ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเช้าวันต่อมา ฉันตื่นขึ้นมาตอนเช้า ซึ่งฉันเองก็ยังไม่ได้เล่นเกมเลยหรอกนะ ฉันต้องไปทำหน้าที่ของฉันที่ได้รับมาก่อน หลังจากที่ฉันอาบน้ำแปรงฟันแต่งตัวเสร็จแล้ว ฉันก็ออกจากห้อง
งานแรกของฉันก็คือการซื้ออาหารเช้าสำหรับ 3 คน หลังจากนั้นก็ไปที่หอพักหญิงเพื่อเรียก’หลินว่านเอ๋อ’ให้ลงมารับ ซึ่งเธอก็ลงมาด้วยชุดเดรสกระโปรงสั้นสีฟ้า แล้วก็มีเสื้อทีเชิ้ตข้างในชุดเดรสของเธอด้วย
ชั้นยืนอยู่ที่หน้าประตู มองไปที่เธอแล้วก็ หันไปอีกทาง แต่ก็หันมาเหลือบมองเธออีก เธอเป็นคนที่งดงามมากเลยจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เธอเองก็ไม่ได้ชอบอะไรฉันมากมาย
แล้วก็เหมือนเดิม ‘หลินว่านเอ๋อ’ส่งสายตาไม่ชอบใจมาหลังจากที่เธอเห็นฉัน แล้วเธอก็พูดว่า
“นี่นายจะจ้องฉันไปอีกนานแค่ไหนกัน? รีบๆส่งข้าวเช้ามาให้ฉันแล้วกลับไปเก็บเลเวลต่อได้แล้ว การที่… การที่นายมาทำงานให้ฉัน…ถ้าเลเวลนายน้อยจนน่าอายแล้วละก็ ฉันไม่ยอมหรอกนะ”
ฉันถอนหายใจลึกก่อนจะพูดกับเธอว่า
“ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณหนูผิดหวัง ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวก่อนนะ”
“เดี๋ยว…” หลินว่านเอ๋อเรียกฉันก่อนที่เธอจะยืนนิ่งไปซักพัก เหมือนว่าเธอกำลังลังเลหรือว่านึกคำพูดอยู่ แล้วเธอพูดออกมาว่า “หลี่เสี่ยวเหยา ฉันอยากถามนายมานานแล้ว นายเคยเป็นพวกหน่วยตำรวจพิเศษมาก่อนจริงๆหรอ?”
ฉันถามเธอกลับไปว่า
“หา ทำไมถึงถามล่ะ?”
“ฉันก็แค่อยากจะรู้ว่า คนที่เคยเป็นหน่วยพิเศษแบบนาย ที่เคยต้องทำงานฆ่าคนมาก่อนจะทำตัวน่าอายแบบนี้ เช่น มาผลาญข้าวผลาญเงินของชาวบ้านไปวันๆแบบนี้เป็นต้น…..”(เกมนี้ต้องจ่ายเพื่อเล่น ราคาอยู่ที่ 1 หยวนต่อ 16 นาที)“
ระหว่างที่เธอพูดเธอก็ทำหน้ายิ้มระรื่น เมื่อฉันเห็นเธอทำหน้าแบบนั้นแล้วฉันก็ก้มหัวมองพื้นแทน หึ อย่างที่คิดเลย ‘หลินว่านเอ๋อ’ยังต้องการแก้แค้นฉันอยู่แน่ๆ เธอจะมีความสุขเวลาที่ฉันทุกข์สินะ
ฉันกำหมัดแน่นก่อนจะตอบกลับไปว่า
“เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอกนะ ที่สำคัญก็คืองานของผมคือการปกป้องคุณหนู ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะ”
ว่าแล้วฉันก็หันหลังเดินกลับไป
“นี่นายโกรธงั้นหรอ? นายเป็นคนโมโหง่ายงั้นหรอ?”
ฉันหันกลับมารวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อยิ้มให้ดูดีมากที่สุดก่อนจะพูดว่า
“คุณหนูนี่รู้ไปหมดทุกอย่างเลยสินะครับ?”
เธอดูสีหน้าท่าทางของฉันออกว่าฉันกำลังประชดเธอ จึงรู้สึกไม่ชอบใจเล็กน้อยที่ตัวเองยั่วโมโหฉันไม่สำเร็จเธอจึงกระทืบเท้าด้วยอารมณ์โมโหแล้วพูดว่า
“หึ แค่นี้แหละ กลับไปเก็บเลเวลต่อละ”
“ครับ! ขอให้สนุกนะครับ”
ระหว่างทางเดินกลับหอพัก ฉันก็กินซาลาเปาพลางคิดไปว่าวันนี้จะทำอะไรในเกมกันดีนะ คิดไปคิดมาก็สรุปได้ว่า วันนี้ควรจะไปให้ถึงเมืองป้าหวางซักที จะได้ตามคนอื่นๆในเกมให้ทัน ไม่งั้นแล้วคงถูกเรียกว่าพวกขี้แพ้แน่ๆ
หลังจากที่กลับไปถึงหอแล้ว ฉันก็เริ่มเล่นเกมต่อ
ภาพตัดกลับมาที่ Wild Bear Forest ฉันมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนว่าพวกฉีชูป้าหวางกับผองเพื่อนจะไม่อยู่แล้ว สงสัยเพราะคิดว่าฉันเองก็คงออกจากเกมไปแล้ว บวกกับพวกนั้นคงจะไปที่เมืองป้าหวางกันต่อ ก็เลยไม่รอแล้ว
ฉันจึงคืนชีพขึ้นมาหลังจากตรวจรอบๆอีกครั้ง
ฉันกลับมาควบคุมร่างกายของฉันได้อีกครั้ง ฉันรีบเปิดหน้าจออุปกรณ์ของฉันก่อน ดูเหมือนว่าตอนที่ฉันตาย ฉันจะเสียแค่ น้ำยาไม่กี่ขวด กับของเล็กๆน้อยๆ โล่งอกไปที หลังจากนั้นฉันก็หยิบดาบใหม่ของฉันออกมา
[Bramble Thorn Sword] (ระดับดำ)
พลังโจมตี : 21-35
STR : +3
เลเวลที่ต้องการ : 8พลังโจมตี 21-35 ของดาบนี้เมื่อเทียบกับดาบเก่าของชั้นที่มีแค่ 1-3 แล้วมันคนละเรื่องเลย ขณะที่ฉันถือดาบเล่มนี้นั้น รู้สึกเหมือนว่ามีพลังอะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นมาจากแขนของฉัน ดาบเล่มนี้ก็ยังเพิ่มค่าสถานะของฉันมากขึ้นด้วย
[เสี่ยวเหยาจื้อไจ้] (ฮีลเลอร์ฝึกหัด)
เลเวล : 9
พลังโจมตี : 69-83 พลังป้องกัน : 23
HP : 180 MP : 150
Charm: 0พลังโจมตีระดับนี้ นักดาบที่มีเลเวลเท่ากันกับฉันเห็นแล้วก็คงต้องอิจฉาแน่ๆเลย ดาบเล่มนี้มันสุดยอดจริงๆแหละ
ตอนนี้ฉันเลเวล 9 และมี EXP 57% ฉันคิดว่าคงจะอัพเป็นเลเวล 10 ได้ถ้าจัดการพวกมอนสเตอร์ซักตัวสองตัว หลังจากนั้นก็ค่อยกลับไปที่หมู่บ้านแล้วซื้อยาให้พร้อม ก่อนจะเดินทางไปเมืองป้าหวาง
ระหว่างทางกลับฉันเห็น Bramble Bear อยู่ที่หุบเขาพอดี ฉันยิ้มออกมาให้กับเจ้าหมีตัวนั้น หึ มาลองดูหน่อยว่าพลังของฉันตอนนี้มันจะมากแค่ไหน
‘ฉัวะ’
ฉันวิ่งเข้าไปโจมตีมันด้วยการฟันเข้าไปที่หัวของมันเต็มๆ ตัวเลขความเสียหายลอยขึ้นมาจากหมีตัวนั้น ดูเหมือนว่าพลังโจมตีของดาบเล่มนี้จะไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ
“-117”
สุดยอดไปเลย
ฉันฟันไปอีกครั้งในขณะที่เจ้าหมีตั้งท่าจะโจมตี
“-114”
เจ้าหมีดูโกรธมากแล้วก็ตะปปฉันเข้าเต็มแรง ฉันได้รับความเสียหาย
“-37”
แต่ว่าฉันเองก็ฟันดาบที่ 3 เข้าไปทันทีแล้วก็จัดการมันลงได้สำเร็จ พลังโจมตีของฉันตอนนี้คงไม่มีใครมาหัวเราะเยาะแล้วล่ะนะ
ฉันหยิบเงินที่ดรอปมาจากหมีแล้วก็ลุยต่อไป หลังจากที่ฉันจัดการกับเจ้าพวกหมีไป 10 กว่าตัวแล้ว ฉันก็เลเวลอัพเป็น 10 และฉันก็ยังเพิ่มแต่ค่า STR ลงไปเหมือนเดิม เอาล่ะ… กลับไปที่หมู่บ้าน เตรียมตัวให้พร้อมที่จะเดินทางไปเมืองป้าหวางดีกว่า
หลังจากที่ฉันกลับไปที่หมู่บ้านเริ่มต้นแล้ว ฉันก็ขายพวกของที่ไม่ใช้ไปทำให้ฉันมีเงินถึง 2 ซิลเวอร์ หลังจากที่ฉันซ่อมแซมอาวุธของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ไปที่ร้านขายยา แต่เนื่องจากที่ฉันเป็นฮีลเลอร์ ฉันจึงไม่ต้องการยาเพิ่มเลือด ฉันต้องการยาที่เพิ่ม MP มากกว่า
แต่หลังจากที่ฉันถามราคาแล้ว ใจของฉันแทบสลายเลย
[Mana Potion Lv 1]: ฟื้นฟู 50 MP, 5 ทองแดง/ ขวด
[Mana Potion Lv 2]: ฟื้นฟู 100 MP, 50 ทองแดง/ ขวด
[Mana Potion Lv 3]: ฟื้นฟู 150 MP, 5 ซิลเวอร์/ ขวด
…..
อะไรกันเนี่ย ทำไมราคามันถึงได้แพงต่างกันขนาดนี้เนี่ย เงินของฉันยังไม่พอซื้อน้ำยาเลเวล 3 ขวดเดียวเลยด้วยซ้ำ เอาเถอะ ฉันก็แค่ซื้อน้ำยาเลเวล 1 มาเยอะก็น่าจะพอที่จะให้ฉันเดินทางไปเมืองป้าหวางไหวแล้วล่ะนะ
หลังจากที่ฉันเดินมาถึงทางออกหมู่บ้านแล้ว ผู้สูงอายุก็ออกมาส่งฉันที่ประตู เขาพูดกับฉันว่า
“เจ้าหนู เจ้าเติบโตพอที่จะออกจากหมู่บ้านแล้ว ข้าดีใจด้วย เข้าคือความภาคภูมิใจของเรา ในอนาคตเจ้าจะต้องเป็นนักผจญภัยที่ดีแน่ๆ แล้วจะสามารถช่วยอาณาจักรเทียนหลิงจัดการกับศัตรูได้แน่ๆ”
ฉันตอบไปว่า
“เข้าใจแล้วครับ ปู่”
“เจ้าหนู ข้ามีจดหมายแนะนำให้เจ้าสามฉบับ เจ้าเลือกมาฉบับหนึ่งนะ…”
มีหน้าจอเมนูขึ้นมาที่ตรงหน้าฉัน
[เมืองฟ่านชู] [เมืองป้าหวาง] [เมืองจิ่วหลี]
ซึ่งตรงนี้ฉันจะต้องเลือกจดหมายตามเมืองที่ฉันต้องการจะไป และเมื่อถึงเมืองนั้นแล้วก็เอาจดหมายไปให้กับอาจารย์ประจำสายอาชีพของฉัน แล้วจากนั้นฉันก็จะสามารถเลือกเรียนวิชาเสริมของอาชีพนั้นได้
ฉันไม่คิดอะไรมากแล้วก็เลือกเมืองป้าหวางทันที หลังจากที่ฉันเลือกแล้ว ผู้สูงอายุก็พูดกับฉันว่า
“ไปเลย หนุ่มน้อย ไม่ว่าจะเจ้าไปไหน หรือว่าเจ้าจะเป็นอะไร อย่าลืมวันนี้เด็ดขาด เจ้าคือความภูมิใจของพวกเรา”
เมืองป้าหวางอยู่ทางตอนเหนือของอาณาจักรเทียนหลิง แล้วมันก็อยู่ใกล้กับเขตลึกลับทางเหนือด้วย มันเหมือนกับเป็นป้อมปราการด่านแรกที่ไว้สู้กับมอนสเตอร์ที่บุกรุกมามากกว่าจะเป็นเมืองธรรมดาซะอีก และนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ฉันเลือกเมืองนี้เป็นเมืองหลักของฉัน และที่สำคัญไปอีกก็คือเมืองนี้ก็ถูกรายล้อมไปด้วยพวกมอนสเตอร์ ทำให้คนในเมืองนี้สามารถเก็บเลเวลได้ดีกว่าเมืองอื่นๆ
หลังจากที่ฉันตั้งค่าเมืองป้าหวางไว้บนแผนที่แล้ว ฉันก็เริ่มออกเดินทาง และก็เห็นคนส่วนใหญ่ก็เดินทางเช่นกัน พวกเขาต่างดูเร่งรีบที่จะไปเมืองนี้ แล้วก็รีบไปเก็บเลเวลให้สูงๆ เพราะว่าเกมนี้นั้นสามารถจุผู้เล่นได้ถึง 100 ล้านคน แต่ตอนนี้เปิดให้เล่นแค่ 1 ล้านคน ดังนั้นถ้าไม่รีบนำไปก่อน จะไปไม่สามารถเก็บเลเวลให้นำได้ แต่สำหรับฉันแล้วคิดว่าตอนนี้ยังไม่ต้องรีบมากก่อน
ระหว่างทางฉันเห็นนักดาบในชุดเกราะสีขาวคนหนึ่งเดินมากับฮีลเลอร์ ซึ่งฮีลเลอร์คนนั้นก็มีของพะรุงพะรังมากมาย และก็ดูสมกับเป็นฮีลเลอร์มากกว่าฉัน
และฉันก็เจอกับผู้เล่นหลายคนที่เลือกเผ่าพันธุ์เป็นเอลฟ์แห่งสายลม แล้วก็เล่นอาชีพ นักเวท นักธนู แล้วก็ ฮีลเลอร์ เพราะว่าอาชีพนี้สามารถบินได้ และคนส่วนใหญ่ก็เลือกเพราะมันบินได้ซึ่งถ้าให้พูดตรงๆก็มีคนเลือกเล่นเอลฟ์แห่งสายลมถึง 35 % จาก 1 ล้านคนเลยทีเดียว แต่ที่ฉันไม่เลือกก็เพราะว่ามันมีพลังป้องกันแล้วก็เลือดที่น้อย แถมยังเพิ่มพลังโจมตีเวทย์ไม่เยอะมากอีก แล้วก็ไม่เข้ากับการเล่นของฉันด้วย
การเดินทางไปเมืองป้าหวางด้วยกันกับพวกผู้เล่นใหม่นั้นก็คงปลอดภัยที่สุดแล้ว แล้วก็มอนสเตอร์ที่อยู่ทางไปส่วนใหญ่ก็จะถูกกำจัดหมดแล้ว ทำให้เดินทางได้สะดวกมาก หลังจากที่ฉันเดินทางมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ฉันก็เดินมาถึงเมืองป้าหวางจนได้ เมืองนี้เป็นเมืองที่มีปราสาทใหญ่โต และดูจะเป็นเมืองที่น่าจะมีอาวุธดีๆอยู่แน่ๆ
หลังจากที่ฉันเดินเข้าเมืองไป ฉันก็เจอกับอาจารย์ประจำสายอาชีพของฉัน
อาจารย์ประตำสายอาชีพของฉันเป็นผู้หญิงที่เป็นเผ่าเอลฟ์แห่งสายลม ซึ่งเธอเองก็ถือคทาไว้อยู่ และแน่นอนว่าดูสมกับเป็นฮีลเลอร์มากๆ แถมเธอยังเป็น NPC ที่มีเลเวลถึง 50 เลยทีเดียว
ฉันเดินไปหาเธอแล้วยื่นจดหมายให้เธอพร้อมกับพูดว่า
“ท่านอาจารย์ ผมมาจากหมู่บ้านสุนัขฟาง และนี่คือจดหมายแนะนำ ได้โปรดรับผมเป็นศิษย์ด้วย”
อาจารย์มองมาที่ดาบของฉันแล้วทำสีหน้าตกใจแต่ก็พูดด้วยเสียงเรียบเฉยซึ่งดูแล้วขัดกันมากว่า
“เอาล่ะ หลังจากนี้เจ้าคือฮีลเลอร์ของเมืองป้าหวาง แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรแล้ว”
ติ๊ง !! สกิล [Encourage]
‘เป้าหมายของสกิลจะได้รับพลังโจมตีเพิ่มขึ้น 1% และจะมากขึ้นตามระดับของสกิล
สิ่งที่ต้องการในการเรียนสกิล : อาชีพสายฮีลเลอร์ที่มีเลเวล 10 เป็นต้นไป’
ราคาที่ใช้เรียนสกิล : 1 เหรียญเงิน
ตอนนี้ฉันเรียนได้แค่สกิลนี้เท่านั้น
แต่ว่าสกิลนี้มันก็ดีมากเลยเช่นกัน ที่เลเวล 1 ก็เพิ่มพลังโจมตีได้ 1% และที่เลเวล 10 ก็จะเพิ่มได้ถึง 10% ซึ่งก็เท่ากับสกิล [Aura Sword] ของฉันเลย
ถึงแม้ว่าจะเสียดายเงินก็ตามแต่สุดท้ายแล้วฉันก็เลือกเรียนสกิลนี้
หลังจากที่ฉันคุยกับอาจารย์ของฉันเสร็จแล้ว ฉันคิดว่าฉันควรจะไปเก็บเลเวลของสกิลแล้วก็เลเวลของฉันต่อ แต่พอมานึกขึ้นได้ ดูเหมือนว่าฉันจะต้องทำอะไรอย่างนึงก่อนจะออกจากเมือง
ซึ่งนั่นก็คือฉันจะต้องเรียนวิชาเสริมคือวิชาประดิษฐ์ และวิชาที่ฉันต้องการจะเรียนนั้นก็คือวิชาปรุงยานั่นเอง
ที่มา: