ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” โอ้ว!!! . . . . . อาวุโสหลิว ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะกล่าวร้ายนาง แต่แม่นางจื่อหลิงที่งดงามเช่นนี้ มิควรมาร่วมในงานชุมนุมการแต่งงานร่วมกับผู้อื่น เห็นๆอยู่พวกท่านเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน “
เมื่อ ‘ซ้ง ฉิงเฟิง’ หันไปเจอ ‘หลิว จื่อซุน’ เป็นธรรมดาที่เขาจะยิ้มและกล่าวเช่นนั้น
” ถูกต้อง ดั่งคำที่ว่า ‘ ลำธารมิควรไหลออกจากทุ่งนา ‘ ข้าไม่รู้ว่า ท่านเจ้านคร ฉิน เล่ย คิดยังไงถึงยอมให้นางมาร่วมงานเลือกคู่ กับผู้อื่น ? “
肥水不流外人田 é ǐ ù ú à é á
” ถูกต้อง ถูกต้อง แม่นางจื่อหลิง นั้นเหมาะสมกับอาวุโสหลิวจริงๆ “
ในเวลาเดียวกัน ‘ไป๋ หยวนเฟย’และ’หลิว เสียวเหยา’ ดังขึ้นมาข้างๆ
” หืม!!! แทนที่จะเดือดร้อนเรื่องคนอื่น เป็นห่วงเรื่องตัวเองก่อนไม๊ “
” จำไว้ อย่าให้ข้าได้ยินพวกเจ้ากล่าวร้าย จื่อหลิง ไม่งั้นอย่าโทษข้าแล้วกัน “
‘หลิว จื่อซุน’ ไม่ได้แสดงออกกับคำพูดพวกเขา หลังจากจ้องมองทั้งสามคน เขาก็สบัดแขนของเขาอย่างเคร้งขรึม และเดินเข้าไปยังจุดนำทางที่อยู่เหนือสุดของกลุ่มหลังจาก ‘หลิว จื่อซุน’ เดินไปไกลแล้ว ‘ซ้ง ฉิงเฟิง’ ก่อนหน้านี้ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มขณะที่ทำตัวอ่อนน้อม ตกลงสู่ใบหน้าที่ชั่วร้าย ขณะที่กล่าว
” ท่าทีไอ้บ้านี้มันอะไร ? เด๋วมันจะต้องชดใช้ “
” ถูกต้อง เราจะต้องจัดการหลิว จื่อซุนเป็นคนแรก แล้วค่อยไปสับไอเจ้า ชูเฟิง จากนั้นเราทั้ง 3 ก็จะผลัดกันเข้าหานาง ในตอนนั้นแม้ว่านางจะต้องการพวกเรา เราก็ไม่สนใจอีกต่อไป ให้นางได้ชดใช้ที่ทำตัวยโสโอหัง “
‘ไป๋ หยวนเฟย’ กล่าวผ่านจิต
” ดี!! งั้นเราลงมือเลย ยังไงนี้ก็เป็นหุบเขาพันปีศาจอยู่แล้ว ดังนั้นเราจะโยนความผิดทั้งหมดไปให้พวกปีศาจมันซะเลย “
‘ซ้ง ฉิงเฟิง’ เห็นด้วยเต็มที่ และภายในดวงตาของเขาตอนนั้นเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
” พี่ ฉิงเฟิง พี่ หยวนเฟย ท่านทั้งสองอย่าได้วู่วาม มันจะดีกว่าหากเราไม่ยุ่งกับ หลิว จื่อซุน “
ในตอนนั้น ‘หลิว เสี่ยวเหยา’ ส่งคำพูดผ่านจิต
” ทำไมจะไม่ได้ เราจะไม่มีปัญญาเอาชนะเขางั้นหรอ หากเราทั้งสามร่วมมือกัน ? “
‘ซ้ง ฉิงเฟิง’ ‘ไป๋ หยวนเฟย’ ทั้งสองต่างแสดงท่าทีสับสน
” เชื่อข้า หลิว จื่อซุน ซ่อนไผ่ตายเอาไว้อีกมากและเขาก็ยังไม่เปิดเผยทุกอย่างออกมา หากเขาลงมือจริงๆ ข้าเกรงว่า แม้แต่ เจี่ย ฉิงหมิง กับ สู่ จงหยู่ ก็ไม่อาจเอาชนะเขาได้ “
‘หลิว เสียวเหยา’ กล่าวอย่างจริงจัง เมื่อยังเห็นว่าพวกเขาทั้งสองยังคงสงสัย เขาจึงต้องอธิบาย
” ภายในที่ราบหุบเขาไร้ใจ ก่อนที่เขาจะเป็นอาวุโสของนครอันทรงเกียรติ เขาลือกันว่า หลิว จื่อซุน ใช้ความแข็งแกร่งของเขา ฆ่าสองสัตว์มหึมาที่อยู่ในอาณาจักรสวรรค์มาแล้ว “
” หลิว จื่อซุน งั้นหรอ?? “
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ‘ซ้ง ฉิงเฟิง’ แล ‘ไป๋ หยวนเฟย’ ทั้งคู่ได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ สัตว์มหึมา ทรงพลังอำนาจ อายุขัยของพวกมันก็ยาวนานกว่ามนุษย์ เมื่อเทียบกับมนุษย์ในระดับพลังวิญญาณเท่ากัน
ความแข็งแกร่งของสัตว์มหึมาจึงเหนือกว่าพวกมนุษย์แล้ว’หลิว จื่อซุน’ที่สามารถฆ๋าสองสัตว์มหึมาที่อยู่ในอาณาจักรสวรรค์ได้ นั้นก็หมายความว่าความแข็งแกร่งเขาเหนือกว่า อย่างน้อยๆพวกเขาสามคนก็ทำแบบนั้นไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง สัตว์มหึมา สองตัว แค่สัตว์มหึมาอาณาจักรสวรรค์ตัวเดียว พวกเขาก็ไม่มีทางชนะมัน
จากนั้น ซ้ง ฉิงเฟิง, ไป๋ หยวนเฟย และ หลิว เสียวเหยา ไม่มีทางเลือกอื่น จึงต้องล้มเลิกความคิดที่จะหาเรื่อง ‘หลิว จื่อซุน’ สืบเนื่องมาจากที่ว่าพวกเขาไม่สามารถกำจัดเสี้ยนหนามอย่าง ‘หลิว จื่อซุน’ได้ ท้ายที่สุดผมเขาก็หมดโอกาสที่จะได้สัมผัส ‘จื่อหลิง’
สิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างอย่างแท้จริง คือการได้ลิ้มรสความงดงามอย่างไร้ที่ติดั่ง’จื่อหลิง’ แต่บัดนี้ พวกเขาได้หมดโอกาสนั้น นั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับพวกเขา แค่คิดมืงก็หำขาดแล้ว หุบเขาพันปีศาจกว้างใหญ่ อีกทั้งทางเดินแสนยาวไกล โดยเฉพาะความแข็งแกร่งของพวกเขาที่มีไม่เท่ากัน
ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่มีทั้งอาณาจักรกำเนิดและอาณาจักรแก่นแท้ ดังนั้น พวกเขาจึงต้องใช้เวลาทั้งวัน เพื่อไปยังจุดนัดพบตามเส้นทางพวกเขาแทบจะไม่พบสมุนปีศาจเลยสักตัว ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้ หากสมุนปีศาจปรากฏตัวในบริเวณรอบๆ นั้นก็จะเป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้ฆ่าสมุนปีศาจเพื่อแสดงความแข็งแกร่งให้สาวงามได้ประจักษ์ดังนั้นสมุนปีศาจทั้งหมดที่ปรากฏตัวออกมา
อาจพูดได้ว่า พวกมันดวงกุดแล้ว เนื่องจากพวกมันต้องมีชะตากรรมที่จะต้องถูกฆ่าอย่างหน้าอนาถ โดยกลุ่มชายฉกรรย์ที่ไร้จิตใต้สำนึก จนสภาพศพของมันส่วนนั้นขาด ส่วนนี้ขาด กระจัดกระจาย
” ถึงแม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นการทดสอบความกล้าหาญของพวกเจ้า เวลาเดียวกัน มันก็ยังมีการทดสอบขีดความสามารถโดยรวม “
” แต่ข้าแนะนำให้ทุกคนว่าอย่าได้แตกออกจากกลุ่ม และมันจะดีกว่าหากเลือกผู้นำมาสั่งการ “
” สำหรับคนที่จะมาเป็นผู้นำของแต่ละกลุ่ม เราจะให้พวกเจ้าเป็นผู้เลือก “
” ในอีกสิบเราจะเริ่มดำเนินการ และอีกสิบวัน ข้าก็จะมารอรับพวกเจ้าที่นี่ “
หลังจากผู้จัดการอาวุโสของนครอันทรงเกียรติชี้แจง พวกเขาก็พาคนทั้งหลายเดินมายังสถานที่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการที่เรียกกันว่า จุดรวมพล หลังจากนั้นผู้จัดการอาวุโสก็แยกตัวออกมาหมดทุกคนพร้อมกับทำการกระซิบกระซาบกัน เรื่องที่จะให้ใครจะเป็นผู้นำในตอนนั้น ‘หลิว จื่อซุน’ ก็เดินไปยังใจกลางของฝูงชน พร้อมกับมองไปรอบๆแล้วตะโกนขึ้น
” ทุกท่าน เหตุการณ์นี้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ก่อนที่พวกท่านจะไป ซึ่งที่พวกเราควรมีทั้งหมด คือ ผู้นำที่เหมาะสม เพื่อนำพาคนทั้งหลายให้รอดพ้นจากดินแดนอันตรายแห่งนี้ “
” ในฐานะที่ข้าเป็นสาวกอันดับ 1 ของนครอันทรงเกียรติข้า หลิว จื่อซุน มีความคุ้นเคยกับภูเขาพันปีศาจเป็นอย่างดีและเคยประมือกับสัตว์มหึมา หลายครั้งต่อหลายครั้ง ดังนั้นข้าจึงอาสาเป็นผู้นำ มีใครบ้างที่อยากคัดค้าน ? “
” ไม่มีเว้ย!!! ข้ายินดีที่จะให้อาวุโสหลิวเป็นผู้นำ “
” ข้าก็ยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นพลังวิญญาณ ความสามารถหรือสติปัญญา อาวุโสหลิวล้วนแต่เหนือพวกเราทั้งหมด ดังนั้นท่านเป็นคนเดียวที่เหมาะสมในการสั่งการ “
หลังจาก ‘หลิว จื่อซุน’ พูด หญิงงามทั้งหลายของนครอันทรงเกียรติทั้งหมดก็เริ่มเห็นด้วย และหลังจากที่พวกเขาทำการยอมรับ ก็ไม่มีใครกล้าออกความเห็นนอกจากนี้การคัดค้านยังหมายถึงการ ต่อต้าน หญิงงาม เมื่อพวกนางว่าถูก คนทั้งหมดก็ได้ยอมรับว่า ‘หลิว จื่อซุน’ คือคนที่เหมาะสุดที่จะนำพาพวกเขาแล้วก็เป็นไปอย่างที่ ‘หลิว จื่อซุน’ คิด
ว่าทุกคนจะต้องยอมรับ ดังนั้นเขา’หลิว จื่อซุน’ จึงตัดสินใจว่าจะไม่เข้าไปลึกมากกว่านี้ พวกเขาจึงตั้งสถานที่พักผ่อนในค่ำคืนที่นี้ เนื่องจากมันดึกมากแล้ว อีกทั้งทุกคนยังเหนื่อยล้าจากการเดินทางต้องบอกว่า ‘หลิว จื่อซุน’ มีความสามารถในการเป็นผู้นำ
หลังจากที่ตัดสินใจตั้งที่พัก เขาก็เริ่มแบ่งสันปันส่วนงานออกเป็นสัดส่วน ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณจะทำการตรวจสอบสิ่งที่บุกรุกและสร้างรูปแบบอำนาจฯเสริมการป้องกันก่อตัวโปร่งใสอยู่รอบๆบริเวณที่พัก’ชูเฟิง’เสนอตัวบอกว่าเขาเป็นผู้เชื่อมต่อฯ ไม่ใช่ว่าเขาต้องการอยากอวดอ้างความสามารถพิเศษ
แต่เขาต้องการวางรูปแบบฯให้มีช่องโหว่ เพื่อง่ายต่อการใช้ในยามหลบหนีเนื่องจากมีความแตกต่างของหญิง – ชาย จึงมีการเว้นระยะห่างสำหรับสถานที่พักระหว่างบุรุษและสตรีแต่อาจเป็นเพราะมันดึกมากและอยากที่จะพักผ่อน แน่นอนว่ามันย่อมลำบาก ‘จื่อหลิง’ไม่ได้ขอ ให้’ชูเฟิง’มาอยู่ใกล้ๆ
แต่เมื่อพวกเขากำลังจะแยกออกห่าง นางก็ขู่ ‘ชูเฟิง’
” หากเจ้าขืนปากโป้ง ข้าจะตัดปากเจ้า “
เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์นั้น ชูเฟิงจึงตัดสินใจหาทางแอบหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้ เมื่อยามสิ้นเสียงของผู้คน ท่ามกลางค่ำคืน
” น้องชูเฟิง ? น้องชูเฟิง อยู่หรือเปล่า ? “
ขณะที่แสงจันทร์สาดส่องลงมา ก็มีเสียงที่อ่อนหวานดังขึ้นมาจากหน้าทางเข้าที่พักของ’ชูเฟิง’ ด้วยเสียงนุ่มนวล
จะใช้จื่อหลิงไม๊
หากใช้ ชูเฟิง จะทำการกดไลค์ทันที . . . . . . .
เด๋วคัดคนต่อนะคับ . . . . .
ที่มา: