I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 128 เหล่าผู้ใช้พลังปราณ

| Zhan Long | 1763 | 2363 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“บ้าจริง เจี้ยนเฟิงซานสร้างกิลด์ไปแล้ว”

ที่ด้านข้างผม ‘เย่วชิงเชียน’กระพริบตาโตๆ ของเธอ พลางยิ้มมาที่ผม

“พี่เซียวเหยา ตอนนี้เจี้ยนเฟิงซานก็สร้างกิลด์แล้ว เขาอาจจะตั้งตัวเป็นกิลด์อันดับ 1 แห่งเมือง ป้าฮวง อีกอย่างพี่ก็เป็นเหมือนเสี้ยนหนามของ’เจี้ยนเฟิงซาน’ พี่จะทำยังไงต่อไปดี?”

ผมจับดาบแน่น และกล่าวเบาๆ

“ชั้นจะต้องพัฒนาตามไป ถ้าเจี้ยนเฟิงซานมากดดันมากหละก็ สิ่งเดียวที่จะทำได้ก็คงสู้จนกว่าตัวจะตาย เกมนี้มันสำคัญกับชีวิตชั้นมาก และชั้นเซียวเหยาจื่อไจ๋ จะไม่มีวันยอมแพ้”

‘เย่วชิงเชียน’ยิ้มและพยักหน้า

“หืมมม ฉันชอบพี่ก็แบบนี้แหละ ไม่ต้องกังวลหรอกนะ ถ้าเจี้ยนเฟิงซานเคลื่อนไหวหละก็ ฉันจะออกจากกิลดิ์ มาปกป้องพี่เอง!!”

ผมมองไปที่เธอและอดจะยิ้มไม่ได้

“ตามปกติแล้ว มันควรจะเป็นพี่มากกว่านะที่ปกป้องเธอ แล้วทำไมตอนนี้เป็นเธอปกป้องพี่กันละ?”

“มันไม่เหมือนกันเหรอ?”

“โอเค”

….. หลังจากที่พูดคุยกันเล็กน้อย ผมก็แยกจาก’เย่วชิงเชียน’ หลังจากนั้น ‘Fox’ ก็กลับมาเอาของจากผม พวกเราคิดว่ามันคงขายได้ประมาณร้อยทองหละนะ ก็ไม่ถึงพันหยวน ในเกมถ้ามีการต่อสู้ระหว่างกิลด์คุณตวรจะรีบฉกฉวยของให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

หลังจากนั้น เวลาประมาณทุ่มครึ่ง ผมก็ได้รับข้อความจากสาวงาม’ว่านเอ๋อ’

“หลี่เซียวเหยา…..”

“หือ?”

ผมเปิดหน้าต่างสนทนาขึ้นมา

“คุณเก็บระดับเสร็จแล้วเหรอ? เดี๋ยวผมจะรีบลงไปรอคุณที่ด้านล่างนะ”

“ไม่ต้องหรอก วันนี้มีเรื่องนิดหน่อย ดังนั้นพวกเราจะไม่กินข้าวที่มหาลัย”

“โอ้ งั้นมีอะไรงั้นเหรอ?”

ผมถามอย่างประหลาดใจ ‘ว่านเอ๋อ’ยิ้มบางๆ

“ไม่มีอะไรมาก วันนี้พ่อฉันบอกว่าจะออกไปกินข้าวด้วยกัน และให้ฉันพานายมาด้วย ที่ร้านอาหาร First Heaven พวกเราต้องไปในสิบนาที และพวกเราจะไม่พาเฉิงเย่วไปด้วย ”

“หืมม First Heaven ร้านอาหารแพงๆ ที่อยู่แถวทะเลสาบตะวันออกนะเหรอ”

“ใช่ เขาย้ำว่าเป็นที่นั้น”

“ก็ดี ผมไม่เคยไปมาก่อน”

“งั้นก็มาเร็วๆ เลย เราจะตรงไปที่นั่นกัน”

“โอเค”

ผมออกจากเกม และปรับลมหายใจเล็กน้อยก่อนลุกออกจากเตียง จัดแต่งตัวเองอยู่หน้ากระจก ผมอยู่ในชุดค่อนข้างที่จะราคาถูก เพื่อเตรียมตัวไปร้านอาหาร  First Heaven

“หลี่?”

เจ้าแว่นเรียกผมจากข้างหลัง

“ไม่บ่อยนะนี่ที่นายจะอยู่หน้ากระจก วันนี้มีไรงั้นเหรอ ปกตินายจะไม่ดูตัวเองด้วยซ้ำ แม้จะไปกินข้าวเย็นกับว่านเอ๋อ เนื่องในโอกาศอะไรงั้นเหรอวันนี้”

“ไม่มีอะไร นายระดับเท่าไหร่แล้ว?”

“46 แล้วนายละ?”

“50”

“นายโกหกแน่ๆ”

“……”

ใครจะสนหมอนี่กัน ไปดีกว่า สายลมพัดระบายความร้อนในพื้นที่ของมหาลัย ที่ด้านใต้ของหอพักหญิง ‘ว่านเอ๋อ’อยู่ในชุดสูตของผู้หญิงสีน้ำตาลบวกกับกระโปรงสั้น ขาขาวยาวราวหิมะของเธอยังคงมีเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย เธอยิ้มให้กับผม

“ไปกันเถอะ”

ผมรับกุญแจรถมาจากเธอ และขับ Audi TT ออกจากมหาลัยไป ผ่านไป 20 นาทีพวกเราก็มาถึงยัง ร้านอาหาร First Heaven ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่นิยมเป็นอย่างมาก อีกอย่างบรรยากาศยังดีมากอีกด้วย ผมได้ยินมาว่า อาหารเมนูเดียว อย่างต่ำก็ 5000 หยวนแล้ว มันช่างหรูหราจริงๆ

ผมหยุดรถและเดินไปกับ’ว่านเอ๋อ’ ทางเดินมันเป็นที่ไม่กว้างมากทำให้ผมต้องเดินชนไหล่กับเธอ ตามรายทางมีตะเกียงสีแดงเรียงราย ภายในร้ายไม่ค่อยมีคนมากเท่าไหร่

ตามความจริงแล้ว มีคนไม่ค่อยมากเท่าไหร่ที่จะเสียเงินแสนแพงไปกับค่าอาหาร กลิ่นหอมหวนลอยมาเตะจมูกผม นี่เป็นกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของ’ว่านเอ๋อ’ ผมแอบชำเลืองไปที่เธอ และเธอดูสวยมากๆ ด้วยดวงตากลมโตเปล่งประกาย และฟันขาวผ่อง

วันนี้ชุดของเธอดูเรียบร้อยเป็นพิเศษ และยังเสริมให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอีกด้วย ‘ว่านเอ๋อ’คงออกงานทางสังคมบ่อยๆ  ตอนที่อายุ 16 เธอก็ออกอัลบั้ม Heart of Time แล้ว ซึ่งเป็นที่นิยมมากแถวภาคใต้ ความสง่างามของเธอเป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากผู้หญิงคนอื่น รวมทั้ง’ตงเฉิงเย่ว’

“หลี่เซียวเหยา ฉันได้ยินมาว่า วันนี้นายก็ PK อีกแล้วเหรอ”

‘ว่านเอ๋อ’เธอหมุนไปรอบๆ และมองมายังผม ผมรีบหันมองทางอื่นทันที กลัวเธอจะรู้ว่าผมแอบมองเธอ ปากของเธอเผยอขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามไม่ยิ้มนะ เธอสามารถอ่านใจผมได้ ดังนั้นถ้าเธอไม่รู้ว่าผมมองเธอ ก็บ้าไปแล้วหละ

“เอ่อออ”

ผมเกาจมูกและกล่าวต่อ

“วันนี้ผมช่วยกลุ่มนายพลทำเควส แต่ใครจะคิดว่าเราจะถูกพวกมังกรทะยานล้อมเอาไว้ เราก็เลยไม่มีทางเลือก เลยได้แต่สู้ โชคดีที่เรามีผู้เล่นเก่งๆ เยอะ ทำให้เราชนะได้ ถึงแม้จะมีข้อเสียงเรื่องจำนวนก็เถอะ”

‘ว่านเอ๋อเม้ม’ริมฝีปากสีแดงสดของเธอ

“แน่นอน การต่อสู้ครั้งไหนที่มีเซียวเหยาจื่อไจ๋ร่วมด้วย ต้องกลายเป็นหัวข้อดังๆ ในบอร์ดของ Destiny แน่ๆ ตอนนี้นายมีแฟนคลับเยอะมากนะ โดยเฉพาะสาวๆ อายุ 15-17 พวกเธอบอกว่านายดูดี แต่ว่านาย….”

เธอมองมาที่ผมแล้วยิ้ม

“ฉันไม่เห็นว่านายจะดูดีตรงไหนเลย”

ผมรู้สึกอับอายมาก

“ก็แค่คำพูดที่ผ่านมา ไม่มีอะไรสำคัญหรอก”

….. เมื่อเรามาถึง พนักงานต้อนรับก็มาต้อนรับทันที

“ขอโทษนะครับ ใช่คุณหลินว่านเอ๋อ และคุณหลีเซียวเหยาใช่มั้ยครับ?”

“ใช่”

‘ว่านเอ๋อ’พยักหน้า

“คุณหลินรออยู่แล้วครับ เชิญทางนี้ครับ”

“โอเค ขอบคุณ”

….. ร้านอาหาร First Heaven ได้แนวคิดมาจากสวนดอกไม้ หลังจากที่ผ่านสวนดอกไม้มา ห้องโถงใหญ่ก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าพวกเรา พนักงานต้อนรับยิ้มให้พวกเรา

“ห้องนี้แหละครับ”

หลังจากเปิดประตูเข้าไป ก็พบกับชายแก่อายุ 50 กว่าๆ นั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะตัวใหญ่ เขาคือ’หลินเที่ยนหนาน’ เต็มไปด้วยพละกำลังและไม่อาจบอกได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาคือคนสำคัญมากๆ และเป็นประธานของกลุ่มเที่ยนซิน นอกจากนี้เขายังเป็นพ่อของ’ว่านเอ๋อ’นายจ้างของผม

“ว่านเอ๋อ มาตรงนี้ซิ”

‘หลินเที่ยนหนาน’ยืนขึ้นและดึงเก้าอีกออกมา เขากล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“มานั่งตรงนี้ซิ พ่อสั่งอาหารไปแล้ว เดี๋ยวคงได้กินเร็วๆ นี้ เล่นเกมมาทั้งวัน คงหิวมากแล้วซินะ”

เธอนั่งข้างๆ พ่อของเธอและแลบลิ้นออกมา พร้อมกับหัวเราะเหมือนเด็ก

“อันที่จริง หนูไม่ได้ใช้เวลากับมันทั้งวันนะ แค่ส่วนมากเท่านั้นเอง พอพูดถึงกินแล้ว พ่อสั่งอะไรไปงั้นเหรอ มีที่หนูชอบมั้ย?”

‘หลินเที่ยนหนาน’อดทีจะหัวเราะไม่ได้

“เอาน่า ของชอบของลูกทั้งนั้น”

“โอเค โอเค”

… ตั้งแต่ต้น ผมก็ยืนอยู่ด้านข้าง และมือไพร่ไปด้านหลัง ‘หลินเที่ยนหนาน’ไม่มองผมแม้แต่น้อย ผมต้องปฏิบัติหน้าที่ของบอดีการ์ด ในขณะที่พวกเขากำลังกิน สิ่งเดียวที่ผมทำได้ก็คือดู!! ผมเหล่มองไปอีกทางเห็นเด็กหนุ่มสองคน เขาอยู่ในชุดสูตรสีดำยืนอยู่ตรงข้ามผม ในท่าทางเหมือนกัน

น่าจะเป็นบอดีการ์ดของ’หลินเที่ยนหนาน’ เพราะคนสำคัญแบบเขาไม่ไปไหนมาไหนคนเดียวแน่ พลังของพวกเขาคงอยู่ประมาณเหลียน

“หลี่เซียวเหยา!!”

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ‘หลินเที่ยนหนาน’ที่หวงลูกสาวมาก ในที่สุดเขาก็ให้อภัยผม และมองมาที่ผม

“นายก็เล่น Destiny ใช่มั้ย? นายเก่งขนาดไหนกัน? นายคงไม่ได้เป็นภาระให้ว่านเอ๋อหรอกนะ”

ผมพูดด้วยเสียงเบาๆ

“ผมเป็นนักดาบระดับ 50 ครับคุณหลิน”

‘ว่านเอ๋อ’หัวเราะด้วยรอยยิ้ม

“คุณพ่อ ทำไมต้องคุยกันเครียดๆ แบบนี้ด้วย อย่าทำหน้าบึ้งซิ มันไม่สนุกเลย”

‘หลินเที่ยนหนาน’ยิ้มน้อยๆ

“โอเค หลี่เซียวเหยามานั่งซิ นอกจากพวกเธอสองคนแล้ว ชั้นยังได้เชิญแกรนมาสเตอร์มากินข้าวกับเราที่นี่ด้วย”

“โอ้ใครเหรอ?”

‘ว่านเอ๋อ’ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

“ลุงหวังของเธอไงหละ”

“ลุงหวัง?”

ตาของเธอเบิกกว้างอย่างตกใจ

“หนูคิดว่า ครั้งสุดท้ายที่เจอเขาก็คงประมาณอายุ 12 มั้งนะ คุณลุงไปไหนมาหลายปีเหรอค่ะ”

‘หลินเที่ยนหนาน’หัวเราะ

“เขาเป็นเหมือนดั๋งก้อนเมฆ ที่ล่องลอยไปทั่ว มีแค่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเขาไปท่องเที่ยวที่ไหน ตอนนี้เขาบอกว่าเขาคิดถึงหลานสาวที่รักของเขา เขาเลยจะมาเยี่ยม ไม่งั้นคงหาเขาไม่เจอง่ายๆ หรอก”

ผมฟังด้วยความสับสนและนั่งเงียบๆ เหมือน’ว่านเอ๋อ’เธอจะรู้ว่าผมสงสัย เลยอธิบาย

“ลุงหวังเป็นเพื่อนสนิทของคุณพ่อมาหลายปี เขาชื่อหวังหนิง ฉันรู้จักเขาตั้งแต่เด็กๆ คุณลุงเป็นคนดีมากเลยนะ อย่างไรก็ตามฉันไม่ได้เจอเขามานานมากแล้ว”

ผมพยักหน้า

“อ้อ”

…… ในขณะเดียวกัน ประตูก็เปิดออกโดยที่มีสายลมพุ่งเข้ามา พร้อมกันนั้นก็มีชายวัยกลางคนเดินเข้ามา ในมือของเขาถือพัดกระดาษไว้ เขาสวมชุดจีนโบราณสีดำ ประตูปิดลงโดยที่เขาไม่ได้ขยับมือแม้แต่น้อย

“โอ้”

บอดีการ์ดสองคนตกตะลึกราวกับได้เห็นผี คิ้วของผมขมวด ผมรับรู้ได้ถึงการไหลของอากาศ คนผู้นี้เป็นปรมาจารย์จริงๆ

“ลุงหวัง!!”

‘ว่านเอ๋อ’ลุกขึ้นอ่างสุภาพ เขาหัวเราะเล็กน้อย

“โอ้ เจ็ดปีผ่านไป จากเด็กน้อยกลายเป็นสาวงามไปแล้วนะ หลินชาติก่อนนายคงจะทำความดีไว้เยอะนะ ถึงมีลูกสาวสวยแบบนี้”

‘หลินเที่ยนหนาน’ลุกขึ้นพร้อมหัวเราะ

“หยุดพูดเล่นได้แล้วน่า มาๆ มานั่งนี่”

‘หวังหนิง’มองมาที่ผมอีกครั้ง ในแววตาเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง

“เจ้าหนูนี่คือ?”

ผมยืนขึ้นและพยักหน้า

“สวัสดีผมคือบอดี้การ์ดของคุณหนูหลินว่านเอ๋อ ชื่อหลี่เซียวเหยาครับ”

“เยี่ยมๆๆ”

หวังหลินพูดคำว่าเยี่ยมสามครั้ง ก่อนที่จะมองมาที่ผม

“พลังปราณของนายซ่อนไว้ซินะ พลังของนายช่างดูแข็งแกร่งมาก ความแข็งแกร่งของนายไม่เลวเลย”

มุมปากของผมเผยอขึ้นเล็กน้อย เขามาเพื่อทดสอบผม? ผมยิ้ม

“มันไม่มีอะไร ผมแค่ออกกำลังกายเยอะเท่านั้นเอง”

“หืมมม นั่งได้แล้ว”

…. ทางร้านอาหารเริ่มที่จะนำอาหารมาวางไว้ ‘หลินเที่ยนหนาน’ลุกขึ้นพร้อมกับไวน์ในมือของเขา

“มันหายากมากที่เพื่อนเก่าจะได้มาเจอกันอีกครั้ง มาๆ ดื่มกันหน่อย”

ผมไม่ขยับเขยื้อน

“หลีเซียวเหยา ทำไมนายไม่ดื่มหละ”

‘หลินเที่ยนหนาน’จ้องมาที่ผม ผมส่ายหัว

“ไวน์นี่มัน 57 ดีกรี อาจจะมีผลกับการตัดสินใจของผม สำหรับความปลอดภัยของหลินว่านเอ๋อ ผมดื่มไม่ได้”

“ไม่เป็นไร วันนี้ปลอดภัยแน่นอน”

“เอ่อออ…อ่า โอเค”

โดยไม่มีคำแก้ตัว ผมดื่มมันจนหมดทันที …. หลังจากที่ผมดื่มไป ‘หวังหนิง’จ้องมาที่ผม

“หลี่เซียวเหยา พลังปราณของนายสงบนิ่งมาก ไม่เหมือนคนอื่นเลย ชั้นขอถามได้มั้ย ใครเป็นอาจารย์ของนาย?”

ผมชะงักเล็กน้อย ในขณะที่ข้างๆ ‘หลินว่านเอ๋อ’ก็พยักหน้าให้ผมเปิดเผยความลับนี้ ผมขมวดคิ้วและตอบว่า

“บู้ตึ้งโฮ่วซาน”

TL : บู้ตึ้งเป็นวัดศิลปะการต่อสู้ขนาดใหญ่ในจีน เป็นคู่แข่งของวัดเส้าหลิน

“โอ้?”

‘หวังหนิง’ยิ้ม

“การฝึกในยุคนี้ค่อยข้างยาก แต่วู้ตั่งก็แบ่งการฝึกออกเป็นสองอย่าง คือพลังปราณและเพลงดาบ นายฝึกอันไหนมาละ?”

ผมชะงักเล็กน้อย

“พลังปราณ”

“งั้นนายรู้จักหลิงเฉิงมั้ย?”

“ไม่ ผมไม่รู้จัก”

“โอ้”

‘หลิงเฉิง’เป็นตาเฒาประหลาดไม่มีทางเลยที่ผมจะไม่รู้จัก ผมกำหมัดแน่น พร้อมกับฉากเมื่อตอนนั้นลอยเข้ามา

“เจ้าหนู สิ่งที่ชั้นสอนไปยังจำอะไรได้บ้าง?”

“ผมจำมันได้เกือบหมดครับอาจารย์”

“ดี แล้วตอนนี้หละจำได้เท่าไหร่แล้ว”

“ส่วนใหญ่ผมลืมมันไปหมดแล้ว”

“เยี่ยม แล้วตอนนี้หละ จำได้เท่าไหร่แล้ว”

“ผมลืมมันหมดแล้วครับท่านอาจารย์”

“ดี ดี ข้าสอนเจ้าในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น ข้าจะสอนเจ้าใหม่”

”บ้าเอ้ยยย”

TL : เทคนิคการลืมเป็นหนึ่งในฉากในหนังสือจินหยง เป้าหมายคือทำให้ลืมเทคนิคแต่ยังคงจำความหมายที่แฝงอยู่ในเทคนิคได้

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments