I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 69 แสงอรุณแห่งรัก

| Zhan Long | 1610 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

(ชื่อตอนจะเอ่ยถึงเนื้อหาความรักในหนัง ซึ่งคล้ายกับเรื่อง แสงอรุณแห่งรักครับ ลองอ่านเนื้อเรื่องย่อๆได้ที่นี่ครับ http://www.blike.net/node/4418 )

 

ฟุ้บ!! ทางหลินว่านเอ๋อเองก็เรียก Tigerman ออกมาดูเช่นกัน เมื่อมันถูกเรียกมามันก็คุกเข่าลงคำนับ’หลินว่านเอ๋อ’ ทันทีที่เธอเรียก Tigerman ออกมา ผู้คนในเมืองก็ต่างหันมามองกัน เพราะว่ายังไม่มีใครเคยเห็นเจ้านี่มาก่อน

ฉันหันกลับไปยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยน Tigerman อีกตัวให้’ตงเฉิงย่วย’ แน่นอนว่าเธอเองก็ต้องเรียกมันมาหลังแลกเปลี่ยนสำเร็จเช่นกัน แล้วมันก็จริง ทำให้ตอนนี้สายตาของคนทั้งเมืองนั้นหันมามองที่พวกเรา

“ฉันคิดว่าพวกเธอน่าจะไปได้แล้วนะ ก่อนที่จะกลายเป็นเป้าสายตา..”

ฉันยืนพิงกำแพงเมืองพูดกับพวกเธอ ‘ว่านเอ๋อ’พยักหน้า

“ย่วย กลับไปเก็บเลเวลให้เจ้านี่กันเถอะ ว่าแต่เธอจะเพิ่มค่า สถานะมันยังไงหรอ?”

“ค่าพรสวรรค์ของฉันเทียบเธอไม่ติด ดังนั้นแล้วฉันกะว่าจะเพิ่ม STR 4 VIT 6 เพราะฉันต้องการสัตว์เลี้ยงถึกๆน่ะ แล้วถ้าอัพแบบนี้แล้วพลังป้องกันก็น่าจะพอๆกับของเธอใช่ไหมล่ะ?”

‘หลินว่านเอ๋อ’ยิ้ม

“งั้นฉันอัพ STR 6 VIT 4 ดีกว่า พลังป้องกันมีมากไปมันจะโจมตีเบา”

“ให้ตายสิ คนที่มีพรสวรรค์ 100% นี่มันน่า…จริงๆ”

“กลับกันเถอะ!”

“อืม!”

ทั้งสองหันมายิ้มให้กับฉัน

“หลี่เซียวเหยา ตอนนี้ก็ดึกแล้ว พวกเราขอตัวกลับไปเก็บเลเวลเจ้าเสือนี่ให้เลเวล 15 ก่อนนะ จากนั้นก็ค่อยไปหาอะไรกินกัน โอเคไหม?”

“ไปกินที่ไหน?”

“ไปห้างน่ะ อยากไปซื้อเสื้ออยู่..”

“ว่านเอ๋อ ไม่ใช่ว่าการ์ดของเธอโดนระงับอยู่หรอ?”

“มันระงับซื้อเงินในเกมเฉยๆ ไม่ระงับซื้อเสื้อ..”

“อ่า..เข้าใจแล้ว ฉันจะไปรอก็แล้วกัน ว่าแต่จะไปกินข้าวก่อนรึเปล่า?”

“ค่อยไปกินที่ห้าง”

“ครับ”

แน่นอนว่าด้วยสัญญาจ้าง ทำให้ฉันต้องตาม’หลินว่านเอ๋อ’ไปทุกที่ที่เธอต้องการไป ดังนั้นคืนนี้คงไม่มีโอกาสเก็บเลเวลล่ะนะ แต่ก็นะ นานๆทีเปลี่ยนบรรยากาศบ้างมันก็ดีเหมือนกัน หลังจากที่ฉันมารับพวกเธอแล้ว’ว่านเอ๋อ’ก็เป็นคนขับรถพาไปที่ห้าง

ในขณะที่อยู่บนรถ ‘ตงเฉิงย่วย’พูดขึ้นมาจากเบาะหลังว่า

“เจ้า Tigerman นี่พัฒนาดีมากเลยนะ เลเวล 15 ก็มีพลังป้องกัน 400 แล้ว นี่ถ้าเก็บให้ถึงเลเวล 40 แล้วคงมีพลังป้องกันเป็น 1000 เลยล่ะ…”

ฉันหันกลับไป

“ใจเย็นๆ ไม่ต้องไปเพิ่มพลังป้องกันมาก ไม่งั้นแล้วจะไม่มีพลังโจมตีนะ”

“อืม เข้าใจแล้ว ว่าแต่เซียวเหยา ทำไมนายปล่อยให้ว่านเอ๋อที่เป็นนายจ้างของนายขับรถให้ล่ะ?”

ฉันนั่งตัวแข็งทื่อเลย ในขณะที่’ว่านเอ๋อ’ยิ้มแล้วพูดว่า

“หมอนี่มันขับไม่ลาดน่ะ..”

ฉันได้ยินแบบนั้นก็พูดว่า

“จากนี้ไป ฉันจะขับเอง..”

30 นาทีต่อมา พวกเราก็มาอยู่ที่ร้านอาหารของห้าง ฉันเลือกสั่งนื้อเสียบไม้รสเผ็ด พร้อมเครื่องเคียง และในระหว่างที่ฉันกำลังใช้ตะเกียบคีบเห็ดเข็มทอง ฉันก๊ถาม’หลินว่านเอ๋อ’ว่า

“มื้อนี้ว่านเอ๋อเลี้ยงใช่ไหม?”

“อืม”

“พี่!! ผมขอเนื้ออีก 10 ไม้ ”

“นายนี่มันตะกละจริงๆ!”

หลังจากที่พวกเราทานเสร็จแล้ว ‘ว่านเอ๋อ’กับ’เฉิงย่วย’ก็จะไปซื้อเสื้อผ้ากัน ระหว่างที่พวกเราเลือกซื้อ ‘ตงเฉิงย่วย’ก็บ่นอยากดูหนัง แต่มันก็ไม่มีอะไรให้ดูเลย ลงท้ายพวกเราก็เลยสุ่มดูเรื่อง [Love me Again] กัน

‘ตงเฉิงย่วย’กับ’ว่านเอ๋อนั้น’เข้าโรงมาพร้อมกับป๊อปคอร์นถังใหญ่ ระหว่างที่นั่ง ‘หลินว่านเอ๋อ’ก็หันมาคุยกับฉันว่า

“หลี่เซียวเหยา นายไปเก็บเลเวลที่ไหนหรอ ถึงได้เจ้านี่มา?”

ฉันคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบไปว่า

“เควสของอาชีพฉันน่ะ”

“หืม? แล้วใครเป็นอาจารย์ของนายน่ะ?”

“ขอโทษนะ บอกไม่ได้ เพราะฉันกำลังโดนตามล่าอยู่..”

“นาย!!”

‘หลินว่านเอ๋อ’โกรธ เธอกระทืบพื้น ให้ตายสิ เธอคงไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเวลาที่เธอโกรธนั้นน่ารักมาก ส่วนคนที่ต่อคิวเข้าไปเลือกที่นั่งหลังพวกฉันกำลังดูแฟนของตัวเองเพื่อเปรียบเทียบอยู่ หึๆ เทียบไม่ติดหรอก แต่ด้วยการที่ฉันนั้นมี’ตงเฉิงย่วย’ที่ก็ระดับสูงตามมาด้วยเช่นกัน ทำให้ฉันเป็นเป้าสายตามากๆ

เจ้าหมอนี่ควบสองเลยสินะ!! พวกนั้นคงคิดแบบนี้แหละ เอาเถอะ อะไรจะเกิดอันก็ต้องเกิด จริงๆแล้วฉันเองก็เป็นแค่เพื่อนๆของพวกเธอ นี่พูดจริงๆเลยว่าถ้าไม่ใช่เพราะเบาะนุ่มๆของโรงหนังแล้ว ฉันไม่ดูด้วยหรอก เพราะจริงๆอยากดูหนังบู๊มากกว่า…

หลังจากที่ดูหนังจบ โดยที่ฉากจบของเนื้อเรื่องคือตัวเอกกระโดดน้ำตาย ‘ตงเฉิงย่วย’ก็น้ำตาไหลพรากเลยทีเดียว…

เมื่อพวกเราออกมาจากโรงหนัง ‘หลินว่านเอ๋อ’นั้นสวมแว่นตากันแดด แต่ฉันแอบเห็นว่าตาของเธอเองก็แดงก่ำเช่นกัน เธอหันมาถามฉันว่า

“หลี่เซียวเหยา หนังเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง?”

ฉันตอบกลับไปว่า

“ไม่รู้สิ ไม่ได้สนใจเลย”

“นายเชื่อในเรื่องความรักที่ยอมเสียสละชีวิตไหม? นายอยากได้แฟนแบบนั้นไหม?”

“หึ ชีวิตผู้ใหญ่น่ะมันโหดร้าย ผู้คนเอาแต่จะหาเงินกัน ไม่มีเวลาคิดเรื่องความรักหรอก ตอนนี้พวกความชั่วร้ายก็ยังรื่นเริงอยู่ในสังคม ดังนั้น ตราบใดที่ ยังมีพวกแบบนี้อยู่ ฉันไม่สนใจเรื่องความรักหรอก”

“ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีผู้หญิงที่ไหนสนนายหรอกหรอ?”

ฉันกัดฟัน นี่อุตส่าห์โชว์เท่แล้วนะ… ‘ตงเฉิงย่วย’หัวเราะคิกคัก

“ตอนนี้ก็ 4 ทุ่มกว่าแล้ว กลับก่อนที่ประตูรั้วจะปิดเถอะ”

“อืม”

ครั้งนี้ฉันเป็นคนขับ พวกเรากลับมาได้ทันหวุดหวิดพอดี จนยามที่เฝ้าประตูมองด้วยสายตาที่เหมือนคนสวมแว่นมองลอดผ่านแว่นมาเลยทีเดียว หลังจากที่ฉันส่งทั้งสองสาวกลับหอแล้วฉันก็โทรหา ‘เฉินปิง’

“ว่าไง หลี่เซียวเหยา”

“อืม น้องเฉิน ตอนนี้มีข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับ หัตถ์สายฟ้าบ้างไหม?”

“ไม่เลย นายเป็นไงบ้าง? เมื่อวานไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม?”

“เอ่อ..”

ฉันคิดอยู่ครู่นึงก่อนจะพูดต่อ

“เมื่อคืน ฉันไปหาเจ้านั่นที่บาร์ แล้วก็หักแขนมันไปน่ะ ดูเหมือนว่ามันจะยังปิดข่าวอยู่ล่ะนะ”

“อ๋อ ก็นั่นแหละนะ หมอนั่นไม่กล้าเปิดเผยว่าตัวเองโดนคนโค่นหรอกนะ ว่าแต่นายเป็นอะไรไหม?”

“อ๋อ ระดับแค่นั้นทำอะไรฉันไม่ได้หรอก เออนี่ เฉินปิง ว่าแต่สายที่เราคุยกันอยู่นี่มีโอกาสถูกดักฟังไหม?”

“อืม ไม่มีทางถูกดักฟังหรอก เพราะฉันจัดการก่อนหน้าที่จะโทรหาพี่ครั้งก่อนแล้ว สบายใจได้”

“ดี มีอะไรเพิ่มเติมอีกไหม? ช่วงนี้หัวหน้าหวางไม่ติดต่อฉันมาเลย”

“ไม่มีค่ะ วางใจได้ จัดการคุ้มครองหลินว่านเอ๋อต่อเถอะค่ะ ว่าแต่ว่า หลินว่านเอ๋อนั้นสวยอย่างที่เขาลือกันไหมคะ?”

“เอ่อ..ไม่รู้สิ..”

“เห ดูเหมือนว่าเธอจะสวยงามมากจนทำให้หลี่เซียวเหยาถึงกับหวั่นไหวเลยทีเดียว เธอไม่ธรรมดาสินะ? ยังไงก็คุ้มครองเธอ ให้พวกเรามั่นใจว่าเธอปลอดภัยให้ได้ต่อไปก็แล้วกันนะ”

“เข้าใจแล้ว..”

หลังจากที่วางสาย ฉันก็มาทบทวนว่า ฉันเข้ามาคุ้มครองเธอได้อาทิตย์นึงแล้ว แต่ยังไม่มีเรื่องอะไรใหญ่โตเกิดขึ้น แต่ยังไงก็ตาม ฉันก็ยังคิดว่ามันยังมีอันตรายกำลังจะเกิด ดังนั้นแล้วฉันจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมไว้ตลอดเวลาล่ะนะ

ฉันกลับมาถึงห้องแล้วก็นั่งเปิดเว็บของเกม ขึ้นมาเพื่ออ่านกระทู้ แล้วฉันก็เจอกระทู้ที่ขึ้นโชว์ในกลุ่มเมืองป้าฮวงขึ้นสีแดงหราเลยว่า

[ปักหมุด] แนวหน้า VS ปราก

เร็วๆนี้งั้นหรือ? เนื้อหาของกระทู้นั้นอธิบายว่าปรากกับพวกแนวหน้านั้นสู้กันบ่อยมากช่วงนี้ เพื่อตัดสินว่าใครจะเป็น 1 ในเมืองป้าฮวง ดูเหมือนว่าอีกไม่นานจะเป็นศึกใหญ่แล้วล่ะนะ ฉันจิบชาแล้วยิ้ม

อืม สู้กันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันล่ะนะ ขอแค่พี่น้อง’ย่วย’ไม่เป็นอะไรก็พอแล้วล่ะ ในเมืองก็ยังมีเหตุการณ์อื่นๆอีกมากมายไม่ขอพูดก็แล้วกัน ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งอยู่นั้น ‘ตังกู’ลุกขึ้นมา เขาพูดขึ้นมาว่า

“หลี่ ทำไมยังไม่นอนล่ะ? พรุ่งนี้มีเรียนเช้านะ…”

“อืม”

ฉันทิ้งตัวลงนอน ห่มผ้าห่มก่อนจะกลับตา พรุ่งนี้ฉันต้องทำอะไรหลายอย่างล่ะนะ อย่างน้อยก็ต้องตั้งเป้าว่าจะไปให้ถึงเลเวล 40 ให้ไวที่สุด

เพราะฉันได้ยินมาว่า เมื่อเปลี่ยนคลาสที่เลเวล 40 แล้ว จะเก่งกว่าเดิมแบบเทียบไม่ติดเลยทีเดียว

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments