ตอนที่แล้วตอนต่อไปKGG : ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปผมได้แก้ชื่อตัวละครบางตัวที่อ่านผิดไปครับรวมไปถึงชื่อกิลด์ ตั้งชื่อใหม่ตามความเหมาะสมของการเรียกครับ
หลี่เสี่ยวเหยา : หลี่เซียวเหยา
เสี่ยวเหยาจื้อไจ้ : เซียวเหยาจื้อไจ้
นักรบแหยนจั้ว : นักรบแหยนเจ่า
กิลด์ [ความโกรธแค้นของผู้กล้า] เป็น [วายุทรชน]
เมืองป้าหวาง เป็น เมืองป้าฮวง
แล้วก็เรื่องที่จะให้ใช้ ผม แทน ฉัน ในการเล่าเรื่องนั้น ผมขอแจกแจงว่า ที่ผมใช้คำว่าฉันนั้น เนื่องจากบุคลิคขี้เก๊ก มั่นว่าเทพของเซียวเหยานั่นเอง ให้มาใช้เหยาะแหยะว่าผมนั้น มันจั๊กจี้ครับ เลยต้องมีลูก ฉันอ่ะนะ ฉันอ่ะนี้ แทนผมที่ดูสุภาพๆครับ ถ้าสังเกตดูจะรู้ว่า บางประโยคผมก็ให้เซียวเหยาใช้ผมเหมือนกันครับ อย่างเช่นเวลาคุยกับ หลินว่านเอ๋อนั่นเองครับ J ผมแปลถึง ตอนที่ 82 เท่านั้นครับ เนื่องจากมีคนมารับช่วงต่อแล้ว(ผมไม่รู้จักเขา) แล้วก็เนื่องจาก ฉบับการ์ตูนเองก็เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วด้วย ด้วยรัก
ท่ากลางสมรภูมิรบที่มีอากาศเย็นเฉียบนั้นมีดสีแดงที่แฝงไปด้วยความกระหายเลือดนั้นได้เข้าจู่โจมที่คอของนายพล’ไป้ฉี’ ซึ่งคนที่จู่โจมนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
รองหัวหน้ากิลด์ปราก ‘ย่วยชิงเฉี่ยน’ นั่นเอง การโจมตีเมื่อซักครู่ของเธอนั้น ส่งผลให้นายพล’ไป้ฉี’ติดสถานะ มึนงง ซึ่งเธอเองก็ไม่ปล่อยให้โอกาสโจมตีของเธอต้องเสียไป
เธอจึงเตรียมตัวใช้สกิล [Bleed Lv3] โจมตีซ้ำเข้าไปอีกครั้ง ฉึก 321! การโจมตีอีกครั้งของเธอทำให้นายพล’ไป้ฉี’หลุดจากสถานะมึนงง ซึ่งเขาไม่รอให้’ย่วยชิงแยน’โจมตีอีกแน่นอน เขาจึงรีบถอยออกมาตั้งหลัก
แต่แน่นอนว่า’ย่วยชิงเฉี่ยน’นั้นไม่ปล่อยโอกาสดีๆให้หลุดมือแน่นอน เธอใช้สกิล [Backstab Lv3] ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังในการโจมตี 30% เมื่อโจมตีเข้าที่ด้านหลัง ซึ่งการโจมตีนั้น ทำให้นายพล’ไป้ฉี’ตายโดยไม่ต้องสงสัยเลย
“แย่แล้ว ไป้ฉีเสียท่าแล้ว!!”
ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุนั้น นายพล’หวางเจี้ยน’นั้นวิ่งมาพร้อมกับดาบของเขา เขาชักดาบออกมาฟัน เป็นการโจมตีที่เรียบง่ายนะ แต่’ชิงเฉี่ยน’ก็ไม่สามารถหลบหรือป้องกันได้ทัน จึงโดนเข้าไปเต็มๆ อั่ก! 272!
การโจมตีเมื่อครู่นั้นเกือบจะฆ่าเธอได้เลย และ’ชิงเฉี่ยน’นั้นก็ไม่รอช้ารีบ ถอยออกมาทันที แต่ว่า’หวางเจี้ยน’นั้นก็เตรียมสกิล [Combo Lv3] ตามมาโจมตีเธอต่อแบบติดๆ ดาบของเขาเปล่งประกายแสงสีทองออกมา
ซึ่งแสงนี้ก็คือเอฟเฟกต์ของสกิล [Combo] นั่นเอง
“รีบฮีลฉันเร็วๆหน่อยสิ โธ่!”
‘ชิงเฉี่ยน’เก็บมีดของเธอแล้ววิ่งออกมา พร้อมๆกับสกิล [Hemostasis Lv3] สองครั้งนั้นถูกร่ายให้กับเธอ ส่งผลให้ HP ของเธอฟื้นฟู 300 HP ทำให้ HP ของเธอกลับมาเต็มอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าตอนนี้’ชิงเฉี่ยน’นั้นถูกจู่โจมโดย’หวางเจี้ยน’ ชายผู้น่าจะมีอายุราวๆ 20 กว่าปีอยู่ แต่บนใบหน้าของเธอนั้น กลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลย แต่สีหน้าของเธอนั้นกลับดูมีสติพร้อมรับมือกับการโจมตีของ’หวางเจี้ยน’
ย้าก!!
‘หวางเจี้ยน’นั้นพุ่งออกมาจากพุ่มไม้พร้อมกับใช้สกิล [Heavy Strike]
ซึ่งถ้าการโจมตีนี้เข้าเป้าแล้ว ‘ย่วยชิงเฉี่ยน’น่าจะไม่รอดแน่ๆ
ฉึก!!
ก่อนที่การโจมตีของ’หวางเจี้ยน’นั้นจะถึงตัวของ’ย่วยชิงเฉี่ยน’ เขาได้ถูกลอบโจมตีเข้าที่ด้านหลังก่อน การโจมตีนั้นสร้างความเสียหายมากกว่า 250 ซึ่งคนที่ลอบโจมตีเขานั้นก็คือ แอสซาซินสาวสวยอีกคน เธอโจมตีต่ออีกครั้ง การโจมตีครั้งที่สองของเธอสร้างความเสียหายประมาณ 180
“ตายซะ!!”
‘ชิงเฉี่ยน’เข้าโจมตี’หวางเจี้ยน’ ‘หวางเจี้ยน’นั้นกระโดดหลบไปด้านข้างเพื่อหลบการโจมตีของ’ชิงเฉี่ยน’ พร้อมกับดื่มยา HP และกวาดดาบไปใส่แอสซาซินอีกคนเพื่อสร้างโอกาสในการหนีลงจากหุบเขา ที่ทำแบบนี้เพราะว่าเขารู้นั่นเองว่าถ้าต้องสู้กับ ‘แอสซาซิน’ สองคนพร้อมๆกันนั้นไม่น่าจะรอดแน่ๆ
บนหุบเขาในตอนนี้นั้นมี ‘แอสซาซิน’สาวสวยทั้งสองยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กันอยู่ ซึ่งถ้าไม่นับของสวมใส่ของพวกเธอแล้วนั้น พวกเธอทั้งสองคนที่แทบจะเหมือนกันเลย ถึงแม้ว่าเกมนี้นั้นจะให้สร้างตัวละครที่คล้ายๆกันได้นั้น แต่ก็ไม่สามารถสร้างให้คล้ายกันแบบนี้ได้ แต่มันก็มีข้อยกเว้นอยู่
นั่นก็คือ….ทั้งสองคนนี้ต้องเป็นฝาแฝดกันแน่ๆ
‘ย่วยชิงเฉี่ยน’ LV 26 แอสซาซิน ‘ย่วยเว่ยเหลี่ยง’ LV-26
แอสซาซิน ตกใจเลยแฮะ ไม่คิดเลยว่า’ชิงเฉี่ยน’นั้นจะมีพี่น้องฝาแฝดด้วย และดูเหมือนว่าทั้งสองคนนั้นก็มีความสามารถพอตัวเลยทีเดียวไม่งั้นก็คงจะไม่เป็นที่ต้องตาของแหยนเจ่าหรอก
ตอนนี้สมรภูมิรบนั้นก็มีสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ นายพล’หลี่มู่’นั้นฉลาดมาก เขาใช้แผนจัดการกับฮีลเลอร์ก่อน เพื่อที่จะตัดกำลังในการฟื้นฟู ซึ่งแผนของเขาก็ได้ผล เพราะตอนนี้นั้นเขาก็ได้เปรียบเรื่องกำลังคนแล้ว
หึ ถึงแม้ว่า’แหยนเจ่า’จะเก่งมากแค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะไปช่วยทุกคนได้ในเวลาเดียวกันหรอกนะ และหลังจากที่เขาเห็นฮีลเลอร์ของเขาค่อยๆตายกันไปทีละคนโดยฝีมือของเหล่าพลธนู เขาก็ตะโกนด้วยเสียงที่โกรธแค้นว่า
“พวกนายทั้งหลายตามฉันมา เราจะไปฆ่าเจ้าพวกนักธนูกัน”
แต่ก่อนที่กลุ่มของ’แหยนเจ่า’นั้นจะไปถึงตัวของพวกพลธนู ‘หลี่หมู่’นั้นก็ได้เตรียมกลุ่มของเขามาขัดขวางกลุ่มของ’แหยนเจ่า’แล้ว ผ่านไปไม่นาน ‘แหยนเจ่า’ก็ทะลวงไปถึงกลุ่มของพลธนูได้สำเร็จ แต่ว่าสมาชิกของกลุ่มเขานั้นก็ตายกันเกลี้ยงหมดแล้วเช่นกัน
นายพล’เหลี่ยนปั๋ว’ นั้นเป็นนักธนู Lv25 แต่ดูหน้าตาแล้วอายุน่าจะคูณ 2 เลเวล บุคลิคของเขานั้นก็ให้เปรียบก็คงจะเป็นผู้อาวุโสของกลุ่มนายพล ‘แหยนเจ่า’เองก็เป็นตาลุงที่อายุอารามน่าจะราวๆ 40 ดังนั้น การต่อสู้ตรงนี้ก็คือการปะทะของลุงสินะ น่าสนใจจะแฮะว่าผลจะเป็นยังไง
‘ฉึก!!’
‘เหลี่ยนปั๋ว’ ถอยหลังไปเรื่อยๆพร้อมกับยิงธนูเพลิงเข้าที่แหยนจั้ว ทำให้ HP ของแหยนเจ่าเหลือต่ำกว่าครึ่งในเวลาไม่กี่วินาที
“เตรียมตัวตายซะเถอะ!”
หลังจากที่ทนให้เขายืนยิงอยู่ ในที่สุด’แหยนเจ่า’ก็เข้ามาถึงตัว’เหลียนปั๋ว’ได้ แต่เขากลับไม่เอาดาบมาฟัน แต่เลือกที่จะต่อยแทน ซึ่งการโจมตีนั้นทำให้’เหลียนปั๋ว’เสียหลักล้มลงไป
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นแผนของ’แหยนเจ่า’ นั่นเอง เพราะการที่ศัตรูล้มลงนั้น ก็การันตีได้เลยว่าการโจมตีครั้งต่อไปของเขานั้นคงจะพลาดเป้าได้ยาก
ซึ่งฉันเองก็มองไม่ผิด ‘แหยนเจ่า’ใช้สกิล [Peerless Strike] ออกมาโจมตีใส่’เหลียนปั๋ว’ ผู้ที่กำลังล้มลงอยู่ มาแล้ว!! กระบวนท่า แต่’เหลี้ยนปั๋ว’ที่เสียหลักอยู่นั้นแสยะยิ้มออกมาพร้อมกลับถอยตัวกลิ้งลงจากเขาไป
ร่างกายของเขาตกลงที่หญ้าพอดี ดูเหมือนว่าเขาจะวางแผนใช้สภาพภูมิประเทศในการหลบสกิล [Peerless Strike] ของ’แหยนเจ่า’
เพราะว่า ‘แหยนเจ่า’ที่ไม่มีสกิล [Peerless Strike] นั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับนักดาบธรรมดาๆนั่นเอง ‘แหยนเจ่า’ที่เห็นว่าสกิลของตัวเองนั้นพลาดเป้า หน้าก็เปลี่ยนสีเลยทันที เขากัดฟันกุมมือแน่นก่อนจะสบถว่า
“เจ้าเล่ห์ เจ้าเล่ห์มากจริงๆ….”
‘แหยนเจ่า’สัมผัสได้ว่ามีสายลมพัดมาจากด้านหลัง จึงรีบหันไปมองก็พบกับนายพล’หลี่ปั๋ว’กำลังมุ่งหน้าเข้ามาจู่โจมเขา ซึ่งในกลุ่มนายพลนี้ ‘หลี่ปั๋ว’น่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากเขามีอันดับ 2 ของเมืองป้าฮวง
วิ้งๆ!
เสียงของการร่ายสกิลได้ดังขึ้นมาจากดาบของ’หลี่ปั๋ว’ เขาใช้สกิล [Combo Lv3] เข้าใส่หน้าอกของแหยนเจ่า
“199!”
“201!”
ร่างกายของ’แหยเจ่า’นั้นเริ่มสั่น แต่เขายังตั้งตัวได้จึงแทงเข่าใส่เข้าที่หน้าอกของ’หลี่ปั๋ว’ แล้วก็ใช้ดาบแทงเข้าไปที่คอของหลี่ปั๋วในเวลาเดียวกัน ให้ตายสิ ลุงคนนี้ใช้ได้เลย
“448!”
ก่อนการเข้าปะทะกับ’แหยนเจ่า’นั้น ‘หลี่ปั๋ว’ไม่ได้มี HP เต็มอยู่ ความเสียหายจึงส่งผลให้เขาตายในดาบเดียว ร่างกายของเขาค่อยๆคุกเข่าล้มลงก่อนจะตายกลายเป็นศพ ‘แหยนเจ่า’สูดลมหายใจลึกก่อนจะหยิบยา HP ขึ้นมาดื่ม แต่ยังไม่ทันได้ดื่ม เขาก็โดนธนูยิงตายก่อน ซึ่งตัวเขาเองก็ดรอปดาบของเขาออกมาด้วย
ซึ่งคนที่ฆ่าเขานั้นไม่ใช่ใครที่ไหน คนๆนั้นก็คือนายพล’เหลี่ยนปั๋ว’นั่นเอง นายพล’เหลี่ยนปั๋ว’เดินเข้ามาหยิบดาบก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“ดาบระดับทองแดงเลเวล 22 งั้นรึ ไม่เลวเลยนี่….”
ดูเหมือนว่าตอนนี้การต่อสู้ใกล้จะจบลงแล้ว ส่วนผลน่ะเหรอ? แน่นอนว่าฝ่ายนายพลนั้นเป็นผู้ชนะเนื่องจากมีจำนวนคนมากกว่า ตอนนี้ฝั่งนายพลนั้นมีอยู่ 5 คน ส่วนทางปรากนั้นเหลือแค่’ย่วยชิงเฉี่ยน’กับ’ย่วยเว่ยเหลี่ยง’เท่านั้น
ดูเหมือนว่าทั้งสองสาวกำลังรอจังหวะที่จะฆ่าบอสนั่นเอง ส่วนฉันนั้นยังคงนั่งรอดูผลต่อไป ไม่ทำอะไร
“บอสใกล้จะตายแล้ว พยายามอย่าให้ใครมาแย่งฆ่ามันไปได้เด็ดขาดเลยนะ”
นายพล’เหลียนปั๋ว’ตะโกนพร้อมกับหยิบธนูขึ้นมายิงเข้าไปที่คอของบอส บอสโกรธมากจึงเข้าไปโจมตีนายพล’หวางเจี้ยน’ แต่แน่นอนว่าทางฝ่ายนายพลนั้นยังมีฮีลเลอร์อยู่ และ’หวางเจี้ยน’เองก็ไม่ได้มีพลังป้องกันต่ำ
ทำให้เขายืนชนบอสได้สบายๆ 3% 2% 1%
HP ของบอสก็ใกล้จะหมดลงแล้ว หัวใจของฉันเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้’ชิงเฉี่ยน’กับพี่หรือน้องสาวของเธอคงกำลังเตรียมจะลงมือสินะ
หวังว่านะ และแน่นอนว่ามันเป็นไปตามที่ฉันหวังไว้ เริ่มจากการที่ฮีลเลอร์ของกลุ่มนายพลนั้นถูกโจมตีตายลงไปก่อน ซึ่งคนที่จู่โจมก็คือ’ชิงเฉี่ยน’นั่นเอง และเธอก็ไม่รอช้า เข้าไปจู่โจมนายพล’เหลียนปั๋ว’ให้ชะงักเป็นรายต่อไป
อีกด้านนึง ‘เว่ยเหลียง’นั้นก็ฆ่าบอสได้สำเร็จ บอสร้องครางก่อนจะตายลงไปแล้วก็ดรอปไอเทมมากมายออกมา
“รีบเก็บเร็ว”
นายพล’เหลียนปั๋ว’พูดด้วยท่าทีตื่นตระหนก แต่น่าเสียดายที่ความเร็วของอาชีพนักดาบนั้นสู้อาชีพแอสซาซินไม่ได้ ‘ชิงเฉี่ยน’นั้นไปถึงที่ศพบอสก่อนจะหยิบไอเทมมา หลังจากที่เธอได้ไอเทมแล้วเธอก็วิ่งขึ้นไปบนเขาพร้อมตะโกนว่า
“น้องสาว รีบถอยเร็ว พวกเราสู้ สองต่อห้าไม่ไหวหรอกนะ”
‘เว่ยเหลียง’นั้นไม่ถอยก่อนจะตอบไปว่า
“ไม่เป็นไร พี่ไปก่อนเลย ฉันจะสู้ถ่วงเวลาให้จนถึงที่สุดเอง”
นายพล’เหลียนปั๋ว’ที่ฟื้นฟูจากการชะงักนั้นถูก’เว่ยเหลียง’ที่หลบการโจมตีของ’หวางเจี้ยน’เข้ามาแทงเข้าเต็มหลัง แน่นอนว่า กลุ่มนายพลที่ไม่มีฮีลเลอร์แล้วนั้น ย่อมไม่สามารถทนทานการโจมตีได้ จึงตายลงทันที ‘หวางเจี้ยน’ตะโกนขึ้นมาว่า
“ฉันจะตามชิงเฉี่ยนไปเอง เพราะว่าของอยู่ที่เธอ”
ด้านหลังของ’หวางเจี้ยน’ ‘เว่ยเหลียง’เพิ่งจัดการกับเบอร์เซิร์กเกอร์ไปอีกคน แต่ก่อนที่เธอจะตั้งหลังได้ ก็มีหินผลุดขึ้นมาจากดินระเบิดใส่เธอเข้าเสียก่อน นั่นคงจะเป็นสกิลของนักเวทย์ที่มีเลเวล 20 สกิลนั้นก็คือ [Rock Spikes] สินะ
‘ย่วยเว่ยเหลียง’ที่โดนเข้าไปเต็มๆนั้นก็แน่นอนว่าทนความเสียหายไม่ไหวจึงตายตามไปอีกเช่นกัน ทางด้านบนเขา
‘ชิงเฉี่ยน’นั้นวิ่งผ่านหนามโดยไม่สนใจความเจ็บปวด เพราะว่าเธอเองต้องรีบหนีไปพร้อมกับไอเทม ด้านหลังก็มี’หวางเจี้ยน’ตามมาติดๆ ทางด้านหวางเจี้ยนนั้นใช้สกิล [Haste Lv3] ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตีและเคลื่อนที่ จึงทำให้เขาเข้าใกล้’ชิงเฉี่ยน’มากขึ้นไปทุกๆที และไม่เพียงแค่นั้น นักเวทย์ก็ตามมาติดๆเลยด้วย
“ให้ตายสิ…”
‘ชิงเฉี่ยน’ขมวดคิ้ว บ่งบอกถึงความย่ำแย่ของสถานการณ์ในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งตอนนี้ต่อให้เธอใช้ใบวาร์ปกลับเมือง ก็ยังต้องใช้เวลาร่ายถึง 5 วินาที ซึ่งเวลาขนาดนั้นก็เพียงพอให้’หวางเจี้ยน’ฆ่าเธอได้ถึง 2 ครั้งเลยทีเดียว
“ตายซะ!”
‘หวางเจี้ยน’ที่ตามมาทันแล้วก็ยกดาบเข้าฟันไปที่ย่วยชิงเฉี่ยนทันที
“258!”
‘ชิงเฉี่ยน’ที่โดนโจมตีนั้นเริ่มเสียหลัก แถมเธอเองก็ยังโดนเวทย์น้ำแข็งเข้าด้วย ทำให้ยิ่งเคลื่อนที่ได้ช้าลงกว่าเดิม ทำให้นักเวทย์ของอีกฝ่ายก็ตามมาทันจนได้
“226!”
ถึงแม้ว่า’ชิงเฉี่ยน’จะใส่ของดีแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็น่าจะมี HP ราวๆ 500 ได้
ซึ่งการโจมตีสองครั้งนี้ก็น่าจะทำให้เธอปางตายแล้วล่ะนะ ฉันที่ยังคงซ่อนตัวอยู่ที่พุ่มไม้ในตอนนี้นั้นกำลังสับสนว่าจะเอายังไงดี ระหว่างจะเข้าไปช่วยเพื่อน หรือไม่ควรเข้าไปยุ่งกับเรื่องของชาวบ้าน
ซึ่งก่อนหน้านี้นั้น’ชิงเฉี่ยน’เคยพูดไว้ว่าพวกเราเป็นเพื่อนกัน ฉันกัดฟันก่อนจะตั้งสัจจะไว้กับตัวเองว่า ฉันจะฮีลให้เธอ แต่ไม่ช่วยโจมตี ฉันร่ายสกิล [Heal] ให้กับย่วยชิงเฉี่ยน
“+450!”
“เอ๊ะ ได้ยังไงกัน?”
‘ชิงเฉี่ยน’ดูงุนงงเล็กน้อย ‘หวางเจี้ยน’หันหน้ามาทางที่ฉันซ่อนตัวอยู่ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
“ยังมีฮีลเลอร์ซ่อนตัวอยู่แถวนี้อีกคน”
‘ชิงเฉี่ยน’นั้นไม่ปล่อยให้โอกาสที่เธอได้รับมานั้นให้หลุดมือ เธอจึงรีบเข้าไปโจมตีนักเวทย์ ซึ่งการที่นักเวทย์เลเวลยังไม่ถึง 40 จึงทำให้ไม่มีสกิล [Mana Shield]
แน่นอนว่ารับการจู่โจมของนักฆ่าไม่ไหวแน่นอน
เพล้ง!
ระหว่างที่เธอกำลังโจมตีนักเวทย์อยู่นั้นก็โดนสกิลน้ำแข็งเข้าไปอีกที ฉันจึงร่ายสกิล [Hemostasis Lv3] ให้เธอ ‘หวางเจี้ยน’ที่กำลังคอยจับตาอยู่ก็รู้ว่าฉันอยู่ตรงไหน จึงรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับเตรียมใช้สกิล ก่อนที่เข้าจะตะโกนขึ้นมาว่า
“เซียวเหยาจื้อไจ้งั้นรึ? นายหาเรื่องตายงั้นเรอะ?”
ที่มา: