ตอนต่อไป
แดดร้อนๆในช่วงฤดูร้อนนั้นเปรียบดั่งธนูอาบยาพิษที่ทิ่มแทงลงมาใส่เรา ชั้นยืนขึ้นมาจากป้อมยาม หยาดเหงื่อบนใบหน้าของชั้นหยดลงไปในเสื้อยูนิฟอร์มสีเขียวแก่ เหงื่อของชั้นตอนนี้ไหลออกมาเหมือนกับก๊อกน้ำที่ไม่ได้ปิด ให้ตายสิ วันนี้มันช่างร้อนจนแทบจะทนไม่ไหวเลยจริงๆ
ชั้นยืนขึ้นมาอย่างช้าๆ เหงื่อที่คิ้วของชั้นก็ไหลลงมาที่ตา ทำให้แสบตาเป็นบ้า ให้ตายสิ หัวหน้ายามของชั้นก็ดันเอาร่มของชั้นที่อยู่ที่ป้อมไปด้วยเพื่อเป็นการรับน้องใหม่ชั้น ไม่เป็นไรหรอก คนดีๆอย่างชั้นไม่กล่าวโทษใครหรอกนะ…….ให้ตายสิ ร้อนจะตายอยู่แล้วเนี่ย
ชั้นมีชื่อว่า หลี่เสี่ยวเหยา เป็นชื่อที่ฟังดูแปลกใช่ไหมล่ะ? พ่อแม่ของชั้นเขาตั้งชื่อนี้ให้ชั้นเพื่อที่เวลาชั้นโตขึ้นมาแล้วจะเป็นคนที่คอยจัดการคนที่ข่มเหงผู้อื่น และช่วยเหลือคนยากจน แต่ดูเหมือนว่าชั้นจะทำตามที่พวกเขาคาดหวังไว้ไม่ได้ นั่นก็เพราะว่า ถ้าดูชั้นตอนนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่าชั้นเป็นแค่ ยามธรรมดาๆ ที่เพิ่งเข้าทำงานในบริษัท หวางโจว มาได้ไม่ถึงสองเดือนแล้วตอนนี้ชั้นเองก็ต้องอดอาหารเพราะว่างานนี้นั้นไม่ได้เงินดีเท่าที่ชั้นจะกินได้ 3 มื้อดีๆต่อวัน แล้วตอนนี้ชั้นเองก็ยังไม่ได้ชุดยูนิฟอร์มแบบทางการเลยแถมยังต้องมาเข้างานตอนบ่ายทุกวันอีก ทำให้ชั้นต้องมาเผชิญหน้ากับแดดร้อนๆ ชีวิตของชั้นตอนนี้มันช่างลำบากจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ชั้นเคยจินตนาการว่าจะมีเพื่อนร่วมงานเป็นผู้หญิงสวยๆในชุดเครื่องแบบ แต่หลังจากที่ผ่านไปสองเดือนที่ชั้นเข้ามาทำงานที่นี่ มันไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย ผู้หญิงที่นี่นั้นแสนจะอัปลักษณ์เวลาที่ไม่ได้แต่งหน้า หน้าพวกเขาเวลาที่ไม่ได้แต่งหน้านั้นสามารถทำให้คนกลัวจนสลบได้เลยทีเดียว และถึงแม้ว่าจะแต่งแล้ว ก็ยังน่ากลัวจนฉี่แทบราดเหมือนกัน
ผมกวาดสายตาไปมองกับตึกบริษัทที่อยู่ไกลออกไป ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่นั่น เธอชื่อว่า หวางแหยน เป็นนางฟ้าของ แผนกธุรการเลยทีเดียว หน้าอกและเรียวขาของเธอนั้นเต็มสิบให้เก้า แต่ว่าใบหน้าของเธอนั้นเต็มสิบให้หนึ่ง
หวางแยนเขาเห็นชั้นพอดี เธอเดินส่ายสะโพกไปมาออกมาจากตึกด้วยท่าทีสบายๆ เธอสวมส้นสูงที่น่าจะสูงประมาณ 7 เซนติเมตร แล้วเรียวขาเล็กๆขาวๆของเธอก็เด่นสง่า เธอมาหยุดที่ป้อมยามแล้วก็พูดกับผมด้วยรอยยิ้มว่า “หลี่เสี่ยวเหยา เกมส์ [Destiny] จะเปิดให้เล่นพรุ่งนี้แล้วนะ นายยังคิดอยากจะทำงานยามน่าเบื่อๆนี้อยู่ หรือว่าต้องการจะตามชั้นเข้ามาในแผนกธุรการแล้วก็ก่อตั้งกิลด์กัน? นายก็น่าจะรู้นะ ว่าฉันมีหมวกเพียงแค่ไม่กี่ใบ”
สายตาของชั้นจับจ้องไปที่หมวกสีขาวใบนั้น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นหมวกจำกัดจำนวนของเกม [Destiny] ซึ่งมีราคาสูงถึง 1 หมื่นหยวน แต่ว่ารายได้ของชั้นอย่างต่ำก็คือ 1 พันหยวน ให้ตายสิ ชาตินี้จะได้เล่นไหมเนี่ย
หลังจากนั้น ชั้นก็พูดด้วยถ้อยคำที่ไม่ได้เย่อหยิ่งหรือว่าประจบประแจงว่า “คุณหวาง ทำแบบนั้นมันก็ดูจะไม่ยุติธรรมกับคุณเท่าไรนะ ผมว่าผมทำงานเก็บเงินซื้อเล่นเองคงจะดีกว่า”
หวางแหยนหยิบหมวกของเธอมากอดไว้ที่หน้าอก ซึ่งนั่นทำให้หน้าอกขนาดภูเขาของเธอเด่นขึ้นมาแล้วพูดว่า “รู้ไหมว่า พี่สาวคนนี้ชอบท่าทีเย็นชาของเธอมากๆเลยนะ เธอต้องคิดเรื่องนี้ดีๆนะ ถ้าเธอเปลี่ยนใจตอนนี้ ฉันอาจจะเลี้ยงข้าวเธอสามมื้อตอนวันแล้วก็ให้การ์ดเกมด้วยนะ แล้วก็…”
เธอเงยหน้าของเธอขึ้นมามองชั้นด้วยสายตายั่วยวน แอ่นก้นขึ้นมาแล้วก็พูดด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นว่า “ถ้านายทำดี ก็จะมีรางวัลพิเศษให้ด้วยนะ”
ชั้นก็ยังคงเงียบ จนกระทั่งดอกไม้ที่ไม่รู้กาลเทศะที่อยู่หน้าแผนกธุรการร่วงหล่นลงมา นั่นทำให้ชั้นถอนหายใจแล้วรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเยอะ
หัวหน้าแผนกยาม เหล่ายู กระแอมไอแล้วพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า “หลี่เสี่ยวเหยา หวางแหยนเขามาทำให้นายรู้สึกหลงใหลแล้วใช่ไหม?”
ชั้นลุกขึ้นยืนแล้วก็ยังคงเงียบ ปล่อยให้แดดมาเผาชั้นเหมือนกับที่เผาไก่ย่างออสเตรเลีย ตอนนี้ชั้นรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะสุกแหล่ไม่สุกแหล่แล้ว
ให้พูดจริงๆจากใจเลยนะ หวางแหยนเขาไม่ได้ทำให้ชั้นรู้สึกหลงใหล ตื่นเต้นอะไรเลย แต่สิ่งที่ทำให้ชั้นรู้สึกแบบนั้นก็คือเกม [Destiny] ยังไงล่ะ ซึ่งเกมนี้มีการพัฒนาสร้างเกมมาถึง 10 ปี เกมนี้โฆษณาตัวเองว่ามีความสมจริงถึง 97% ซึ่งเทียบกับเกมอื่นๆแล้วมีเพียงแค่ 39% เท่านั้น แต่ว่าคนแบบชั้นที่ไม่เคยเล่นเกม VRMMOs มาก่อนจะไม่รู้สึกตื่นเต้นได้ยังไงกันล่ะใช่ไหม? แต่ว่าน่าเสียดาบ เงินเดือนของชั้นมันเล่นเกมระดับสูงๆแบบนั้นไม่ไหวหรอก
ร่างกายของชั้นสั่นเล็กน้อย เป็นเหมือนกับสัญญาณว่าชั้นถูกย่างเรียบร้อยแล้ว แล้วจู่ๆเหล่ายูก็ตะโกนขึ้นมาว่า “หลี่เสี่ยวเหยา นายไม่ต้องเฝ้ายามแล้ว หลิวจง ต้องการให้นายไปช่วยที่แผนกถ่ายรูปหน่อย เพราะว่าจริงๆแล้วนี่เป็นวันหยุดของแผนกนั้น แต่ดันมีกลุ่มนางแบบเขามาถ่ายรูปกัน คนก็เลยไม่พอ เจ้านั่นก็เลยต้องการให้นายไปช่วยหน่อย”
“เข้าใจแล้วครับ”
แผนกถ่ายรูปนั้นอยู่ที่ชั้น 7 ปกติพวกเขาก็ชอบเชิญพวกดาราหรือนางแบบมาถ่ายรูปเพื่อที่จะโปรโมตสินค้าตัวใหม่ของเขา ว่าแต่วันนี้ใครกันนะที่จะมา ชั้นไม่รู้เลยแฮะ
ตอนที่ชั้นขึ้นมาถึงชั้น 7 พวกทีมงานก็เห็นชั้นทันทีแล้วก็พูดว่า “หลี่เสี่ยวเหยา ไปที่ห้องอัดแล้วช่วยรีบไปขนกล่องมาให้ไวเลยนะ”
รู้แล้วล่ะ พวกนี้เรียกชั้นมาเพื่อที่จะเป็นเด็กขนของสินะ
“ว่าไง นายรู้ไหมว่าวันนี้ใครจะมาถ่ายแบบกันน่ะ?” เขาถามพร้อมกับเอามือพิงไหล่ของชั้น
ชั้นส่ายหัวพร้อมกับตอบไปว่า “ไม่รู้ครับ ใครจะมาถ่ายรูปวันนี้มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกันกับผมอยู่แล้ว”
เขายิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ก็ว่าแล้วว่าทำไมชีวิตนี้นายถึงไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนซักที เพราะนายทำตัวแบบนี้ยังไงล่ะ”
ไม่มีแฟนงั้นรึ!!
คำพูดนี้สำหรับชั้นแล้วมันเหมือนกับมีหมัดหนักๆเข้ามาต่อยเข้าที่หัวใจของชั้นอย่างจัง ทำให้รู้สึกเจ็บเอามากๆเลยล่ะ
“ใครคือคนที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้หรอครับ?” ชั้นจึงถามเขาไป
“ดาราคนดังเลยล่ะ เธอสวยกว่าที่คาดไว้มากๆเลยล่ะ นายน่าจะรู้นะว่านายน่ะโชคดีมากที่วันนี้จะได้เห็นคนที่สวยงามราวกับนางฟ้าอย่างเธอ วันนี้เป็นวันดีของนายแล้วล่ะนะ!”
“ช่างหัวดาราสิ วันนี้ชั้นเป็นแค่เด็กขนของ”
“…”
ก่อนที่ชั้นจะขนกล่องเสร็จ ผู้กำกับก็ได้ตะโกนบอกกับชั้นว่า “หลี่เสี่ยวเหยา ช่วยไปเอาบันไดที่ห้องเก็บของที่ 13 ให้หน่อย ไวๆเลยนะ”
“ครับ!”
ผมเป็นส่วนสำคัญของบริษัทนี้เลยนะ นั่นก็เพราะว่า หากบริษัทมีอะไรที่ต้องการเคลื่อนย้ายแล้วละก็ ผมจะต้องอยู่ที่นั่นเสมอ ซึ่งทัศนคติแบบนี้ ชั้นจะต้องก้าวขึ้นมาเป็นซีอีโอในไม่ช้านี้แน่ๆ
ชั้นวิ่งไปที่ห้องเก็บของ แล้วก็พยายามเปิดและก็รู้ว่ามันกำลังล๊อคอยู่ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกนะ เพราะว่าชั้นเอากุญแจมาด้วย แล้วชั้นก็ทำการไขกุญแจนั้นเข้าไปแล้วก็เปิดประตู
เอี๊ยด!
หลังจากที่เปิดประตู ชั้นก็เดินเข้าไปทันที แต่กลับได้ยินเสียงร้อง แล้วฉากข้างหน้าของชั้นนั้นแทบจะทำให้ชั้นถูกตรึงไว้อยู่กับที่เลยทีเดียว
ฉากนั้นคือฉากที่ใครเห็นแล้วจะต้องเลือดกำเดาไหลอย่างแน่นอน เพราะนั่นคือผู้หญิงที่มีรูปร่างที่สุดยอดมากๆกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ และในมือของเธอก็ยังมี บราสีชมพู ที่ยังไม่ได้ใส่ด้วย และภูเขาแฝดของเธอนั้นก็สั่นกระเพื่อมเล็กน้อย พอมองลงไปข้างล่างก็ได้เห็นเรียวขาที่ขาวดั่งไข่มุกของเธอ ให้ตายสิ มันช่างน่าทึ่งจริงๆเลย!!
เธอดูตกใจมากๆแล้วก็จ้องมองชั้นด้วยสายตาที่เคียดแค้นเป็นเวลาถึง 2 วินาที แล้วก็พูดออกมาอย่างใจเย็นว่า “นายเป็นใคร?”
ส่วนชั้นที่กำลังอึ้งอยู่ก็ไม่ได้พูดอะไร สิ่งที่ทำก็คือการปิดประตูทันที
แล้วก็ยังคงยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น เอามือไปจับจมูกของตัวเองแล้วพบว่าเลือดกำเดาไม่ได้ไหล…. ทางฝากหลังประตูนั้นก็ไม่ได้มีเสียงอะไรออกมา ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นดาราที่ถูกรับเชิญให้มาถ่ายแบบวันนี้… ให้ตายสิ ชั้นทำอะไรลงไปกันเนี่ย?
ผู้หญิงที่มีส่วนสูงราวๆ 170 ซม. ที่มีคะแนนรูปร่างเต็ม 10 หน้าตาเต็ม 10 แล้วก็ขนาดหน้าอกที่น่าจะไซส์ 34D คนนี้ต้องเป็นดาราแน่ๆ
หลังจากที่หัวใจของชั้นนั้นต้องทนทุกทรมาณกับเรื่องราวลำบากของชีวิตมาแล้ว เหตุการณ์นี้ทำให้หัวใจของชั้นถูกเยียวยา จนชั้นคิดว่า ชีวิตนี้ ถึงตายก็คุ้มค่าแล้วล่ะ
แต่พอไปมองที่ประตูแล้วว่า ชั้นได้ทำเรื่องผิดพลาดไปแล้ว เพราะป้ายมันเขียนว่า ห้องเปลี่ยนเสื้อ B ซึ่งชั้นดันไปมอง B เป็นตัวเลข 13 ไปซะได้ ว่าแต่ห้องเก็บของที่ 13 อยู่ไหนกัน? แล้วใครเป็นคนออกแบบป้ายกันแน่ ทำไมถึงให้ตัว B อยู่ห่างกันขนาดนั้นกันนะ?
10 นาทีผ่านไป ตัวชั้นที่สั่นเทาก็ได้เอาบันไดไปถึงห้องอัด
บนเวที มีคนที่กำลังสวมชุดสีสมพู ในมือถือผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ของบริษัทเรา รอยยิ้มของเธอนั้นทำให้หัวใจของชั้นแทบจะละลาย แต่ถ้าเรามัวจ้องมองอยู่แล้วละก็ ผู้กำกับจะต้องจ้องเราเขม็งแน่ๆ แต่การจ้องที่ชั้นทำลงไปเมื่อกี้นี้มันไม่ใช่การจ้องแบบปกติๆน่ะสิ… ใช่แล้วล่ะ ผู้หญิงไซส์ 34D คนนี้เป็นดาราจริงๆด้วย ชั้นคงตายแน่ๆถ้าเธอเอาเรื่อง
“คัท!”
หลังจากที่วางบันไดลงแล้ว ชั้นก็กระซิบกับผู้กำกับไปว่า “ผู้กำกับครับ ผมเอาบันไดมาให้แล้ว อยากได้อะไรอย่างอื่นอีกไหมครับ?”
เขาที่ยังจ้องเรียวขาสาวไซส์ 34D คนนั้นก็ไม่ได้หันมามองชั้นพูดว่า “ไม่เป็นไร กลับไปก่อนได้แล้ว”
“ครับ….”
ระหว่างที่ชั้นกำลังเดินออกไป ผู้หญิงไซส์ 34D คนนั้นก็ยืนขึ้นแล้วพูดขึ้นมาว่า “อ๊ะ คนที่สวมเสื้อยูนิฟอร์มคนนั้นน่ะ ยังไปไม่ได้นะ”
ผู้กำกับถึงกับงงตาแตกแล้วพูดกับเธอคนนั้นว่า “คุณหลิน ต้องการอะไรจากเขาหรอครับ?”
เธอคนนั้นมองมาที่ชั้น ตาที่สวยงามของเธอนั้นจ้องมาที่ชั้นด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ จากนั้นเธอก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นมาว่า “คือว่าบอดี้การ์ดของชั้นตอนนี้เขากำลังติดธุระ ก็เลยอยากให้เขาช่วยเฝ้าระวังตัวชั้นไว้ก่อนซักพักล่ะนะ แล้วก็ตอนที่กลับบ้าน ชั้นก็จะให้เข้าพาชั้นไปส่งที่บ้านแทนเลย”
“รับทราบแล้วครับ ได้เลยครับ!!”
ผู้กำกับคนหนึ่งได้เอาแขนมาโอบที่ไหล่ของชั้นแล้วกระซิบว่า “แกนี่มันโชคดีจริงๆเลยนะ เธอสนใจนายด้วยแหละ”
ชั้นยิ้มแบบแหยงๆ เงยหัวขึ้นไปมองเธอ “เหอะ สนใจชั้นงั้นหรอ? ชั้นว่าตอนนี้เธอก็คงคิดว่าจะจัดการชั้นยังไงดีเท่านั้นแหละ….” ชั้นคิดในใจ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง การถ่ายแบบก็เสร็จ สาว34D ก็ได้เดินมาหาชั้น แล้วพูดกับชั้นว่า “นายรออยู่ที่นี่นะ ห้ามไปไหน”
ชั้นเองก็ทำได้แค่ก้มหัวลงเงียบๆ เหงื่อแตกทั้งตัว สถานการณ์ตอนนี้กำลังย่ำแย่ลงเรื่อยๆ
หลังจากที่ผ่านไป 10 นาที สาว34D คนนั้นก็เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อซึ่งเธอดูงดงามมากๆ แต่ใจของชั้นนั้นกลับไม่ได้สนใจถึงเรื่องนั้นเลย นั่นก็เพราะว่า ชั้นรู้สึกว่าจิตสังหารของเธอนั้นมากับรอยยิ้มอันนั้น ชั้นว่าชั้นไม่รอดแน่ๆวันนี้
“ไปกันเลยไหม?”เธอถามชั้นด้วยรอยยิ้ม
ชั้นพยักหน้าพร้อมกับเตรียมใจตายเอาไว้แล้ว
ชั้นตามเธอออกไปนอกอาคาร แล้วเห็นว่าตอนนี้มีเมฆมากซึ่งอีกไม่นานฝนน่าจะตกแน่ๆ
“ขึ้นมาสิ!”
สาว34D คนนั้นพูดกับชั้นหลังจากขึ้นรถ Audi TT สีขาว
ชั้นนั่งอยู่ที่ที่นั่งผู้โดยสารโดยที่เธอนั้นนั่งที่นั่งคนขับ เอาสัมภาระของเธอวางไว้แล้วก็หันมามองชั้นด้วยแววตาที่น่าสงสัยแล้วก็พูดว่า “ไม่ต้องห่วงนะ เราจะไปเล่นกันอีกซักพักนะ”
“จะไปเล่นงั้นหรอ….” ชั้นพูดเบาๆ ตอนนี้หัวใจของชั้นเต้นแรงมากๆ เธอต้องการที่จะเล่นกับรถของเธอ หรือว่าต้องการเล่นกับชั้นกันแน่นะ?
ระหว่างที่ขับรถอยู่นั้น ก็มีฝนตกลงมาแล้วก็ดูท่าว่าจะไม่หยุดตกง่ายๆด้วย แต่ว่าสาว 34D คนนั้นไม่มีทีท่าว่าจะลดความเร็วของรถที่ตัวเองขับอยู่เลย ทำให้หัวใจของชั้นแทบจะหยุดเต้น แต่ว่าเธอเองก็ยังคงขับได้ดีแบบไร้ที่ติ แต่ว่านะ ขับแบบนี้มันอันตรายมากเลยนะ
จู่ๆเธอก็เบรกขึ้นมาทำให้มีเสียงของล้อที่เสียดสีกับพื้นถนนนั้นดังขึ้นมา เมื่อเสียงนั้นเงียบลงไป เธอก็ได้หันมามองกับชั้นแล้วยิ้มจากนั้นพูดว่า “รอที่นี่แปปนึงนะ”
“…”
เธอโทรศัพท์ไปหาคนๆหนึ่งแล้วก็พูดว่า “ฉันมาถึงแล้ว พวกนายจะมาถึงกันเมื่อไร? อะไรนะ? แค่ฝนก็ทำให้เราแข่งรถกันไม่ได้แล้วหรอ? อย่ามาพูดตลกๆแบบนี้น่า รีบๆมาได้แล้วตอนนี้เลย!”
ชั้นไม่ได้พูดอะไร แต่ก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีแล้ว
อย่างที่คาดไว้ 30 นาทีต่อมา รถสองขันก็ได้แข่งกันขึ้นมาที่ภูเขา คันแรกเป็น Ferrari อีกคันก็คือ Camaro ทั้งสองคันนี้เหมาะกับการแข่งรถมากๆ นี่มันน่าจะเป็นการแข่งรถระหว่างพวกลูกเศรษฐีแน่นอน ให้ตายสิ ถึงแม้ว่า Audi TT จะดีก็ตาม แต่จะสู้กับ Ferrari ไหวงั้นหรอ?
ชั้นมองไปที่สาว34D แล้วเธอก็มองมาที่ชั้น แล้วก็ส่งรอยยิ้มอันน่าหลงใหลนั้นมาให้กับชั้น
“เธอ…” ชั้นค่อยๆพูดแบบให้ดูใจเย็น “เธอวางแผนที่จะตายกับชั้นหรอ?”
สาว34D ยิ้มแล้วพูดกับมาว่า “ทำไมล่ะ นายกลัวหรอ?”
ชั้นยืดตัวตรงขึ้นมาแล้วก็พูดว่า “อย่าบ้าไปหน่อยเลยน่า”
“การที่นายมองฉันที่ห้องเปลี่ยนเสื้อนั้นก็คือการตัดสินชะตากรรมของนายแล้วนะ” เธอพูด
“ขอโทษนะ ชั้นไม่ได้ตั้งใจ ชั้นแค่จะไปเอาบันได”
สาว34D ยืดตัวตรงขึ้นมาแล้วก็พูดออกมาพร้อมรอยยิ้มว่า “เรื่องนั้นไม่เป็นไร ฉันไม่ได้คิดมาก”
“ไม่ได้คิดมากอะไรล่ะ จะให้ชั้นไปตายด้วยเนี่ยนะ!” ชั้นคิดในใจ
______________________________________________________________________________
逍遥自在 หรือ เสี่ยวเหยาจื้อไจ้ หมายถึง การใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่ขึ้นตรงกับใคร
ที่มา: