ตอนที่แล้วตอนต่อไปในเวลาเช้า คาบเรียนภาษาจีน อาจารย์นั้นถือสมุดเล่มหนามา ดูท่าหนังสือเล่มนั้นเนื้อหาคงจะแน่นไม่เบา
“ซ่าๆ”
เสียงของใบไม้ที่พลิ้วไหว เสียงของการจดแลคเชอร์ เสียงของนกนั้น ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายมาก ฉันก็เลยงีบไป แต่งีบได้ไม่นานก็มีคนมาเขย่าฉัน ทำให้หัวของฉันเกือบเขกโต๊ะเลยทีเดียว
ฉันจึงหันมาดู ก็พบ’หลินว่านเอ๋อ’กำลังมองมาดูสีหน้าดุ เธอพูดขึ้นมาว่า
“เมื่อวานนายทำอะไรลงไปรู้ไหม?”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนี่ ฉันก็แค่ไปดูหนังกับพวกคุณหนูเท่านั้นนี่นา”
“โอ้..”
ฉันหันไปดูที่โต๊ะของเธอ ก็เห็น’หลินว่านเอ๋อ’นั้นวาดรูปสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของเธอ เธอวาดได้เหมือนจริงมากเลยทีเดียว
“มันดูเหมือนมากเลยนะเนี่ย”
‘หลินว่าเอ๋อ’ยิ้ม
“ก็แค่วาดเล่นน่ะ…”
‘ตงเฉิงย่วย’กำลังนั่งเล่นมือถืออยู่ ซักพักเธอก็พูดขึ้นมาว่า
“พวกเธอ มีข่าวใหญ่ล่ะ!! 10 นาทีที่แล้วนี้นี่เอง ตอนนี้มีผู้เล่นไปถึงเลเวล 40 แล้วนะ”
‘หลินว่านเอ๋อ’กับฉันพูดพร้อมกันว่า
“ใคร?”
“ไม่บอกหรอก…”
“…”
“โอเคๆ อย่าโกรธสิ บอกก็ได้ คนที่ไปถึงเลเวล 40 คนแรกไม่ใช่ใครที่ไหน เวิ่นเจี้ยนนั่งเอง หัวหน้ากิลด์ในอนาคตของเรา”
‘ตงเฉิงย่วย’ยิ้ม
“ไม่คิดเลยว่าเวิ่นเจี้ยนที่เล่นเป็น Swordsman จะเก็บเลเวลไวกว่าพวก Mage”
ฉันถาม’เฉิงย่วย’ไปว่า
“ย่วย ตอนนี้เธอเลเวลอะไรแล้ว?”
“38”
“แล้วว่านเอ๋อล่ะ?”
ฉันถามต่อ ‘ว่านเอ๋อ’หันมามองฉันด้วยสายตาที่แสนจะมีเสน่ห์ของเธอ เธอมองฉันอยู่ซักพักเธอก็เอะใจว่าฉันเป็นคนถามคำถามถึงเธอ เธอจึงตอบฉันว่า
“ตอนนี้ฉันเลเวล 39 แล้ว และวันนี้เองก็ไม่มีคาบเรียนตอนบ่าย ฉันคิดว่าน่าจะเก็บเลเวลได้ถึง 40 ล่ะนะ แต่ให้ตายสิ พวกเรามีเรียนแบบนี้แล้วจะตามเวิ่นเจี้ยนทันได้ยังไงกันล่ะ”
“อืม เวิ่นเจี้ยนเขารีบเก็บเลเวลให้ถึง 40 ไปเพื่ออะไรกันนะ…”
‘ตงเฉิงย่วย’
“การเป็นผู้เล่นที่ติดอันดับในเมืองนั้นมีผลประโยชน์เยอะนะ เพราะจะช่วยให้ตัวเองนั้นมีชื่อเสียงขึ้น เพื่อเวลาที่สร้างกิลด์ทางการในอนาคตสำเร็จแล้วนั้น จะไม่ต้องไปเที่ยวตามหาสมาชิกให้วุ่นวายมากด้วย”
‘หลินว่านเอ๋อ’พูดต่อว่า
“แล้วการเปลี่ยนคลาสที่ 3 ในเลเวล 40 นั้น จะได้สกิลเพิ่มเติมด้วยนะ ของ Swordsman นั้นจะมีสกิลที่มีชื่อว่า [Swordsmanship Specialization] ที่เพิ่มพลังโจมตีให้เวลาที่เราถือดาบ 25% และเราก็ยังเลือกเรียนสกิล [Flame Blade] หรือ [Ice Blade] ได้ด้วยนะ ซึ่ง Flame นั้นจะแรงกว่า แต่ Ice จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามช้าลง”
หลังจากนั้น’หลินว่านเอ๋อ’ก็หันมาหาฉัน
“หลี่เซียวเหยา นายเองก็เป็นนักดาบนี่ใช่ไหม? นายจะเรียนน้ำแข็งหรือไฟล่ะ?”
ฉันตอบกลับไปทันทีว่า
“แน่นอนว่าฉันเลือก [Ice Blade] เพราะว่ามันลดความเร็วของฝ่ายตรงข้ามได้ ต่อให้ [Flame Blade] นั้นแรงกว่าก็จริง แต่สำหรับฉันแล้วฉันไม่ต้องการมาก เพราะฉันมีสกิล [Wind Blade] อยู่แล้ว”
‘ตงเฉิงย่วย’ถูมือแล้วยิ้มก่อนจะพูดว่า
“ฮี่ๆ วันนี้ฉันเองก็จะเก็บให้ถึง 40 เหมือนกัน ฉันเองก็จะเล่นเป็นสายเน้นการโจมตีล่ะนะ”
‘หลินว่านเอ๋อ’ยิ้ม
“ Mage เลเวล 40 แน่นอนว่าเน้นการโจมตีอยู่แล้ว เพราะจะมีสกิลที่มีชื่อว่า [Pillars of Ice & Fire] ที่มีระยะการโจมตีแบบวงกว้างขนาด 5 เมตรทีเดียวล่ะ”
“ใช่แล้วๆ”
‘ตงเฉิงย่วย’ยิ้ม หลังจากที่ทานข้าวเที่ยงเสร็จ ทั้งสองสาวก็รีบกลับไปเก็บเลเวลต่อ สำหรับฉันนั้นค่อยๆเดินกลับ เพราะฉันเองนั้นตอนนี้ยังเลเวลเพียง 35 อย่างเก่งก็คงเก็บให้ถึง 37-38 ล่ะนะ 40 เลยคงยังเป็นไปไม่ได้
แว้บ!! ฉันกลับเข้าเกมโผล่มาที่เมืองมังกร ฉันก็เดินเข้าไปหา’ต๋าหลิน’ เขากำลังย่างงูอยู่ เขาพูดขึ้นมาลอยๆว่า
“ถ้าหากเจ้าไม่เคารพอาจารย์แล้ว จุดจบของเจ้าจะไม่ต่างจากเจ้างูตัวนี้”
ฉันถามเขาไปว่า
“อาจารย์ครับ มีภารกิจอะไรให้ผมทำไหมครับ?”
‘ต๋าหลิน’หันมามองฉันแล้วตอบว่า
“โอ้ เจ้าหนู มาจนได้นะ เช้าวันนี้ แม่ทัพหลิวชวงนั้นมาบอกฉันว่าที่แผนที่ Fire Stone Canyon นั้นมีคนแคระดำอยู่อาศัยที่ใต้ดิน พวกมันมีทรัพย์สินมากมาย แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือมันกำลังรวบรวมสมาชิกมาจู่โจมเมืองมังกร ดังนั้นแล้ว..”
เขายืนขึ้นมาตบไหล่ฉัน
“เจ้าหนู เจ้าจงไปที่ Fire Stone Canyon แล้วจัดการกับเจ้าคนแคระดำซะ”
ฉันรับภารกิจมา รายละเอียดของภารกิจคือให้ฉันไปจัดการกับเจ้าพวกนั้นทั้งหมด 2000 ตัว แล้วต้องจัดการแม่ทัพของมันด้วย ถึงจะสำเร็จ ความยากของภารกิจคือระดับ A
“ให้ตายสิ…”
ภารกิจระดับ A แบบนี้มันเหมือนกับภารกิจเนื้อเรื่องเลยนะ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแค่ภารกิจล่าเฉยๆ แต่เอาเถอะ รับมาแล้วยังไงก็ต้องทำล่ะนะ หลังจากที่เตรียมอาวุธกับยาเรียบร้อยแล้วฉันก็ออกเดินทาง!! ระหว่างที่ฉันเดินทางไป ฉันก็ผ่านกับแผนที่ Desolate Cloud Swamp ซึ่งตอนนี้นั้นมีผู้เล่นเข้ามาเก็บเลเวลกันบ้างแล้ว
พวกเขาเองก็ชวนฉันเข้าปาร์ตี้ แต่ฉันไม่เข้า เพราะเป้าหมายของฉันก็คือพวกคนแคระยังไงล่ะ ก่อนที่จะจากกันเขาก็อวยพรให้ฉันด้วย แต่ระหว่างที่ฉันเดินทางนั้นก็สังเกตได้ว่าพวกมอนสเตอร์ในเกมนี้นั้นเลเวลสูงขึ้นจากเดิม เมื่อก่อนนั้นยังแค่ 37 แต่ตอนนี้ 39 อืม
สงสัยเกมนี้ทำระบบให้มอนสเตอร์เก่งขึ้นตามเลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นล่ะมั้งนะ ในที่สุดฉันก็กลับเข้ามาถึงแผนที่ Fire Stone Canyon ฉันกระโดดลงไปพร้อมกับโบโบ้ ฉันเดินผ่านแผนที่ที่ฉันสู้กับ’เจี้ยนเฟิงหาน’ไป
เพราะว่าฉันต้องทำภารกิจ ไม่ได้มาหา [Ice Rat] อืม ตอนนี้บนแผนที่ก็ปรากฏรูปภารกิจอยู่ตรงจุดๆหนึ่ง ตรงนั้นน่าจะเป็นรังของพวกมันล่ะนะ ฉันค่อยๆเดินเข้าไปเรื่อยๆก็พบว่าทางมันลงต่ำลงไปใต้ดินเรื่อยๆ
ก็พบว่าตอนนี้ฉันเข้ามาอยู่ในแผนที่ Slayer’s Basin แล้ว อืม แผนที่ซ้อนแผนที่ เอาล่ะ ตอนนี้ก็ดูรอบๆก็เห็นแต่ควันดำๆที่ลอยขึ้นมา มองดูที่ต้นทางก็พบกับพวกคนแคระกำลังทำอะไรซักอย่าง คล้ายๆประดิษฐ์อาวุธ ชื่อของพวกมันนั้นเป็นสีแดง นั่นก็หมายความว่า พวกมันก็คือเป้าหมายภารกิจของฉัน
ฉันสไลด์ลงไปด้านล่าง เมื่อลงไปถึงพื้นแล้วก็มองดูรอบๆ มันมีเต้นท์เล็กๆอยู่ ด้านข้างนั้นมีพวกคนแคระอยู่ 4 ตัว 2 ตัวกำลังนั่งปรุงซุปอยู่ อีกตัวกำลังแล่เนื้อแกะ และตัวสุดท้ายกำลังลับขวานอยู่ และตัวที่กำลังแล่เนื้อก็พูดขึ้นมาว่า
“ให้ตายสิ เจ้านี่มันเหม็นจริงๆเลย ฉันอยากกินเนื้อมนุษย์ผู้หญิงมากกว่า เมื่อคืนนี้ ที่พวกเรานั้นจัดการกับพวกมนุษย์ผู้หญิงหลังจากที่เล่นกับมันจนสนุกแล้ว ฉันรู้สึกว่าท่านเจ้าชายทำโหดร้ายเกินไป ทำไมเราไม่นำพวกมันมาที่นี่เพื่อมากินกันล่ะ?”
คนแคระที่ลับขวานอยู่ก็หัวเราะแล้วพูดว่า
“เงียบน่า อย่าตั้งคำถามกับการกระทำของเจ้าชาย ไม่งั้นแล้วจุดจบของเจ้าก็จะเหมือนกับมนุษย์พวกนั้น”
อืม ในเกมนี้นั้นเวลาที่เราจะเรียกมอนสเตอร์ให้มาสนใจเราได้นั้น ระยะห่างจะอยู่ที่ประมาณ 20 เมตร ฉันจึงค่อยๆย่องเข้าไปเพื่อเดินไปล่อเจ้าคนแคระที่กำลังแล่เนื้อแกะอยู่
เพราะถ้าฉันสู้ 1-4 แล้ว เกรงว่ามันจะโหดเกินไป
ที่มา: