I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 122 นายได้กันรึยัง

| Zhan Long | 1660 | 2337 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

หลังจากที่กลับมายังเมืองผมก็ไปเอาแหวนออกมาจากคลังทันที

【แหวนมังกรแห่งความเร็ว】(ระดับม่วง)

Agility: +37

Endurance: +34

Extra: ทักษะของนักฆ่าแรงขึ้น 3%

Extra: บวกเลือด 180

Level Requirement: 48…

ด้วย  Agility +37 และ Endurance +34 รวมกันเป็น 71 พ้อย หมายความว่ามันเหมือนกับคุณมีระดับเพิ่มมาอีก 7 ระดับเลยหละ สามารถพูดได้เลยว่ามันเป็นของที่ดีมากสำหรับนักฆ่า มันเพิ่มพลังโจมตี 3% และเพิ่มเลือดอีก 180 สำหรับนักฆ่าที่เลือดน้อยแล้วมันดีมากๆ

มันสามารถเปลี่ยนภาพรวมของเจ้าของได้เลยหละผมหยิบแหวนพร้อมกับหันไปหา สาวงามนาม’ชางถ่ง’ที่อยู่ด้านหลังทันที ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น การที่เธอมาอยู่ตรงนี้ มันทำให้ทุกสายตาของผู้ชายต่างพุ่งตรงมายังเธอ มันเหมือนกับว่าอากาศรอบๆ ตัวเธอดึงดูดพวกเขาเหมือนเครื่องดูดฝุ่นเลยหละ

“คุณหนูมีอะไรงั้นเหรอ…หรือว่าคุณไม่อยากได้มัน?”

แหวนมังกรแห่งความเร็วมันเปล่งประกายสีม่วงออกมาในมือของผม ผมเอียงศีรษะพลางมองไปที่เธอ ทำให้ผมเห็นใบหน้าน่ารักของเธอกำลังตะลึงในค่าสถานะของมัน

“เอ่ออ..เปล่า”

เธอยื่นมืออกมาหยิบแหวนไป และใส่มันทันที เธอยิ้มอย่างน่ารักทำให้เห็นลักยิ้ม ดวงตาสีนิลคู่งามมองมาที่ผมแล้วถาม

“หลี่เซียวเหยา บอสที่ดรอปไอเท็มชิ้นนี้คือตัวอะไรเหรอ?…ดาบของนายก็ดรอปจากบอสตัวนี้ใช่มั้ย?”

ผมพยักหน้า

“ใช่ มันคือบอสม่วงระดับ 55 กิเลนพฤกษา บางทีมันอาจจะเป็นเพราะผม โซโล่ก็ได้เลยทำให้ไอเท็มที่ดรอปมันค่อนข้างดี ดาบประกายวสันต์มันดีกว่าดาบสวรรค์สั่งมาก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไอเท็มระดับม่วงเหมือนกันก็เถอะ”

‘ว่านเอ๋อ’มองมาที่ดาบบนหลังของผมและหัวเราะ

“นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอกนะ ปัญหามันคือ มันไม่ใช่แค่เป็นไอเท็มระดับม่วง แต่มันยังเป็นอุปกรณ์ระดับสุดยอดต่างหากละ นายไม่รู้ว่ามันเจ๋งขนาดไหนเลยรึไง ฉันคิดว่าหลายคนบนเซิฟเวอร์ต่างอยากเป็นนายแน่ๆ นายนี่โชคดีตัวพ่อจริงๆ”

ผมดึงดาบประกายวสันต์ออกมา พร้อมกับยื่นด้านหน้า’ว่านเอ๋อ’

“ว่านเอ๋อ เป็นไงมั่ง เธออยากจะลองมันดูมั้ย”

แววตาของเธอเต้มไปด้วยความตื่นเต้น เธอเอื้อมมือออกมาหยิบมัน แต่ว่าเธอก็ต้องหยุดพร้อมกับส่ายหัว

“มันโอเค แต่ว่าความแข็งแกร่งของฉันไม่พอที่จะถือมัน ฉันคิดว่าสำหรับฉันแล้วมีดเล่มนี้มันควบคุมได้ง่ายกว่า”

ผมเก็บดาบพลางถามว่า

“โอเค ตอนนี้คุณก็ได้แหวนไปแล้ว คุณหนูพี่แผนจะทำอะไรตอนบ่ายมั้ยครับ”

“ฉันยังไม่ได้วางแผนจะทำอะไรหรอก”

เธอมองไปยังเวลาแล้วกล่าวว่า

“ไม่กี่วันก่อนพวกเราวางแผนว่าจะไปเดินเล่นกันที่ พื้นที่ลุ่มแม่น้ำซีซี แต่ว่าตอนนี้พวกเรายุ่งมาก ในต่อนบ่ายฉันอาจจะต้องไปล่าบอสกับ [Hero Mound] ละนะ พวกนั้นฆ่าบอสอย่างน้อยก็วันละ 10-20 ตัวเลย พวกเราเคลียร์แผนที่รอบๆ เพื่อที่จะล่าป้ายสร้างกิลด์ Q-Sword เขาเป็นกังวลจริงๆ เพราะเขามีแค่ฉันกับชางเย่วแค่สองทีม และมันก็เหนื่อยมากจริงๆ”

เธอยืนพิงกำแพงเมืองพร้อมกับมองขึ้นไปแล้วถอนหายใจ ในขณะเดียวกันผมก็มองไปยังคอที่ขาวระหงส์ของเธออย่างหลงใหล

“ฮิฮิ”

‘หลินว่านเอ๋อ’เธอมองมาที่ผมและหัวเราะ

“หลี่เซียวเหยา ตอนนี้ Zhan Long ทำให้ [Vanguard] โกรธแล้วนะ อีกอย่างนายก็ยังไปท้าทายเจี้ยนเฟิงซานอีกด้วย ตอนนี้พวกนายคงอยู่ในเมืองป้าฮวงไม่ได้ง่ายๆ แน่ นายมีแผนอะไรมั้ย นายหลีกเลี่ยงการตามล่าของ [Vanguard] และ [Wrath of the Heroes] ไม่ได้ง่ายแน่ๆ”

ผมคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้ม

“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ถ้าผมตายผมก็แค่เสียระดับเดียว ผมสามารถเก็บมันคืนได้เหมือนเดิม นอกจากนี้ Zhan Long ก็ยังจะขยายไปอีกในเร็วๆนี้ เมื่อสามคนนั้นระดับ 40 พวกเราก็จะรับสมัครคน ถ้าพวกเราได้คนมากพอก็จะสามารถล่าบอสกันได้ง่ายๆไงละ”

“โอเค”

‘ว่านเอ๋อ’กระพริบตา

“ถ้าหลิวอิ้งยังตามรังควานนายในเกมอยู่แบบนี้ พวกเราควรจะไปสั่งสอนเขาในโลกจริงมั้ย? บางทีเขาอาจจะเหนื่อยที่จะตามล่านายไปเลย”

ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้ ผมถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

“จะสั่งสอนอะไรเขาหละ?”

“ก็อย่างเช่น…”

‘ว่านเอ๋อ’ก็ก้มหน้าลงมองพื้น พร้อมกับลากขาไปมา

“พ่อของหลิวอิ่งเป็นผู้อำนวยการกลุ่มเฟิงหลิง แต่หุ้นเกือบ 60% อยู่ในมือของผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ฉันสามารถใช้ความสัมพันธ์ของฉันติดต่อให้พวกเขาถอนหุ้นออกมาได้ และกดดันครอบครัวของเขา ด้วยวิธีการนี้เขาจะไม่กล้าตามล่านายทั้งในเกมและในชีวิตจริงไงละ”

ผมส่ายหัว

“มันไม่ได้แย่หรอก ไม่ต้องทำแบบนั้นหรอกนะ ถ้าไม่มีคนแบบหลิวอิ่ง ผมคงเบื่อแย่เลย อีกอยากถ้า [Wrath of the Heroes] ล่าพวกเรา และ [Vanguard] ยังไม่ส่งกำลังหลักมาล่าเรา ผมก็ยังมีโอกาสเอาคืนอยู่”

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอ ในขณะที่เธอกอดอกตัวเอง ทำให้ 34D คู่นั้นพุ่งขึ้นมามากขึ้น

“งั้นขอฉันฟังแผนของนายหน่อยซิ”

“ได้เลย”

ผมยืนด้านข้างเธอและอธิบาย

“อย่างที่คุณรู้ ปาร์ตี้ใน Destiny กำหนดให้มีได้สูงสุด 10 คน และต้องการอย่างน้อยห้าคนที่มีประสบการณ์ในการล่าบอส ตอนนี้เรามี 4 คนแล้ว ดังนั้นเราจะหาคนที่ห้า ซึ่งต้องเป็นหมอ หลังจากนั้นการเก็บระดับก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป แต่ผมจะไม่หยุดอยู่แค่นั้นผมจะหาคนให้ได้ 10 คน และเมื่อเรามีเงินเราก็จะขยายเป็น 100 คน หลังจากนั้นถ้าเป็นไปได้ ผมก็จะสร้างกิลด์ และเมื่อกิลด์ของเรามีคนถึง 1000 คน พวกเราก็จะเผชิญหน้ากับ [Soaring Dragon] และ[Vanguard] ได้”

‘ว่านเอ๋อ’มองมาที่ผมด้วยสีหน้าตกใจ

“เป็นความคิดที่ดี ฉันไม่คิดว่านายจะเป็นคนทะเยอทะยานแบบนี้ ที่คิดจะเผชิญหน้ากับ [Vanguard] และ [Soaring Dragon] โดยตรง”

ผมหัวเราะกับความคิดของเธอ

“แน่นอน!! ผมจะไม่ปล่อยให้ใครมารังแกเพื่อนของผมหรอกนะ อีกอย่างผมก็สัญญากับเย่วชิงเชียนไว้แล้วว่าจะชวนเธอเข้ากิลด์ และเธอก็จะชวนน้องสาวของเธอ เย่วเว่ยเหลียงมาด้วย หลังจากนั้นทั้งเธอและเฉิงเย่วก็จะร่วมกับเราได้ เท่านี้เราก็จะมีผู้เล่นเก่งๆ หลายคน แล้วทำไมผมจะไม่ท้าทาย[Vanguard] หละ”

‘ว่านเอ๋อ’ยิ้มและกล่าว

“ดี…ฉันจะเข้ากิลด์นายถ้ามันไปถึง สิบกิลด์ใหญ่แห่งเมืองจีน”

“แน่นอน”

…ตริงงงง

เป็นข้อความจากใครบางคนส่งมา เป็น’หลี่มู่’นั้นเอง

“เซียวเหยา นายยุ่งอยู่รึเปล่า”

ผมตอบกับ

“ไม่หรอก ตอนนี้ผมอยู่ที่เมือง มีอะไรงั้นเหรอ? ต้องการความช่วยเหลือ?”

‘หลี่มู่’เปิดเสียงของเขาพร้อมกับหัวเราะเล็กน้อย

“ก็นิดหน่อย…..ก็มีอะไรจะให้นายช่วยนิดหน่อย อีกอย่างเรื่องเงินที่นายให้เรายืมมา ตอนนี้เราสามารถคืนให้นายได้แล้ว บางทีนายอาจช่ายเราได้ในขณะที่นายได้เงินคืนไง”

“โอ้!! มีอะไรงั้นเหรอ?”

“อะแฮมๆ”

นายพล’หลี่มู่’กล่าวอย่างเชื่องช้า

“นี่ก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เราสร้างกิลด์ขึ้นมา ตอนนี้ก็เลเวล 3 แล้ว และมีสมาชิกมากกว่า 900 คน อีกอย่างใน 24 ชั่วโมง เราสามารถหาไอเท็มระดับทองได้มากกว่าร้อยชิ้น และขายมันได้อย่างดี มันกำลังไปได้ดี จนกระทั้งวันนี้ ดูเหมือนจะมีภารกิจที่ยิ่งใหญ่”

“โอ!!”

ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้

“แล้วมันเป็นเควสอะไรละ ที่ทำให้คนระดับหัวหน้ากิลด์ที่มีสมาชิกเป็นพันคน หัวหมุนนะ”

นายพล’หลี่มู่’หัวเราะเบาๆ

“ฮ่าๆ อย่ามาล้อชั้นเล่นตอนนี้นะ นายก็รู้สักยภาพของชั้นดี มันเป็นเควสของคนร้อยคนในสุสานโบราณ แต่ว่ามันมีประตูที่ทำจากอุกาบาตรโบราณขวางกั้นอยู่ ไป่ฉีมีดาเมจ 1621 แต่ก็ไม่สามารถทำลายมันได้ ระบบบอกว่าต้องการพลังโจมตีมากกว่านี้ และนายเป็นคนแรกที่พวกเราคิดถึง ตอนนี้พลังโจมตีของนายมากกว่า 1700 ใช่มั้ย? ทำไมนายไม่มาลองดูหน่อยละ”

“โอเค…แล้วอย่าลืมจ่ายชั้นด้วยละ 3000 ทอง”

“ไม่! ไม่ใช่ 3000 ทอง แต่เป็น 30000 หยวนต่างหากที่ชั้นบอกจะคืนนายนะ”

“อ่าหะ แล้วนายจะให้ชั้นไปเจอที่ไหนละ”

“เดี๋ยวชั้นจะไปรับนายที่เมืองเอง ไปเจอกันที่ประตูทางทิศเหนือนะ”

“โอเค”

….ในขณะที่ผมมองขึ้นผมก็เห็น’ว่านเอ๋อ’มองมาที่ผมด้วยดวงตาวาววับ

“นายปล่อยให้ฉันยืนอยู่แบบนี้ ในขณะที่นายเล่นหูเล่นตากับสาวๆ งั้นเหรอ?”

ผมมองไปที่เธอด้วยใบหน้างงงวย

“คุณสามารถอ่านใจผมได้….ไม่ใช่ว่าคุณจะรู้แล้วเหรอว่าผมคุยกับใคร”

แก้มของ’ว่านเอ๋อ’แดงก่ำในขณะที่เธอเขิลเบาๆ

“เพื่อนของนาย….”

“หืมม คุณแอบฟังงั้นเหรอ?”

“อ่า ฉันไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุนะ”

“…..”

…..ในขณะนั้นเอง ที่ห่างออกไป แสงสีขาวก็ปรากฏออกมา นายพล’หลี่มู่’ปรากฏออกมาจากแสงนั้น เขาถือดาบระดับทองพร้อมกับสวมชุดระดับทองและเงิน ผมไม่ได้เจอเขาแค่อาทิตย์เดียว จากชุดที่ดูเหมือนยาจกกลายเป็นชุดรบเต็มสูบ คงเป็นเพราะมีกิลด์สนับสนุนหละนะ

“โอ้ ชางถ่ง สาวงามชางถ่ง”

‘หลี่มู่’ตกใจเล็กน้อยที่เห็น’ว่านเอ๋อ’ และมองมาที่ผม เหมือนเขาไม่รู้จะพูดอะไร ก่อนจะยิ้มให้’ว่านเอ๋อ’

“สาวงามชางถ่งเป็นเพื่อนกับเซียวเหยาจริงเหรอเนี้ย อะแฮมๆ พวกเรา [Valiant Bravery] มีอะไรเล็กน้อยจะให้เซียวเหยาช่วยซักหน่อย ไม่ทราบว่าคุณหนูชางถ่งจะให้พวกเรายืมตัวเขาซักชั่วโมงได้มั้ย?”

‘หลินว่านเอ๋อ’กัดริมฝีปากของเธอ

“ตามสบาย ฉันจะไปแล้วหละ หลี่เซียวเหยาอย่าลืมละ ออฟไลน์หลังจากนี้นะ เราจะไปกินข้าวด้วยกัน”

“เข้าใจแล้ว ค่อยเจอกันนะ”

ฟุบบบบ

แสงสีขาวส่องสว่าง และสาวงามแห่งเมืองฟ่านชูก็หายไปจากเมืองป้าฮวงผมมองไปยังภาพของ’ว่านเอ๋อ’ก่อนหน้านี้ ผมเหมือนรู้สึกสูญเสียอะไรซักอย่าง ผมรู้สึกสับสนในความรู้สึกของตัวเอง ผมกำดาบแน่นพร้อมกับพึมพำ

“ผมกลายเป็นคนอ่อนไหวง่ายขนาดนี้เลยเหรอ”

นายพล’หลี่มู่’ตบบ่าผมพร้อมหัวเราะ

“นายหยุดจ้องได้แล้ว เธอไปแล้ว นายกับเธอเป็นอะไรกันจริงๆ ซินะ หรือว่ายังไม่ใช่?”

ผมมองไปที่เขา

“ใช่ ชั้นเป็นกับน้องสาวนาย”

“ก็ดี ชั้นมีน้องสาวจริงๆ นะ เธอก็ดูดีพอใช้ได้ อีกอย่างเธอยังโสด ถ้านายสนใจชั้นให้เบอร์โทรของเธอกับนายได้นะ”

“หยุดเลย น้องสาวของนายไม่มีทางดูดีแน่ๆ”

“เฮ้ อย่าว่าฉันแบบนี้ดิ”

….หลังจากผมออกมาจากประตูเมือง ก็เจอกับผู้เล่นระดับ 40+ 4 คน ที่รออยู่ พวกเขาต่างมี สัญลักษณ์ของกิลด์ [Valiant Bravery] ที่แขนของพวกเขา

นี่คือสัญลักษณ์ที่แท้จริงของกิลด์ที่ลงทะเบียนแล้ว และตอนนี้ก็มีเพียงกิลด์เดียวในเมืองป้าฮวง

“หัวหน้ากิลด์”

ผู้เล่นทั้งสี่คนก้มหน้าทำความเคารพพร้อมกัน’หลี่มู่’หัวเราะ

“ไปกันเถอะ เผื่อเซียวเหยาจะทำอะไรกับก้อนหินบ้าๆ นั่นได้”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments