ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปฉันเดินออกจากเมืองป้าหวางด้วยความตั้งใจที่ว่าเช้านี้ฉันจะต้องเก็บเลเวลให้ถึงเลเวล 18 ให้ได้แล้วก็ไปให้ถึงเลเวล 20 ให้ไวที่สุด เพื่อที่ฉันจะได้รับการเปลี่ยนคลาส
หลังจากที่ผู้เล่นได้ทำการเปลี่ยนคลาสแล้ว จะทำให้เรียนรู้สกิลได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่นอาชีพของฉันตอนนี้ก็คือ ฮีลเลอร์ฝึกหัด ซึ่งจะถูกจำกัดให้เรียนสกิลได้แค่ 2 สกิลเท่านั้นก็คือสกิล [Hemostasis] แล้วก็ สกิล [Encourage]
แล้วหลังจากที่เปลี่ยนคลาสแล้วจะสามารถเรียนรู้สกิล [Heal] แล้วก็สกิล [Therapy] เป็นต้น โดยที่จุดเด่นของสกิล [Heal] นั้น ที่เลเวล 1 จะสามารถฟื้นฟูได้ถึง 150 HP ที่เลเวล 2 จะได้ถึง 300 HP ซึ่งนั่นได้ผล 3 เท่าของสกิล [Hemostasis] เลย
ฉันเดินออกมาจากหน้าประตูเมืองแล้วก็เปิดแผนที่ขึ้นมาดู เพราะฉันจะเดินสุ่มๆไปหาที่เก็บเลเวลมันก็คงจะไม่ค่อยดี และฉันเองก็ตั้งใจที่จะเก็บหญ้าเจ็ดดาวที่ใช้ทำยาเลเวล 3 ด้วย ซึ่งยานี้สามารถฟื้นฟูได้ถึง 200 MP ซึ่งถ้าเทียบกับยาเลเวล 3 ของ NPC ที่ฟื้นฟูได้ 150 MP แถมยังขายตั้ง 5 เหรียญเงินแล้วนั้น
ทุกคนก็ต้องแห่กันเข้ามาซื้อยาที่ผลิตโดยผู้เล่นแน่นอน ซึ่งนี่ก็เป็นโอกาสดีแน่การหาเงิน และจากคำพูดของย่วยชิงเฉี่ยนแล้ว ดูเหมือนว่าในเมืองป้าหวางนี้ ฉันเป็นคนแรกที่สามารถปรุงยาเลเวล 3 ได้ เนื่องจากมีเลเวลสกิลปรุงยาเท่ากับ 3 ดังนั้นนี่แหละเป็นโอกาสดีที่สุดแล้ว
[น้ำยาเจ็ดดาว]: ฟื้นฟู 200 MP วัตถุดิบ : สมุนไพรเจ็ดดาว x3, น้ำบริสุทธ์r x3, เตาปรุงยา x1
วัตถุดิบหลักของยาเลเวล 3 นี้ก็คือ สพุนไพรเจ็ดดาว ซึ่งเติบโตอยู่ในส่วนลึกของเขตป่าทึบ ซึ่งในเขตนั้นก็มีหุบเขาที่ถูกเรียกว่า หุบเขาเจ็ดดาว ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นจุดที่มีสมุนไพรเจ็ดดาวอย่างแน่นอน
จากที่นี่ไปถึงหุบเขานั้นก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งผู้เล่นส่วนใหญ่คงจะขี้เกียจเดินทางไกลกันขนาดนั้นเพื่อแค่เก็บเลเวล ต่อให้ไป ก็คงไปเป็นปาร์ตี้ เพราะแถวนั้นมีมอนสเตอร์เลเวลสูงอยู่มากมาย
ตอนนี้ฉันเองก็เลเวล 16 มี HP อยู่ที่ 250 พลังโจมตี 177 ซึ่งแน่นอนว่าลุยคนเดียวไหว
แต่ยังไงก็ต้องคอยระวัง [Silver Feather Bird] เพราะว่ามันมีเลเวลอยู่ที่ 15 ที่ให้ค่า EXP ไม่ค่อยจะดีแล้ว แถมยังจะทำให้อาวุธของฉันเสียหายอีก
หลังจากที่เดินทางผ่านมากว่า 20 นาที ฉันก็เห็นพวกภูเขาแล้ว และในแผนที่ก็แสดงให้เห็นว่าฉันมาถึงแล้ว
ฉันหยิบดาบเตรียมขึ้นมา ทันใดนั้นเองฉันก็ได้ยินเสียงว่ามีคนโผล่ออกมาจากอีกฝั่ง
“พวกนายเตรียมตัวให้ดี ตอนนี้เรามาถึงหุบเขาเจ็ดดาวแล้ว ถึงแม้ว่านี่จะเป็นงานแรกของกลุ่มเราก็จริง แต่ว่าถ้าเกิดข้อผิดพลาดก็จะไม่ให้อภัย”
แย่แล้ว ต้องรีบซ่อน
ทันใดนั้นก็มีคน 10 คนเดินออกมาจากป่า หัวหน้าของเขาถือดาบและสวมเสื้อเกราะสีดำเงา ซึ่งฉันก็รู้เลยว่าเขาก็คือ ‘ฉีชูป้าหวาง’ และดูเหมือนว่าคนที่มากับเขาก็น่าจะเป็นลูกน้อง
อ๊ะ นั่นเจ้าหมูก็เดินตามออกมาแล้วด้วย นอกจากนั้นยังมีพวกเอลฟ์สายลมที่ถือธนูบินตามมาอีก 2 เพื่อสังเกตการณ์พื้นที่บริเวณนี้
ฉันกลั้นหายใจ พยายามไม่พูดอะไรออกมา
ที่บ่าของ’ฉีชูป้าหวาง’ก็มีนกที่เขาซื้อมาจากฉัน แล้วมันก็มีเลเวล 16 แล้ว เก็บเลเวลได้ไวมากเลยแฮะ หรือว่าสัตว์เลี้ยงจะเก็บเลเวลไวกว่าคนกันนะ
ฉีชูป้าหวางหันมาทางเจ้าหมู
“เฮ้ย เจ้าหมู แกแน่ใจนะว่ามีบอสอยู่ที่นี่จริงๆ?”
“ครับ หัวหน้า วันนี้ตอน 6 โมงเช้า เพื่อนของผมเขานั้นถูกบอสฆ่าตายที่นี่ และมอนสเตอร์แถวๆนี้นั้นก็เลเวลสูงมาก ดังนั้นระวังตัวกันหน่อยนะครับ เพราะว่าเราแทบไม่ค่อยมี ฮีลเลอร์เลย”
“หา? แค่สองคนไม่พองั้นหรอ?”
“เอ่อ.. จะให้พูดว่ายังไงดีล่ะ การฆ่าบอสนั้นสำหรับคนที่เล่นฮีลเลอร์นั้นมันยากมากเลยนะครับ เพราะว่าเขาจะต้องใช้สกิลให้ถูกเวลาและถูกคน ซึ่งผมดูจากที่ลูกพี่ร่วมมือกับเสี่ยวเหยาแล้ว เขามีความสามารถมาก ซึ่งถ้าเรามี ฮีลเลอร์ที่เก่งแบบนั้นสองคน แน่นอนว่าเราสามารถจัดการได้อย่างสบายๆครับ”
“อย่าพูดชื่อของมันให้ฉันได้ยินอีก ครั้งหน้าที่ฉันเจอมัน ฉันสัญญาเลยว่าฉันจะเฉือนหนังมันทั้งเป็น แล้วก็เอาดาบกลับมา จะดาบนั้นมีพลังโจมตีถึง 35 แต่ดาบที่ฉันใช้อยู่นี้มีพลังโจมตีแค่ 21”
“แต่หัวหน้าครับ ถ้าพวกเราต้องการจะเป็นอันดับต้นๆของเมืองนี้ เราจำเป็นที่จะต้องหาคนที่มีฝีมือระดับเสี่ยวเหยานะครับ หัวหน้าก็น่าจะรู้ว่า กิลด์ปราก กับกิลด์มังกรเหินนั้นตอนนี้เป็นกิลด์ชั้นนำของเมืองป้าหวาง ซึ่งพวกนั้นก็เป็นคู่แข็งตัวฉกาจของเราเลยนะครับ แล้วถึงแม้ว่าเราจะมีคนถึง 200 กว่าคนก็ตาม แต่มันก็ไม่พอแล้วนะครับ”
“เข้าใจแล้วน่า ฉันจะหาคนแบบนั้น แต่ถ้าครั้งหน้าเจ้าเสี่ยวเหยาปรากฏขึ้นมาต่อหน้าฉันอีกล่ะก็ ฉันจะฆ่ามันเอง คอยดูได้เลย”
“……”
ฉันมองไปที่กลุ่มของ’ฉีชูป้าหวาง’เดินไปจนพวกเขาไม่น่าจะเห็นตัวฉันแล้วแต่ฉันก็ต้องระวังพวกที่กำลังบินสอดส่องอยู่ แน่นอนว่าถ้า 1-1 กับเจ้า’ฉีชูป้าหวาง’ ฉันสามารถชนะได้สบายๆ แต่ถ้าต้องโดนรุมถึง 10 คนแล้วละก็ ตายทันทีแน่ๆ
หลังจากที่รอถึง 10 นาที ฉันก็ออกมาจากที่ซ่อนแล้วเดินเข้าไปยังหุบเขาเจ็ดดาว ที่แห่งนี้กว้างใหญ่มาก ทำให้ง่ายต่อการซ่อนตัวไม่ให้เจอกับ’ฉีชูป้าหวาง’ แล้วฉันสามารถเก็บสมุนไพรได้อีกด้วย
ฉันเดินขึ้นไปบนก้อนหิน สอดส่องบรรยากาศของหุบเขาเจ็ดดาว แล้วฉันก็เห็นกับกลุ่มหมาป่าที่มีหมาป่าตัวหนึ่งตัวใหญ่กว่าชาวบ้าน มีขนสีแดงหอนมาด้วยเสียงน่ากลัว แถมเลเวลของมันก็ไม่ได้น้อยเลย
[Wild Wolf] (มอนสเตอร์ทั่วไป) Level: 18
Attack: 77-100 Defense: 30
Health: 500 Skill: [Whirling Claws (LV2)]
ดูค่าสถานะของเจ้านี่แล้วฉันก็ตกใจเล็กน้อย แน่นอนว่าฉันสู้มันไม่ไหวแน่ๆ เพราะว่าพลังโจมตีของมันนั้นสูงมากๆ มากจนฉันไม่สามารถชนกับมันไหว ดังนั้นแล้วฉันก็เลยถอยออกมาเดินไปอีกทาง เพื่อไม่ให้เข้าไปเจอกับพวกมัน
ในอีกจุดที่ห่างไกล พวกของ’ฉีชูป้าหวาง’ก็กำลังสู้อยู่กับกลุ่มมอนสเตอร์ หมอนั่นใช้การโจมตีและท่วงท่าที่สวยงาม ซึ่งไม่เหมาะกับตัวของหมอนั่นเลย
หันมามองที่สกิลของฉัน นอกจากสกิล [Aura Sword] แล้วที่เหลือก็เป็นสกิล Passive กับ สกิลฟื้นฟูเลือด ซึ่งถ้าฉันอยากได้สกิลโจมตีแล้ว ฉันจะต้องเรียนเอง ซึ่งในเกมนี้ก็สามารถทำได้ แต่มันก็ไม่ง่ายหรอกนะ
ตรงที่การจะฝึกสกิลนั้นต้องมีประสบการณ์หรือการฝึกมาก่อน ไม่งั้นแล้วก็ไม่สามารถฝึกได้ ซึ่งฉันวิเคราะห์ดูแล้ว ในเกมนี้น่าจะมีคนที่สามารถเรียนสกิลได้ในตอนนี้แค่ 2-3 คนเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เงินต้องมาก่อน ส่วนเรื่องอื่นถ้าฉันตั้งใจพยายามจริงๆแล้วละก็ มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาแน่นอน
ฉันเดินหลบออกห่างจากกลุ่ม’ฉีชูป้าหวาง’ แล้วเดินไปทางตะวันออกของหุบเขาเจ็ดดาว แล้วค่อยๆเดินเข้าป่าไป ถึงแม้ว่าการเข้าป่ามันจะเสี่ยงต่อการถูกพวกหมาป่าจู่โจม แต่สมุนไพรมันก็โตในนี้แหละดังนั้นก็ต้องเสี่ยง
แต่ระหว่างที่ฉันเดินไปได้ไม่กี่ก้าวนั้น ฉันก็เห็นสมุนไพรอยู่ที่บนก้อนหิน เยี่ยมไปเลย ฉันรีบเดินเข้าไปดู แล้วก็แน่นอนว่าเจ้านี่ก็คือ สมุนไพรเจ็ดดาว
หลังจากที่ผ่านมาฉันเก็บมาได้จำนวนหนึ่ง ทำให้ตอนนี้สกิลเก็บเกี่ยวสมุนไพรของฉันก็มีเลเวล 3 แล้ว ฉันหยิบพลั่วออกมา ค่อยๆชอนรากของต้นสมุนไพรเจ็ดดาวขึ้นมา นี่คือพื้นฐานของการเก็บสมุนไพรเลย
เพราะว่าในหนังสือหลายๆเล่มก็บอกเอาไว้ว่า ยาส่วนใหญ่นั้นใช้รากของสมุนไพรเป็นวัตถุดิบ ซี่งทฤษฎีนี้ก็น่าจะใช้กับสมุนไพรเจ็ดดาวเช่นกัน
หลังจากที่ฉันเก็บเกี่ยวมันได้สำเร็จ เสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้นมา
ติ๊ง!! ประกาศจากระบบ : ยินดีด้วย ท่านได้เก็บเกี่ยว [สมุนไพรเจ็ดดาว] x 2 เป็นผลสำเร็จ
ถ้าเราเก็บสมุนไพรไปจนถึงรากของมันแล้ว เราจะได้มาสองชิ้นเลยสินะ เยี่ยมเลย ดูเหมือนว่างานนี้จะไวขึ้นกว่าเดิมแล้วล่ะนะ
ขณะที่ฉันกำลังเพลิดเพลินกับการเก็บสมุนไพรนั้น ฉันได้ยินเสียงขู่ดังขึ้นด้านหลังฉัน ทำให้ฉันรีบหันกลับไปพร้อมชักดาบออกมา แย่แล้ว!! เจ้านี่มันเข้ามาใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน
ฉันตั้งท่าพร้อมต่อสู้ สกิล [Aura Sword] ของฉันทำงานโดยอัตโนมัติซึ่งช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้ฉัน 10% ที่ตอนนี้ช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้ฉัน 11.7
แล้วถ้าฉันเกิดเลเวลอัพและใส่ของที่ดีกว่านี้ มันจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งสกิลที่มีเอฟเฟคดีอย่างนี้ระดับความยากของการเรียนสกิลนี้ก็คือ SS ซึ่งเกมนี้ระดับสกิลที่สูงที่สุดคือ SSS แน่นอนว่าสกิลของฉันนี้ก็ใกล้เคียงกับสกิลระดับสูงสุดแล้ว
ฉันเข้าโจมตีเจ้าหมาป่า ดาบของฉันฟันเข้าเป้ามันจังๆ
“-142”
ในขณะเดียวกัน เจ้าหมาป่าเตรียมตัวสวนกลับฉัน อุ้งมือของเจ้านั่นมีแสงสีแดงขึ้น นั่นมันสกิลของมันนี่นา ขณะที่ฉันกำลังมัวแต่จ้องอยู่นั้น การโจมตีของมันก็เข้าที่ไหล่ของฉันเต็มๆ ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บมากๆ และ HP ของฉันก็ลดไปถึง ‘119’
ฉันร่ายสกิล [ห้ามเลือด(Hemostasis)] ที่ช่วยเพิ่ม HP ให้ฉัน 100 และฉันก็โจมตีต่อเนื่องติดกันสองครั้ง ซึ่งก็เข้าเป้าเต็มๆ แล้วฉันก็เตรียมตัวเพื่อหลบการโจมตีสวนกลับของเจ้าหมาป่า
แต่ฉันก็ไม่สามารถหลบได้ เพราะว่าค่าสถานะความเร็วของฉันมันน้อยเกินไป การโจมตีครั้งนี้ฉันเสีย HP 71 ซึ่งดูเหมือนว่าถ้ามันไม่ได้ใช้สกิลทุกครั้งก็พอจะสู้ไหวอยู่
ทุกๆครั้งที่เจ้าหมาป่าโจมตี ฉันพยายามจะหลบ แต่ว่าก็ไม่สำเร็จซักครั้ง จนฉันเลิกล้มความพยายามที่จะหลบ แล้วเลือกแลกกับมันเลย เพราะว่าความเร็วของเจ้าหมาป่านี้มันมากกว่าฉัน ซึ่งมันก็ชิงจังหวะที่ฉันขยับตัวหลบตามมาตีฉันทัน
เจ้าหมาป่าล้มลงพร้อมกับเสียงหอน ฉันไม่รอช้ารีบเก็บเงินที่ดรอปแล้วก็เดินออกมา ที่นี่นั้นโหดจริงๆ แต่ว่าฉันต้องมุ่งหน้าต่อไป เพราะว่าเงินกำลังรอฉันอยู่
หลังจากที่ฉันเก็บสมุนไพรเจ็ดดาวมาได้บางส่วนแล้ว ฉันก็รู้ว่าเจ้าสมุนไพรนี้นั้นเติบโตได้ด้วยหินเท่านั้นซึ่งการที่ฉันอยู่ในป่าแบบนี้มันก็คงจะไม่ค่อยดี ฉันจึงออกไปตามหุบเขา ซึ่งถ้าฉันโชคดีพอ ก็คงไม่ไปเจอกับพวกของ’ฉีชูป้าหวาง’ล่ะนะ
หวังว่าดวงจะดีก็แล้วกัน
ที่มา: