I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 123 หลุมฝังศพของเจ้าหญิง

| Zhan Long | 1534 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ครึ่งชั่วโมงต่อมาผมก็มาถึงยังชายแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองป้าฮวง มอนสเตอร์บนเขานี้มีระดับอยู่ราวๆ 48-55โดยปกติแล้วผู้เล่นไม่มาที่นี่กัน แต่ตอนนี้มีกลุ่มของผู้เล่นนับร้อยรวมตัวกัน

ที่ไหล่ของผู้เล่นแต่ละคนมีสัญลักษณ์รูปหอก มันเป็นสัญลักษณ์ของกิลด์ [Valiant Bravery] ทำไมพวกเขาถึงเลือกสัญลักษณ์กิลด์ เห่ยๆ แบบนี้นะ

“พวกเรามาถึงแล้ว”

นายพล’หลี่มู่’เดินไปยังกลุ่มของผู้เล่น เพื่อหานายพล’หวางเจี้ยน’และนายพล’ไป๋ฉี’ ที่นำผู้เล่นมาต้อนรับผม นายพล’หวางเจี้ยน’ยื่นมือออกมา

“พี่น้องเซียวเหยา ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

ตอนนี้พวกเขาระดับ 47 กันแล้ว ผมอดที่จะชื่นชมพวกเขาไม่ได้ ถึงแม้พวกเขาจะเลเวลลดไปมาก แต่พวกเขาก็กลับขึ้นมาไวเหมือนกัน ผมตอบรับด้วยการพยักหน้า

“แล้วพากนายเป็นไงบ้าง สิ่งใดกันที่เป็นปัญหากับพวกนาย”

“ถ้านายไปถึงนายก็จะรู้เอง”

นายพล’ไป๋ฉี’กล่าว

“โอเค”

…..หลังจากที่ผมเข้ามายังหุบเขา ผมก็ได้รับข้อความทันที

ระบบการแจ้งเตือน : คุณได้เข้าสู่พื้นที่ของหลุมฝังศพของเจ้าหญิง

ผมชะงักไป พร้อมกันนั้นนายพล’หลี่มู่’ก็อธิบายว่า

“มันเป็นเควสของกิลด์น่ะ ดยุคแห่งเมืองป้าฮวงให้มันกับชั้น มันเป็นเควสระดับ A มันสามารถแบ่งให้ผู้เล่นได้ 200 คน ดังนั้นบอสมันต้องแข็งแกร่งมากแน่ๆ ไหนๆ นายก็มาถึงนี่แล้วทำไมไม่ช่วยพวกเราก่อนที่จะกลับหละ”

“หืมมม ทำไมเราไม่ลองหาทางดูก่อนละ บางทีมันอาจจะไม่ยากก็ได้มั้ง”

ผมไม่ได้ตอบรับคำขอของเขา และเดินตามหลังนายพล’หวางเจี้ยน’ไป เดินลึกเข้าไปมีผู้เล่นของกิลด์ [Valiant Bravery] อยู่รอบๆ พวกเขาต่างมองมาที่ผม และผมก็ได้ยินเสียงของผู้เล่นชายหญิงกระซิบกัน

“เห็นเขามั้ย? จากข่าวลือนั่นมันอันดับ 7 ของเมืองป้าฮวง เซียวเหยาจื่อไจ๋นี่นา”

หนุ่มผมแดงกระซิบนักเวทสาวสวยที่เป็นเอลฟ์สายลมเดินมาข้างๆ เขา แล้วพูด

“ว้าว เขาหล่อเหมือนข่าวลือจริงๆ ด้วย แล้วดูซิ ดาบที่หลังของเขามีแสงสีม่วงด้วย  แล้วไอ้ใหญ่ๆ ที่อยู่ติดกับดาบนั่นมัน…..นั่นมันแผ่นหินนี่นา ทำไมเขาแบกแผ่นหินไว้บนหลังหละนั้น”

บาบาเรี่ยนวัยกลางคนตอบพร้อมกับหัวเราะ

“ชั้นก็ไม่รู้ บางทีอาจจะเป็นเควสก็ได้มั้ง แต่นั้นมันไม่สำคัญหรอก เซียวเหยาคือตำนาน ชั้นได้ยินมาว่า กิลด์ของเราได้ป้ายสร้างกิลด์มาจากเขานี่แหละ เขาเป็นพรรคพวกที่ดีต่อเราละนะ”

เอลฟ์สายลมหลี่ตาของเธอ

“โอ้ โห ถ้างั้นเขาอยากออกเดทกับสาวๆ ของกิลด์เรามั้ยนะ”

อันเดทข้างๆ เธอตอบกลับ

“ซานเม่ย เธออย่าฝันเลย ชั้นได้ยินมาว่า เขากับชางถ่งสาวงามแห่งเมืองฝ่านชูรู้จักกัน อีกอย่างพวกเขายังไปกินข้าวด้วยกันบ่อยๆ ในชีวิตจริงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมี เย่วชิงเชียนแห่งเมืองป้าฮวงที่เป็นรองหัวหน้ากิลด์ [Prague] อีกด้วย อีกอย่างเธอค่อนข้างรักเซียวเหยาจื่อไจ๋มากด้วยนะ ซานเม่ยเธอหนะ ฉันถามหน่อย เธอสวยสู้ชางถ่งได้มั้ย? หรือว่าเธอน่ารักสู้เย่วชิงเชียนได้รึเปล่า?”

TL : ซานเม่ย และ อาเก่อ คุยกันเหมือนพี่น้อง (ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องจริงๆ หรือไม่)

เอลฟ์สายลมบุ้ยปาก

“อาเก่อ นายดูถูกฉันไปแล้ว ฉันเกลียดนาย”

……ท่ามกลางการพูดคุยกัน ผมเอื้อมมือไปเลื่อนหมวกมาปิดหน้าทันที ทำให้ใบหน้าของผมถูกปกคลุมไปด้วยหมอก เท่านี้คนอื่นก็เห็นเพียงดาบประกายวสันต์บนหลังของผม ไม่กี่นาทีต่อมาพวกเราก็มาถึงยังด้านในสุดของหุบเขา ทั้งสองข้างต่างถูกตั้งเรียงรายด้วยเสาโทเทม

ที่ด้านในสุดของหุบเขา มันคือแผ่นหินขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็นดั่งประตูขวางกั้นอยู่

“หลุมศพของเจ้าหญิงฉยงหุน มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะเข้าไปได้”

เป็นตัวหนังสือบนแผ่นโลหะขนาดใหญ่ ‘หลี่มู่’ยกมือชี้ไปตรงนั้น

“เควสมันบอกว่าเราต้องทำลายหินนี่ เพื่อที่จะเข้าไปยังหลุมฝังศพของเจ้าหญิง โอ้ลืมไป เดี๋ยวชั้นแชร์เควสให้นายก่อน”

“โอเค”

ไม่กี่วินาทีต่อมาผมก็ได้รับเควส [หลุมฝังศพของเจ้าหญิง] มันบอกว่าก่อนอื่นต้องทำลายประตูนี่ก่อน เพื่อเข้าไปยังข้างใน…..ผมหันกลับไปถาม’ไป๋ฉี’

“ไปฉี พลังโจมตีนายเท่าไหร่? แม้แต่นายก็ทำลายไม่ได้งั้นเหรอ?”

ใบหน้าของเขาแดงก่ำ

“อะแฮม อย่าไปพูดถึงมันเลย แม้ชั้นจะเสริมด้วยทักษะ [Encourage] ระดับ 5 ดาเมจของชั้นก็ถึงแค่ 1700 เท่านั้น”

ผมขมวดคิ้ว

“ทำไมนายไม่ลองมันอีกครั้งละ?”

“แน่นอน”

เขาจับขวานและเดินไปยังเบื้องหน้าของประตูหิน ด้วยการคำรามเสียงดัง  ออร่าสีแดงเพลิงเข้าห่อหุ้มขวานของเขา เขาใช้ [Flame Axe] โจมตี!!

เปรี้ยงงงงง

ขวานกระทบกับหินอย่างรุนแรงทำให้เกิดประกายไฟพุ่งไปทั่ว แต่มันไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้พื้นดินจะสั่นนิดหน่อยก็เถอะ’ไป๋ฉี’เบิกตากว้าง

“หึ เป็นเหมือนเดิม ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย แผ่นหินนี่แข็งเกินไป แม้แต่ขวานระดับทองของชั้นยังทำอะไรไม่ได้”

“เซียวเหยา นายลองดูหน่อยซิ ผู้เล่นในกิลด์เราลองหมดแล้ว ความหวังก็อยู่ที่นายคนเดียวแล้วหละ”

‘หลี่มู่’พูดผมยิ้มตอบ ตอนนี้ผมมีดาบประกายวสันต์บวกกับ [ดาบแห่งความโกลาหล] พลังโจมตีที่เกิดขึ้นจริงๆ ของผมมากกว่า 2000 ซะอีก ถ้าผมยังทำลายมันไม่ได้หละก็ แสดงว่าเควสนี้ยังไม่เปิดให้ทำได้ในตอนนี้

แก้งงงง

ผมยกมือขึ้น และชักดาบประกายวสันต์ออกมา ทุกคนเบื้องหลังผมต่างตกใจกันหมด นักฆ่าสาวไม่อาจจะต้านทานได้ เลยเผลอหลุดปากออกมา

“ว้าววว มันเป็นดาบที่สวยมากเลย นั่นมันดาบสีม่วง…หรือว่าจะเป็นระดับม่วง?”

ใบหน้าของพวกเขาทุกคนต่างเต็มไปด้วยความตกใจ เพราะตอนนี้อาวุธระดับม่วงมีเพียงสองชิ้นเท่านั้น หนึ่งคือดาบสวรรค์สั่งที่อยู่ในมือ’เจี้ยนเฟิงซาน’ อีกหนึ่งคือดาบประกายวสันต์ในมือของผม

ดังนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนว่าดาบในมือของผมคือดาบประกายวสันต์แน่นอน แต่ว่าผู้เล่นของกิลด์ [Valiant Bravery] ไม่อาจจะยอมรับมันได้ มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากที่อาวุธระดับพระเจ้า ตกอยู่ในมือของ โซโล่เพลเยอร์ผมยืนเผชิญหน้ากับหินสูง 6 เมตร ตามปกติแล้ว ที่ด้านล่างประตูมันไม่มีทางทำลายได้ ควรจะโจมตีที่ด้านบนของมันมากกว่า

แต่มันก็ปกติละนะ ที่คนอย่าง’ไป๋ฉี’ที่มีนิสัยป่าเถื่อนจะไม่สามารถเข้าใจตรรกะง่ายๆ นี้ได้ นายพล’หลี่มู่’กำหมัด และกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัวผมเหยียบลงที่พื้นด้านหน้าของประตูหิน ผมพุ่งไปยังประตูหินพร้อมกับทิ้งฝุ่นฟุ้งไว้ที่ข้างหลัง เมื่อผมอยู่ห่างจากประตูห้าเมตร ผมก็กระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมกระโดนสูงเกือบ 4 เมตร และใช้ [ดาบน้ำแข็งทมิฬ] ทำให้น้ำแข็งเข้าเกาะกุมดาบประกายวสันต์

เปรี้ยงงงงงง

ดูเหมือนหุบเขาจะสั่นไหวไปเลย ฝุ่นสีทองพุ่งออกมาจากประตูหิน ผมหอบหายใจอย่างหนัก หลังจากลงสู่พื้นผมก็มองยังสภาพของประตูหิน  ถึงแม้ว่าผมจะทำลายมันไม่ได้ แต่ว่ามันก็เริ่มมีรอยแตกบนแผ่นหินแล้ว แสดงว่ามีโอกาสทำลายมันได้!!!

‘หลี่มู่’สั่นไปด้วยความตื่นเต้น เขากำหมัดแน่น

“เซียวเหยา อีกซักครั้งได้มั้ย?”

“แน่นอน”

ผมถอยไปเล็กน้อย พร้อมกับโดดอีกครั้ง บนอากาศผ้าคลุมของผมโบกสะบัด กระแสลมหมุนวนล้อมรอบดาบของผม  [ดาบสายลม]!!!!!!

เปรี้ยงงงงง

แรงสั่นสะเทือนครั้งนี้เทียบกับครั้งก่อนไม่ได้เลย แต่ประตูหินสูงหกเมตร ก็พังทลายลง มันร่วงเป็นชิ้นๆ ลงสู่พื้น เปิดให้เห็นทางเข้าสู่ หลุมศพของเจ้าหญิงฉยงหุน

“ฮ่าๆๆๆ น่าทึ่งจริงๆ เซียวเหยาจื่อไจ๋”

นายพลหลี่มู่ชูนิ้วโป้ให้ผม

“พลังโจมตีของนายถึง 1900 งั้นเหรอ?”

“2000”

“โอ้ หลังจากใช้ [Encourage] ระดับ 5 เลยทำให้ถึง 2000 เลยงั้นเหรอ? พลังของนายนี่มันสุดยอดจริงๆ เลย”

‘หวางเจี้ยน’ยิ้ม

“เปล่า ไม่มีบัพอะไร”

“นายโกหกแน่ๆ ชั้นไม่เชื่อหรอก”

“…..”

“เซียวเหยา เข้าปาร์ตี้ชั้นมั้ย?”

‘หลี่มู่’ถาม

“แน่นอน”

ตริงงงง

ผมถูกเชิญเข้าปาร์ตี้ของ [Valiant Bravery] ในปาร์ตี้มีสมาชิกคือ 4 นายพล ผม นักเวท 2 คนและหมออีก 3 คน แม้สมาชิกระดับต่ำสุดยังระดับ 45 นี่มันน่าทึ่งมากเมื่อเทียบกับพวกเขาไม่กี่วันก่อน

แฉะ แฉะ

ทันทีที่ผมเข้าไปยังสุสาร รองเท้าของผมก็เหยียบลงบนพื้นเปียก มันทำให้ผมรู้สึกขนลุก ที่ด้านข้างผม นายพล’หลี่มู่’ที่ยืนอยู่หน้าสุดของกลุ่มขมวดคิ้ว

“กลิ่นมันแย่ชะมัดเลยแหะ”

ผมยกดาบประกายวสันต์ขึ้น แสงจากดาบระดับม่วงส่องสว่างไปข้างหน้า ในขณะเดียวกันก็มีเสียงบางอย่างผ่านอุโมงค์มา มันคือเสียงของฝูงค้างคาว!! พวกมันกำลังบินมาทางเรา

“อ่า”

ที่ด้านหลังของผม หมอสาวสองคนเธอหน้าซีดเผือด และกรีดร้องออกมาด้วยความกลัว

“บ้าเอ้ย”

ผมกระซิบเบาๆ ‘หลี่มู่’มองมาที่ผมและพวกเราก็เข้าใจโดยไม่ต้องพูดกันซักคำ พวกเราไม่ได้กลัวค้างคาว แต่พวกเราจะตายเพราะเสียงกรีดร้องของสองสาวมากกว่า ………

“มีมอนสเตอร์อยู่ข้างหน้า”

นายพล’เหลี่ยนป๋อ’ เตรียมธนูของเขาขึ้นมา ในขณะที่เขามองออกไปข้างหน้า ในคลาสหลักทั้ง 9 นักธนูถือว่าเป็นคลาสที่มีสัมผัสระวังภัยมากกว่าคลาสอื่นๆ มีเสียงฝีเท้าแว่วมาในความมืด เพียงไม่กี่นาทีต่อมาก็มีกลุ่มของนักรบโครงกระดูกโพล่ออกมา แต่ละตัวต่างถือดาบเหล็กและโล่ ระดับของพวกมันไม่ต่ำเลยหละ

【องครักษ์พิทักษ์เจ้าหญิง】 (มอนสเตอร์ระดับสูง)

Level:55

Attack:900-1100

Defense:700

Health:5500

Skills:【Flame Blade】【Combo】【Chaotic Slash】

คำอธิบาย : องครักษ์พิทักษ์เจ้าหญิงสาบานว่าจะภักดีและจะปกป้องหลุมศพของเจ้าหญิงจนกว่าตนจะตาย ผ่านไปนับพันปีที่เจ้าหญิงฉยงหุนได้ตายลง ร่างกายของเหล่าทหารก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปจนเหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้น แต่ด้วยความจงรักภักดีของพวกเขา จึงทำให้ยังคงหลงเหลือคมดาบไว้พิฆาตศัตรู

“พวกมันมีมากเกินไป”

ผมหนาวลงไปถึงกระดูก

“อย่างต่ำก็สามสิบกว่าตัว แถมเป็นมอนสเตอร์เลเวล 55 ระดับสูงอีก พวกเราต้องคงรูปแบบนี้ไว้ไม่งันเราโดนฆ่าแน่”

ตอนที่ผมทำเควสในสุสานมังกร ผมฆ่ามอนสเตอร์ระดับสูงไปเยอะมาก ผมจึงค่อนข้างรู้เกี่ยวกับมันเยอะ ค่าสถานะโดยรวมของมันมากกว่ามอนสเตอร์ธรรมดา ดังนั้นพวกเราจึงต้องเคลื่อนพลกันอย่างช้าๆ ไม่งั้นแย่แน่

ฟุบบบ

เปลวไฟปรากฎบนใบดาบของ’หลี่มู่’ เขาวางท่าทางพร้อมแกคำสั่ง

“สายเกราะหนักเคลื่อนพลป้องกันเป็นแนวยาวซะ พวกสายโจมตีระยะไกลโจมตีเลย ส่วนหมอเน้นฮิลพวกเกราะหนัก”

แก้ง แก้ง แก้ง

กลุ่มของผู้เล่นชักดาบของตนออกมา ในขณะที่’ไป๋ฉี’และ’หวางเจี้ยน’ต่างยืนอยู่ด้านข้างผม ดูเหมือนทุกคนจะกลั้นหายใจเพื่อรอคอยการโจมตีของมอนสเตอร์ที่ด้านหน้าของผม

กลุ่มของ องครักษ์พิทักษ์เจ้าหญิงพยายามพุ่งมาหาผม พวกมันใช้ทักษะ [Flame Blade] ใส่แนวตั้งรับของเราทำให้ตัวเลขความเสียหายลอยออกมา

577!

791!

442!

นายพล’หวางเจี้ยน’ยกดาบของตัวเองขึ้นพร้อมกับใช้ท่า [คอมโบ] ทันทีผมเตือนเขาทันที

“ระวังไว้หวางเจี้ยน พวกมันยังคงมีทักษะอื่นอีกนะ”

“อะไรนะ”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments