ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหลังเวลาผ่านไปสักครู่ ‘จื่อหลิง’ ก็ลาก ‘ชูเฟิง’ เข้าไปในกลุ่มของนาง ภารกิจครั้งนี้จึงเริ่มขึ้น
พวกเขาแยกออกเป็น 2 กลุ่ม โดยมีสองอาวุโสนำหน้า พวกเขามุ่งหน้าไปยังบริเวณพื้นที่ปลอดภัย
ในกลุ่มของ’ชูเฟิง’มีเกือบ 500 คน โดยมีสตรีอยู่ 50 คน มิหนำซ้ำอาวุโสที่รับผิดชอบในการนำทาง ยังเป็น ‘หลิว จือซุน’ โดยส่วนที่เหลือทั้งหมดล้วนแต่ชายหนุ่ม
จริงๆมันควรจะเป็น หมาป่าน้อยกว่าเนื้อ แต่นี้กลายเป็นว่า เนื้อน้อยกว่าหมาป่า
ในสถานการณ์เช่นนี้ เหล่าบุรุษอัจฉริยะจากทั่วทุกสารทิศ เรื่มที่จะปูเส้นทางเพื่อให้ได้รับความชื่นชอบจากเหล่าสตรีอัจฉริยะที่แสนงดงาม
โดยเฉพาะ ‘จื่อหลิง’ นางต่างมีชายหนุ่มลุมล้อมเข้าหา แต่ผู้ใดที่เข้ามาใกล้นาง นางก็จะตวาดไล่อย่างไม่ใยดี แม้แต่ผู้ที่ได้รับจดหมายเชิญอย่าง ซ้ง ฉิงเฟิง, ไป๋ หยวนเฟย, หลิว เสี่ยวเหยา ก็ไม่เว้น
เมื่อพวกเขาเห็นแบบนั้น ผู้จัดการอาวุโส ยังต้องส่ายหน้าของพวกเขาโดยไม่กล้าจะเข้าไปยุ่ง ‘จื่อหลิง’ที่ทิ้งระยะจากชายหนุ่ม นางกับเป็นคนขอเข้าร่วมการแต่งงาน ตราบใดที่พวกเขานึกถึงสถานะพิเศษของนาง และ ปู่ของนางที่เหมือนกับสัตว์ประหลาด ที่แม้แต่เจ้านครยังหวาดกลัว ผู้จัดการอาวุโสจึงได้แต่มองอย่างช่วยไม่ได้
ถึงแม้ว่า’จื่อหลิง’จะออกห่างจากชายหนุ่มคนไกลเป็นโยด แต่สิ่งต่างๆเหล่านั้นกับได้รับการยกเว้น สำหรับ’ชูเฟิง’ ขณะนั้นนางดึง’ชูเฟิง’ไว้ข้างๆตัวนาง ดังนั้น ‘ชูเฟิง’ จึงหาทางหนีออกไปไม่ได้
แต่นั้นก็นับเป็นโอกาส เมื่อหาทางหนีไม่ได้ ‘ชูเฟิง’ก็ไม่ยอมที่จะอยู่เฉย ตอนนั้นเขาก็เรื่มหาทางให้ได้เป็นเพื่อนกับ’จื่อหลิง’ และบางครั้งเขาก็หาประโยชน์เล็กๆน้อยๆจากนาง นั้นจึงทำให้คนอื่นๆยากที่จะทนต่อไปได้
ในตอนนั้น ซ้ง ฉิงเฟิง , ไป๋ หยวนเฟย และหลิว เสียวเหยา ทั้งสามคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรี เดินมาขวางหน้าของ ‘ชูเฟิง’ เพื่อต้องการจะให้’ชูเฟิง’ออกห่างจากจื่อหลิง จากนั้นพวกเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แหลมคม
” เจ้าหนู ทำไมเจ้าถึงสัมผัสแม่นางจื่อหลิง รักษามารยาทด้วย!!! “
ตอนนั้น หน้าของ’ชูเฟิง’เหมือนกำลังอยากจะพูด ขณะที่เขามองหน้าไปที่’จื่อหลิง’เพื่อจะอ้าปากพูด แต่’จื่อหลิง’ที่อยู่ข้างๆดันพูดแทรกขึ้นมันซะแบบนั้น
” พวกเจ้า อยากจะยุ่งเรื่องของข้ากับชูเฟิงมากใช่ไม๊ หากเจ้ายังกล้าขวางทางข้า อย่าหาว่าข้าหยาบคาย “
น้ำเสียงของ’จื่อหลิง’ที่แสนไพเราะ แต่คำพูดของนางราวกับว่าไม่เห็นพวกเขาทั้งสามอยู่ในสายตา
” พวกเรา . . . เรา . . . “
ตอนนั้น ‘ซ้ง ฉิงเฟิง’และอีกสองคน ได้แต่ยืนอ้ำอึ้งด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด โดยไม่รู้ว่าพวกเขาควรทำยังไงต่อ ซึ่งพวกเขาไม่เคยคิดว่า ‘จื่อหลิง’ นางจะตอกหน้าพวกเขาเช่นนี้
ตอนนั้นพวกเขาหมดหนทางหาข้ออ้างใดๆ ขณะที่ฝูงชนกำลังมองดู พวกเขาได้แต่ยืนนิ่งอย่างเคว้งคว้าง อีกทั้งเสียหน้าอย่างแรง โดยไม่สามารถทำอะไรได้
” ฮ่ะฮ่า ไหนเจ้าว่าไม่ชอบข้า ? หากเจ้าไม่ชอบข้า เหตุใดถึงได้ช่วยข้าล่ะ ? “
‘ชูเฟิง’ หัวเราะขณะพูดคำเหล่านั้น เขาก็ขยายมือออกด้วยความชั่วร้ายไปที่เอวของ’จื่อหลิง’ อย่างช้าๆ
แต่เขาไม่รู้เจตนาที่แท้จริงว่าเหตุใด’จื่อหลิง’ถึงอยากให้เขาอยู่ใกล้ๆตัว ไม่ว่านางจะมุ่งร้ายต่อ’ชูเฟิง’ หรือ นางอาจแค่ต้องการให้’ชูเฟิง’อยู่ภายในระยะสายตา หรือเหตุผลอื่นๆ ‘ชูเฟิง’ก็จะใช้โอกาสนี้เริ่มแผนการ ชั่วร้ายกับ’จื่อหลิง’ เขาใช้วิธีการสร้างความน่าลำคาญและทำทุกอย่างได้อย่างหน้าไม่อาย
เพราะอะไรงั้นหรอ ก็เพราะต้องการให้’จื่อหลิง’โมโห จนทนเขาต่อไปไม่ได้ เพียงแค่นั้น ‘ชูเฟิง’ ก็จะมีโอกาสหนีออกจากกลุ่มไปได้
เนืองจากในปัจจุบัน การที่เขาอยู่ในกลุ่มนั้นไม่ปลอดภัย ‘ชูเฟิง’ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญสถานการณ์อันตรายใดๆบ้าง ขนาดแม้แต่ผู้จัดการอาวุโสยังไม่พอใจเขาที่เห็นเขาอยู่กับ’จื่อหลิง’ ดังนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นๆเลยในตอนนั้นนางรู้สึกได้ถึงมือของ’ชูเฟิง’ที่ยื่นเข้ามาใกล้ๆอย่างชั่วร้าย ‘จื่อหลิง’จึงได้แต่สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีและถอยก้าวออกไป จากนั้นก็จ้องหน้า’ชูเฟิง’และกล่าว
” เจ้าอย่าคิดแม้แต่น้อยว่าจะได้ความรักจากข้า ข้าแค่ไม่อยากให้ใครมายุ่งเรื่องงานของข้า อีกอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำเพือช่วยเจ้า “
” พูดต่อสิ พูดต่อ หากคนอื่นเชื่อที่เจ้าพูดก็คงจะดี!!! “
” พูดยังให้ตายยังไงข้าก็ไม่เชื่อ ข้าสัมผัสได้ชัดเจนว่าเจ้านั้นตกหลุมรักข้า และเจ้าก็ไม่มีทางออกห่างจากข้างกายข้า โดยอ้างเหตุผลงี่เง่านั้น เพื่อให้ได้อยู่กับข้าใช่ไม๊ล่ะ “
‘ชูเฟิง’ดึงมุมปากเก็บเข้ามา พร้อมกับหัวเราะขณะที่ใช้สายตาจ้องมองอย่างไปที่ยอดเขาที่แสนภาคภูมิของ’จื่อหลิง’อย่างไร้ยางอาย เมื่อเขาเห็นเช่นนั้น ก็ไม่สามารถที่จะอดแลบลิ้นออกมาขณะที่เลียริมฝีปาก
” เจ้า. . . . . ข้าไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายแบบเจ้ามาก่อนเลย หากไม่ใช่เพราะ . . . . . . อุ๊บ!!! “
ใบหน้าเล็กๆของ’จื่อหลิง’ เต็มไปด้วยความโกรธ จน’ชูเฟิง’สามารถมองเห็นรังศีอำมหิตพุ่งออกมาจากดวงตาของนาง ซึ่งสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรง แต่จิตสังหารนั้นผ่านมาเพียงครู่จากนั้นนางก็หยุดเอาไว้ สุดท่ายนางก็เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
” ข้าก็ยินดีนะที่ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับแม่นาง “
‘ชูเฟิง’ยิ้มขณะที่ดำเนินแผนการขณะที่ตามนางไป
” นี่แม่นาง อย่าได้โกรธเลย เพื่อให้เจ้าอารมณ์ดีขึ้นข้าจะเล่าเรื่องอะไรให้เจ้าฟัง “
” ข้าไม่ฟัง!!! “
” หากไม่ฟัง งั้นเจ้าบอกมา จะให้ข้าทำยังไงถึงจะหายโกรธ ? “
” หุบปาก ! ! ! “
ทุกคนรู้สึกว่า ‘ชูเฟิง’ได้รับโอกาสที่พวกเขาไม่เคยได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไร อย่างไรก็ตาม’ชูเฟิง’กับไม่นึกว่านางจะอดทนได้ถึงเพียงนี้ ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมให้’ชูเฟิง’ออกจากตัวไปเลย มันทำให้เขากดดันอย่างมาก
ขณะที่พวกเขาเห็น’จื่อหลิง’ เดินข้างกายของ’ชูเฟิง’ หลายๆคนอยากจะวิ่งเข้าไปอัด’ชูเฟิง’มาก แต่พวกเขาเกรงว่าจะถูก’จื่อหลิง’ตอกหน้ากลับหลังจากที่เห็น ซ้ง ฉิงเฟิง, ไป๋ หยวนเฟย และ หลิว เสียวเหยา หน้าหงาย พวกเขาก็ต้องล้มเลิกความคิดนั้น
” บ้าที่สุด ไอ้เด็กจากอาณาจักรมังกรฟ้านั้นมีอะไรดี แม่นางจื่อหลิง ถึงได้สนใจมันนัก “
‘ซ้ง ฉิงเฟิง’ ขบถฟันด้วยความเกรี้ยวโกรธ เขาที่เป็นทีต้องการของผู้หญิงนับไม่ถ้วน กับนึกไม่ถึงว่าจะพ่ายแพ้ให้กับเด็กพันธุ์นั้น
” ใครจะรู้ว่าจื่อหลิงกำลังคิดอะไรอยู่ บางทีนางอาจจะตาถั่วก็ได้ จึงได้ไปหลงรักคนชั้นต่ำ “
‘ไป๋ หยวนเฟย’ ขดริมฝีปากของเขาและที่กล่าวอย่างมันส์ปาก
” เท่าที่ข้ามอง แม่นางจื่อหลิง คงไม่ได้ชอบชูเฟิงจริงๆ แต่พวกเขาน่าจะรู้จักกันมาก่อน บางทีอาจเป็นไปได้ว่าเขามีความลับอะไรกันทีคนอื่นยังไม่รู้ “
‘หลิว เสียวเหยา’ เดาขึ้นมา
” หากเจ้าไม่รู้จริง ก็อย่าได้พูดส่งเดช เหตุใดจื่อหลิงต้องไปตกหลุมรักคนแบบมันด้วย “
ในตอนนั้น กลิ่นอายที่เย็นจะเย็นยะเยือกก็พัดผ่านด้านหลังของทั้งสาม เมื่อหันไปมองก็พบว่านั้นคือ ‘หลิว จื่่อซุน’
..
ที่มา: