์กล่าวต่อ “เจ้านำมาเท่าไหร่?”

จิงยื่อพูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก “ข้านำติดตัวมาแค่ 98 เหรียญทองเท่านั้น”

98 เหรียญทองกับ 1000 เหรียญทองต่างกันลิบลับ จอมเวทย์จ้องหน้าของพวกนาง แล้วทำท่าทางว่าการต่อรองนี้จะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาด ทันใดนั้นหลานหลิงก็คิด ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อช่วยพวกนางดี ถ้าหากไม่สำเร็จ เราก็ไม่ได้ตอบแทนบุญคุณที่ช่วยไว้นะสิ

เย่จิงยื่อพูดว่า “เราสามารถทำสิ่งใดได้บ้าง? การเปลี่ยนรูปลักษณ์สำคัญต่อเรามาก”

“นั่นมันปัญหาของเจ้า จงแก้ด้วยตนเอง สิ่งที่ข้าต้องการคือเงินเท่านั้น” จอมเวทย์พูด

หลานหลิงเข้าใจเลยทันทีว่า ทำไมตัวปราสาทของนางถึงได้ดูหรูหรานัก ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง

“เอาแบบนี้ มีสิ่งหนึ่งที่เจ้าสามารถทำได้” จอมเวทย์กล่าว

เย่จิงยื่อถามทันที “ว่ามา อะไรยังไง?”

จอมเวทย์สาวชี้ไปที่เย่จิงเฟิงและพูดว่า “ข้าชอบนาง ให้นางอยู่กับข้าเพียง 3 ปี หนี้ทอง 902 ทองถือว่าหายกันไป”

แทบไม่ต้องคิด เย่จิงยื่อตอบเลยว่า “ไม่มีทาง”

ตลอดการเดินทางหลายวันมานี้ หลานหลิงรู้สึกชอบจิงเฟิงเป็นพิเศษหน่อย เนื่องจากวรยุทธ์ของนางนั้นสูงกว่าพี่สาวมาก แถมด้วยท่าทีไร้เดียงสาของนางประกอบกับขี้เล่นนิด ๆ ซึ่งแตกต่างจากพี่สาวอย่างมาก ทำให้หลานหลิงรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ด้วย

ส่วนเย่จิงยื่อ พวกเขาเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ทั้งสองไม่เคยแยกจากกัน ฝาแฝดคู่นี้มีแต่ไปด้วยกัน ถึงแม้ว่าทักษะวรยุทธ์ของน้องสาวจะนำหน้านางไปบ้าง ทว่านางก็ยังอยากปกป้องน้องสาวอยู่ดี

หากให้นางอยู่ที่นี่แล้ว ราวกับให้นางถูกขังอยู่ในคุกตั้ง 2 ปีเ น้องของนางต้องหวาดกลัวแน่ ๆ

“หากเจ้ามิยอมตกลง จงลืมไปเสียเถอะ” เย่จิงยื่อยืนนิ่ง ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี นางไม่มีทางปล่อยให้เย่จิงเฟิงอยู่ที่นี่แน่

“ข้าตกลง” เย่จิงเฟิงยืนขึ้นและพูดทันที

“น้องหญิง” จิงหยู่ตะโกนด้วยความตื่นตระหนก

เย่จิงเฟิงจะเอ่ยปากพูดว่า “พี่หญิง ข้ารู้ว่านี้อาจเป็นการตัดสินใจที่ลำบาก ทว่าข้าก็เป็นน้องท่าน ข้ามิอาจปล่อยให้ตระกูลของเราต้องพบเจอกับสภาวะลำบาก เพียงการเสียสละเล็กน้อย 2 ปี มิลำบากเกินใจข้าหรอก”

เย่จิงยื่อ สีหน้ากลายเป็นสีแดงและพูดว่า “เจ้าคิดจะทำเช่นนี้จริง ๆ หรือ? เจ้ามิเคยห่างจากข้าเลยนะ?”

“ข้ามิรู้เช่นกัน พี่หญิง อย่างไรพี่ก็ต้องดูแลเด็กคนนั้นให้ดีด้วย” เย่จิงเฟิงพูด

จิงยื่อหลับตาลงอย่างเศร้าสร้อย นางหายใจลึก ๆ แล้วพูดออกมาอีกครั้ง“ตกลง ข้าจะยอมให้เจ้านำน้องสาวข้าไปอยู่กับเจ้าเป็นเวลาสามปี ทว่าเจ้าต้องห้ามทำอะไรน่ากลัวหรือทำอะไรกับนางเด็ดขาด ตกลงหรือไม่?”

“ตกลง…” จอมเวทย์กล่าว “เช่นนั้น ข้าจะเริ่มทำหน้าให้ทันที”

จอมเวทย์หยิบกล่องมาแล้วเปิดขึ้น นางหยิบของที่อยู่ข้างในนั้น มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่โปร่งใสเหมือนน้ำ หลังจากที่นำมันออกมาจาก มันกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว สิ่งนั้นหรือที่สามารถเปลี่ยนหน้าของหลานหลิงได้

พวกเขาทั้งหมดยืนดูอย่างงุนงง เย่จิงหยู่ จิงเฟยและหลานหลิง ทั้งสามถูกบังคับให้ออกจากห้องไปก่อน

……………………………..

สองชั่วโมงต่อมา ห้องนั้นพลันเปิดออกช้า ๆ

หลานหลิงเห็นศพที่น่าเกรงขามของนายน้อยตระกูลซั่ว ผิวหน้าของศพหายไปหมด ผิวทุกส่วนต่างหายไปเช่นกัน

บนโต๊ะกลับมีหน้ากากวางอยู่

หน้ากากนี้ต่างออกไปเกินกว่าที่หลานหลิงจิตนาการไว้ นี่ไม่ใช่หน้ากากที่ทำจากผิวมนุษย์ มันมีผลึกเหลวใส ๆ หนาประมาณ  3 มิลได้ มันโปร่งใสมากและยังพอดีกับรูปหน้าของเขา แต่มันดูราวกับมีชีวิตอยู่

“เช่นนั้น ต่อไปข้าจะเริ่มเปลี่ยนหน้าของเจ้าแล้ว” จอมเวทย์กล่าว

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments