ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” นี้เป็นเรื่องจริง!!!”
” นครอันทรงเกียรติทำข้อตกลงกับมหาอำนาจอย่าง นิกายโลกวิญญาณ, ตระกูลเจี่ย, สำนักหยวนกัง. สำนักเทพอัคคี. นิกายไป๋. ที่ราบหุบเขาไร้ใจ, และหุบเขาเทพกระบี่ นี้คือ สมาพันธ์แปดจตุรทิศ ที่ตั้งขึ้นชั่วคราว “
‘กู๋ โบ่’กล่าว
” สมาพันธ์แปดจตุรทิศ ? “
‘ชูเฟิง’ประหลาดใจนิดหน่อย
” ใช่ . . . . มีเพียงแปดมหาอำนาจ “
” สำหรับพวกตระกูลยิบย่อยและคนอื่นๆที่พอมีความสามารถอยู่บ้างได้ถูกสั่งให้ถอยออกจาก หุบเขาพันปีศาจหมดแล้วเนื่องจากตำแหน่งพวกเขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมีส่วนร่วมในการค้นหาสมบัติ “
‘กู๋ โบ๋’กล่าว
” อะไรกัน สมบัติที่มีนั้นมีแค่สมาพันธ์แปดจุตรทิศเท่านั้นหรอที่มีสิทธิ์ “
‘ชูเฟิง’ถาม
” ตามที่ราชันย์คางคกดำกล่าว ว่าภายในหุบเขาพันปีศาจเป็นหุบเขาโบราณอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีสมบัติของผู้เชี่ยวชาญลึกลับทิ้งไว้อยู่ที่นั้น สมบัติเหล่านั้นจึงน่าค้นหาอย่างมาก และยังมีแม้กระทั่งยุทธภัณฑ์ชั้นยอด หากพวกปีศาจนำมันมาใช้ตอนนั้นราชันย์ปีศาจของมันก็จะมีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับราชวงค์เจียง ดังนั้นนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะชิงลงมือ “
” แต่ในเวลานี้ สัตว์มหึมาในหุบเขาพันธ์ปีศาจมันเห็นสมบัติดั่งของศักดิ์สิทธิ์ที่มีไว้เคารพบูชา พวกมันจึงนำไปเกบในวังใต้พิภพ “
‘กู๋ โบ่’กล่าวหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา ‘ชูเฟิง’ก็เปลี่ยนความคิดทันที เพราะเขารู้ดีว่าสมาพันธ์แปดจตุรทิศต้องการหาอะไร
” เรื่องที่ข้าบอกเจ้าวันนี้เป็นความลับและมีเพียงผู้นำของแปดมหาอำนาจเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นห้ามบอกใครเรื่องนี้ “
‘กู๋ โบ่’ เตือน
” อย่าได้กังวัล ข้าสัญญาว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แล้วพวกเขาจะเริ่มเคลื่อนไหวตอนไหน ? “
‘ชูเฟิง’เข้าไปถามใกล้ๆ
” พวกเขาต้องรออีก 2 – 3 วัน เพราะยังเหลือราชันย์ปีศาจอีก 4 ตนที่ไม่ง่ายในการลับมือ จากที่ข้าได้ยินมา ถ้าไม่ใช่เพราะตอนแรกที่พวกเขาโจมตีหุบเขาพันปีศาจและหากจื่อ ซวนหยวน มาไม่ทันการณ์ เวลานั้น ฉิน เล่ย และคนอื่นๆ ก็คงจะตายไปแล้ว ในเวลานี้พวกเขาจึงต้องเตรียมการอย่างจริงจัง “
‘กู๋โบ่’กล่าว เล่าให้ฟังผิดคนแล้ว’กู๋โบ่’
” แล้วพวกเขากำลังเตรียมที่จะทำการณ์อันใด ? “
‘ชูเฟิง’ถาม
” แปดมหาอำนาจะต้องส่งคนที่มีพลังอยู่ในระดับ 5 อาณาจักรสวรรค์มาหนึ่งคนและผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์อีก 10 คน เพื่อเพิ่มอำนาจในการกวาดล้างหุบเขาพันปีศาจ “
‘กู๋โบ่’ กล่าว
” นี้หมายความว่าพวกเขาเอาจริงแล้วสินะ!!! “
‘ชูเฟิง’ขมวดคิ้วลง ผู้เชียวชาญระดับ 5 อาณาจักรสวรรค์ 8 คน และผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์อีก 80 คน นอกจากราชวงศ์เจียงแล้ว นี้นับเป็นขุมกองกำลังที่ตั้งตนขึ้น สั้นสะเทือนอาณาจักรทั้ง 9 ?
มันก็เหมือนกับการรวบรวมคนที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุดเอาไว้ด้วยกัน จากแปดมหาอำนาจ ไม่ว่าหุบเขาพันปีศาจจะน่ากลัวแค่ไหน หรือต่อให้มีราชันย์ปีศาจทั้ง 4 พวกมันก็ไม่อาจรับมือกับพลังนี้ได้ง่ายๆ
แม้ว่า ‘ชูเฟิง’ หวังให้นครอันทรงเกียรติบุกตีหุบเขาพันปีศาจ แต่เขาก็ไม่ได้หวังให้มนุษย์ทำลายพวกสัตว์มหึมาจนหมดสิ้น หากพวกเขาทำสำเร็จ สมบัตินั้นก็ตกอยู่ในมือของมนุษย์ และชูเฟิงก็จะยากที่จะได้รับสมบัติทั้งหมดไว้คนเดียว
” ถูกต้อง เวลานี้พวกเขาคิดจะโจมตีขั้นเด็ดขาด ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ทำเพื่อสมบัติอย่างยุทธภัณฑ์ชั้นยอด จนสามารถทำให้พวกเขายอมทำได้ถึงขนาดนี้ “
” แต่จุดแข็ง ของราชันย์ปีศาจทั้ง 4 ไม่มีใครรู้ความสามารถของพวกมัน แต่พวกปีศาจระดับนี้ส่วนใหญ่จะทรงพลังอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งราชันย์ปีศาจทั้ง4 มันเป็นสัตว์มหึมาที่มีสายเลือดพิเศษหากพวกมันคิดแรกชีวิต ข้าเกรงว่า สมาพันธ์แปดจตุรทิศต้องเจอปัญหาแน่ “
” ในครั้งนี้ ศิษย์พี่ ซู จงหยู๋ นั้นพยายามอย่างมากที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ แต่เขาก็ถูกปฏิเสธโดยอาวุโส “
‘กูู๋โบ่’เล่าความลับที่ไม่อาจเปิดภายต่อภายนอกให้ ‘ชูเฟิง’ ฟังอย่างละเอียด เพราะเขาไม่เห็นว่า’ชูเฟิง’เป็นคนนอกไม่กี่วันผ่านไป ‘กู๋โบ่’ ก็แอบตามไปดูอีกครั้ง ในตอนนั้นรองผู้นำนิกายโลกวิญญาณและผู้จัดการอาวุโสก็ได้แอบเข้าไปในนครอันทรงเกียรติอย่างเงียบๆ
ในทำนองคล้ายกัน รองผู้นำตระกูลเจี่ยและผู้จัดการอาวุโสก็มาถึงที่นัดหมายหลังจากนั้นสองวัน ‘กูโบ๋’ ก็บอกบอก’ชูเฟิง’อีกครั้ง ว่าเจ้าสำนักหยวนกัง, เจ้าสำนักเทพอัคคี, ประมุขนิกายไป๋. ผู้นำที่ราบหุบเขาไร้ใจ และ เจ้าหุบเขาเทพกระบี่ ได้เดินไปยังบ้านพักในนครอันทรงเกียรติเวลาที่กำหนดคือ 12 วัน
และในอีก 12 วันต่อมา หญิงสาวจากนครอันทรงเกียรติจะก็ได้เลือกชายในใจของพวกเขาในการชุมนุมบนยอดของเทือกเขา ตอนนั้นมันนับว่าเป็น การปิดม่านการแต่งงานหมู่อย่างสมบูรณ์
‘ สิบสองวันหลังจากนี้ หากจะปิดม่านการชุมนุมการแต่งงานอย่างสมบุูรณ์ ในตอนที่สมาพันธ์แปดจตุรทิศกลับมาโดยมีชัย พร้อมกับแบ่งสมบัติกันที่ได้จากหุบเขาพันปีศาจ งั้นสินะ ‘
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’พึมพำกับตัวเองขณะที่เดินไปยังที่พักหลังจากเสร็จสิ้นการประกาศรายระเอียดการแต่งงานเมื่อตอนเช้า เจ้านครอันทรงเกียรติ ฉิน เล่ย และผู้คนต่างๆที่มีชื่อก็ออกไปพร้อมกับเขา บนยอดเขายังมีบุคคลที่ยิ่งใหญ่จาก 7 มหาอำนาจ ทางที่พวกเขามุ่งหน้าไปก็คือหุบเขาพันปีศาจ
‘ชูเฟิง’ในตอนนั้นก็เตรียมการในขั้นตอนสุดท้าย ที่่ผ่านมาเขาไม่เคยออกจากที่พัก เหมือนกับขังตัวเองไว้ เช้าจรดค่ำ ‘ชูเฟิง’ยังคงศึกษาแผนที่ของหุบเขาพันปีศาจและพวกอสูรมหึมาที่เขาเคยพบมาอย่างละเอียด’ชูเฟิง’ จำเป็นต้องกลับไปที่หุบเขาพันปีศาจ เพราะมันเป็นโอกาศสุดท้ายของเขา
ซึ่งเขาไม่สามารถปล่อยให้สมบัติที่ใช้เพิ่มอำนาจพลังวิญญาณให้แก่เขา ไปตกอยู่ในมือของผู้อื่นได้อย่างไรก็ตาม เวลาที่แท้จริงก็มาถึง ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมุ่งไปยังทิศทางหุบเขาพันปีศาจ สิ่งที่สำคัญก็คือเมื่อกที่พวกเขาเจอสมบัติล้ำค่า
‘ชูเฟิง’จะไม่สนว่าใครจะเป็นมนุษย์หรือปีศาจ หากมีใครแย่งสมบัติไปจากเขานั้นก็ถือว่าเป็นศัตรูดังนั้น ‘ชูเฟิง’ที่เข้าใจลักษณะโครงสร้างของหุบเขาพันปีศาจอย่างลึกซึ่ง เขาก็พอรู้ว่าพื้นที่ใดที่ใช้ซ่อนสมบัติ แต่น่าเสียดายสมองของ’ชูเฟิง’มันมีจำกัด และแผนที่ก็ยังเล็กเกินไป
‘ชูเฟิง’รู้แต่เพียงว่า ทางเส้นไหนคือทางมุ่งไปยังวังใต้พิภพ ซึ่งเขาไมรู้เลยว่าในนั้นมีอันตรายอะไรซ่อนอยู่
* พรึบบบ *
เส้นแสงสีม่วงอ่อนๆปรากฏขึ้น ด้านหน้าของ ‘ชูเฟิง’ อีกทั้งคนผู้นั้นยังเป็นผู้หญิงและงดงามอย่างมากชุดกระโปรงยาวสีม่วง ใบหน้าที่งดงาม ซึ่ง’ชูเฟิง’คิดได้คนเดียวเท่านั้น นางไม่ใช่ใครอื่น นอกซะจาก ‘จื่อหลิง’
” ไหนบอกว่า เจ้าจะไม่ปรากฏมาแบบพรึบพรับอีกไง? หากข้าหัวใจวาย ข้าจะโทษเจ้า ? “
‘ชูเฟิง’ที่กำลังใช้ความคิดเรื่องหุบเขาพันปีศาจ และเมื่อจื่อหลิงโผล่พลวดออกมาแบบนั้น เป็นธรรมดาที่เขาจะกระโดดถอยไปด้วยความตกใจ
” ชิส์!!! หากเจ้าไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ทำไมเจ้าต้องกลัวข้าเหมือนเห็นผี เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ ถึงทำตัวลับๆ ล่อๆ . . . . “
ตาดวงโตของ ‘จื่อหลิง’ ส่ายไปมา เหมือนกับว่านางเห็นสิ่งที่’ชูเฟิง’คิดอยู่ภายในใจ
” ป่ะ . . ป่ะ ป่าววว !! เจ้าคนเดียวแหละที่กำลังทำอะไรลับๆล่อๆ กลางวันแสกๆยังโดดเข้ามาทางหน้าต่างห้องผู้ชาย หรือเจ้าวางแผนจะปล้ำข้า ? “
‘ชูเฟิง’หัวเราะคิกคักแล้วโยนสายตาอันชั่วร้ายไปที่เรือนร่างของ ‘จื่อหลิง’ อย่างหื่นกระหาย ร่างกายที่มีเสน่ห์ของนางนั้นทำให้เขาใจเต้นรัว โดยเฉพาะเทือกเขาอันนูนผ่องขาวเนียนที่วาดเป็นเส้นโค้งตรงหน้าอกของนาง ทำให้ชูเฟิงถูกเผาพลาญไปด้วยไฟราคะและยากที่จะควบคุม เจ้าโลกไม่ให้ผงาดขึ้นมาได้
จื่อหลิง : ชูเฟิงเจ้าอย่าทำอะไรๆบ้าๆนะ
ชูเฟิง : ชายหญิงที่เค้ารักกัน คู่ไหนๆก็ทำกันทั้งนั้นแหละ
จื่อหลิง : แต่ข้า ยังไม่รู้จักเจ้าดีเลยนะ
ชูเฟิง : เด๋วก็รู้จักเองล่ะ
จื่อหลิง : แต่ข้า ไม่เคยมาก่อนเลยนะ
ชูเฟิง : ใครๆก็มีครั้งแรกด้วยกันทั้งนั้นแหละ
จื่อหลิง : แต่ข้าเป็นผู้ชายนะ
ชูเฟิง : …………………..
สัสเอ้ยหมดอารมณ์
@ขอตัวเข้าห้องน้ำแปป ปวดท้อง!!!
ที่มา: