ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
“ว่าไงนะ? 20 เหรียญทอง?!”
ฉีชูป้าหวางดูจะโกรธมาก แต่ก็ยังไม่ได้เข้ามาทำอะไรฉัน ดูเหมือนว่าหมอนั่นจะอยากได้เจ้านกสีเงินนี้จริงๆสินะ
เจ้าหมูที่อยู่ข้างๆเขากระซิบว่า
“พี่อิง เราต้องซื้อมันนะ พี่เคยพูดไว้นี่ว่าถ้าเราจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของเมืองนี้ เราจะต้องนำพวกเขาไปหลายก้าว ดูสิตอนนี้เรานำเขาเรื่องเครื่องแต่งกายก็จริง แต่ว่าพวกเรายังไม่มีสัตว์เลี้ยงเลยนะครับ แล้วเจ้านี่ก็เป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรกของเมืองนี้ด้วย ดังนั้นถ้าเราซื้อมาแล้วละก็ เราจะเป็นคนแรกในเมืองนี้ที่มีสัตว์เลี้ยงในครอบครองเลยนะครับ”
‘ฉีชูป้าหวาง’กัดฟันพูดว่า
“แต่…แต่ว่า เงิน 20 เหรียญทองมันก็แพงมากเกินไป เจ้าหมอนี่มันตั้งใจขูดรีดกันชัดๆ”
เจ้าหมูก็หัวเราะคิกคัก
“พี่ชาย ตำแหน่งกับสถานะของพี่ไม่น่าจะต้องเป็นห่วงเรื่องเงินเลยนะ เอาเถอะ ให้ผมจัดการเอง….”
‘ฉีชูป้าหวาง’พยักหน้าก่อนจะตอบว่า
“อืม”
เจ้าหมูหมุนหันกลับมาหาฉันยิ้มให้ก่อนจะพูดว่า
“ฉีชูป้าหวาง พวกเราจะจ่ายให้นาย 20 เหรียญทอง แต่ว่าช่วยรอซัก 10 นาทีหน่อยนะ พวกเราขอเวลารวบรวมเงินก่อน เพราะว่า 20 เหรียญทองนี่มันก็มากพอตัวอยู่”
ฉันพยักหน้าแล้วตอบกลับว่า
“เข้าใจแล้ว แค่ 10 นาทีเท่านั้นนะ”
“อืม!!”
ในขณะเดียวกันนั้นเอง มือถือของฉันดังขึ้น ชื่อของคนที่ดทรหาฉันก็คือหลินว่านเอ๋อนั่นเอง…
“หลี่เสี่ยวเหยา ฉันหิวแล้วนะ…”
“ขอเวลาผม 10 นาทีได้ไหมครับ? แล้วผมจะรีบไป”
“ให้ไวเลย!”
หลังจากวางสายแล้วฉันก็รอต่ออีก 10 นาที เจ้าหมูก็วิ่งกลับมา แล้วก็แลกเปลี่ยนของกัน
ให้ตายสิ การแลกเปลี่ยนนี้คุ้มค่าจริงๆเลย คุ้มเกินไปด้วยซ้ำ
หลักจากแลกเปลี่ยนเสร็จสิ้นแล้ว ฉันก็ไม่มีธุระอะไรต่อแล้วล่ะ
หลังจากที่หมอนั่นได้สัตว์เลี้ยงแล้วก็คงพยายามจะฆ่าฉันล่ะนะ แต่ว่าในเขตเมืองนี้เป็นเขตปลอดภัย
ดังนั้นมันก็ไม่สามารถโจมตีฉันได้ เลยได้แค่จ้องตาฉันหมายจะฆ่ากันก่อนที่จะเดินจากไป ดูเหมือนว่าหมอนั่นจะไปเก็บเลเวลสัตว์เลี้ยงล่ะนะ เพราะถ้าสัตว์เลี้ยงไม่มีเลเวลก็ไร้ค่าเหมือนกัน
สถานการณ์ของฉันหลังจากนี้ก็ง่ายขึ้นเลย เพราะว่าฉันนั้นได้เงินมากมาย เพราะว่าเมื่อก่อนปัญหาอย่างเดียวของฉันก็คือ
ไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์ปรุงยา แต่ว่าตอนนี้กลับกันแล้ว ฉันสามารถซื้อได้มากมายเท่าที่อยากเลยล่ะ แล้วการที่ฉันรีบเพิ่มเลเวลสกิลปรุงยานั้นก็เพราะว่า น้ำยาเลเวล 3 นั้นสามารถขายให้กับ NPC ได้ในราคาถึง 5 เหรียญเงินเลยไงล่ะ
จำไว้นะว่า 1 เหรียญทองเท่ากับ 100 เหรียญเงิน และนั่นก็หมายความว่าเท่ากับ 1 หมืนเหรียญทองแดง
ฉันคุกเข่าลงแล้วทำการปรุงยาแล้วในที่สุดเลเวลสกิลปรุงยาของฉันก็อัพเป็นเลเวล 3 จนได้
ติ๊ง!!
ประกาศจากระบบ : ยินดีด้วย สกิลปรุงยาของท่านไปถึงเลเวล 3 แล้ว
และท่านเองก็เป็นผู้เล่นคนแรกที่ก้าวถึงสกิลปรุงยาเลเวล 3 ท่านได้รับค่าเสน่ห์เพิ่ม 1
ค่าเสน่ห์มาอีก 1 เยี่ยมไปเลย
ทุกครั้งที่เราผ่านอีเว้นท์พิเศษจะทำให้เราได้รับค่าเสน่ห์เพิ่มขึ้นล่ะสินะ เยี่ยมไปเลยแฮะ ฉันอยากรู้จะเลยนะว่า’หลินว่านเอ๋อ’นั้นจะมีค่าเสน่ห์เท่าไรกันนะ หรือไม่ก็เวลาที่เธอเข้าเกมมาแล้วคงมีข้อความจากระบบขึ้นมาเลยละมั้งว่า
ข้อความจากระบบ : ยินดีด้วย ด้วยการที่ท่านนั้นสวยและยังทรงเสน่ห์ด้วยหน้าอกขนาด 34D ท่านได้รับรางวัลเป็นค่าเสน่ห์ 5
ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริงก็บ้าแล้ว
ฉันก็ตะโกนขายของต่อ
“เร่เข้ามาๆ ขวดยาเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ฟื้นฟู MP ได้ถึง 100 ราคาเพียงแค่ 40 เหรียญทองแดงเท่านั้น เข้ามาซื้อกันเร็วๆนะ ของมีจำนวนจำกัด”
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครได้ยินกันเลย ขณะนั้นเองก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่มากับอาวุธที่เป็นมีดหยุดมองฉัน เธอดูเหมือนกับคนที่ฉันเคยรู้จักมาก่อน แล้วจู่ๆฉันก็เหมือนถูกดึงลงไปในห้วงบรรยากาศที่อยู่ในห้วงดนตรีที่ไพเราะจนแทบจะไม่อยากหยุดฟังเลยทีเดียว
“เฮ้!!”
เธอคนนั้นเดินเข้ามาข้างหน้าฉัน ปลุกฉันจากภวังค์ มองมาที่ฉันด้วยสายตาแปลกๆก่อนจะพูดว่า
“นายนี่เอาแต่จ้องแบบนี้ ไม่ขายของแล้วหรอ? ว่าแต่ว่าขายยาเลเวล 2 ในราคา 40 เหรียญทองแดงต่อขวดจริงๆงั้นหรอ?”
ฉันตั้งใจมองไปที่เธออีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆเลยแฮะ แม้จะสวมใส่ของระดับสีขาวก็เถอะดูเหมือนว่ามีดของเธอนั้นจะเป็นระดับดำ อืม 8 เต็ม 10 ล่ะนะ แต่ดูเหมือนว่าจะมีคำเตือนปรากฎขึ้นบนหัวเธอเพื่อเตือนฉันว่า
“อย่าไปยั่วโมโหเธอ”
…อืม กุหลาบสวยย่อมมีหนามล่ะนะ
ชื่อผู้เล่น : ย่วยชิงเฉี่ยน [LV.19] แอสซาซินฝึกหัด
แอสซาซินเลเวล 19 แน่นอนว่าจัดการฉันที่เป็น ฮีลเลอร์เลเวล 15 ได้อย่างง่ายได้แน่ๆ
ดังนั้นจะไปยั่วโมโหเธอไม่ได้เด็ดขาด ฉันต้องพูดจาดีๆกับเธอหน่อยแล้วล่ะนะ
ฉันยิ้มด้วยสีหน้าที่หล่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะพูดกับเธอด้วยเสียงอันนุ่มนวลว่า
“ใช่แล้วล่ะครับ 40 เหรียญทองแดงต่อขวด จะรับซักกี่ขวดดีครับ?”
เธอยิ้มแล้วพูดว่า
“เอาหมดเลย”
ฉันเปิดดูช่องไอเท็ม ฉันมียาอยู่ทั้งหมด 300 ขวด แต่ว่าฉันจะต้องเก็บไว้ใช้เอง 50 ขวด ดังนั้นฉันก็เลยพูดว่า
“มีทั้งหมด 250 ขวดนะ เอาหมดเลยใช่ไหมครับ?”
“อื้ม เอาหมดเลย”
“รับทราบ!!”
ฉันเปิดหน้าจอแลกเปลี่ยนน้ำยาทั้งหมด 250 ขวด แล้วเธอก็เอาเงิน 1 เหรียญทองมาให้ฉันก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า
“ขอบคุณนะ”
“ยินดีเสมอ!”
ฉันหันกลับไป กำลังคิดว่าจะทำอะไรต่อดี แต่เธอก็หยุดฉันก่อนแล้วพูดว่า
“เดี๋ยวก่อน จะไปไหนหรอ?”
ฉันหันกลับมาถามเธอว่า
“ถามทำไมหรอ?”
‘ชิงเฉี่ยน’เอียงหัวเธอเล็กน้อยก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า
“ช่วยรับฉันเป็นเพื่อนก่อนได้ไหม แล้วในอนาคตถ้านายสามารถผลิตยาที่ดีกว่านี้ได้ ให้เรียกฉันเลยแล้วฉันจะซื้อมันเอง เพราะว่าฉันต้องการยาพวกนี้มากเลยล่ะ”
ฉันแปลกใจเล็กน้อย
“เธอเป็นแอสซาซินนี่นา จะเอายาไปทำอะไรเยอะแยะหรอ?”
“อ๋อ ลืมแนะนำตัวเองไปเลย จริงๆแล้วฉันเป็นคนที่อยู่ในระดับสูงของกิลด์ปรากน่ะ นายเคยได้ยินชื่อกิลด์ปรากไหม?”
ฉันพยักหน้า
“อืม เคยได้ยินจากเกมก่อนหน้านี้มาน่ะ ว่ามีกิลด์ชื่อนั้นอยู่ แถมยังเป็นกิลด์ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศด้วย”
“อืม ดีมาก….”
ชิงเฉี่ยนมองมาที่ฉันก่อนจะพูดต่อว่า
“แล้วถ้านายผลิตยาเลเวล 2 แบบนี้มาได้เยอะขนาดนี้แล้ว สกิลปรุงยาของนายก็น่าจะเลเวล 3 แล้วใช่ไหม? ในอนาคตนั้น พวกเราจะต้องการมันอย่างแน่นอน เอางี้ไหม? นายเข้าร่วมกิลด์กับพวกเรา แล้วก็…..”
เธอยิ้มก่อนจะพูดต่อว่า
“ให้นายเป็นหัวหน้าของแผนกปรุงยา แล้วนายจะได้ของตอบแทนมากมายเลยล่ะนะ~”
ฉันถอนหายใจก่อนจะตอบไปว่า
“ไม่เป็นไร ฉันเป็นพวกผู้เล่นที่ชอบลุยเดี่ยวมากกว่าน่ะ ก็เลยไม่อยากอยู่กิลด์อะไร แล้วก็ที่สำคัญกิลด์ใหญ่ๆแบบนี้ฉันจะต้องทำตามคำสั่งของหัวหน้าแน่ๆ ซึ่งสำหรับผู้เล่นที่ชอบลุยเดี่ยวแบบฉันแล้วก็คงไม่ค่อยเหมาะล่ะนะ”
ชิงเฉี่ยนทำหน้ามุ่ยก่อนจะยิ้มแล้วตอบกลับมาว่า
“ไม่เป็นไร ไม่ได้บังคับนะ ยังไงตอนนี้เราก็เป็นเพื่อนกันแล้วนะ~ ถ้านายเจอเรื่องอะไร หรือมีปัญหาอะไร หรืออยากจะให้ช่วย ก็ติดต่อมาได้นะ~”
“อืม ขอบคุณนะ!”
“ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ….”
ชิงเฉี่ยนเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าวก็หันกลับมากระซิบกับฉันว่า
“เสี่ยวเหยา ตอนนี้เราก็เป็นเพื่อนกันแล้วนะ จำไว้ให้ดีล่ะ……”
“อ่า….อืม”
แล้วเธอก็เดินจากไป ปล่อยให้ฉันยืนใจเต้นรัว……
กิลด์ปรากเป็นกิลด์ที่ดังกิลด์หนึ่ง แล้วพวกเขาก็ชอบชวนผู้เล่นที่เก่งๆมาเข้ากิลด์ของเขาด้วยวาจา หรือ เสน่ห์แบบเมื่อกี้ แต่ว่าสำหรับฉันที่ต้องคอยตามดูแล’หลินว่านเอ๋อ’กับ’ตงเฉิงย่วย’ผู้งดงามนั้น ทำให้ฉันนั้นมีภูมิคุ้มกันสาวสวยแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถมาชวนฉันได้ หึๆๆ
พูดถึง’หลินว่านเอ๋อ’แล้วฉันก็นึกขึ้นได้แล้วรีบมองเวลา แย่แล้ว!!! นี่มันเลยเวลาไปเกือบ 10 นาทีแล้วนี่หว่า ต้องรีบออกแล้วล่ะ!!!
ฉันแทบจะเหาะไปหอพักหญิง ด้านหน้าหอพัก
‘หลินว่านเอ๋อ’ทำหน้าอย่างกับยักษ์รอฉันอยู่ก่อนจะกระทืบพื้นแล้วพูดขึ้นมาว่า
“หลี่เสี่ยวเหยา นายปล่อยให้พวกเรารอถึง 11 นาที เลยนะ”
‘ตงเฉิงย่วย’ยิ้มแล้วพูดกับ’หลินว่านเอ๋อ’ว่า
“เขาน่าจะเจอกับอะไรบางอย่างในเกมทำให้เขายังออกไม่ได้ละมั้งนะ ไม่งั้นเขาคงไม่ปล่อยให้พวกเรารอแบบนี้หรอกนะ….”
ฉันเดินเข้าไปแล้วพูดว่า
“ขอโทษนะที่มาช้า ฉันติดพันเรื่องในเกมอยู่น่ะ”
‘ว่านเอ๋อ’แขวะฉันกลับมาว่า
“อ๋อ? นายเพิ่งเลเวล 10 นี่ จะยุ่งอะไรกันล่ะ? หรือว่ากำลังหาแฟนโดยใช้วิธีช่วยเธอเก็บเลเวลงั้นหรอ?”
ฉันตอบกลับไปว่า
“คิดมากไปแล้ว ฉันแค่ปรุงยาเลเวล 2 สำเร็จแล้วก็ขายมันไปน่ะ…..”
“ปรุงยา?”
ว่านเอ๋อทำสีหน้าตกใจก่อนจะพูดต่อว่า
“นี่นายทำเควสเพื่อเรียนสกิลปรุงยาได้แล้วงั้นหรอ?”
“อืมใช่แล้ว ทำไมหรอ?”
ฉันพูดต่อว่า
“ยังไม่ผ่านเควสทีหรอครับ?”
‘ว่านเอ๋อ’หน้าแดง แล้วก็หลบหน้าหนีฉัน การที่เธอทำแบบนี้มันทำให้ฉันใจสั่นเล็กน้อย นี่ถ้าเธอทำแบบนี้ตลอดไปก็คงดีนะ
‘เฉิงย่วย’ทำสีหน้ายิ้มแหย่ๆแล้วพูดว่า
“ว่านเอ๋ออยากจะเรียนวิชาเภสัชล่ะนะ แต่ว่าเธอกลับตอบคำถามไม่ถูกเลยซักข้อ ดังนั้นก็เลยต้องรอตอบใหม่พรุ่งนี้ล่ะนะ….”
ฉันหุบยิ้มเอาไว้ เพราะถ้าเกิดพลาดหัวเราะออกมาแล้วละก็มีหวังโดน’หลินว่านเอ๋อ’ฆ่าแน่ๆ
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะมองออกเลยพูดกับฉันว่า
“ถ้าอยากจะหัวเราะก็เชิญเลย ไม่ต้องกลั้นไว้หรอก”
ฉันตอบกลับไปว่า
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมคิดว่าทั้งๆที่คุณหนูออกจะฉลาดขนาดนี้ ผมว่าระบบเกมน่าจะติดบั๊กแน่ๆเลยครับ ทำให้ตอบผิด”
‘หลินว่านเอ๋อ’พูดออกมาว่า
“เห็นไหมล่ะ อย่างที่ฉันบอกเลยเฉิงย่วย ระบบมันต้องบั๊กแน่ๆ”
‘เฉิงย่วย’พูดว่า
“อืม…จะว่าไงก็เอาเถอะ ตอนนี้ไปหาอะไรกินคงจะดีกว่านะ…..”
แล้วพวกเราก็เดินมาถึงโรงอาหาร สั่งอาหารเรียบร้อยแล้วก็เริ่มรับประทาน
“หลี่เสี่ยวเหยา มอนสเตอร์แถวๆเมืองป้าหวางเป็นยังไงบ้าง มีอะไรพิเศษไหม?”
ว่านเอ๋อพูดกับฉันก่อนจะพูดต่อว่า
“ไม่ได้พูดถึงมอนสเตอร์เลเวลมากกว่า 15 นะ หมายถึงต่ำกว่านั้น เพราะฉันรู้ว่านายเองก็ยังเลเวลไม่ถึง 15 ทีนะ….”
ฉันตอบกลับไปว่า
“…ตอนนี้ผมเลเวล 15 แล้ว”
‘เฉิงย่วย’มีสีหน้าตกใจก่อนจะพูดว่า
“นายเก็บเลเวลไวมากเลยนะ เลเวล 15 ไวมากเลย”
ฉันหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
“ฉันไม่เคยไปที่เมืองอื่นเลย แต่มันก็ไม่น่าจะต่างกันมากล่ะนะ สิ่งพิเศษที่ฉันเห็นก็คงจะเป็น ตราสัญลักษณ์ของเมืองป้าหวางล่ะนะ ที่เพิ่มค่าสถานะพลังโจมตีกับป้องกัน 3 % น่ะ”
“ว่าไงนะ ในเมืองมีตราสัญลักษณ์ที่เพิ่มค่าสถานะด้วยงั้นหรอ?”
ว่านเอ๋อถามฉัน
ฉันตกใจก่อนจะถามกลับไปว่า
“อย่าบอกนะว่าพวกคุณหนูยังไม่ได้ไปเอาตราสัญลักษณ์ของเมืองที?”
“ยังเลย……”
ฉันหยิบมือถือของฉันขึ้นมาเปิดหาข้อมูลแล้วก็พูดกับหลินว่านเอ๋อว่า
“สำหรับเมืองฟ่านชูนั้นจะได้รับตราสัญลักษณ์ ที่ผู้เล่นที่มีนั้นจะสามารถได้รับไอเทม [Mortal’s Scroll] ซึ่งไอเทมนี้นั้นจะใช้เวลาออนไลน์ของเราที่เติมเล่นเกมนี้นั้นเปลี่ยนเป็น EXP และมอบให้กับผู้เล่น นั่นหมายความว่าคนที่อยู่ในเมืองฟ่านชูนั้นจะเก็บเลเวลได้ไวมากกว่าคนที่อยู่เมืองอื่นๆ”
ว่านเอ๋อได้ยินแล้วก็พูดว่า
“เดี๋ยวทานเสร็จแล้วฉันค่อยกลับไปเอา ให้ตายสิก็ว่าทำไมคนที่เราสู้ด้วยเมื่อกี้ถึงมีตำราลอยอยู่บนมือของเขา….”
ที่มา: