ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป**** บูมมม ****
ขณะที่ ‘ชูเฟิง’ คิดว่าตัวเองจะต้องตายอย่างแน่นอน ก็มีลูกไฟพวยพุ่งลงมาจากท้องฟ้ากระแทกลงบนร่างกายของสัตว์มหึมาความเร็วของสิ่งนั้นรวดเร็วและรุนแรงอย่างมาก เมื่อมันพุ่งใส่ร่างของสัตว์มหึมาจังๆ ไม่เพียงแต่มันจะหยุดโจมตี ‘ชูเฟิง’ มันยังสิ้นลมหายใจจมลงบนพื้น
โดยไร้ซึ่งลมหายใจการเปลี่นนแปลงอย่างฉับพลัน ทำให้ ‘ชูเฟิง’ตกใจอย่างมาก เมื่อเขาเงยหน้ามองดู จึงได้แค่ตกตะลึงที่เขาตกตะลึงก็เพราะ พบว่า สัตว์มหึมาที่อยู่อาณาจักรสวรรค์ถูกบดขยี้จนตาย สิ่งที่ทำนั้นมันมันอยู่ในสภาพนั้นไม่ใช่วัตถุ แต่เป็นร่างของชายชราตัวเล็กๆชายชราคนนั้นมีส่วนสูง 150 ซม.
รูปร่างผอมกระหร่อง จนลมที่พัดสามารถพาตัวเค้าปลิวออกไปแม้ว่า การปรากฏตัวของชายชราคนนั้นจะไม่ดูพิเศษพิโส แต่เมื่อเขามองก็ใจเต้นรัว โดยเฉพาะการที่ ‘ชูเฟิง’ ไม่สามารถใช้อำนาจฯตรวจสอบการเพาะปลูกของชายชราได้ แต่พลังของเขานั้นยากจะหยั่งถึงหรืออาจเหนือกว่าเจ้านครอันทรงเกียรติเลยด้วยซ้ำ
” เอ้ย เจ้าหนู เจ้าเข้าร่วมการแต่งงานด้วยใช่มั๊ย ? “
ชายชราเมื่อพบ’ชูเฟิง’ เขาก็ใส่พลังไปเอวของเขายืดขึ้น และตีลังกาลงจากอากาศสู่บนพื้นดิน ข้างๆ’ชูเฟิง’ จากนั้นเขาก็ยกศีรษะ พร้อมกับใช้สายตา จ้องมอง’ชูเฟิง’อย่างละเอียด
” อาวุโส ข้าน้อยบังอาจถามได้หรือไม่ ว่าท่านคือใคร ? “
‘ชูเฟิง’ไม่ตอบเขา แต่ดันถามตัวตนของชายชราด้วยความอยากรู้
” ข้าเป็นแขกอาวุโสของนครอันทรงเกียรติ จื่อ ซวนหยวน “
ชายชราลูบที่หน้าอกพร้อมกับกล่าว ‘ จื่อ ซวนหยวน ? แซ่ จื่อ . . . . หรือบางทีเขาอาจจะเกี่ยวข้องบางอย่าง กับจื่อหลิง ‘
หลังจากได้ยินคำพูดชายชรา ‘ชูเฟิง’ก็เริ่มใช้ความคิด หลังจากนั้น เขาก็พลันรู้ว่า ‘แซ่ จื่อ’ คนที่เขารู้จักก็ไม่มีใครอีกแล้ว และจนถึงบดนี้เขารู้เพียงคนที่ใช้แซ่ จื่อ เพียงสองคน หนึ่งคือ จื่อ หลิง และอีกคนก็คือตาแก่ที่อยู่ด้านหน้าของเขา
” หลานสาวสุดที่รักของข้านั้นได้เข้าร่วมชุมนุมการแต่งงาน และนางก็อยู่ภายในหุบเขาพันปีศาจ หากเจ้ารู้จักหลานสาวของข้า พอบอกได้ไม๊ว่านางอยู่ที่ไหน ? “
‘จื่อ ซวนหยวน’ ถาม
” ท่านจื่อ ซวนหยวน หรือว่าหลานท่านก็คือ . . . . ? “
” อ่า นางมีชื่อว่า จื่อ หลิง เจ้าน่าจะรู้จักนางสินะ ? “
” นี่ . . . . “
ถึงแม้ว่าเขาจะสะกิดใจอยู่แต่แรก หลังจากที่ได้รับการยืนยัน ‘ชูเฟิง’ก็ยังรู้สึกว่ามันน่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย หากปู่ จื่อ หลิง มาอยู่นี้ เห็นได้ชัดแล้วว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีสิ่งที่สำคัญ คือปู่ของจื่อ หลิง ดูเหมือนจะรักนางมากซะด้วย อีกทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญยากหยั่งถึง หาก จื่อ หลิง บอกปู่ของนางเรื่องที่เขาแย่งทักษะเร้นลับไป เรื่องเขาคงจบไม่สวยแน่
” หลานของท่าน แม่นางจื่อหลิง แน่นอนว่าข้ารู้จักนาง ข้าน้อยไม้อยากปิดบังอาวุโส ซวนหยวน ถึงแม้ข้าจะเข้าร่วมการแต่งงาน แต่ข้าถูกบังคับให้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ “
” โดยที่ข้าน้อยหลุดออกจากกลุ่ม แล้วเกิดหลงทาง จนมาอยู่ที่นี้ทั้งวัน ดังนั้นตอนนี้ข้าน้อยจึงไม่ทราบว่า แม่นางจื่อหลิงและคนอื่นๆอยู่ไหน “
‘ชูเฟิง’ หาทางหลุดพ้นจากสถานการณ์นั้น แล้วทำไมเขาถึงต้องส่งตัวเองเข้าไปหาที่ตาย หากหาทางหนี ตาเฒ่านี้ไม่ได้ มีหวังเขาตายแน่ๆ
” อ่อ เป็นเช่นนี้เองหรอ เจ้าหนู!!! “
” จะยังไงก็ตาม นี้นับเป็นวาสนาของเจ้าที่ได้พบข้า ดังนั้นข้าจะพาเจ้ากลับ “
ขณะที่ ‘จื่อ ซวนหยวน’ พูดเขาก็หยิบแผนที่จากไหนออกมาไม่รู้ แต่มันเป็นแผนที่เหมือนกับที่พวกเขาได้
” อาวุโส ซวนหยวน ข้าไม่อยากรบกวนท่าน ท่านเชิญล่วงหน้าไปก่อนเลยอย่าได้นำข้าไปเป็นภาระท่าน “
” เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นประสบการณ์ ที่ข้าเลินเล่อจนเกิดผลัดหลงเพราะข้ายังไร้สามารถ ข้าอยากจะผจญความลำบากมากกว่านี้ ดังนั้นข้าจึงต้องการพึ่งพากำลังของตัวเองในการหาทางกลับ “
‘ชูเฟิง’ส่ายหัวปฏิเสธ
” นี่ เจ้ายังไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้ ว่ามันอันตรายแค่ไหน เด็กที่มีความแข็งแกร่งเพียงแค่นี้กับคิดจะหาทางกลับเอง หากสุ่มสี่สุ่มห้าจนหลงทิศ มีหวังเจ้าตายอยู่ภายในนี้เป็นแน่ “
” อาวุโสอย่าได้กังวล ข้าจะ . . . . . “
” อย่าได้พูดให้มากความ เด๋วข้าจะพาเจ้ากลับ “
‘จื่อ ซวนหยวน’ ไม่ได้สนใจ’ชูเฟิง’พล่าม เขารีบยื่นมาไปคว้าข้อพับที่แขนเสื้อของ ‘ชูเฟิง’อย่างรวดเร็ว จากนั้นฉากด้านหน้าของ ‘ชูเฟิง’ ก็พร่ามัวไปหมด ลมที่รุนแรงพัดผ่านหูเขาจนกระพือ ขณะนั้นเขาลอยอยู่บนอากาศโดย ‘จื่อ ซวนหยวน’ และความเร็วของมันยังเร็วกว่า
มังกรทะยานผ่านเก้าสวรรค์หลายเท่านอกจากนี้ ‘จื่อ ซวนหยวน’ ยังมีสัมผัสที่เฉียบแหลม จนดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจลักษณะของหุบเขาพันปีศาจได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหลังจากหายเข้าไปในอากาศ เขาก็พา’ชูเฟิง’มาถึงสถานที่รวมพลที่จัดขึ้นก่อนหน้านี้หลังจากวนรอบ
ภายในพื้นที่นั้น ใบหน้าของ ‘จื่อ ซวนหยวน’ ก็เปลี่ยนไปทันที จากนั้นเขาและ’ชูเฟิง’ก็พุ่งลงภายในป่ารอบๆพื้นนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้ ‘ชูเฟิง’ จำลักษณะของป่าได้เป็นอย่างดี เขาจึงบอกได้เลยว่ามันคือสถานที่ ‘หลิว จือซุน’ และคนอื่นๆตั้งที่พัก ในตอนนั้นมันเหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
” นี่มัน . . . . . . . “
หลังจากที่ ‘ชูเฟิง’ เดินออกมาภายในป่า เขาก็เห็นทุกได้อย่างชัดเจน ซึ่งใบหน้าของเขาในตอนนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเพราะเขารู้ว่า ภายในป่าที่ตั้งอยู่ มีสภาพสมบูรณ์ แต่รูปแบบอำนาจฯที่วางไว้ถูกทำลาย และที่พักถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ และบริเวณใกล้เคียง มีหลายสิบ ศพ นอนกองอยู่ที่พื้น
พวกเขาคือคนที่มาร่วมชุมนุมในการแต่งงาน พวกเขาล้วนตายอย่างอนาถ ไม่มีศพไหนที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เลยสักราย
” บัดซบ…!! “
เห็นฉากนั้น ‘จื่อ ซวนหยวน’ ดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง และใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความคับแค้นจนกลายเป็นความโกรธ
” ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ได้ล่ะ ไม่นานนี้พวกเขายังดีดีกันอยู่เลย มันไปได้ไม๊ว่า . . . . ? “
หน้าของ’ชูเฟิง’เต็มไปด้วยความตกใจ เขาไม่เคยนึกว่าในเวลาสั้นๆที่เขาออกมา จะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เกิดขึ้น เห็นได้ชัดว่า ‘จื่อหลิง’และคนอื่นๆ กำลังเผชิญหายนะดูจากวิธีที่โหดเหี้ยมนั้น
อีกทั้งร่องรอยจากกรงเล็บที่ทิ้งไว้บนศพ ‘ชูเฟิง’ ก็พอเดาได้ว่าอะไรที่ทำทั้งหมดนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกทำร้ายโดยสัตว์มหึมา ที่แข็งแกร่ง ไม่เช่นนั้น จื่อ หลิง, หลิว จือซุน และคนอื่นๆที่แข็งแกร่งคงไม่ลงเอยแบบนี้’ชูเฟิง’ ไม่ได้กังวัลเกี่ยวกับเรื่องความตายของใครทั้งนั้น
แต่ จื่อ หลิง นั้นมีกายศักดิ์สิทธิ์ที่ชูเฟิง ต้องการได้รับ ผลประโยชน์จากการหลับนอนกับนาง ดังนั้นเป็นธรรมดาที่ ชูเฟิงจะหวังว่า อย่าให้เกิดเรืองเลวร้ายขึ้นกับนางดังนั้น ชูเฟิง รีบกระจายอำนาจพลังวิญญาณออกทันที เพื่อค้นหาเบาะแสบางอย่างถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้คาดหวังกับมันมากนัก แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงชีพจร ภายในศพที่กองอยู่บนพื้นยังคงมีคนที่รอดชีวิต
” อาวุโส ซวนหยวน ทางนี้!!! “
‘ชูเฟิง’ รีบไปหาคนๆนั้น หลังจากวิ่งมาใกล้เขาก็พบชายคนหนึ่ง ร่างของเขาไร้ขา และบาดแผลของมันเหมือนถูกฉีกออกด้วยแรงมหาศาล แต่คนๆนั้นก็มีชีวิตอยู่จริงๆ
” นี่ มันเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ? “
คนที่นอนกับพื้นไม่ขยับ ‘ชูเฟิง’จึงยกเขาขึ้น
” อย่าฆ่าข้าเลย อย่าฆ่าข้า “
ขณะที่’ชูเฟิง’สัมผัสเขา ชายคนนั้นก็ร้องเสียงดังออกมา อย่างสติแตก ด้วยความตกใจ
” สหายข้าอย่าได้กลัว ข้าคืออาวุโสจากนครอันทรงเกียรติ “
ในตอนนั้น ‘จื่อ ซวนหยวน’ก็วางมือลงศีรษะชายคนนั้น พร้อมส่งพลังบางอย่างแทรกเข้าไปด้วยการแทรกแซงจากอำนาจพิเศษ ของ ‘จื่อ ซวนหยวน’ ผู้ชายคนที่กำลังกลัวสุดขีด ก็เริ่มมีสีหน้าค่อยๆสงบ จนสามารถเรียกสติกลับมา
ที่มา: