ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป(หมอกเย้ายวน) เป็นเสียงของ’หลิวอิง’นั่นเอง หมอนั่นสาปแช่งฉันก่อนที่จะเจอตัวฉันซะอีกนะเนี่ย แน่นอนอยู่แล้วว่าฉันไม่ยอมปล่อยให้มันได้เข้าใกล้’หลินว่านเอ๋อ’หรอก เธอรู้ดีว่า’หลิวอิง’เป็นคนยังไง แล้วก็รังเกียจด้วย
ดังนั้นแล้ว ต่อให้มันพยายามยังไงเธอก็ปฏิเสธอยู่แล้วล่ะนะ
ฉันยืนขมวดคิ้วอยู่ที่บันไดทางลงไปชั้นที่สาม คือไม่รู้เหมือนกันว่า’หลิวอิง’นั้นจะพาคนมาเท่าไร ยิ่งไปกว่านั้นเป้าหมายหลักก็คือการฆ่าฉัน ส่วนของฉันนั้นก็คือการทำภารกิจให้สำเร็จแค่นั้นเอง เอาเถอะ ไม่มีทางเลือกล่ะนะ ยังไงก็ไปต่อดีกว่า ค่อยว่ากัน เมื่อฉันเดินมาถึงที่ชั้นสาม ไฟก็ถูกจุดติดขึ้นมาเอง
แต่จริงๆแล้วก็ไม่จำเป็นหรอกนะ เพราะว่าในแผนที่นี้นั้นมีไฟอยู่เยอะแล้ว หึๆ ในที่สุดก็เจอซักที เจ้า [Fire Skeleton] ร่างกายของพวกมันนั้นไม่มีเสื้อผ้า แต่กลับปกคลุมไปด้วยไฟ เมื่อฉันอ่านค่าสถานะมัน ก็เห็นเพียงแค่ว่ามันมีเลเวล 31 และจากการที่มันมีไฟนั้น แสดงว่าพลังโจมตีของมันก็ไม่น่าจะน้อยแน่ๆ
ฉันก้มลงดูค่าสถานะของตัวเอง ตอนนี้ฉันเลเวล 24 Exp 99% ส่วนโบโบ้นั้น 23 ซึ่งใกล้เคียงฉันมาก แต่ยังไงก็ตาม สัตว์เลี้ยงนั้นเลเวลจะไม่มีทางสูงกว่าเจ้านาย
“ลุยเลย!”
ฉันแทงหอกเข้าไปที่คอของเจ้าพวกกระดูกไฟ
“147!”
“189!”
พลังโจมตีของฉันนั้นน้อยมาก ซึ่งตรงจุดนี้ต้องขอบคุณโบโบ้ที่เป็นตัวทำความเสียหายหลัก เจ้ากระดูกไฟนี้แน่นอนว่าไม่ยอมโดนเป็นฝ่ายเดียวแน่ มันพุ่งเข้ามาต่อยที่อกของฉันเต็มๆ เป็นความแรงที่ถ้าเป็นเหตุการณ์จริงแล้ว กระดูกซี่โครงของฉันคงแหลกแน่ๆ
“389!”
โคตรแรงเลย สำหรับฉันที่มีค่าพลังป้องกันต่ำกว่า 150 แล้วนั้น การสู้ประชิดกับเจ้าพวกนี้มันโคตรเสี่ยงเลย ฉันถอยไปให้โบโบ้เป็นฝ่ายล่อ ผ่านไป 20 วินาที เจ้ากระดูกไฟก็ตายลงไป
แว้บ!!
เลเวลของฉันอัพเป็นเลเวล 25 พร้อมกับค่า EXP อีก 2%
โบโบ้เองก็เลเวล 24 เจ้ากระดูกนี่ให้ค่า EXP ไม่เลวเลยทีเดียว เยี่ยมเลย
ถ้าฉันจัดการกับเจ้าพวกนี้อีกประมาณ 30-40 ตัวแล้ว คงเลเวลอัพเป็นเลเวล 26 แน่ๆ
ยิ่งฉันกับโบโบ้สู้ด้วยกันมากขึ้นเท่าไร พวกเรายิ่งประสานงานกันดีขึ้นเรื่อยๆ ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง ฉันก็มีเลเวล 26 ส่วนโบโบ้นั้นมี
เลเวล 25 [โบโบ้]
(Bee Overlord) เลเวล : 25
พลังโจมตี : 369-492 พลังป้องกัน:246
HP:615 พลังเวทย์:246
Skills:【Combo Lv3】【Stinger Lv3】
แม่เจ้า!! พลังโจมตี 492 มันสูงกว่าผู้เล่นเลเวล 30 อีกนะเนี่ย แถมพลังป้องกันก็พอๆกันกับอาชีพที่ใส่ชุดเกราะเหล็กเลเวล 30 อีกด้วย เจ้าโบโบ้นี่เหมาะแก่การ PK มากๆเลยนะเนี่ย ตอนนี้ฉันก็ไม่ได้ยินเสียงของเจ้าฉีชูป้าหวางมากว่าชั่วโมงแล้ว
แต่ก็ประมาทไม่ได้ ฉันคิดว่าพวกนั้นคงกำลังยุ่งอยู่กับการสู้กับพวกมอนสเตอร์ล่ะนะ เปิดนาฬิกามาดูตอนนี้เป็นเวลาตี 1 อืม ไว้ค่อยไปนอนในคาบเรียนก็แล้วกันเนอะ ฉันจัดการเจ้าพวกโครงกระดูกไฟไปมากมาย
ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ฉันก็เลเวลอัพเป็น 27 โบโบ้เองตอนนี้เลเวลก็เท่ากับฉันแล้ว พวกสัตว์เลี้ยงนั้นดีอยู่อย่างคือไม่ต้องพึ่งพาไอเทมแบบผู้เล่น แต่เน้นไปที่ค่าพรสวรรค์
ฉันเดินไปเรื่อยๆก็พบกับลานกว้างขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยพวกโครงกระดูกไฟ ตรงกลางนั้นมีบันไดลงไปที่ชั้น 4 อืม นี่ถ้าฉันจะลงไปต้องจัดการกับเจ้าพวกนี้ทั้งหมดเลยรึเปล่านะ? ตอนนี้ฉันสู้ทีเดียว 3 ตัวไหว แต่ถ้ามากกว่านั้นก็คงไม่ไหว
ฉันส่องไปที่พวกโครงกระดูกไฟ ก็เจอกับสิ่งๆหนึ่งที่ทำให้ตาของฉันเป็นประกาย สิ่งๆนั้นก็คือ
【Fire skeleton】(มอนสเตอร์ทั่วไป) เลเวล:1
ในที่สุดก็เจอซักที แต่ว่ามันอยู่ไกลจากระยะที่จะจับมัน ดังนั้นแล้วฉันต้องค่อยๆเดินเข้าไปพร้อมกับจัดการพวกที่ขวางทางจนกว่าจะถึงระยะล่ะนะ ฉันสั่งให้โบโบ้อยู่เฉยๆ แล้วล่อพวกโครงกระดูกมาทีละตัว จากนั้นค่อยรุมจัดการมัน
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ฉันก็ได้ยินเสียงผู้เล่นคนอื่นๆมาถึงที่ชั้นสาม และแน่นอนว่า หนึ่งในนั้นก็คือเจ้า’ฉีชูป้าหวาง’ ทันทีที่หมอนั่นเห็นฉัน ตาของหมอนั่นก็ฉายไปด้วยความแค้น หมอนั่นพูดขึ้นมาว่า
“เซียวเหยา แกอยู่ที่นี่จริงๆด้วย ในที่สุดก็เจอแกจนได้ ครั้งนี้ ต่อให้แกมีปีกก็หนีฉันไม่ได้หรอกนะ”
โชคยังดีที่ระหว่างหมอนั่นกับฉันมีพวกโครงกระดูกไฟมากมาย ดังนั้นหมอนั่นจึงเข้ามาหาฉันแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ด้านหลังของ’ฉีชูป้าหวาง’ มีเจ้าหมูรายเก่ายืนอยู่ด้วยกันกับผู้ไล่ตามสายลม หมอนั่นมองมาที่ฉันด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะพูดว่า
“หัวหน้า ข่าวของผมถูกต้องใช่ไหมล่ะ? หมอนั่นมีเควสที่แผนที่นี้จริงๆด้วย”
‘ฉีชูป้าหวาง’พูดว่า
“ไปเรียกทุกๆคนมาที่นี้ พวกเราจะเคลียร์เส้นทางที่จะไปหาหมอนั่น ครั้งนี้หมอนั่นไม่มีโอกาสหนีรอดแล้วล่ะนะ”
ไม่นานก็มีนักเวทย์มา 5 คน ฮีลเลอร์ 3 พลปืน 2 นักธนู 3 แล้วก็ อัศวินอีก 7 อืม หมอนั่นพาคนมาราวๆ 50 ได้ นี่หมอนี่พาทั้งหมดนี่มาเพื่อฆ่าฉันเนี่ยนะ? ตีค่าฉันที่เป็นฮีลเลอร์สูงเกินไปรึเปล่าเนี่ย? ผู้ไล่ตามสายลมส่องเลเวลฉันแล้วพูดว่า
“หัวหน้า หมอนี่ตอนนี้เลเวล 27 แล้ว สูงกว่าหัวหน้าอีกนะครับ”
‘ฉีชูป้าหวาง’หัวเราะ
“แล้วไงล่ะ ฉันจะทำให้มันเหลือ 26 เอง”
เจ้าหมูสอดส่องรอบๆแผนที่ ก่อนจะพูดว่า
“หัวหน้าครับ ดูนั่นสิ”
“อะไร?!”
เจ้าหมูชึ้ไปที่โครงกระดูกไฟตัวหนึ่ง
“นั่น [Fire Skeleton] Lv1 นี่ครับ ก่อนหน้านี้ผมเพิ่งได้การ์ดมันมา”
“ดี”
‘หลิวอิง’พูดด้วยรอยยิ้ม
“รีบเคลียร์ทางกันเถอะ แล้วหลังจากนั้นก็จัดการกับเซียวเหยา แล้วก็ไอ้เจ้าโครงกระดูกเลเวล 1 นี่”
เสียวสันหลังนิดนึงเลยแฮะ พาพวกมามากขนาดนี้ แถมยังมีพวกโจมตีระยะไกลอีก ฉันต้องรักษาระยะห่างไว้ให้ดีล่ะนะ ไม่งั้นไม่รอดแน่ๆ แต่ฉันไม่ยอมเสียเจ้าโครงกระดูกไฟเลเวล 1 ที่อุตส่าห์เจอหรอกนะ เพราะถ้าจับมันมาได้ ต่อให้ตายก็ยังคุ้มอยู่
ระหว่างนี้พวกของ’ฉีชูป้าหวาง’ก็กำลังจัดการกับมอนสเตอร์อยู่ คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกราวๆสองนาทีถึงมาถึงตัวฉันได้ เอาล่ะ ตอนนี้ฉันต้องทำอะไรซักอย่างแล้วล่ะนะ อืม เอางี้แล้วกัน วิ่งไปให้ไกลจากจุดนี้ก่อนก็แล้วกัน
“หัวหน้าครับ พอรู้ไหมว่าเขากำลังจะทำอะไร?”
เจ้าหมูถาม ‘หลิวอิง’ยิ้ม
“หมอนั่นมันก็แค่กำลังกลัวอยู่น่า ไม่ต้องไปสนใจก่อน ตอนนี้เราจัดการกับพวกมอนสเตอร์ทั้งหลายก่อนก็แล้วกัน หลังจากนั้นค่อยว่ากัน”
”ครับ”
ฉันเรียกโบโบ้ออกมา แว้บ!
ฉันสั่งให้โบโบ้บินไปยังกลุ่มของมอนสเตอร์ แล้วลากมันเข้าไปใส่พวกของฉีชูป้าหหวาง
“แย่แล้ว หมอนั่นมันใช้สัตว์เลี้ยงแล้ว”
เจ้าหมูหน้าถอดสี
“รีบฆ่าสัตว์เลี้ยงของมันเร็ว ไม่งั้นแล้วมีหวังเจ้าพวกโครงกระดูกนี่มันตามมาเก็บพวกเราเรียบแน่ๆ”
ผู้ไล่ตามสายลมตระโกนลั่น ก็ทำถูกแล้วล่ะนะ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาช้าไป เพราะในระหว่างที่นักธนูของพวกเขากำลังเล็งโบโบ้อยู่นั้น ก็โดนเจ้าโครงกระดูกสอยเอาก่อน นี่ก็จำเป็นบทเรียนเอาไว้ก็แล้วกันนะพวกนาย ว่าอย่าประมาทคู่ต่อสู้
“ถอยก่อน ถอยกลับไปที่ชั้น 2 ก่อน”
‘หลิวอิง’สั่งการ ตัดสินใจได้ไม่เลว แต่ถึงอย่างนั้นพวก โครงกระดูกก็บุกมาถึงแล้ว จะหนีไปไหนกันล่ะ? ผ่านไปแปปเดียว กลุ่มของ’หลิวอิง’ก็ตายกันไปมากกว่าครึ่ง น่าสงสารจริงๆ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ เซียวเหยาจื้อไจ้!”
ฉันหัวเราะพร้อมกับเรียกโบโบ้กลับมา แล้วฉันก็เริ่มจัดการกับพวกโครงกระดูกไฟที่เหลือ เพิ่อที่ฉันจะได้ไปจับเจ้าโครงกระดูกเลเวล 1 นี่ซักที ผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมง ‘หลิวอิง’ยังไม่โผล่หน้ามา ช่างมัน ตอนนี้เจ้าโครงกระดูกเลเวล 1 ก็อยู่ห่างฉันประมาณ 42 หลาได้
สิ่งที่ฉันต้องทำตอนนี้ก็คือจัดการกับเจ้าโครงกระดูกอีกสองตัว ก็จะถึงระยะจับ แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีลงมาที่ชั้น 3
เธอเล่นเป็นแอสซาซิน หน้าตาสวยเอาการเลยล่ะ ตอนนี้ HP ของเธอเหลืออยู่ประมาณ 40% สีหน้าของเธอก็ทำท่าไม่ค่อยดีแล้วและตอนนี้เธอเองก็กำลังวิ่งหนีเจ้า ผู้ไล่ตามสายลมอยู่นั่นเอง
“ยัง ยังไม่หยุดอีกงั้นหรอ? ยัย XXX เอ้ย ไปตายซะ!!”
ผู้ไล่ตามสายลมหยิบมีดขึ้นมาหวังจะแทงแต่ว่า แอสซาซินสาวคนนั้นจับข้อมือของเขาไว้ได้ทัน จากนั้นก็จับล็อคไว้แล้วก็หยิบมีดของเธอมาแทงที่หลังของเจ้าผู้ไล่ตามสายลม
ฉึก!!
เลือดของผู้ไล่ตามสายลมทะลักออกมาจากแผล แล้วหมอนั่นก็ตายอีกรอบนึง…. แต่จู่ๆร่างกายของเธอก็สั่น เลือดออกจากหัวไหล่ของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะโดนพลปืนของกลุ่มหลิวอิงยิงเข้าให้เสียแล้ว!!
เอาล่ะ ความยุติธรรมในตัวของฉันมันบอกว่าต้องช่วยเธอแล้ว ฉันใช้สกิล [Heal] ให้กับเธอ แล้วก็ให้โบโบ้จัดการกับเจ้าพลปืนนั่น หลังจากนั้นฉันก็จูงแขนของเธอ พร้อมกับสั่งให้เธอวิ่ง เธอมองมาที่ฉันด้วยดวงตาที่กลมสวยงามก่อนจะพูดว่า
“ผะ…ผึ้งของนายนี่สุดยอดไปเลยนะ”
ฉันพยักหน้า
“ไม่เท่าไรหรอกน่า”
ระหว่างที่คุยกันฉันก็มองดูค่าสถานะของเธอ
ID : เยี่ยนส่อเฟิงย่วย เลเวล : 24 เผ่า : มนุษย์ อาชีพ : แอสซาซิน
“เธอไปทำอีท่าไหนหรอถึงได้ถูกพวกนั้นตามล่าเอา?”
ฉันถาม ‘เยี่ยนส่อเฟิงย่วย’ห่อปากของเธอก่อนจะตอบว่า
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันตั้งใจมาเก็บเลเวล แต่จู่ๆพวกนั้นก็เข้ามาโจมตีฉันเฉยเลย สัตว์เลี้ยงของฉันก็ตายด้วย ตัวนั้นพี่ของฉันอุตส่าห์จับมาให้แท้ๆ ฉันพยายามหลบพวกนั้นที่ชั้น 3 นะ แต่ก็ไม่สำเร็จ โดนจับได้อยู่ดี”
“อืม ถ้างั้นมากับฉันก็ได้ ฉันจะล่อพวกมันแล้วเธอก็ฆ่าเพื่อเก็บเลเวลไปก็แล้วกันนะ”
“อื้ม!!”
จากนั้นฉันก็เริ่มล่ากับเธอ และในที่สุด ฉันก็เข้ามาถึงระยะจับเจ้าโครงกระดูกไฟเลเวล 1 นี้ซักที ฉันเลยพูดกับเธอว่า
“เฟิงย่วย ฉันขอตัวจับเจ้าโครงกระดูกไฟเลเวล 1 นี้ก่อนนะ”
“เอ๊ะ?”
เธอดูตกใจก่อนจะพยักหน้า
“อืมๆ”
แว้บ!
“ผนึกอันแรก MISS!”
“อันที่สอง MISS!”
ฉันเริ่มรู้สึกหัวร้อน แต่’เฟิงย่วย’ที่อยู่ข้างๆฉันนั้นดูหัวร้อนมากกว่าฉันอีก หรือว่า…..ไม่หรอกมั้ง?
ขณะที่ฉันกำลังโยนผนึกอันที่สามออกไป เธอก็ทำให้โบโบ้ติดสถานะมึนงง แล้วเธอก็เอามีดมาแทงที่เอวของฉัน
“312!”
ค้างคาวของเธอเองก็โจมตีฉันเช่นกัน สร้างความเสียหายมากถึง 200 กว่า
การโจมตีของเธอเร็วมาก เร็วจนฉันฮีลตัวเองไม่ทัน
ที่มา: